ตอนที่แล้ว80Y-ตอนที่ 80 ได้เวลาจากไป
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป80Y-ตอนที่ 82 ข่าวที่น่าตกใจ

80Y-ตอนที่ 81 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่


หลินจิ่วเฟิง อนุญาติให้ นางอยู่ในตำหนักเย็นได้เป็นเวลาสามเดือนเท่านั้น เนื่องเพราะสายเลือดของนาง เมื่อพิจารณาจากเรื่องนี้ เขาก็ไม่ลังเลที่จะเข้าสู่ความฝันของนางและสอนทักษะกระบี่ผ่าสวรรค์ขั้นสูงสุดให้

องค์หญิงหยูหลิน เป็นหนึ่งในลูกสองคนของ หลินเทียนหยวน

หลินเทียนหยวนในวัย 30 ปี เขาไม่คิดว่าตนเองจะจากไปตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นเขาจึงไม่รีบร้อนที่จะมีลูก

แต่หลังจากถูกเผ่าวิญญาณขุนเขาหลอก ร่างกายของเขาก็อ่อนแอและเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมีลูกอีก

ดังนั้นลูกชายคนโตของเขาจึงขึ้นครองบัลลังก์ส่วนลูกสาวของเขาก็กลายเป็นองค์หญิงคนเดียวของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา

หลินจิ่วเฟิง เดิมคิดว่าเขาจะไม่มีวันได้พบกับองค์หญิงหยูหลินและจักรพรรดิเต๋อตลอดชีวิตของเขา แต่ใครจะไปคิดว่าองค์หญิงหยูหลินจะมาที่นี่ด้วยตัวของนางเอง?

หลังจากนางค้นพบสถานที่แห่งนี้ด้วยตัวนางเอง หลินจิ่วเฟิง ก็ไม่รังเกียจที่จะให้คำแนะนำบางอย่างแก่นางเพื่อที่จะทำให้นางแข็.แกร่งขึ้น

จากนั้นเขาก็ปล่อยให้นางตระหนักรู้ว่านิกายเส้นทางสวรรค์มีเจตนาร้ายบางอย่างต่อราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา เพื่อที่ให้นางไปแจ้งต่อจักรพรรดิเต๋อ และ ทราบถึงความมุ่งมั่นของพวกเข

สิ่งนี้ยังเป็นการช่วยให้ หลินจิ่วเฟิง จัดการปัญหาไปได้ในตัวอีกด้วย

เขาสามารถทำให้กิจวัตรประจำวันกลับมาสงบสุขอีกครั้ง

ตราบใดที่ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้ร้ายแรงจนเกินไปเขาก็ไม่อยากจะออกไปจากที่นี่

เขาสามารถทำกิจวัตรประจำวันในการเอาชนะปีศาจจากถ้ำปีศาจและรับเอาสมบัติตอบแทนฟังดูมันก็ค่อนข้างไม่เลวเลยว่ามั้ย?

หากราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาต้องการความช่วยเหลือจาก หลินจิ่วเฟิง ในทุกปัญหาที่เขาพบ พวกเขาก็จะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์อย่างแท้จริง

ในที่สุดองค์หญิงหยูหลินก็จากไป

หลินจิ่วเฟิงพูดถูก

หลังจากนางหายตัวไปนานกว่าสามเดือนทั่วทั้งราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาทั้งหมดก็กำลังมองหานาง

ถ้านางยังไม่ออกไปอีก คนทั้งโลกจะต้องตื่นตระหนกอย่างแน่นอน

องค์หญิงพระองค์เดียวของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาได้หายตัวไป…

หากสิ่งนี้หลุดออกไปย่อมสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ขึ้น

แน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นเพราะอิทธิพลของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวานั้นไร้สิ้นสุด

หลังจากการมาถึงของยุคใหม่ กองกำลังนับไม่ถ้วนได้สับเปลี่ยนอำนาจ แต่กองกำลังอันดับหนึ่งของโลกก็ยังเป็นราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา-พวกเขายังคงรักษาอาณาเขตอันกว้างใหญ่ของตนเองเอาไว้ได้โดยไม่มีสัญญาณของการล่มสลาย

สิ่งนี้ทำให้หลายคนเคาะลิ้นของพวกเขาด้วยความประหลาดใจ

ดังนั้นหากข่าวการหายตัวไปขององค์หญิงแห่งราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาแพร่ออกไป มันย่อมทำให้ทั้งโลกเกิดความโกลาหลอย่างแน่นอน

ทั่วทั้งราชสำนักตอนนี้ก็กำลังตกอยู่ในความสับสน

พวกเขาได้มองหาทุกหนแห่งแล้ว แต่ไม่มีใครนึกถึงสถานที่อย่างตำหนักเย็น

แม้ว่าพวกเขาจะผ่านตำหนักเย็นไปแต่ก็ไม่มีใครสนใจ

พวกเขาได้ละเลยมันโดยสมบูรณ์

ตำหนันเย็น และ หลินจิ่วเฟิง ล้วนไม่มีตัวตนในราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา

แต่เขาก็ยังมีความสุขกับเรื่องนี้

หลังจากองค์หญิงหยูหลินจากไป เขาและเจ้าแมวขาวก็กลับเข้าไปในลานที่พัก

เมื่อเห็นลานที่พักที่สะอาด เจ้าแมวขาวก็อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ“ไม่คิดเลยว่าองค์หญิงผู้ที่คาบช้อนทองมาเกิดจะรู้จักวิธีทำความสะอาดด้วย ข้าคิดว่าในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาลานที่พักของเราจะสกปรกเสียอีก”

หลินจิ่วเฟิง มองไปที่ลานที่พักที่สะอาดและพึมพัมออกมาด้วยความพึงพอใจ“นางเป็นเด็กที่ดี”

หลินจิ่วเฟิง ถือว่า องค์หญิงหยูหลิน เป็นรุ่นเยาว์สำหรับเขา

เมื่อคำนวณเวลาแล้ว เขาอายุประมาณ 60 ปีแล้ว

หากเป็นชาติที่แล้ว เขาย่อมเป็นชายสูงอายุอย่างแน่นอน

อันที่จริงเขาทำตัวเหมือนกับชายชราคนหนึ่งเพราะชื่นชอบเด็กที่มีจิตใจที่ดี

“การมาของนางเป็นแค่เรื่องบังเอิญ คาดว่านางคงจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว พวกเรากลับมาใช้ชีวิตอันสงบสุขของเราพวกเราต่อเถอะ”หลินจิ่วเฟิง ได้ตอบกลับ

“ไร้สาระ”เจ้าแมวขาวได้พึมพัมออกมา

หลินจิ่วเฟิง แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน

เขาได้นอนบนเตียงหยกน้ำแข็งและหลับตาลงเพื่อฝึกฝน

องค์หญิงหยูหลินได้กลับมาที่พระราชวังต้องห้ามและพบกับเสด็จพี่จักรพรรดิของเขา

“เจ้าไปที่ไหนมา?”

เมื่อจักรพรรดิเต๋อเห็นน้องสาวของเขา เขาก็พยายามถามนางอย่างระวัง เพราะกลัวว่านางจะถูกเอารัดเอาเปรียบ

“เสด็จพี่จักรพรรดิ แล้วท่านเล่าหายไปไหนตั้งสามเดือน?”

องค์หญิงหยูหลินได้กล่าวถามด้วยรอยยิ้ม

“ข้าได้ปลีกวิเวกออกไปเพื่อทะลวงผ่านขั้นปราชญ์การต่อสู้ แล้วเหตุใดถึงเป็นเจ้าที่เป็นฝ่ายถามข้าแทน?”จักรพรรดิเต๋อตอบกลับด้วยท่าทีขุ่นเคือง

“เจ้ารู้ไหมว่าเสด็จพี่ทรงกังวลมากแค่ไหน นางได้หลั่งน้ำตาออกมามากมายเพียงใดเพราะเป็นห่วงเจ้า”

จักรพรรดิเต๋อต้องการตีน้องสาวของเขาแต่เขาก็ตัดใจทำไม่ได้

องค์หญิงหยูหลินได้เกาศีรษะด้วยความเขินอาย“ข้าจะไปเยี่ยมเสด็จแม่ ข้ามีบางสิ่งที่ต้องทำ”

“เจ้าคิดจะทำอะไร?”จักรพรรดิเต๋อได้ถามอย่างโกรธเคือง

“เช่นเดียวกับท่าน”องค์หญิงหยูหลิน ได้ตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ นางตื่นเต้นมากและต้องการจะโอ้อวดบางอย่าง ดังนั้นในตอนนี้นางจึงพยายามระงับอารมณ์ตื่นเต้นเอาไว้

นางดูน่ารักมากยามเป็นแบบนี้

ความโกรธของจักรพรรดิเต๋อได้ลดลงภายใต้ท่าทีไร้เดียงสาของน้องสาวของเขา เขาได้เยาะเย้ยออกมา“เหมือนข้า?”

“ข้าทะลวงผ่านขั้นปราชญ์การต่อสู้แล้ว แต่เจ้า ไม่ใช่ว่าเจ้าแอบหนีออกไปเที่ยวเล่นหรือไม่?”จักรพรรดิเต๋อมองไปที่น้องสาวของเขา

“ท่านดูถูกข้าเหรอ?”องค์หญิงหยูหลินได้เลิกคิ้ว“ก็ได้เช่นนั้นมาสู้กัน ข้าจะแสดงให้ท่านได้เห็นว่าน้องสาวคนนี้ที่หายตัวไปสามเดือนไม่ใช่น้องสาวที่ท่านรู้จักเมื่อสามเดือนอีกต่อไป”

“เจ้ากินยาอะไรผิดมาหรือไม่?”

จักรพรรดิเต๋อมองไปที่ องค์หญิงหยูหลิน ด้วยท่าทีประหลาดใจ

“ข้าคือปราชญ์การต่อสู้ที่อายุน้อยที่สุดของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา และยังเป็นจักรพรรดิอีกด้วย”

จักรพรรดิเต๋อมองไปที่ร่างกายอันบอบบางของน้องสาวเขาและสั่นศีรษะอย่างเลี่ยงไม่ได้

“ก็ได้ ในเมื่อท่านกล้าที่จะดูถูกข้า เช่นนั้นมาลองรับการโจมตีของข้าครั้งหนึ่งเป็นอย่างไร”

องค์หญิงหยูหลินรู้สึกโกรธจัด

นางได้สร้างปราณกระบี่ขึ้นมาและเลียนแบบท่าทางของหลินจิ่วเฟิง

นางได้ฟันกระบี่ออกไปโดยตรง

จักรพรรดิเต๋อไม่ได้จริงจังกับองค์หญิงหยูหลินเลย

เขาคิดว่านางกำลังหลอกลวงเขา

แต่ในเวลาต่อมา ที่ทักษะกระบี่ผ่าสวรรค์ขั้นสูงสุด ปรากฏขึ้น มันก็มาพร้อมกับเสียงดังกังวานไปทั่ว มันชัดเจนมากจนกระทั่งสีหน้าของเขาได้เปลี่ยนไป

“ไม่ดีแล้ว…”ในเวลานี้ จักรพรรดิเต๋อรู้สึกว่าตัวเขาทำผิดพลาด

มันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่

เขามองไปที่น้องสาวที่แตกต่างจากเดิม

“คัมภีร์จักรพรรดิ!”จักรพรรดิเต๋อได้ยกขึ้นเพื่อโต้กลับ

พลังปราณแท้จริงของเขาได้กระจายตัวออกมา

เพียงแต่วินาทีต่อมาทักษะกระบี่ผ่าสวรรค์ก็ฟันผ่าพลังปราณแท้จริงของเขาจนแตกสลาย

ปราณกระบี่ที่จับต้องได้ถูกวางอยู่บนลำคอของจักรพรรดิเต๋อ

กลิ่นอายอันเยือกเย็นของปราณกระบี่ทำให้แผ่นหลังของเขารู้สึกเปียกโชก

เขาไม่มีความสามารถในการต้านทานการโจมตีนี้เลย

ภายใต้คมกระบี่นี้ เขาทำได้เพียงรอรับความตายเท่านั้น

จักรพรรดิเต๋อรู้สึกหวาดกลัว เขามองไปที่น้องสาวของเขาด้วยความตกใจ

ในเวลานี้ องค์หญิงหยูหลิน กำลังยิ้มอย่างมีความสุข

“เสด็จพี่จักรพรรดิ ท่านพูดผิดแล้วที่บอกว่าตนเองคือปราชญ์การต่อสู้ที่อายุน้อยที่สุดในราชวงศ์”

“ตอนนี้ข้าอายุน้อยที่สุด”องค์หญิงหยูหลินได้ประกาศกร้าวอย่างมีความสุข

นางอายุเพียงแค่ 16 ปี ซึ่งอ่อนกว่า จักรพรรดิเต๋อถึง 2 ปี

จักพรรดิเต๋อกล่าวถามด้วยความประหลาดใจ“เมื่อสามเดือนก่อนเจ้ายังอยู่แค่อาณาจักรพลังขั้นก่อกำเนิด…”

องค์หญิงหยูหลินได้สลายปราณกระบี่ของนางไป

นางได้เอามือไขว่หลังและพูดด้วยท่าทีภูมิใจ“อย่างที่ข้าพูด ข้าค่อนข้างยุ่งมากเกี่ยวกับสามเดือนที่ผ่านมานี้ เป็นไง ท่านยังคิดจะดูถูกข้าอยู่หรือไม่?”

จักรพรรดิเต๋อมองดูน้องสาวของเขาที่กำลังยกหางชี้ฟ้า

เขาได้ยิ้มอย่างขมขื่นและตอบกลับ“เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจมากทีเดียว”

“ข้ายังมีเซอร์ไพรส์ที่ใหญ่กว่านี้อีก”องค์หญิงหยูหลินได้ตอบกลับ

“มันคืออะไร?”จักรพรรดิเต๋อ ได้มองไปที่น้องสาวของเขาด้วยความประหลาดใจ

“เสด็จพี่ ไว้ข้าจะพาท่านไปยังสถานที่แห่งนึง”องค์หญิงหยูหลินได้ตอบกลับ

“ที่ไหน?”จักรพรรดิเต๋อกล่าวถามด้วยความสงสัย

“ข้าค้นพบสมบัติที่เสด็จปู่จักรพรรดิทรงทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง”องค์หญิงหยูหลินได้เอนตัวลงและกระซิบข้างหูของจักรพรรดิเต๋อ

ดวงตาของจักรพรรดิเต๋อเบิกกว้าง เขามองไปที่ องค์หญิงหยูหลิน และกล่าวกระซิบกับนาง“เจ้ามั่นใจหรือไม่?”

“แน่นอน! ไม่งั้นข้าจะทะลวงผ่านขั้นพลังเร็วนี้ได้ยังไง”องค์หญิงหยูหลินได้ตอบกลับ

“ถ้าท่านได้ไปที่นั่นท่านจะต้องตกใจมากอย่างแน่นอน โลกนี้ไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่ท่านคิด”องค์หญิงหยูหลินได้ยิ้มออกมาอย่างลึกลับ

“เอาล่ะ ตอนนี้ไปหาเสด็จแม่ก่อน แล้วเจ้าค่อยพาข้าไปที่นั่นตอนกลางคืน”จักรพรรดิเต๋อได้กล่าวอย่างเคร่งขรึม

“เข้าใจแล้ว ข้าจะไปหาเสด็จแม่ก่อนแล้วจะไปพบท่าน”องค์หญิงหยูหลินได้จากไปในทันที

นางได้ทิ้งจักรพรรดิเต๋อไว้ข้างหลังขณะที่เขากำลังสับสน

สมบัติที่เสด็จปู่จักรพรรดิทรงทิ้งไว้?

มันคืออะไรกัน?

ขณะเดียวกัน หลินจิ่วเฟิง ที่กำลังฝึกฝนอยู่กับเจ้าแมวขาว เขาไม่ได้มีความคิดเห็นเกี่ยวกับฉากนี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด