ตอนที่แล้วตอนที่ 29
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 31

ตอนที่ 30


ในระหว่างทางวีก็ได้พูดขึ้นว่า

“ทั้งสองคนหิวหรือยังครับ ?”

เบลที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า

“แน่นอนสิกับข้าวที่กองน่ะไม่ค่อยอร่อยเอาเสียเลย”

วีที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะพูดกับทั้งสองสาวว่า

“เอางี้เป็นไหม ยังไงพี่แก้วก็ต้องไปส่งผมที่ร้านอยู่แล้วงั้นทั้งสองคนก็กินข้าวที่ร้านของผมแล้วกัน เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง”

พี่แก้วที่ได้ยินแบบนั้นก็ตกใจเล็กน้อยก่อนจะถามกลับ

“จะดีหรอวี ?”

วีพยักหน้า

“ดีสิครับ จะได้ตอบแทนทั้งสองคนด้วย พี่เบลก็ช่วยหางานให้ผมส่วนพี่แก้วก็ยังอุส่ามาส่งผมถึงที่อีกแค่ข้าวมื้อเดียวผมเลี้ยงได้สบายอยู่แล้ว”

พี่แก้วและเบลมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนจะตอบรับข้อเสนอของวี เมื่อมาถึงที่ร้านวีก็พาทั้งสองคนมาโซนส่วนตัว เมื่อมาถึงวีก็เห็นว่ามีคนนั่งอยู่ก่อนแล้วซึ่งก็คือวาน้องสาวของเขานั่นเอง

วีเห็นว่าวากำลังนั่งเล่นโทรศัพอยู่เขาจึงเข้าไปทักน้องสาวของตน

“ว่าไงยัยวา มาทำอะไรที่ร้าน ?”

วาที่ได้ยินก็หันกลับมาก่อนจะแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นพี่ชายของตัวเองเดินมาพร้อมกับสองสาวสวย

“ถามอะไรแปลกๆ ก็มากินข้าวนะสิก็พี่เล่นไม่อยู่บ้านนี่แล้วฉันจะกินอะไรล่ะ”

วาพูดออกมาแบบประชดเล็กน้อย วีที่ได้ยินก็ได้แต่เกาแก้มแก้เขินก่อนจะเชิญให้พี่แก้วและเบลนั่งลงก่อน วาที่เห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมาด้วยความสงสัย

“ว่าแต่พี่สาวสองคนนี้เป็นใครงั้นเหรอพี่ ?”

วีที่ได้ยินคำถามก็ร้องอ๋อทันทีก่อนจะเริ่มแนะนำตัวทั้งสองคนพร้อมกับหยิบเมนูยื่นให้เบลกับพี่แก้ว

“คนนี้คือพี่เบล คนที่คอยช่วยเหลือพี่เรื่องงานน่ะเราก็น่าจะเคยเห็นเธอมาบ้างผ่านนิตยสารแฟชั่นนะ ส่วนอีกคนชื่อพี่แก้วเป็นผู้จัดการส่วนตัวของพี่เบล”

“สั่งตามสบายเลยนะครับเดียวผมเลี้ยงเอง”

วีพูดพร้อมกับยิ้มทั้งเบลและพี่แก้วจึงพนักหน้าหงึกๆ ทางด้านวานี่ถึงกับสติหลุดไปพักนึงเพราะได้เจอกับดาราตัวเป็นๆในระยะประชิดขนาดนี้เป็นครั้งแรก

วีที่เห็นท่าทางของเบลเป็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะสะกิดน้องสาวของตัวเองเพื่อเรียกสติ

เมื่อวาได้สติกลับมาก็แสดงสีหน้าตื่นเต้นออกมาอย่างชัดเจนก่อนจะแนะนำตัวเอง

“สวัสดีค่ะ หนูชื่อวาเป็นน้องสาวของพี่วีค่ะ !!”

เบลยิ้มออกมาพร้อมกับกล่าวทักทาย

“สวัสดีจ๊ะน้องวา”

“หนูน่ะปลื้มพี่เบลมากๆเลยนะคะ ทั้งสวยทั้งเก่ง แถมยังมีชื่อเสียงไปถึงต่างประเทศเชียวแหนะ !!”

เบลที่ได้ยินคำเยินยอจากวาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะชอบใจออกมา

“เราก็พูดเกินไป พี่ก็แค่เป็นดาราตัวเล็กๆเท่านั้น”

วาส่ายหน้าก่อนจะพูดต่อว่า

“ไม่จริงหรอกค่ะ พี่เบลน่ะออกจะเก่งได้ร่วมมือกับแบรนด์ต่างประเทศตั้งหลายแบรนด์”

ดูท่าทางเบลเหมือนจะเขินกับคำเยินยอเหล่านั้นจนอดไม่ได้ที่จะเอามือขึ้นมาบังหน้าตัวเองเล็กน้อย

“ชมแบบนี้พี่ก็เขินแย่สิ”

หลังจากหมดคำเยินยอกันไปแล้วทั้งสองคนก็คุยกันอย่างสนิทสนมราวกับเป็นพี่น้องที่คลานตามกันออกมา เรียกได้ว่าแลดูสนิทกว่าวีที่เป็นพี่ชายแท้ๆเสียอีก

แต่ตัวของวีจะไปว่าอะไรก็ไม่ได้เพราะยังไงซะผู้หญิงกับผู้หญิงก็เข้ากันง่ายกว่าอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่ทั้งสองคนจะสนิทกันได้ไวขนาดนี้ แต่ถึงอย่างงั้นมันก็ไวเกินไปไหมนะ ?

ในขณะนั้นเองเบลก็หันมาถามกับวีด้วยความสงสัยว่า

“ว่าแต่วี พี่สงสัยมานานแล้วทำไมเธอถึงได้ขาวแบบนี้กัน เธอดูแลมันยังไงน่ะ ?”

เบลพูดพร้อมกับจ้องมองมาที่แขนอันขาวนวลของวี แม้วีจะไม่ได้ขาวผ่องเป็ยองใยขนาดนั้นแต่หากจะให้เทียบกับผู้ชายหรือผู้หญิงทั่วไปแล้ว วีจัดว่าขาวกว่าคนเหล่านั้นพอสมควรเลยทีเดียว

วีที่มองแขนตัวเองก็คิดเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไปว่า

“ผมก็ไม่ได้ดูแลอะไรเป็นพิเศษนะครับ แค่ทาครีมก่อนนอนเท่านั้นเอง”

เบลที่ได้ยินแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่ตกใจก่อนจะมองวีอย่างจริงจัง

“แค่นั้นจริงๆเหรอ ~ ?”

วียิ้มเจื่อนๆก่อนจะตอบกลับ

“จริงสิครับ ผมใช้ครีมตัวเดียวกับที่วาใช้นั่นแหละ หรือจะเป็นเพราะผมไม่ค่อยได้ออกแดดก็ได้นะ”

วีคิดเพราะสไตล์การใช้ชีวิตก่อนหน้านี้ของเขาถ้าหากไม่มีความจำเป็นหรือมีธุระอะไรเขาก็แทบจะอยู่แต่ในบ้านเล่นเกมเท่านั้นเอง นั่นอาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งก็ได้ แต่เหตุผลหลักก็คงเป็นเพราะสายเลือดของเขานั่นแหละนะ

เบลได้ยินแบบนั้นก็คิดเล็กน้อยก่อนจะถามกับวี

“ว่าแต่วีเป็นคนเหนืองั้นเหรอ เพราะต่อให้เป็นคนกรุงเทพก็ไม่น่าจะขาวได้ขนาดนี้ ?”

วีส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับพร้อมกับเกาแก้มเบาๆ

“ไม่ใช่หรอกครับ อันที่จริงแล้วมันค่อนข้างจะซับซ้อนนิดหน่อย”

“ซันซ้อน ?”

เบลพูดออกมาด้วยความสงสัย พี่แก้วเองก็ถึงกับหันมามองด้วยเลยทีเดียว

“อันที่จริงแล้วผมกับวาเป็นลูกครึ่งน่ะครับ”

เบลที่ได้ยินก็แสดงสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเหมือนกับเข้าใจอะไรบางอย่าง

“แล้วเป็นลูกครึ่งอะไรล่ะ ? จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น อเมริกัน ? ไม่ๆเธอกับวาดูไม่เหมือนเป็นคนอเมกันเท่าไหร่”

เบลพูดความคิดของตัวเองออกมา วีที่ได้ยินก็หัวเราะเล็กน้อยพร้อมกับตอบกลับ

“อันที่จริงแล้วเป็นลูกครึ่ง ไทย-จีน-เกาหลี น่ะครับ”

เบลกับพี่แก้วที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับตกใจเล็กน้อยก่อนที่เบลจะถามออกมา

“ส… สามเลยงั้นเหรอ ?”

วีพยักหน้า

“ใช่ครับ พ่อของผมเป็นลูกครึ่งไทยจีน ส่วนคุณแม่เป็นคนเกาหลีน่ะครับ”

เบลที่ได้ยินแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกุมขมับ

“แบบนี้เองสินะ เป็นอย่างงี้นี่เอง”

วีอดไม่ได้ที่จะยิ้มเจื่อนๆให้กับคำพูดของเบลเพราะเขาพอจะเดาได้คร่าวๆแล้วว่าเบลนั้นกำลังคิดอะไรอยู่


-ตอนแรกกะจะให้แม่ของลูกวีเป็นลูกครึ่งไทยเกาหลีเหมือนกันแต่ดูมันจะไปซ้ำกันเกินไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด