ตอนที่แล้ว80Y-ตอนที่ 69 ยกกระบี่ขึ้นเพื่อฆ่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป80Y-ตอนที่ 71 สรรเสริญ

80Y-ตอนที่ 70 กระบี่จงมา


ครื่นน!

กลิ่นอายพลังปีศาจได้ก่อตัวขึ้นและปกคลุมไปทั่วเมืองหลวงราชวงศ์

ในขณะเดียวกัน เมืองหลวงราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ก็ราวกับถูกตัดขาดบนเกาะร้างแห่งนี้ ผู้คนนับล้านและขุนนางระดับสูงของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาล้วนถูกขังอยู่ภายใน

ปีศาจจำนวนมากได้หัวเราะพร้อมกับพุ่งไปข้างหน้า

ปีศาจจากทุกสารทิศค่อย ๆ มารวมตัวกันและพยายามจะบุกเข้าไปในเมืองหลวง

การรวมตัวของพวกมันสร้างความหวาดกลัวไปทั่ว

เทพมนุษย์ทรงพลังมากงั้นหรือไม่?

อาณาจักรพลังเทพมนุษย์เป็นเพียงภูเขาใหญ่ในเส้นทางการบ่มเพาะพลัง นี่คือความเชื่อของผู้คนบนโลกใหม่นี้ พวกเขาหวังว่าตนเองจะไปถึงยอดเขาลูกนี้ได้

แต่ในสายตาของปีศาจเหล่านี้ เทพมนุษย์ ก็เป็นเพียงแค่กลุ่มก้อนเลือดเนื้อเพียงเท่านั้น

ปีศาจพวกนี้มีรูปร่างขนาดใหญ่ มุมปากของมันเปื้อนไปด้วยโลหิตจำนวนมาก กระทั่งมนุษย์บางคนยังกลายร่างเป็นปีศาจ

ผิวของเขาซีดเผือกราวกับคนตาย

สายตาของพวกมันทำให้ทุกคนรู้สึกหนาวสั่นไปถึงกระดูก

และความน่าสะพรึงกลัวนี้ก็เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

“นี่คือโลกใหม่งั้นหรือไม่?”

“ประเทศของมนุษย์...ข้าได้ปิดผนึกตัวเองเป็นระยะเวลาหลายพันปี ข้ารอคอยอย่างขมขื่นมานานนับพันปี ในที่สุด ข้าก็ได้เห็นประเทศของมนุษย์…”

“ข้าคือราชาปีศาจแห่งการทำลายล้าง!”

“ในยุคนี้ข้าจะต้องไปถึงอาณาจักรเต๋า!”

“นี่เป็นยุคใหม่และเป็นยุคที่ดีที่สุดอีกด้วย…”

“ผู้บ่มเพาะพลังในยุคนี้ล้วนอ่อนแอจนน่าสมเพช ได้เวลาที่พวกเราจะจัดงานเลี้ยงฉลองแล้ว”

ปีศาจนับไม่ถ้วนได้ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น

ปีศาจเหล่านี้อย่างน้อยก็อยู่ในขั้นเทพมนุษย์ อีกทั้งยังเป็นช่วงที่ 3 หรือ ช่วงที่ 4

ไม่แปลกใจที่กำลังรบปราชญ์การต่อสู้ของ หลินเทียนหยวน และ ผู้บัญชาการเทพมนุษย์ 2 คนจะถูกกำจัดออกไป

“นี่คือเมืองหลวงของราชวงศ์ ข้าจะย้อมที่นี่ไปด้วยเลือด ข้าไม่ได้กินร่างกายและดื่มเลือดพวกมนุษย์มาหลายปีแล้ว”

“ข้าอยากกินเนื้อ!!!”

“ข้าอยากได้ผู้หญิง!”

ปีศาจเหล่านี้ได้มองไปที่เมืองหลวงราชวงศ์

สายตาของพวกมันได้แปรเปลี่ยนเป็นความกระหายอันบ้าคลั่ง

“พวกเราต้องปล่อยเทพปีศาจในถ้ำปีศาจออกมาพวกเขาคือผู้ปกครองที่แท้จริงของโลกนี้”

“การปล่อยเทพปีศาจเหล่านั้นจะช่วยให้เราปกครองโลกนี้ได้แล้วพวกเราก็จะสร้างอาณาจักรปีศาจขึ้น”

นอกจากนี้ยังมีปีศาจที่ภักดีและซ่อนตัวอยู่เบื้องหลัง

พวกมันต้องการลอบเข้าไปในเมืองหลวงและค้นหาถ้ำปีศาจและปลดผนึกเพื่อปล่อยปีศาจและเทพปีศาจข้างในออกมา

ดังนั้นพวกมันจึงวิ่งผล่านไปทั่วเมืองหลวง

พลังปีศาจได้โอบล้อมเมืองหลวงจนทำให้บรรยากาศได้มืดมน

คนธรรมดาทั่วไปล้วนสั่นสะท้านพวกเขาเลือกที่จะซ่อนตัวอยู่ในบ้านและไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหน

ถนนหนทางล้วนว่างเปล่า

แม้แต่ขุนนางของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาก็เฝ้ามองดูด้วยความสิ้นหวัง

หัวหน้าคณะรัฐมนตรีไม่ได้ส่งกองกำลังของพระราชวังออกไป เพราะในท้ายที่สุดการส่งพวกเขาออกไปก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากการส่งไปตาย

พวกเขาเชื่อมั่นในตัว หลินเทียนหยวน และ การดำรงอยู่ของตัวตนอันน่าสะพรึงกลัวที่อยู่เบื้องหลังของเขา

ทุกคนล้วนสวดอ้อนวอนและขอให้ใครสักคนก้าวออกไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือเมืองหลวงของราชวงศ์ให้รอดพ้นจากวิกฤติในครั้งนี้

ตุบ ตุบ!

เสียงฝีเท้าได้ดังก้องกังวานไปตามท้องถนน

ถนนวิหคเพลิงที่แออัดกลับว่างเปล่าในวันนี้

การปรากฏตัวของบุคคลผู้นี้ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนนับไม่ถ้วนในเมืองหลวงราชวงศ์

ความหวังค่อย ๆ ผุดขึ้นในใจของพวกเขา

หลินจิ่วเฟิง ได้เดินไปบนถนนอย่างผ่อนคลาย

กลิ่นอายปีศาจกำลังพลุ่งพล่านและพยายามจะพุ่งเข้ามาหาเขา แต่ทว่าอีกฝ่ายก็ยังเดินอย่างเด็ดเดี่ยวไปที่หน้าประตูหลัก

ประตูหลักของเมืองหลวงไม่มีใครคุม

เผชิญหน้ากับพลังอันยิ่งใหญ่ ไม่มีมนุษย์คนใดที่คิดหวังจะป้องกันสถานที่แห่งนี้เอาไว้ มันคงจะเป็นปาฏิหาริย์จริง ๆ หากมีใครออกมาที่นี่และพยายามควบคุมประตูเอาไว้

หลินจิ่วเฟิง ได้มาถึงประตูหลัก

เขาได้ดึงเก้าอี้แล้วนั่งลงอย่างเงียบ ๆ

เขากำลังรอให้ปีศาจมาหา เพราะอีกสามประตูได้ปิดแน่นหนา

“มนุษย์ ข้าจะกินเนื้อและดื่มเลือดของเจ้า!”

มีปีศาจบางตัวต้องการที่จะกิน หลินจิ่วเฟิง

ฟุ่บ!

หลินจิ่วเฟิง ได้สบัดนิ้วออกไป

ปราณกระบี่ได้ปรากฏออกมาและสังหารปีศาจตัวนี้ในทันที

ชั่วเวลาต่อมา ปีศาจทุกตัวก็จับจ้องมองไปที่ หลินจิ่วเฟิง

การที่สามารถฆ่าปีศาจได้อย่างง่ายดาย แสดงว่ามนุษย์ผู้นี้ไม่ธรรมดา

“มนุษย์ แทนที่จะหลบหนี เจ้ากลับมาขวางทางพวกเราอยู่ที่นี่ เป็นเพียงแค่ตั๊กแตนตัวน้อยคิดจะหยุดรถม้างั้นหรือไม่?”ปีศาจบางตัวได้เย้ยหยันออกมา

หลินจิ่วเฟิง ได้ตอบกลับอย่างสงบ“เดี๋ยวก็รู้ว่าข้าเป็นตั้กแตกตัวน้อยที่พยายามจะหยุดรถม้าจริงหรือไม่”

“เจ้าคิดว่าตัวเจ้าเพียงคนเดียวจะหยุดพวกเราทั้งหมดได้?”

“มนุษย์ความแข็งแกร่งของเจ้าไม่เลว…”

“ทำไมเจ้าไม่มาเข้าร่วมลัทธิปีศาจของข้าและรับใช้ข้าเล่า?”

ปีศาจตัวนึงได้หัวเราะออกมา

หลินิจ่วเฟิง มองไปที่อีกฝ่ายอย่างไร้ความรู้สึกก่อนที่จะสบัดนิ้วออกไป

ฟุ่บ!

ปราณแท้จริงโบราณได้ถูกปลดปล่อยออกมากลายเป็นลำแสงแห่งการสังหาร

บูม!

เขาได้สังหารปีศาจที่พูดด้วยท่าทีเย่อหยิ่งในทันที

คราวนี้ปีศาจทุกตัวมองไปที่ หลินจิ่วเฟิง ด้วยความตกใจ

มันง่ายขนาดนี้เลยหรือไม่?

“พวกเจ้าทั้งหมดมาจากยุคที่แล้ว ดังนั้นตัวตนของพวกเจ้าควรจะถูกกลบฝังไปตั้งแต่ยุคที่แล้ว พวกเจ้าไม่ควรจะปรากฏตัวขึ้นบนยุคสมัยของผู้อื่น”

หลินจิ่วเฟิง มองไปที่ปีศาจเหล่านี้

เขาอดไม่ได้ที่จะสั่นศีรษะอย่างไม่พอใจ

“มนุษย์! รนหาที่ตาย!”ปีศาจอีกตัวได้ส่งเสียงคำรามออกมาแล้วโจมตี

มันขี้เกียจเกินไปที่จะพูดเรื่องไร้สาระ

“เจ้าเคยเห็นดวงอาทิตย์ยามเช้าของเมืองหลวงราชวงศ์หรือไม่?”

เผชิญหน้ากับปีศาจที่โจมตีเข้ามา หลินจิ่วเฟิง ไม่ลังเลที่จะชักกระบี่สังหารปีศาจ

ทักษะกระบี่ผ่าสวรรค์ขั้นสูงสุด!

นี่เป็นทักษะกระบี่แรกที่ หลินจิ่วเฟิง ฝึกฝน

ในแง่ของความเข้าใจในทักษะนั้นเขาได้บรรลุถึงจุดสูงสุดแล้ว

หลินจิ่วเฟิง ได้ชักกระบี่ขึ้นมาและฟันออกไป

ภาพมายาอันน่าสะพรึงกลัวได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเขา

มันห้อมล้อมไปรอบด้วยจักรวาลและดวงดาว

ปีศาจที่เผชิญหน้ากับการโจมตีนี้ขมวดคิ้วแน่น

บูม!

พลังกระบี่อันรุ่งโรจน์ได้ตัดผ่านความมืดมิด

แสงระยิบระยับทำให้พวกมันได้สัมผัสกับแสงอาทิตย์ยามเช้า

ปราณกระบี่ได้เคลื่อนตัวออกไป

ก่อนที่จะผ่าร่างของปีศาจตัวนี้

และปีศาจทุกตัวที่อยู่ในพื้นที่ก็รู้สึกพูดไม่ออกร่างกายของพวกมันได้ถูกแช่แข็ง

ลมกรรโชกได้ปรากฏขึ้นอย่างรุนแรง

เสื้อผ้าและผิวหนังของปีศาจเหล่านี้ได้สลายหายไปตามลม

ชั่วเวลาต่อมามันก็กลายเป็นฝุ่นละอองกระจัดกระจายไปในอากาศ

ปีศาจตัวอื่น ๆ ที่สัมผัสได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่เบื้องหลังการโจมตีของ หลินจิ่วเฟิง แววตาของพวกมันได้เปลี่ยนไป

พวกมันล้วนหวาดกลัว!

นี่มันน่ากลัวเกินไป!

พวกมันมองไปที่ หลินจิ่วเฟิง

พวกมันไม่เข้าใจว่าการดำรงอยู่ของตัวตนอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ปรากฏขึ้นได้อย่างไรในตอนต้นของยุคสมัยใหม่

หลินจิ่วเฟิง มองไปที่พวกมัน

เขาได้ชักกระบี่ออกมาแล้วพูดอย่างใจเย็น“มันจะดีกว่าหากพวกเจ้าเข้ามาโจมตีทั้งหมดพร้อมกัน ขืนพวกเจ้าเข้ามาทีละคนก็มีแต่จะตายกับตาย”

หลินจิ่วเฟิง ได้มองไปที่พวกปีศาจพวกนี้อย่างใจเย็น

เขาพูดแบบนี้เพราะการฆ่าพวกมันทีละตัวเป็นเรื่องยากลำบากเกินไปสำหรับเขา

หากพวกมันทั้งหมดโจมตีพร้อมกันเขาจะสามารถสังหารพวกมันได้ในทันที

เพราะที่เมืองหลวงราชวงศ์แห่งนี้มีปีศาจนับหมื่นมาที่นี่

ในเวลานี้พวกมันได้มองหน้ากัน สถานการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกเกินความจริงจนเกินไป

พวกมันทั้งหมดล้วนเป็นปีศาจที่ทรงพลังจากยุคก่อน แต่แล้วพวกมันกลับถูกคุกคามโดยบุรุษหนุ่มจากยุคนี้?

ถูกต้อง…

สำหรับพวกมัน หลินจิ่วเฟิง ในวัย 50 ปี เป็นบุรุษหนุ่มรุ่นเยาว์จริง ๆ

“โจมตีเขาพร้อมกัน!”ทันใดนั้นก็มีปีศาจตัวนึงคำรามออกมา

มันรู้สึกโกรธจัดและโมโหเพราะคิดว่า หลินจิ่วเฟิง เย่อหยิ่งจนเกินไป

ในชั่วพริบตา ปีศาจเหล่านี้ก็ปลดปล่อยการโจมตีออกมาพร้อมกัน ทักษะทุกประเภทได้ซ้อนทับจนเกิดภาพสวยงามตระการตา และ น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง

เป้าหมายของพวกมันไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก หลินจิ่วเฟิง

แต่ทว่า หลินจิ่วเฟิง กลับไม่ได้เคลื่อนไหว

อันที่จริงเขาไม่ได้แกะฝักกระบี่ออกมาด้วยซ้ำ

เขาได้ยืนตัวตรงและยืนตั้งตระหง่านที่หน้าประตูหลัก

ดวงตาของเขาค่อนข้างนิ่งสงบและมองดูปีศาจนับพันโจมตีเข้ามา

ในขณะนี้ เหล่าผู้คนในเมืองหลวงต่างก็ตั้งความหวังไว้ที่ หลินจิ่วเฟิง

เจ้าแมวขาวก็เฝ้ามองอย่างเป็นกังวลบนกำแพงตำหนักเย็น

มันแยกเขี้ยวอย่างต่อเนื่อง และ กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของหลินจิ่วเฟิง

หลินเทียนหยวน มองดูด้วยใบหน้าซีด

เขารู้สึกเหนื่อยแต่ไม่กล้านอนหลับ

เขาต้องรอให้เรื่องนี้จบลงเสียก่อน

เปรี้ยง!

กลิ่นอายพลังปีศาจอันน่าสะพรึงกลัวได้ถาโถมลงมา

การรวมตัวของพวกมันแม้แต่เจ้าแมวขาว-สิ่งมีชีวิตในขั้นเทพมนุษย์ ก็ยังตัวสั่นไปด้วยความกลัว มันส่งเสียงร้องออกมาและพุ่งออกไป

ความเร็วของมันรวดเร็วมากจนเห็นเป็นเพียงแค่แสงสีขาวที่วูบผ่าน ท่ามกลางความมืดมิด

มันต้องการจะไปต่อสู้เคียงข้าง หลินจิ่วเฟิง

แต่ในขณะที่มันกำลังวิ่งออกไป เสียงที่คมชัดก็สั่นสะเทือนไปทั่วเมืองหลวงราชวงศ์…

“กระบี่จงมา!”

แกร๊ก!

แกร๊ก!

แกร๊ก!

ทันทีที่เสียงเหล่านี้หายไป กระบี่กระดูกในลานที่พักของตำหนักเย็นก็ส่องสว่างระยิบระยับพร้อมกัน พวกมันได้ลอยขึ้นไปบนฟ้าในทันที

บูม!

ทันทีที่กระบี่กระดูกกว่า 365 เล่มทะยานขึ้นไปบนอากาศเขาก็ใช้ทักษะกระบี่ที่น่าสะพรึงกลัวออกมา

ทักษะกระบี่กระดูกมรณะ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด