ตอนที่แล้ว444 - ความโกลาหล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป446 - ต่างคนต่างแผนการ 2

445 - ต่างคนต่างแผนการ


445 - ต่างคนต่างแผนการ

ข้างนอกรถมีลมหนาวส่งเสียงหวีดหวิว แต่ข้างในกลับเงียบสงบเสียงลมพวกนั้นไม่สามารถเล็ดลอดเข้ามาในรถ แต่ในขณะเดียวกันก็มีรูระบายอากาศที่ทำให้ผู้คนในรถไม่รู้สึกอึดอัด

เทคโนโลยีพิเศษที่อยู่เบื้องหลังคอยล์สปริงคู่ที่ติดตั้งไว้กับตัวรถช่วยยกระดับความสบายให้อยู่ในระดับสูงสุดของยุคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ถ้าไม่ใช่เพราะโจวหย่งและทหารหุ้มเกราะอีกสี่นายจากสำนักงานการผลิตที่คุ้มกันรถม้าในขณะที่มันวิ่งอยู่บนถนนก็อาจจะทำให้ผู้คนมากมายนับพันรุมล้อมจนรถไม่สามารถไปไหนได้

“ดูสิ รถสี่ล้อ…”

“อ่า มันมีสี่ล้อ แต่ทำไมมันถึงเคลื่อนที่เร็วและดูเบาขนาดนี้…”

“คนขับหล่อมาก…”

“มันกำลังเลี้ยว รถสี่ล้อกำลังเลี้ยวจริงๆ…”

แม้ว่าพวกเขาจะนั่งอยู่ในรถม้า แต่ก็ยังได้ยินการสนทนาและความชื่นชมยินดีจากบริเวณโดยรอบ

นี่เป็นครั้งแรกของนายผู้เฒ่าลู่ที่ประสบกับความโกลาหลที่ไร้สาระเช่นนี้ หูไห่เหอก็มีความรู้สึกตื่นเต้นและภาคภูมิใจที่ได้เป็นคนขับรถมานี้เช่นกัน

แม้ว่าเขาจะเป็นคนขับ แต่ก็รู้สึกราวกับว่าเขาเป็นแม่ทัพหน่วยลาดตระเวน แส้ในมือของเขาส่งเสียงดังในอากาศ ทหารที่คุ้มกันรถม้าเหยียดหลังให้ตรงและมองไปยังรถม้าอันรุ่งโรจน์ด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความภาคภูมิใจ

เมื่อรถสี่ล้อที่สวยงามมาถึงประตูเมืองผิงซี ก็มีผู้ชมที่อยากรู้อยากเห็นจำนวนมากกว่าสามสิบคนที่เดินตามพวกเขา ทุกคนไม่สามารถตัดใจจากความอยากรู้อยากเห็นว่าใครเป็นเจ้าของรถมาที่ล้ำค่านี้

ผู้คนจำนวนมากพยายามเข้าเมืองเมื่อรถม้ามาถึงทางเข้าประตู ก่อทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ในทันที หลายคนยืนอยู่ใกล้ประตูเมืองจ้องมองสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในยุคนี้มาก่อน

กองทหารที่เฝ้าประตูเมืองต่างก็ตกตะลึงเมื่อเห็นรถม้าสีดำอันงดงามซึ่งถูกลากโดยม้าพันธุ์แรดมังกรสองตัว พวกเขายืนงงอยู่อย่างนั้นโดยลืมแม้กระทั่งวิธีพูด

“ข้าไม่เคยเห็นรถสี่ล้อที่น่าประทับใจแบบนี้มาก่อน นี่อาจเป็นของผู้ว่าการแคว้น?” ทหารคนหนึ่งที่ประตูเมืองถามหลังจากที่รถม้าเข้าไปในเมือง

“แต่ข้าจำได้ว่าผู้ว่าการแคว้นขี่ม้าเข้าไปในเมืองตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว!”

“นอกจากผู้ว่าการแคว้นแล้ว ใครจะสามารถเป็นเจ้าของรถมาที่งดงามขนาดนี้ในแคว้นกานได้”

จนกระทั่งรถสี่ล้อเข้าสู่เมืองผิงซี เอี้ยนลี่เฉียงก็ตระหนักได้ว่าเขาประเมินผลกระทบที่เกิดจากการปรากฏตัวของรถม้าสี่ล้อดังกล่าวต่ำเกินไป

ในตอนแรกทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเงียบสงบเมื่อรถม้าถูกลากไปตามถนนอย่างช้าๆ แต่ไม่นานก็เกิดเสียงดังขึ้น

“ดูสิ นี่มันรถม้าสี่ล้อ!”

“ว้าว สวยจังเลย!”

“น่าประทับใจจริงๆ...”

“ผู้ว่าการแคว้นต้องอยู่ภายในรถคันนั้นอย่างแน่นอน…”

สองข้างทางของถนนเต็มไปด้วยผู้คนที่ต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเข้าใกล้รถสี่ล้อ รถสองล้อคันอื่นๆบนถนนเทียบไม่ได้กับรถสี่ล้อที่สะดุดตา

ทุกคนบนท้องถนนหยุดมอง หน้าต่างของร้านอาหารและร้านน้ำชาเปิดทีละบาน เมื่อรถม้าสี่ล้อเข้ามาใกล้ คนขับรถม้าคนอื่นๆก็อดไม่ได้ที่จะหยุดรถม้าเพื่อหลีกทาง

พวกเขามองหูไห่เหอที่ขับรถม้าอย่างสง่างามด้วยความอิจฉาโดยไม่สามารถปิดบังไว้ได้

ความโกลาหลที่เกิดจากการปรากฏตัวของรถสี่ล้อนั้นเปรียบได้กับสถานการณ์ของซุปเปอร์สตาร์ที่ปรากฏตัวในตัวเมืองในชีวิตก่อนหน้าของเอี้ยนลี่เฉียง…

เล่ยสือตงอาศัยอยู่ในคฤหาสน์เจ้าเมืองในเมืองผิงซีใกล้กับสวนบ๊วย ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่ซุนปิงเฉิง เคยพักเมื่อตอนที่เขาอยู่ที่เมืองผิงซีครั้งล่าสุด

เมื่อรถสี่ล้อของเอี้ยนลี่เฉียงเข้าสู่เมืองผิงซี เล่ยสือตงและผู้ว่าการแคว้นหวังเจี้ยนเป่ยที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งใหม่และผู้ว่าการทหารหลิวอู่เฉิง ก็กำลังนั่งสนทนากันภายใต้แสงไฟจากเตาผิงในคฤหาสน์เจ้าเมือง

เตาโลหะที่สวยงามกำลังเผาก้อนรากบัวอยู่ข้างใน หน้าต่างของห้องหนังสือเปิดอยู่ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับพิษคาร์บอนมอนอกไซด์

ข้างนอกหนาวจัดและมีหิมะตกด้วยลงมาตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ห้องหนังสือยังค่อนข้างอบอุ่นด้วยเตาขนาดเล็ก

เล่ยสือตงเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรงตอนนี้เขาสวมชุดขุนนางในตำแหน่งผู้ว่าการแคว้นด้วยความสง่างาม เขามีหนวด เครา และจมูกที่แหลมคม เช่นเดียวกับคิ้วที่ยาวถึงขมับ

เขานั่งอยู่ข้างกองไฟ แต่กลับเปี่ยมล้นด้วยความภาคภูมิใจและรัศมีอันทรงพลัง หวังเจี้ยนเป่ยผู้ว่าการแคว้นผิงซีนั่งอยู่ทางซ้ายมือ และด้านขวาเป็นผู้ว่าการทหารคนใหม่หลิวอู่เฉิง

หวังเจี้ยนเป่ยเป็นคนที่สง่างามมีกลิ่นอายของบัณฑิตในวัยสี่สิบ เขาดูเหมือนปราชญ์ผู้ทรงความรู้และมีดวงตาแคบคู่หนึ่งซึ่งมีประกายเจิดจ้า

ในทางกลับกัน หลิวอู่เฉิงอายุน้อยกว่าหวังเจี้ยนเป่ยมาก ดูเหมือนว่าเขาจะอายุสามสิบเท่านั้น และตอนนี้เขาสวมชุดเกราะสีเงินครึ่งตัว

เขาเป็นชายที่มีร่างกายบึกบึนและมีหนวดสีดำแยกอยู่เหนือริมฝีปากของเขา เขามีไหล่กว้างและแขนของเขาหนาเท่ากับต้นขาของคนทั่วไป

ตามปกติแล้วคนกล้ามโตและดูเหมือนไม่มีสมองเป็นของตัวเองแบบนี้ไม่น่าจะนั่งในตำแหน่งใหญ่อย่างผู้ว่าการทหารได้ แต่ด้วยการสนับสนุนของพยัคฆ์เล่ยจึงทำให้เขามีวันนี้

“ข้าสงสัยว่าทำไมนายท่านจึงให้ความสนใจชายหนุ่มชื่อเอี้ยนลี่เฉียงมาก ข้าได้ยินมาว่าเขาอายุแค่สิบหกปีนั่นไม่ใช่เด็กน้อยคนหนึ่งหรอกหรือ?

คำพูดของนายท่านนั้นเป็นเหมือนราชโองการศักดิ์สิทธิ์ในแคว้นกาน ข้าไม่เชื่อว่าเด็กน้อยคนนี้จะกล้างัดข้อกับนายท่าน ข้าไม่เข้าใจว่านายท่านจะให้ความสนใจกับเด็กน้อยคนหนึ่งไปทำไม

ตำแหน่งแม่ทัพพิทักษ์ชายแดนฉีอวิ๋นของเขาไม่มีอะไรเลย หากเขากล้าออกไปที่เส้นทางศิลาขาวจะมีคนตัดบศีรษะของเขาลงมาภายในเวลาไม่ถึงสามวัน…!”

หลิวอู๋เฉิงผู้ว่าการทหารคนใหม่ของแคว้นผิงซีกล่าวอย่างหยาบคาย ทันทีที่เขาพูดจบเขาก็เห็นหวังเจี้ยนเป่ยยิ้มขณะส่ายหัว ดังนั้นเขาจึงตวาดออกไปอย่างขุ่นเคืองว่า

“อะไร? ข้าพูดผิด?”

หวังเจี้ยนเป่ยยิ้มและชี้ไปที่เตาโลหะที่สวยงามรวมถึงก้อนรากบัวที่เท้าของพวกเขา

“เจ้าทำสิ่งนี้ได้ไหม”

"ไม่" หลิวอู่เฉิงส่ายหัว

“ถ้าเจ้าอยู่ในเมืองหลวง เจ้าคิดว่าเจ้ามีความสามารถมากพอที่ฝ่าบาทจะเลือกเจ้าเป็นอาจารย์ของรัชทายาทหรือไม่”

"ไม่" หลิวอู่เฉิงส่ายหัวอีกครั้ง

“เจ้าสามารถได้รับความเคารพจากนักประดิษฐ์ที่เก่งที่สุดในโลกได้หรือไม่”

"ไม่" หลิวอู่เฉิงยังคงส่ายหัวแต่แล้วก็โต้กลับ

"แล้วไง? ค่าสามารถนำกองทัพบดขยี้ศัตรูได้อย่างง่ายดาย! ข้าไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง!”

รอยยิ้มของหวังเจี้ยนเป่ยกว้างขึ้นแล้วกล่าวว่า

“เจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่าเอี้ยนลี่เฉียงไม่รู้วิธีนำกองกำลัง? ข้าเชื่อว่าเจ้าคงเคยได้ยินมาว่ากลุ่มโจรวายุทมิฬได้พ่ายแพ้และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในปีที่ผ่านมา ท่านเล่ยต้องมีเหตุผลของตัวเองถึงได้ให้ความสำคัญกับเอี้ยนลี่เฉียง…”

“เอ่อ…” หลิวอู่เฉิงพูดไม่ออกทันที

“ข้าได้พบกับเอี้ยนลี่เฉียงเมื่อปีที่แล้วตอนที่เขายังเป็นผู้ติดตามของซุนปิงเฉิน ตอนนั้นข้าไม่ค่อยสนใจเขาเท่าไหร่ ข้าไม่คิดว่าท้ายที่สุดแล้วเขาจะสามารถสร้างชื่อในเมืองหลวงได้อย่างยิ่งใหญ่ นี่ถือเป็นการละเลยของค่าอย่างแท้จริง!”

เล่ยสือตงส่ายหัวและถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วกล่าวเพิ่มเติมว่า

“น่าเสียดาย น่าเสียดาย! ถ้าข้าสังเกตเห็นเขาก่อนหน้านี้ เขาจะได้รับประโยชน์อย่างมากมายมหาศาล…”

ดวงตาของหวังเจี้ยนเป่ยเป็นประกาย เขายังคงยิ้มในขณะที่พูดกับเล่ยสือตง

“ถ้าเอี้ยนลี่เฉียงสามารถรับใช้ซุนปิงเฉินในตอนนั้น เขาก็สามารถทำแบบเดียวกันกับท่านได้ในตอนนี้ ท้ายที่สุดตำแหน่งแม่ทัพพิทักษ์ชายแดนฉีอวิ๋นของเขาก็ไม่มีอะไรมากกว่าฟางข้าวที่ว่างเปล่า

ต่อให้เขามีช่างตีอาวุธพันคนอยู่ใต้การบังคับบัญชาแล้วอย่างไร? หากนายท่านต้องการให้เขาก้มศีรษะ ข้าจะหาวิธีทำให้มันสำเร็จอย่างแน่นอน!”

“ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น!”

เล่ยสือตงโบกมือและยิ้มอย่างเฉยเมย

“เอี้ยนลี่เฉียงตั้งตัวเป็นศัตรูกับหลินชิงเทียนในเมืองหลวงและได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท หากพวกเราดำเนินการอย่างรุนแรงมากเกินไปเจ้าคิดว่าฝ่าบาทจะปล่อยข้าหรือ

เอี้ยนลี่เฉียงต้องเป็นคนฉลาด เขาไม่คิดจะมาเยี่ยมพวกเจ้าทั้งคู่เมื่อเขากลับมาที่แคว้นผิงซี นั่นไม่ใช่เพราะเขาหยาบคายแต่เป็นความจงใจหลีกเลี่ยงข้า

ด้วยเหตุผลนี้เอง จึงทำให้ข้าอยากพบเขามากยิ่งขึ้นและค้นหาเจตนาที่แท้จริงของเบื้องหลังการฟื้นฟูตำแหน่งแม่ทัพพิทักษ์ชายแดนฉีอวิ๋นของฝ่าบาท!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด