ตอนที่แล้วChapter 10 : บอสไคลน์เคยสังหารอสูรแห่งสุสานมาแล้ว?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 12 : สัตว์อสูรแห่งสุสานชนิดใหม่? ปลาหมึกทรายเหลือง!

Chapter 11 : ไข่รูน


[เตาย่างทั่วไป : ไม้ 30/4 , เหล็ก 1/4 , ทองแดง 8/4 ]

[มาแชเทชั้นเยี่ยม : ไม้ 30/1 , เหล็ก 1/4]

ไคลน์ในตอนนี้มีไม้เพียงพอขาดก็แต่เพียงเหล็ก

ยังไงก็ตามตราบใดที่เขานำไม้ไปเปลี่ยนเป็นน้ำดื่มมันก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากที่จะเปลี่ยนน้ำที่ได้มาให้กลายเป็นเหล็กอีกทอดหนึ่ง

ในตลาดเองตอนนี้ก็มีคนขายเหล็กอยู่ไม่น้อย

ยังไงก็ตามเหล็กนั้นมีค่ามากกว่าไม้ จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะแลกเหล็กได้โดยใช้น้ำเพียงแค่สามสิบมิลลิลิตรต่อเหล็กหนึ่งชิ้น

แน่นอนว่าคงมีผู้คนจำนวนน้อยเท่านั้นที่จะกล้าแลก

ในช่วงนี้น้ำและอาหารยังคงขาดแคลนอย่างหนัก

หรือกล่าวอีกอย่างก็คือผู้คนกำลังเริ่มกักตุนอาหารกันอยู่นั่นเอง

..

นอกจากไคลน์แล้วคงไม่มีผู้ใดทราบว่าสุสานถัดไปจะต้องเจอกับอะไร

ถ้าการขุดค้นทั้งหมดถูกใช้ไปแล้วสิบครั้งแต่กลับไม่อาจหาน้ำหรืออาหารได้เลย พวกเขาก็จำเป็นต้องแบกท้องหิวๆไปตลอดทั้งวัน

เครื่องกลั่นน้ำดูเหมือนว่าใช้เวลาอีกไม่กี่นาทีก็คงเสร็จสิ้นกระบวนการกลั่นน้ำ

ไคลน์ที่ไม่มีอะไรทำจึงเปิดแชทโลกขึ้นมานั่งอ่าน

เหตุผลหลักๆเลยก็เพื่อเก็บข้อมูลเพราะในแชทโลกนี้มักจะมีข้อมูลมากมายหลุดมาให้ได้อ่านเสมอๆ

ไคลน์เลื่อนแชทอย่างรวดเร็วและก็ไปหยุดอยู่กับคำๆหนึ่งที่เขารู้สึกว่าน่าสนใจ

มีผู้เล่นบางคนที่เคยเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรแห่งสุสานมาแล้ว ยังไงก็ตามพวกเขากลับฆ่ามันไม่ได้

พวกมันทั้งหมดส่วนมากจะถูกไล่ให้ถอยล่นไปเท่านั้น

ตาม ‘คำอธิบาย’ ที่ผู้เล่นคนนั้นกล่าวไว้ก็คือไม่จำเป็นต้องกลัวสัตว์อสูรแห่งสุสาน ถ้าพวกคุณต้องเผชิญหน้ากับมันก็จงใช้พลั่วเพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งให้มันได้เห็น

ตราบใดที่คุณเอาพลั่วตีมันได้ซักสองสามครั้ง สัตว์อสูรแห่งสุสานก็จะขุดดินหนีไปเอง

ไคลน์เชื่อในคำพูดของผู้รอดชีวิตคนนี้ยิ่งกว่าใคร เพราะมีเพียงคนที่รอดมาได้เท่านั้นจึงจะมีสิทธิพูด

ส่วนคนตายก็ต้องหุบปากอยู่แล้ว

ในความเป็นจริงแล้วมีผู้เล่นจำนวนไม่น้อยเลยที่ต้องตายลงภายใต้คมเขี้ยวของสัตว์อสูรแห่งสุสาน

..

ไม่กี่นาทีต่อมาในที่สุดเครื่องกลั่นน้ำก็หยุดทำงาน

[แจ้งเตือนจากระบบ : น้ำดื่ม+350มิลลิลิตร]

ไคลน์ยังไม่ได้เทพวกมันใส่ขวดพลาสติกแต่อย่างใดแต่เลือกที่จะเปิดเมนูการสร้างขึ้นมาแทน

เขาเลือกไปที่ถังน้ำโดยใช้ไม้สี่ชิ้นในการสร้าง ซึ่งถังไม้นี้สามารถบรรจุของเหลวได้12ลิตรซึ่งก็มากพอสำหรับตอนนี้แล้ว

จากนั้นไคลน์จึงเทน้ำทั้งหมดใส่ถังน้ำ

ในตอนนี้เขามีทรัพยากรจำพวกน้ำ(น้ำธรรมดา+น้ำแร่)อยู่410มิลลิลิตรแล้ว

หลังจากจัดการทุกอย่างจนหมดเขาก็เก็บฐานรูนและเริ่มการขุดต่อ

สุสานแห่งที่เก้าเองก็ยังคงเป็นสุสานที่มีทรัพยากรเป็นหลักเช่นเดิม

เส้นทางมีทั้งหมดห้าเส้นทางและไม่มีเส้นทางใดเลยที่มีอันตราย

หนึ่งในเส้นทางเหล่านั้นว่างเปล่า

[ห้องใต้ดินทางด้านซ้ายเต็มไปด้วยทรัพยากร นอกจากนี้ยังมีพืชที่ท่านจำเป็นต้องใช้อีกด้วย]

ได้ยินดังนี้ไคลน์จึงเลือกขุดไปทางซ้ายอย่างไม่ลังเล

หลังจากขุดมาราวๆสิบเมตรหลุมๆหนึ่งก็ปรากฏ

เขาโดดลงไปทันที

...

เมื่อลงมาถึงเขาก็พบกับหิน , เหล็ก , ทองแดงและไม้กองอยู่เต็มพื้น

ตรงบริเวณมุมมีดอกไม้สีแดงหน้าตาราวกับงูขึ้นอยู่

ไคลน์ตรงเข้าไปเก็บดอกไม้พวกนั้นเป็นอย่างแรก

ถ้าเขาเดาไม่ผิดนี่น่าจะเป็นดอกสีชาดแน่นอน มันคือหนึ่งในวัตถุดิบจำเป็นสำหรับการสร้างยารักษาทั่วไป

[ดอกสีชาด : ดอกไม้ทานได้ จงระวังในตอนเก็บเกี่ยวเพราะดอกไม้ชนิดนี้มักจะมีอสรพิษคอยปกป้องเอาไว้]

[ดอกสีชาดที่ไร้ซึ่งพิษภัย เก็บมันได้อย่ากังวลเพราะรอบๆนี้ไม่มีตัวอะไรอยู่เลย]

ไคลน์ย่อตัวลงและเริ่มเก็บเกี่ยวพวกมัน

[ดอกสีชาด +6!]

ครั้งนี้เขาก็ยังคงไม่ได้เมล็ดพันธุ์ใดๆมา

จากนั้นเขาก็เริ่มเก็บวัตถุดิบที่กองอยู่เต็มพื้น [ไม้ +6 , เหล็ก +4 , ทองแดง +3 , หิน +5...]

‘ตอนนี้ขาดอีกแค่สามอย่างก็สร้างยารักษาทั่วไปได้แล้ว’

ไคลน์เปิดหน้าเมนูขึ้นมาและพบว่าไอคอนรูปบ้านบริเวณมุมซ้ายบนยังคงเป็นสีเขียวอยู่

‘ยังมีพื้นที่เก็บของมากพอจะเก็บเตาย่างบาบิคิวหรือถ้ามันแน่นไปก็เอาเตาย่างมาไว้นอกฐานได้เหมือนกัน’

ไคลน์ไม่ได้สร้างเตาย่างบาบิคิวขึ้นทันทีแต่อย่างใดเพราะเขาคิดว่ารอให้ถึงเวลาอาหารกลางวันก่อนดีกว่า

ขุดต่อ!

เขากวาดตามองเส้นทางทั้งห้าสายในสุสาน

[ขุดขึ้นไปทางด้านบนจะพบกลุ่มแมงป่องสีเขียว บางทีในระหว่างที่ท่านกำลังขุดไปกิ้งก่าสีเขียวอาจจะมาโผล่ข้างๆแล้วก็ได้ เพียงแค่มันแตะท่านเบาๆท่านก็จะตายทันที]

[ขุดต่อไปทางด้านซ้ายจะมีเพียงไข่หนึ่งใบที่รออยู่และภายในนั้นซุกซ่อนเอาไว้ด้วยขุมพลังพิเศษบางอย่าง]

[ภายในสุสานทางด้านหน้ามีสัตว์อสูรแห่งสุสานที่ได้รับบาดเจ็บรออยู่ มันในตอนนี้อยู่ในสภาวะตื่นตัวถึงขีดสุด ถ้าท่านทำให้มันหวาดกลัวมันจะหนีไปทันที]

[สุสานทางด้านหลังมีวัตถุดิบอยู่เพียงน้อยนิดและอาจจะไม่เป็นที่พอใจของท่านนัก]

[ขุดลงด้านล่างมีหนังสือผู้ใหญ่ที่ใช้ฆ่าเวลาบวกกับขนมกินเล่นรออยู่ ถ้าท่านรู้สึกเปล่าเปลี่ยวก็ลองดูได้]

มีเพียงสามเส้นทางเท่านั้นที่มีทรัพยากร

อีกสองเส้นทางที่เหลือคือเส้นทางที่นำไปเจอกับสัตว์อสูรแห่งสุสาน

“ทางด้านมีไข่งั้นหรอ?”

“อาหารรึเปล่า?”

ไคลน์ขบคิด

ในเมื่อคำใบ้บอกว่าภายในไข่มีพลังพิเศษแขนงหนึ่งและไม่มีความเสี่ยงใดๆก็หมายความว่าน่าจะขุดไปได้

ทรัพยากรในอีกสองเส้นทางเองก็ไม่ได้มีอะไรสำคัญนักดังนั้นสามารถมองข้ามได้

ไคลน์จึงขุดไปทางด้านซ้ายด้วยประการฉะนี้

เส้นทางที่เขาขุดมาคราวนี้ยาวกว่าสามสิบเมตรและตรงช่วงกลางของเส้นทางก็มีเส้นทางผัวผวนปรากฏทำให้เขาจำเป็นต้องใช้พลั่วลองขุดหาทิศทางที่ถูกต้องอยู่ซักพัก

“ขุดผ่านมาได้ซักที”

ไคลน์เก็บพลั่วเข้าที่เก็บของและหยิบเอาหอกสั้นขึ้นมากำเอาไว้แทนจากนั้นจึงค่อยเดินเข้าสู่สุสานแห่งที่สิบ

ไม่ว่ายังไงการระวังตัวเอาไว้ก่อนก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย

สุสานแห่งนี้ค่อนข้างแคบเป็นอย่างยิ่ง ดูๆไปแล้วน่าจะยาวเพียงสามเมตรเท่านั้น

ตรงกลางของสุสานแห่งนี้มีกองทรายอยู่กองหนึ่งและกองทรายกองนั้นก็โอบอุ้มไข่สีขาวใบใหญ่ใบหนึ่งเอาไว้

ขนาดของไข่ใบนี้ใหญ่ยิ่งกว่าไข่ของนกกระจอกเทศเสียอีก

[รอบๆนี้ไม่มีอันตรายและไข่นี้เป็นของดีมาก วันเวลาอันโดดเดี่ยวของท่านกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว]

คำใบ้สีทองเด้งขึ้นมา

“วันเวลาอันโดดเดี่ยวกำลังจะสิ้นสุด? หรือฟักออกมาจะได้เป็นผู้หญิงสวยๆรึไง?”

ไคลน์ก้มลงไปสำรวจไข่สีขาวใบใหญ่ใบนั้นใกล้ๆ

พอสังเกตุดูผิวของเปลือกไข่ไม่ได้เป็นสีขาวบริสุทธิ์แต่มีลวดลายสีเงินบางอย่างวาดเอาไว้ด้วยและเขาก็พึ่งสังเกตุเห็นหลังจากที่ก้มลงมามองใกล้ๆนี่แหละ

ลวดลายที่เขียนเอาไว้ทำให้เขานึกถึงฐานรูนและเครื่องกลั่นน้ำขึ้นมาทันที

หรือจะเกี่ยวข้องกับรูนอีกแล้ว?

ไคลน์ปัดทรายรอบๆออกและยกไข่ขึ้นมาด้วยสองมือ

[แจ้งเตือนจากระบบ : ไข่รูน+1]

[ไข่รูน : ทารกสัตว์อสูรแห่งสุสานถูกผนึกเอาไว้ในไข่รูน หยดเลือดของท่านลงไปเพื่อทำลายผนึกและทำพันธสัญญา เมื่อทำเช่นนี้ท่านจะได้รับคู่หูที่ซื่อสัตว์มาและไม่จำเป็นต้องไปเอาฟักเองแต่อย่างใด]

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด