ตอนที่แล้ว80Y-ตอนที่ 66 วิธีแสดงความกตัญญู?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป80Y-ตอนที่ 68 ปัญหาที่คืบคลานเข้ามา

80Y-ตอนที่ 67 โอกาสในการพัฒนา


หน้าที่ของนางในฐานะสมาชิกของนิกายเต๋าสวรรค์คือเหตุผลที่นางให้คำแนะนำแก่ปราชญ์การต่อสู้หลายคนที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะทะลวงขั้นเทพมนุษย์

โดยรวมแล้วนางได้ให้คำแนะนำแก่ผู้บ่มเพาะพลัง 30 คน

สมาชิกของนิกายเต๋าสวรรค์มีตำแหน่งพิเศษในโลกมาตั้งแต่สมัยโบราณ พวกเขาสามารถควบคุมพลังส่วนหนึ่งของเต๋าสวรรค์ได้

จากนั้นพวกเขาก็ใช้พลังเต๋าสวรรค์ในการบ่มเพาะพลังตนเองหรือให้คำแนะนำแก่ผู้อื่น

นกกระเรียนกระดาษกว่า 30 ตัวได้บินออกไป

ในเวลาไม่ถึงครึ่งวันพวกมันก็บินกลับมาพร้อมกับ 30 คำตอบ

ท่านหญิงหง ได้เปิดดูทีละอัน

คำตอบแรกคือ…”

“หลังจากถูกเนรเทศไปยังตำหนักเย็นเขาจะต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมาตลอดหลายสิบปี หัวใจของเขาจะต้องทุกข์ระทมและไม่พอใจเป็นแน่ ดังนั้นวิธีการตอบแทนที่ดีที่สุดคือโค่นล้มจักรพรรดิของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาคนปัจจุบัน และ สนับสนุนให้เขาขึ้นเป็นจักรพรรดิ…”

“จากนั้นเขาก็จะสามารถแก้แค้นและเข่นฆ่าศัตรูเพื่อระงับความขุ่นเคืองในใจของเขาได้”

ท่านหญิงหง ขมวดคิ้วแน่นและพึมพัมออกมา“สมแล้วที่เป็นความคิดของผู้บ่มเพาะพลังปีศาจ”

‘ถ้าข้าโค่นลมราชบัลลังก์ของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาในปัจจุบัน ทั่วโลกคงโกลาหลกันน่าดู จากนั้นข้าก็จะไม่สามารถงับพวกคนจากยุคก่อนได้อีกต่อไป นี่คือสิ่งที่พวกเขาอยากให้มันเกิดขึ้นงั้นหรือไม่?’

ถ้านางทำเช่นนั้นจริง ๆ คงโง่เขลาน่าดู

คำตอบที่สองคือ…

“รักษาร่างกายของเขาและช่วยให้เขาขึ้นครองบัลลังก์ของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา…”

ท่านหญิงหงได้ครุ่นคิด

‘คำตอบนี้ไม่ต่างอะไรไปจากคำตอบแรก’

คำตอบที่สาม…

ที่สี่…

ท่านหญิงหงได้อ่านไปถึง 29 คำตอบติดต่อกัน

นางได้รับคำแนะนำมากมายแต่ก็ยังไม่มีคำตอบที่น่าพึงพอใจ

จนกระทั่งคำตอบที่ 30 มาถึง

มันถูกเขียนโดย นักบวชชิงหยุน แห่ง วัดต้าหลิน ในพื้นที่เจียงหนาน

‘หากคิดจะโค่นล้มราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาในปัจจุบันและช่วยให้องค์รัชทายาทที่ถูกปลดขึ้นครองบัลลังก์ ก็คงจะไม่สามารถทำได้ง่าย ในตำหนักเย็นไม่ใช่เขาคนเดียวที่อาศัยอยู่ ยังมีเทพมนุษย์แห่งราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาที่อยู่กับเขา…’

‘พลังของเขาไร้ขอบเขตและน่าสะพรึงกลัว หากเราไปทำให้เขาขุ่นเคืองใจ เกรงว่ามันจะจบลงด้วยการห่ำหั่นซึ่งกันและกัน ดังนั้น ข้าจึงแนะนำให้ใช้ชีวิตประนีประนอมโดยยึดหลักในการตอบแทนอีกฝ่าย’

ท่านหญิงหง ค่อนข้างสนใจความคิดนี้

แต่พวกเขาจะประนีประนอมได้อย่างไร?

‘ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา เป็นราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่งบนโลกนี้ เรียกได้ว่าพวกเขามีอิทธิพลที่แข็งแกร่งขึ้นมาก กระทั่งกำลังรบปราชญ์การต่อสู้จำนวนมาก และ ยังมีเทพมนุษย์คนอื่น ๆ อีก…

‘หากคิดจะโค่นล้มราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาก็คงเป็นไปไม่ได้’

‘เช่นนั้นทำไมเราไม่เลือกประเทศเล็ก ๆ และทำให้ทั่วทั้งโลกตกใจกับการปรากฏตัวขององค์รัชทายาทคนนั้น? ให้เขาขึ้นครองบัลลังก์ประเทศเล็ก ๆ และ ให้ ท่านหญิงหง เป็นผู้สนับสนุนเขา เขาจะสามารถเติมเต็มความฝันของเขาในการดูแลประเทศ…’

คำแนะนำของนักบวชชิงหยุนได้จุดประกายความหวังในดวงตาของ ท่านหญิงหง

นางรู้สึกแปลกใจ!

ความคิดนี้ยอดเยี่ยมอย่างมาก

อาณาเขตของราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวานั้นกว้างใหญ่เกินไป

เมื่อเกิดสงครามขึ้นทั่วทั้งโลกคงจะตกอยู่ในความโกลาหลอย่างแน่นอน

ทว่านางก็เป็นสาเหตุที่ทำให้องค์รัชทายาทถูกปลดออกจากตำแหน่ง

ถ้านางต้องการคืนตำแหน่งจักรพรรดิให้กับเขา นางจะต้องมองหาประเทศเล็ก ๆ นอกจากราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา

‘คำถามคือ-ประเทศไหนกันที่เหมาะสม?’ ท่านหญิงหง ได้พึมพัมออกมา

ตุ๊บ ตุ๊บ!

ในขณะเดียวกัน สาวใช้นางนึงก็รีบเดินเข้ามาในห้องและพูดอย่างกังวล“ท่านหญิง! ฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้ท่านหมั้นหมายกับองค์รัชทายาทของเขา…”

“การแต่งงานจะจัดขึ้นในอีกสามเดือน…”

“องค์รัชทายาทกำลังรออยู่ด้านนอก”

“เขาต้องการจะบุกเข้ามาที่นี่!”

ท่านหญิงหงรู้สึกตกตะลึง

ร่างของนางแข็งค้างทันที

เห็นแบบนี้นี่ทำให้สาวใช้ยิ่งเข้าใจผิด“ท่านหญิง ได้โปรดอย่าเศร้าไปเลย ฝ่าบาททรงชราภาพมากแล้ว เขาคิดว่าองค์รัชทายาทค่อนข้างไร้ประโยชน์ดังนั้นจึงต้องการให้เขาแต่งงานกับท่าน แต่ทว่า ประชาชนในราชวงศ์หยานที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน…”

นางได้ตอบรับคำแนะนำของ นักบวชชิงหยุน และพึมพัมออกมา“ดูเหมือนว่าจะมีคนยื่นหมอนให้ข้าตอนที่กำลังรู้สึกง่วงอยู่พอดี!”

สาวใช้ได้มองไปที่ ท่านหญิงหง อย่างสับสน นางไม่เข้าใจว่าครึ่งหลังนั้นหมายถึงอะไร

“ไปกราบทูลให้องค์รัชทายาทเสด็จกลับไปซะ ในขณะเดียวกันก็ขอให้เขาเพลิดเพลินไปกับเหล่าลูกคุณหนูสูงศักดิ์จากตระกูลใหญ่ที่มีแทน หากเขากล้าที่จะรุกล้ำเข้ามาที่นี่ เขาต้องตาย!”

ท่านหญิงหง ได้โบกมือ

นางขี้เกียจเกินกว่าที่จะใส่ใจองค์รัชทายาทที่ปราถนาความงามของนางมาโดยตลอด

สาวใช้ได้ถอยหลังออกไปทันที

ท่านหญิงหงได้ส่งนกกระเรียนกระดาษอีก 30 ตัวออกไปอย่างเงียบ ๆ

มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้นที่อยู่ในนั้น

“มาที่ราชวงศ์หยานที่ยิ่งใหญ่และทำงานบางอย่างให้ข้า!”

นางต้องการใช้ราชวงศ์หยานที่ยิ่งใหญ่ทั้งหมดเพื่อชำระหนี้ของนางด้วยความกตัญญู

ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา ในตำหนักเย็น

ชีวิตของ หลินจิ่วเฟิง ยังคงสงบสุขเช่นเคย

กิจวัตรประจำวันของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยตลอดเดือนที่ผ่านมา

เขาตื่นขึ้นจากการบ่มเพาะพลังในตอนเช้า เดินทางไปยังพระราชวังใต้ดินและปลดผนึกถ้ำปีศาจ จากนั้นเขาก็ปลุกเทพปีศาจและเอาชนะพวกมันทีละคน

หลังจากนั้นเขาก็ลงชื่อเข้าใช้และรับเอาสมบัติล้ำค่า ทักษะบ่มเพาะพลัง และ สิ่งของอื่น ๆ เป็นรางวัล

เมื่อสิ่งนี้สิ้นสุดลง เขาก็ปิดผนึกถ้ำปีศาจและกลับไปที่ตำหนักเย็น

จากนั้นเขาก็ทบทวนตัวเองและตั้งคำถามเกี่ยวกับการฝึกฝน

ในช่วงเวลานี้ ฐานการบ่มเพาะพลังของ หลินจิ่วเฟิง ได้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

เขาได้ก้าวข้ามช่วงด่านกายาศักดิ์สิทธิ์และเข้าสู่ช่วงด่านจุติใหม่แล้ว

ขั้นตอนต่อไปก็คือการทะลวงด่านพลังไปสู่ขั้นถัดไป

นี่ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ หลินจิ่วเฟิง

ขณะที่เขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ แรงกดดันในการเผชิญหน้ากับปีศาจในถ้ำปีศาจก็ลดน้อยลง วันนี้ หลินจิ่วเฟิง ได้ไปเยี่ยมถ้ำปีศาจตามปกติ แต่มันกลับเงียบจนผิดแปลก

มีปีศาจมากกว่าสิบตัวที่มักจะวิ่งเข้ามาหาเขาพร้อมกันแต่ตอนนี้…

มันไม่มีการเคลื่อนไหวภายในถ้ำปีศาจเลย

เขาไม่รู้สึกถึงอันตรายแม้แต่น้อย

ความสงบสุขดังกล่าวค่อนข้างน่าขันเมื่อเทียบกับชื่อเรียกที่ถูกกล่าวขานว่า ‘ถ้ำปีศาจ’

แต่สิ่งนี้ก็ยังแสดงให้เห็นถึงการที่ปีศาจถูกทรมานตลอดระยะเวลาหลายเดือน

พวกมันหยิ่งผยองน้อยลงกว่าตอนที่ถ้ำปีศาจเปิดออกครั้งแรก

หลังจากที่ผนึกถ้ำปีศาจเปิดออกอีกครั้งพวกปีศาจก็สั่นสะท้านและพยายามหลบซ่อนตัว

พวกมันไม่กล้าส่งเสียงออกมา

พวกมันกลัวว่า หลินจิ่วเฟิง จะค้นพบพวกมัน

เพราะหลังจาก หลินจิ่วเฟิง ค้นพบพวกมันแล้ว

พวกมันก็จะต้องไปต่อสู้กับเขา หลังจากพ่ายแพ้เสร็จพวกมันก็จะถูกโยนกลับเข้าไปในถ้ำปีศาจโดยไม่ได้ตั้งใจ

การถูกปฏิบัติเช่นนี้-มันน่าละอายเกินไป!

นั่นก็เพราะพวกมันไม่รู้ว่า หลินจิ่วเฟิง ได้รับรางวัลมากมายจากการเอาชนะพวกเขา

นี่เป็นผลให้พวกมันทั้งหมดเห็นพ้องกันว่า หลินจิ่วเฟิง ตั้งใจทำเช่นนี้ก็เพื่อทำให้พวกมันอับอายขายขี้หน้า

หลังจากมอบความอับอายให้ครั้งนึง วันต่อไป อีกฝ่ายก็ยังทำเช่นนี้อยู่เหมือนเดิม เขาได้สุ่มเลือกปีศาจมา และ สร้างความอับอายโดยการมอบความพ่ายแพ้ให้อีกฝ่าย

คน ๆ นี้น่ารังเกียจเกินไป

ปีศาจและเทพปีศาจต่างถูกแผดเผาไปด้วยความโกรธ

วันนี้ หลินจิ่วเฟิง ได้ยืนอยู่บนถ้ำปีศาจหลังจากเปิดผนึก หลังจากตระหนักได้ว่าไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ อยู่ภายใน เขาก็ยกแขนขึ้นและเอื้อมมือออกไปเคาะที่ประตูทางเข้า

“อย่าแม้แต่จะแกล้งตาย พวกเจ้าคนหนึ่งออกมาสู้กับข้าซะ เมื่อสู้กันเสร็จ ข้าจะปล่อยให้พวกเจ้าอยู่กันตามปกติ”หลินจิ่วเฟิง ได้ตะโกน

เขาไม่ต้องการที่จะลงไปด้วยร่างกายที่แท้จริงของเขาในตอนนี้

มันค่อนข้างน่าอึดอัดเกินไป

ใครจะไปรู้ว่ามีเทพปีศาจกี่ตัวอยู่ที่นั่น?

มันจะดีกว่าหากเขาเล่นสนุกกับพวกมันอย่างปลอดภัย

อีกอย่างมันคงไม่สายเกินไปสำหรับเขาที่จะลงไปหลังจากทะลวงผ่านขั้นพลังต่อไป

ถ้ำปีศาจนี้เป็นพื้นที่อันไร้ขอบเขต

มีปีศาจหลายร้อยตัวและเทพปีศาจ 2-3 ตัวที่อยู่ภายในได้ตื่นขึ้นมาแล้ว

แต่พวกมันทั้งหมดก็พ่ายแพ้ให้กับ หลินจิ่วเฟิง โดยไม่มีข้อยกเว้น

จากนั้นพวกมันทั้งหมดก็ถูกโยนกลับไปยังถ้ำปีศาจหลังจากที่พ่ายแพ้

ดังนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของ หลินจิ่วเฟิง พวกมันก็พลันโกรธจัด

“ข้าจะขึ้นไปดูว่าเขาเป็นคนอย่างไร ย้อนไปในอดีต พวกเราต่างก็เป็นผู้นำนิกายปีศาจ มีใครในโลกบ้างที่กล้าที่จะทำให้พวกเราขายหน้าแบบนี้?”เทพปีศาจที่เพิ่งตื่นในวันนี้ รู้สึกโกรธอย่างมากกับสิ่งที่เขาได้ยิน

ปอดของเขาแทบจะระเบิดออกมาด้วยความโกรธขณะที่เขาพุ่งขึ้นไปด้านบน

บูม!

กลิ่นอายพลังปีศาจของเขาแข็งแกร่งอย่างมาก

แม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพที่อ่อนแอหลังจากถูกผนึกมาเป็นเวลานาน แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ใช่สิ่งที่ปีศาจธรรมดาจะสามารถเทียบได้

“เจ้าหนู เลิกหย่องผยองได้แล้ว ท่านปู่คนนี้จะฆ่าเจ้าซะ!”

เทพปีศาจได้ส่งเสียงคำรามออกมา

รัศมีพลังของเขาได้ทะยานขึ้นปราณกระบี่อันเจิดจรัสได้ฟาดฟันออกไป

เขาต้องการฆ่า หลินจิ่วเฟิง ในครั้งเดียว

เมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่เย่อหยิ่งของอีกฝ่าย หลินจิ่วเฟิง ก็สั่นศีรษะ“เจ้ายังคงอ่อนแอเกินไป”

เขาได้ยื่นมือออกไปข้างนึง

พลังปราณของเขาได้พลุ้งพล่านไปทั่ว รัศมีพลังเต๋าอันยิ่งใหญ่ และ คลังสมบัติทั้ง 4 ภายในร่างกาย ได้หลอมรวมความแข็งแกร่งของเขาไว้ด้วยกัน

บูม!

จากนั้นทักษะปราบปรามปีศาจก็ปะทุขึ้น

ตราประทับสีดำอันน่าสะพรึงกลัวได้ปรากฏออกมาและพุ่งออกไปทุบลงบนร่างกายของเทพปีศาจ

ปั้ง!

เพียงชั่วพริบตาเดียว เทพปีศาจก็ถูกส่งลงไปที่ก้นของถ้ำปีศาจในทันที

เทพปีศาจตัวอื่น ๆ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นใจเขา

นี่เป็นลักษณะของความพ่ายแพ้ของพวกเขาเช่นเดียวกัน

หลินจิ่วเฟิง ได้ผนึกถ้ำปีศาจด้วยความพึงพอใจหลังจากนั้นเขาก็ลงชื่อเข้าใช้

[ลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ ได้รับถ้ำสวรรค์ระดับเทพ]

เมื่อ หลินจิ่วเฟิง ได้เห็นสิ่งที่เขาได้รับ ดวงตาของเขาก็สว่างวาบขึ้น

เขาอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ“ในที่สุดโอกาสสำหรับการพัฒนาของข้าก็มาถึง”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด