ตอนที่แล้วตอนที่ 1 ย้อนเวลากลับมาและติดอยู่ในร่างคนถ่อย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3 ภรรยาหนุ่มกลับมาแล้ว

ตอนที่ 2 ทานข้าวกับลูกชายคนเล็ก


ขณะที่เซียวจิ่งถิงเทโจ๊กที่ปรุงแล้วสำหรับตัวเอง เขาก็สังเกตเห็นว่าดวงตาของเด็กน้อยจับจ้องมาอยู่ที่ชามแทนแล้ว

เซียวจิ่งถิงหันไปเทโจ๊กอีกชาม ก่อนจะโบกให้เซียวเสี่ยวฟ่านเพื่อเรียกให้เขาเข้ามาข้างใน

รักกัน ชอบกัน แวะไปที่ mynovel.co และ www.thai-novel.com ได้นะขอรับ

อย่างไรก็ตาม คำเชื้อเชิญนั่นกลับทำให้เด็กน้อยถอยกลับด้วยความกลัว

เซียวจิ่งถิงสั่นศีรษะหลังจากเห็นท่าทางของเด็กน้อย แม้ว่าความคิดอ่านของเซียวเสี่ยวฟ่านจะได้รับผลกระทบจากพิษไข้ แต่เขาก็ยังมีสัญชาตญาณป้องกันตัวเอง เพราะเคยถูกเซียวคนก่อนทุบตีอยู่หลายครั้ง นั่นจึงทำให้เซียวจิ่งถิงรู้สึกผิดหวังที่ต้องกลับมาใช้ชีวิตในร่างของคนที่เคยข่มเหงลูกชายของตัวเอง

เขาวางชามลงบนโต๊ะและเริ่มทานอาหาร ประตูถูกเปิดออกอีกครั้งพร้อมกับที่เซียวเสี่ยวฟ่านวิ่งเข้ามาข้างใน เห็นได้ชัดว่าเด็กชายยอมแพ้ให้กับความหิวของตัวเองแล้ว

เมื่อเห็นหน้าตาที่คาดหวังนั่น เซียวจิ่งถิงจึงอุ้มเขาขึ้นและวางไว้กับเก้าอี้ข้างโต๊ะ

เสื้อผ้าที่เก่าและมีรอยปะเย็บไปทั่วของเด็กชายทำให้หัวใจของเซียวจิ่งถิงรู้สึกสงสารและเสียใจเล็กน้อย เสี่ยวฟานเป็นเพียงเด็กชายตัวเล็กๆ ซึ่งยังเด็กเกินกว่าที่จะสนใจอย่างอื่นนอกจากเรื่องปากท้อง

หลังจากถูกขับไล่มาที่นี่ เซียวคนก่อนมักจะกลับมาพร้อมกับอาหาร และเซียวเสี่ยวฟ่านก็จะวิ่งไปขอ หากวันนั้นผู้เป็นพ่ออารมณ์ดี เขาก็จะแบ่งอาหารให้กับลูก แต่ถ้าหากอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา เขาก็จะทุบตีแทนซึ่งส่วนมากมักจะเป็นอย่างหลังเสียมากกว่า

เซียวเสี่ยวฟ่านกลืนอาหารในชามตัวเอง ในขณะเดียวกันก็จับชามไว้แน่นด้วยมืออีกข้าง ราวกับกลัวว่าจะมีคนแย่งมันไป

เซียวจิ่งถิงผลักชามไข่นึ่งไปให้เด็กชายร่างผอมกะหร่อง

เซียวเสี่ยวฟ่านเหลือบมองเขาด้วยความสงสัย หลังจากแน่ใจแล้วว่าจะไม่โดนตี เด็กชายก็ค่อยๆ ดึงชามไข่นึ่งนั้นเข้ามา พอเห็นว่าเซียวจิ่งถิงยังนิ่งอยู่ เขาก็เลยกินมันจนหมดชาม

ประตูขยับขึ้นเป็นรอบที่สอง เซียวจิ่งถิงจึงรู้ว่ามีคนอื่นกำลังคอยเฝ้ามองเขาอยู่ด้านหลัง

เซียวจิ่งถิงก้มหน้าลงอีกครั้ง เด็กชายที่อยู่ข้างหลังประตูน่าจะเป็นเซียวเสี่ยวตง บุตรคนโตที่อายุยังน้อยแต่ฉลาดเฉลียวเกินวัย เซียวจิ่งถิงที่ยังก้มหน้าพยายามทำตัวให้เป็นปกติมากที่สุด ความทรงจำของเซียวคนก่อนบอกกับเขาว่านี่เป็นโลกที่พิเศษมาก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะพยายามไม่ทำให้ตัวเองถูกมองว่าผิดแปลกหรือเป็นสัตว์ประหลาด เพราะจะเสี่ยงต่อการถูกเผาทั้งเป็น

หลังจากทานเสร็จแล้ว เซียวเสี่ยวฟ่านดูเหมือนจะจำอะไรบางอย่างได้ เด็กน้อยก็เลยรีบวิ่งออกจากห้องไป ในเวลาต่อมาเซียวจิ่งถิงก็ได้ยินเสียงล็อคประตูจากห้องตรงข้ามดังขึ้น

“ทำไมเจ้าถึงเข้าไปหาเขาอีกล่ะ” เซียวเสี่ยวตงดุน้องคนเล็กของตน

เซียวเสี่ยวฟ่านเงยหน้าเล็กน้อยและตอบพร้อมรอยยิ้มไร้เดียงสา “ก็เขาได้ของอร่อยมา”

เซียวเสี่ยวตงโพล่งขึ้น “อาหาร อาหารอีกแล้ว! เจ้าไม่รู้รึว่าป่ะป๊าทิ้งขนมปังไว้ให้เราก่อนที่จะออกไปข้างนอก?”

“แต่ข้าไม่ชอบขนมปัง” เซียวเสี่ยวฟ่านตอบกลับด้วยท่าทางไม่พอใจ เขายกมือกุมคางตัวเอง

เซียวเสี่ยวตงกัดริมฝีปาก เขาเองก็เห็นด้วยกับน้องชายเช่นกัน แม้จะมีขนมปังเพียงพอเพื่อให้ท้องอิ่ม แต่มันก็ไม่น่ากินแม้แต่น้อยเพราะมีรสชาติไม่ต่างไปจากทราย

“แค่มีกินก็โชคดีแล้ว” เซียวเสี่ยวตงบ่นพึมพำ

เมื่อรู้ว่าพี่ชายของเขาโกรธ เซียวเสี่ยวฟ่านก็ก้มหน้า ดึงเสื้อผ้าด้วยความกระวนกระวาย

“อย่าเปิดประตูนี้หากข้าไม่อนุญาต จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเข้ามาแย่งชิงของจากเราอีก” เซียวเสี่ยวตงกล่าวเตือนน้องชาย

“ข้าจะจำไว้” เซียวเสี่ยวฟ่านพยักหน้า

ตั้งแต่ที่เด็กน้อยทั้งสองปิดประตู เซียวจิ่งถิงก็ฟังพวกเขาคุยกันอยู่ตลอดเวลา หลังจากเข้ามาอยู่ในร่างของเซียวคนก่อน เขาก็รับรู้ได้ทันทีว่าประสาทการได้ยินของตนเฉียบคมขึ้นมากเพราะสามารถได้ยินสิ่งที่ทั้งสองพูดทุกคำแบบไม่ตกหล่น

หลังจากถูกขับไล่มาที่นี่ เซียวคนก่อนเคยหวังว่าตระกูลจะยอมให้กลับไป ดังนั้นเขาจึงใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายเหมือนเดิม และหลังจากที่ใช้มันจนหมด เขาก็นึกถึงฉีมู่อานและเริ่มขโมยทรัพย์สินจากห้องของอีกฝ่าย สุดท้ายก็ปล้นเงินทั้งหมดที่ภรรยาหนุ่มเก็บหอมรอมริบมาอย่างยากลำบาก

เซียวจิ่งถิงลูบหน้าผาก แม้จะไม่ได้ทำสิ่งเหล่านั้นด้วยตัวเอง แต่เขาก็รู้สึกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว เพราะยังไงซะ ตอนนี้เขาก็กลายมาเป็นเจ้าของร่างและแน่นอน เป็นเจ้าของความทรงจำของชายคนก่อนด้วย

“พี่ใหญ่ ไข่นึ่งที่เขาทำอร่อยมากเลยนะ” เซียวเสี่ยวฟ่านตบปากของตัวเองหลังพูดจบ

“คนใช้เงินเก่งอย่างเขาคงอยู่แบบนี้ได้ไม่นานหรอก อีกเดี๋ยวเราทุกคนจะลำบาก” เซียวเสี่ยวตงกล่าว

“แล้วเราก็จะไม่มีอะไรกินใช่ไหม?” เซียวเสี่ยวฟ่านถามขณะพยายามทำความเข้าใจสิ่งที่พี่ชายพูด

บุตรคนโตพยักหน้า “ใช่ เราจะไม่มีอาหาร ไม่มีบ้านให้อยู่ อาจไปอยู่บนถนนแทน”

คำตอบของพี่ชายทำให้เซียวเสี่ยวฟ่านตกใจจนน้ำตาไหล “ข้าไม่ชอบแบบนั้น!”

เสียงร้องของเด็กชายตัวน้อยทำให้หัวใจของเซียวจิ่งถิงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความเศร้าใจมาก

หลังจากกลับมาที่ห้องของตัวเอง เซียวจิ่งถิงก็เริ่มตรวจสอบทรัพย์สินที่เหลืออยู่ เมื่อย้ายมาที่นี่ในตอนแรก เขามีที่ดินทำกินอยู่ยี่สิบหมู่ (1 หมู่ = 166.5 ตารางวา หรือ 666 ตารางเมตร) ในสมุดบัญชี รวมถึงที่ดินระดับสูงห้าหมู่ ที่ดินระดับกลางหกหมู่ และที่ดินระดับต่ำกว่าเก้าหมู่ ตอนนี้ทั้งหมดที่เหลืออยู่คือที่ดินระดับต่ำเพียงห้าหมู่เท่านั้น

เซียวจิ่งถิงถึงกับต้องเกาศีรษะและสบถด่าชายหนุ่มขี้แพ้ที่ชอบเผาผลาญทรัพย์สินเกือบทั้งหมดของตัวเอง ขณะเดียวกันเขาก็คร่ำครวญถึงความจริงที่ว่าชะตากรรมนั้นย้อนเขากลับมาในช่วงชีวิตที่ตกต่ำและเลวร้ายที่สุดเลย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด