ตอนที่แล้ว80Y-ตอนที่ 87 ผ่าภูเขาหมาป่าเป็นสองส่วน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป80Y-ตอนที่ 89 ปฏิกิริยาจากกลุ่มคนหลายด้าน

80Y-ตอนที่ 88 องค์หญิงหยูหลินที่เดือดดาล


พระราชวังขาวและพระราชวังแดงของภูเขาหมาป่าสัญลักษณ์ทางใจของชาวเซียนเป่ยนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้น

แน่นอนว่าภูเขาหมาป่าก็คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา

มีคนจำนวนมากนับไม่ถ้วนที่ต้องการเข้าสู่ภูเขาหมาป่าเพื่อมาสักการะพระราชวังขาวและพระราชวังแดง

ชาวเซียนเป่ย นับไม่ถ้วน ต่างก็ใฝ่ฝันที่จะเป็นมาชิกของพระราชวังขาวและแดงบนยอดเขาหมาป่า

แต่คืนนี้…

ภายใต้สายตาของชาวเซียนเป่ยหลายล้านคน ความฝันของพวกเขา-พระราชวังขาวและพระราชวังแดง-ได้ถูกแยกออกจากกันด้วยกระบี่เดียว

แม้แต่ภูเขาหมาป่าขนาดใหญ่ก็ยังถูกแบ่งเป็นสองส่วน

กระบี่กระดูกที่น่าสะพรึงกลัวได้ฟาดฟันออกไปอย่างน่าตกใจ

ที่ราบทั้งหมดล้วนสั่นสะเทือน

ภูเขาหมาป่าที่สง่างามถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน

ปราณกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวนี้สามารถฆ่าปราชญ์การต่อสู้และยับยั้งเทพมนุษย์

ฉากนี้ได้เขย่าไปถึงแกนจิตใจของ มู่หรงหลิง

เขามองไปที่องค์หญิงหยูหลินอย่างไม่เชื่อ กระทั่งดวงตาของเขายังเต็มไปด้วยความตกใจ

ความเย่อหยิ่งและความถือดีของเขาล้วนถูกทำลายภายใต้การโจมตีในครั้งนี้

“ไม่ใช่ว่าเจ้าเพิ่งกลายเป็นเทพมนุษย์หรอกเหรอ!”มู่หรงหลิงกัดฟันแน่น

ร่างกายของเขาสั่นสะท้านและมีเหงื่อเย็นโชกอยู่บนแผ่นหลัง

เขาหวาดกลัว

โชคดีที่เขาไม่ได้โดนกระบี่เมื่อครู่ฟัน

มิฉะนั้นเขาคงไม่รอด

ภายใต้พลังกระบี่นั้น เขาสัมผัสได้ว่าแม้ตนเองจะทะลวงผ่านไปยังอาณาจักรพลังถ้ำสวรรค์ก็ยังไม่สามารถต้านทานมันได้

องค์หญิงหยูหลิน ได้มองไปที่ มู่หรงหลง ด้วยสีหน้าที่เย็นชา

คำพูดของ หลินจิ่วเฟิง ยังคงสะท้อนอยู่ในใจของนาง

“ไปฆ่าเขาซะ”

องค์หญิงหยูหลินได้อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ“ท่านอาจารย์...ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”

“หากใช้กระบี่กระดูก เจ้าจะมีความมั่นใจมากแค่ไหน?”หลินจิ่วเฟิงได้กล่าวถาม

“ไม่ถึง 1 ส่วน!”องค์หญิงหยูหลินค่อนข้างลังเล

ถ้าพูดให้ถูกคือมันน้อยกว่าหนึ่งในหมื่น

ที่นางพูดว่าไม่ถึง 1 ส่วนนี้ นางไม่ได้โกหก

“แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ใช้ทักษะกระบี่กระดูกมรณะที่เจ้าเพิ่งเข้าใจในการฆ่าเขา”

หลินจิ่วเฟิงได้กล่าวเบา ๆ

องค์หญิงหยูหลิน ได้กลับมาควบคุมร่างกายของนางได้

นางได้ถือกระบี่กระดูกในมือ

ทว่าสิ่งที่นางสัมผัสคือภารอันหนักอึ้งหลายเท่าตัว

กระบี่กระดูกที่อยู่ในมือของเด็กสาวราวกับกระที่ล้ำค่าที่สุดในโลก

เด็กสาวค่อนข้างถนุถนอมมันราวกับสมบัติล้ำค่า

นางมองไปที่ มู่หรงหลิง ด้วยสายตาที่เย็นชา

“เจ้าคิดใช้ชีวิตของผู้คนนับล้านที่อาศัยอยู่ที่ชายแดนของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา มาเพื่อข่มขู่ เสด็จพี่จักรพรรดิของข้า อีกทั้งเจ้ายังคิดบีบบังคับให้ข้าต้องแต่งงานกับเจ้าอีก จุดประสงค์เพียงอย่างเดียวของเจ้าคือต้องการให้ข้าเป็นเครื่องจักรผลิตทายาทให้เจ้า…”

“ก่อนที่ข้าจะมาที่นี่ ข้าได้ป่าวประกาศไปแล้วว่าจะฆ่าเจ้า ข้าจะทวงคืนความอัปยศเหล่านั้นที่เจ้ามอบให้ข้าในครั้งเดียว!”

ขณะที่ เสียงของ องค์หญิงหยูหลิน ลดลง กระบี่กระดูกในมือของนางก็ฟาดฟันลงไป

นางได้หลับตาและนึกถึงการโจมตีของ หลินจิ่วเฟิง ก่อนหน้านี้

นางจำกระบวนท่าทั้งหมดได้

มันได้ตราตรึงในใจของนางอย่างลึกซึ้งและชัดเจนมาก

นางจะไม่มีวันลืมมันไปตลอดชีวิต

เหตุผลที่นางบอกว่าไม่เข้าใจแล้วจริง ๆ นางก็ไม่เข้าใจเลย

เพียงแต่นางจำฉากที่ หลินจิ่วเฟิง ใช้ได้ก็เท่านั้น

นางเพียงแค่ลอกเลียนแบบการเคลื่อนไหวของเขา

เช่นเดียวกับที่นางใช้ทักษะกระบี่กระดูกมรณะ

จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของหลินจิ่วเฟิงที่เฝ้ามองจากความว่างเปล่าเขาก็จมดิ่งในความคิดเช่นเดียวกัน

อาจกล่าวได้ว่านี่คือทักษะกระบี่กระดูกมรณะ แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ยังขาดสิ่งสำคัญในการเปลี่ยนมันเป็นทักษะกระบี่กระดูกมรณะที่แท้จริง

แต่กระบี่กระดูกแต่ละเล่มก็ล้วนแสดงพลังของมันออกมา

กึก!

ความว่างเปล่าได้ถูกพลังกระบี่นั้นบดขยี้

รอยแตกจำนวนนับไม่ถ้วนได้ปรากฏขึ้น

แกร๊ก แกร๊ก!

มู่หรงหลิง รู้สึกตกใจมากและรีบตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ

“ช่วยข้าด้วย!”

เขาเป็นราชาของกองกำลังเหยี่ยวมังกร ราชาแห่งเซียนเป่ย

ตอนนี้เขาตกอยู่ในอันตราย เหตุใด นิกายแก่นแท้แห่งชีวิตถึงไม่ปรากฏตัวออกมา?

นิกายแก่นแท้แห่งชีวิตเป็นเหมือนกับมู่หรงหลิง

พวกเขามาจากยุคก่อน

เนื่องจากพวกเขาเป็นกลุ่มคนของที่ราบ จึงไม่มีบันทึกของพวกเขาในหนังสือที่ สตรีศักดิ์สิทธิ์มอบให้ ดังนั้น หลินจิ่วเฟิง จึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขาเลย

แน่นอนว่าถึงแม้เขาจะรู้เขาก็ไม่ได้สนใจ

เขายังคงปล่อยให้องค์หญิงหยูหลินเข้าไปในที่ราบและท้าทายพวกเขา

นิกายแก่นแท้แห่งชีวิต!

ทันทีที่ มู่หรงหลิง ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ชายชราคนหนึ่งก็บินออกมาจากพรระาชวังแดงที่ถูกแยกออกจากพระราชวังขาว

เขาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่แปลกใหม่ซึ่งเป็นตัวแทนของดินแดนที่ราบขณะที่เครายาวสีขาวของเขาได้ปลิวไสวไปตามลม

เขาได้ยกมือขึ้นและทำท่าทางที่น่าหวาดกลัว

มันเป็นหนึ่งในทักษะขั้นสูงสุดของนิกายแก่นแท้แห่งชีวิต-คลื่นระเบิดแก่นแท้พลังปราณ!

บูม!

คลื่นระเบิดแก่นแท้พลังปราณ คล้ายกับดวงอาทิตย์สีทอง

มันได้พุ่งชนเข้ากับกระบี่กระดูกโดยตรง

บูม บูม!

คลื่นระเบิดแก่นแท้พลังปราณ ชนเข้ากับกระบี่กระดูก มันก็ระเบิดออกโดยตรง

เกล็ดหิมะในอากาศได้ถูกฉีกกระชากอย่างรุนแรง

เพียงแต่การเคลื่อนไหวของกระบี่กระดูกไม่ได้ลดลงเลย

มันยังคงพุ่งไปทาง มู่หรงหลิง อย่างดุเดือด!

มู่หรงหลิง ได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและพยายามจะหลบหนี

“ใช้มิติว่างเปล่า!”หลินจิ่วเฟิง ได้กระซิบที่ข้างหูของ องค์หญิงหยูหลิน

องค์หญิงหยูหลินได้ตะโกนออกมา“ไปตายซะ!”

พลังปราณแท้จริงของนางได้ไหลเข้าสู่กระบี่กระดูก

หึ่มม!

พริบตาเดียวกระบี่กระดูกก็กลายเป็นน่ากลัวมากเช่นกัน

พลังปราณขององค์หญิงหยูหลินได้เปลี่ยนเป็นปราณกระบี่อันแข็งแกร่งที่ผสมผสานกันในอากาศ

ขอบเขตของมันล้วนทำให้มิติว่างเปล่าล้วนถูกแช่แข็ง

ไม่ว่า มู่หรงหลิง จะพยายามหลบหนีอย่างไร เขาก็ยังติดอยู่ในมิติว่างเปล่าที่ถูกแช่แข็งนี้

เขาไม่สามารถหนีไปได้

“เจ้าบีบบังคับข้าเองนะ!”มู่หรงหลิงได้คำรามออกมาด้วยความโกรธ

เขาไม่ได้ซ่อนความแข็งแกร่งของตนเองอีกต่อไป

ฐานการบ่มเพาะพลังของเขาได้อยู่ในช่วง จุติใหม่ ของขั้นเทพมนุษย์ พลังของเขาได้ปะทุออกมาและเขาก็ได้ยกมือขึ้นเพื่อโจมตี

บูม!

การโต้กลับของเขาทรงพลังมาก แต่ทว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับกระบี่กระดูกและทักษะกระบี่กระดูกมรณะ

หลินจิ่วเฟิง ไม่ได้ใช้ทักษะกระบี่นี้มากนัก

เป็นเวลาหลาย 10 ปีแล้วนับตั้งแต่เขาลงชื่อเข้าใช้และได้รับมันมา และเขาได้ใช้มันอย่างเป็นทางการแค่สองครั้งเท่านั้น

ครั้งแรกเมื่อ 5 ปีที่แล้ว

ช่วงความโกลาหลที่พวกปีศาจจำนวนมากบุกมา

ในเวลานั้น หลินจิ่วเฟิง ได้เรียกกระบี่กระดูกออกมาและแสดงพลังอันน่าสะพรึงกลัวของทักษะกระบี่กระดูก

ครั้งที่สองก็คือวันนี้

เขาได้ยืมร่างกายขององค์หญิงหยูหลินในการแยกภูเขาหมาป่าออกเป็นสองส่วนและตัดแบ่งพระราชวังขาวและพระราชวังแดงออกจากกันในครั้งเดียว

ทักษะกระบี่กระดูกนั้นทรงพลังเกินไป

หลินจิ่วเฟิง ไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้มัน ดังนั้นเขาจึงมอบมันให้กับ องค์หญิงหยูหลิน

ไม่ว่าองค์หญิงหยูหลินจะเข้าใจทักษะกระบี่กระดูกมรณะแค่ไหน มันก็ยังไม่ใช่ความเข้าใจที่แท้จริงของนาง เพราะนางเพียงคัดลอกการกระทำของ หลินจิ่วเฟิง ก่อนหน้านี้ในการใช้งานมัน

นางได้ใช้ทักษะกระบี่กระดูกมรณะกับฐานการบ่มเพาะพลังที่เพิ่งไปถึงขั้นเทพมนุษย์ ร่วมกับกระบี่กระดูก ทำให้นางสามารถปะทะกับ มู่หรงหลิง ที่มีฐานการบ่มเพาะพลังในช่วงที่ 4 ของขั้นเทพมนุษย์ได้

นี่เป็นการประลองกันระหว่างองค์หญิงหยูหลินและมู่หรงหลิง

มันเป็นความแค้นระหว่างพวกเขา

พวกเขาต้องการสะสางเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

ดังนั้น หลินจิ่วเฟิง จึงไม่ได้เข้าร่วม

เขามองไปที่ชายชราจากนิกายแก่นแท้แห่งชีวิต

อีกฝ่ายต้องการแทรกแซงและโจมตีองค์หญิงหยูหลินจากภายนอก

ชายชราคนนี้แข็งแกร่งมาก

เขามีพลังเช่นเดียวกับ มู่หรงหลิง ซึ่งอยู่ในช่วงที่ 4 ของขั้นเทพมนุษย์

ถ้าเขาร่วมกันโจมตีกับมู่หรงหลิง องค์หญิงหยูหลิน จะเสียเปรียบแน่นอน

ดังนั้น หลินจิ่วเฟิง จึงได้สะบัดนิ้วของเขา

บูม!

พลังกระบี่อันไร้ตัวตนก็ได้ระเบิดกระแทกเข้าใส่หน้าอกของชายชราโดยตรง

สิ่งนี้ทำใหร่างกายของชายชราสั่นสะท้าน

เขากระอักโลหิตคำใหญ่ออกมาและมองไปที่รูที่หน้าอกของตนเอง

หัวใจของเขาได้ถูกทำลายภายใต้พลังกระบี่ของ หลินจิ่วเฟิง

ชายชราได้มองไปรอบ ๆ อย่างสับสน

ใครเป็นคนฆ่าเขา?

องค์หญิงหยูหลิน?

ไม่ใช่ นางกำลังต่อสู้กับ มู่หรงหลิง…

ทั้งคู่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด

ท่ามกลางพายุหิมะ องค์หญิงหยูหลิน ที่ถือกระบี่ยาวนับสิบเมตรได้ฟันออกไปอย่างต่อเนื่อง พลังกระบี่อันแข็งแกร่งได้บังคับให้ มู่หรงหลิง ตกเป็นฝ่ายป้องกัน

เขาทั้งเสียเปรียบและตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง

มู่หรงหลิงทั้งโกรธและอับอาย

ทว่าดูเหมือนองค์หญิงหยูหลินจะโกรธมากกว่าเขา

“เจ้าต้องการให้ข้าเป็นเครื่องจักรผลิตทายาทให้กับเจ้าอย่างไม่รู้จบหรือไม่?มาดูกันว่าวันนี้ข้าจะทุบตีเจ้าจนกว่าจะตาย!”

“เมื่อข้าออกจากเมืองหลวง ข้าก็ประกาศไปแล้วว่าจะฆ่าเจ้า วันนี้ก็ไม่มีใครช่วยเจ้าได้!”

“ตายซะ!”

เขาไม่ได้คาดหวังว่าองค์หญิงหยูหลินที่อ่อนแอและอ่อนโยนกลับมีเจตนาฆ่าที่รุนแรงถึงเพียงนี้

นางได้ใช้กระบี่กระดูกทุบมันไปที่ร่างของ มู่หรงหลิง โดยตรง

ถูกแล้ว…

นางได้ใช้กระบี่กระดูกในมือเป็นท่อนเหล็กไปแล้ว

นางไม่ได้ใช้งานมันตามลักษณะของกระบี่ แต่แปรเปลี่ยนเป็นอาวุธทื่อในการทุบ

หากมีการจู่โจมอย่างรุนแรง มู่หรงหลิง คงจะตายหรือพิการ

ทว่าเงาของทักษะกระบี่กระดูกมรณะก็ยังคงปรากฏขณะที่นางเหวี่ยงมันลงมา

กระบี่กระดูกให้ความร่วมมือกับนางในการแสดงพลัง

มุมปากของ หลินจิ่วเฟิง อดไม่ได้ที่จะกระตุก

องค์หยิงหยูหลินได้เปลี่ยนทักษะกระบี่กระดูกมรณะให้เหมือนกับนักเลงหัวไม้

ถ้ามีคนบอก หลินจิ่วเฟิง ว่านี่คือทักษะกระบี่กระดูกมรณะ

เขาคงไม่เชื่อว่าแม้ตนเองจะถูกทุบตีจนตาย

“ตายซะ!”การโจมตีขององค์หญิงหยูหลินในที่สุดก็พุ่งออกไปหา มู่หรงหลิง

เขาพยายามหลบให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ทว่ามิติความว่างเปล่าที่ถูกแช่แข็งและกระบี่กระดูกในมือของนางร้ายกาจเกินไป

บูม!

ร่างของเขาได้กลายเป็นหมอกสีเลือดโดยตรงภายใต้การโจมตีของทักษะกระบี่กระดูกมรณะ

มู่หรงหลิง เสียชีวิตแล้ว!

ยอดฝีมือจากนิกายแก่นแท้แห่งชีวิตมองดูฉากนี้ด้วยความงุนงง

เขาพยายามเคลื่อนไหวพุ่งไปทางซ้ายและขวาทว่าไม่นานพวกเขาก็ร่วงหล่นลงมา

ร่างของพวกเขาได้ถูกกลบฝังในหิมะสีขาวบริสุทธิ์

โดยไม่มีใครรู้เลยว่าใครเป็นคนฆ่าพวกเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด