ตอนที่แล้ว80Y-ตอนที่ 51 ฝันร้ายยามค่ำคืน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป80Y-ตอนที่ 53 ไพ่ใบสำคัญของจักรพรรดินี

80Y-ตอนที่ 52 ได้เวลาตายของเจ้าแล้ว!


คืนนี้ หลินเทียนหยวน ได้มาที่ตำหนักของจักรพรรดินีเพื่อพักผ่อน

หลังจากถูกฆ่าตายอย่างต่อเนื่องในความฝัน เขาก็อ่อนแอลงมาก

หลินเทียนหยวน รู้ว่าเขาไม่สามารถตายได้อีกต่อไป

ถ้าเขาตายในฝันครั้งที่สามเขาจะตายในโลกภายนอกด้วย

“ฝ่าบาท ให้หม่อมฉันเรียกหมอหลวงมาตรวจพระวรกายไหมเพคะ?”จักรพรรดินีได้กล่าวอย่างกังวลหลังจากเห็น หลินเทียนหยวน อยู่ในสภาพที่อ่อนแอเช่นนี้

หลินเทียนหยวน ได้สั่นศีรษะ

ใบหน้าของเขาซีดมากร่างกายของเขาค่อนข้างอ่อนแอ แต่เขายังคงมีสติอย่างแจ่มแจ้ง

เขาได้ตอบกลับ“ไม่จำเป็น ขอเพียงเจ้าอยู่กับข้าในคืนนี้ก็พอ”

“ให้คนอื่นออกไปให้หมด”

“แล้วก็…”

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าได้รบกวนข้าและอย่าได้ส่งเสียงโวยวาย”

แม้ว่าจักรพรรดินีจะไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่นางก็ตอบรับอย่างเชื่อฟัง

“หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ”

จักรพรรดินีได้ช่วย หลินเทียนหยวน ให้นอนหลับบนเตียง

จากนั้นนางก็ไล่บ่าวรับใช้ออกไปทั้งหมด

นางมองไปที่ หลินเทียนหยวน อย่างเงียบ ๆ

กลางดึก

ทันใดนั้นแสงไฟก็ริบริบหรี่ลง

หลินเทียนหยวน ที่หลับไม่ถึง ครึ่งชั่วยามเริ่มปรากฏเหงื่อไหล

ร่างกายของเขาสั่นโดยไม่รู้ตัว

การแสดงออกของจักรพรรดินีได้เปลี่ยนไป

นางรู้สึกประหม่า

นางจ้องไปที่หยานดเหงื่อบนหน้าผากของ หลินเทียนหยวน นางอยากจะเอื้อมมือไปเช็ด

แต่ในชั่วพริบตาต่อมา แสงสว่างจ้าก็ปรากฏขึ้น

มีเงาร่างหนึ่งได้เดินเข้ามาจากทางด้านนอกและพูดขึ้น“อย่าแตะเขา ตอนนี้เขาตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายอยู่”

จักรพรรดินีได้มองไปที่คนที่มาด้วยความประหลาดใจ

ภายใต้การปกคลุมของแสงสว่างอันเจิดจรัส นางมองไม่เห็นรูปลักษณ์ของ หลินจิ่วเฟิง เลย

“เทพมนุษย์!”

แต่นางก็พอจะคาดเดาตัวตนของเขาได้

เขาเป็นเทพมนุษย์ที่อาศัยอย่างสันโดษในเมืองหลวงราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา

“หม่อมฉันจะเฝ้าป้องกันอยู่บริเวณโดยรอบ และ จะไม่รบกวนผู้อาวุโสในการช่วยเหลือฝ่าบาท”

จักรพรรดินีได้กล่าวอย่างสุภาพขณะที่นางล่าถอยออกไปเล็กน้อย นางไม่ต้องการรบกวน หลินจิ่วเฟิง

นางรู้ดีว่าเมื่อใดควรก้าวและเมื่อใดควรถอย

นางรู้ดีว่าอะไรดีสำหรับนาง ดังนั้นทุกย่างก้าวนางล้วนระมัดระวังเป็นอย่างมาก

[คุณต้องการลงชื่อเข้าใช้ตำหนักจักรพรรดินีหรือไม่?]

ทันใดนั้น ประโยคหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของ หลินจิ่วเฟิง

หลินจิ่วเฟิง ไม่ได้คาดหวังว่าข้อความการลงชื่อเข้าใช้สถานที่จะปรากฏขึ้นในเวลานี้

“ยืนยันการเข้าใช้!”ในเมื่อเขามาที่นี่แล้ว เขาจะปฏิเสธได้อย่างไร?

เขายังไม่เคยลงชื่อเข้าใช้ตำหนักจักรพรรดินี

เขาเคยมาที่พระราชวังและตำหนักจักรพรรดินีก่อนหน้านี้แล้ว ตอนที่สนมหมิงประทับอยู่ แต่ด้วยเหตุผลบางประการ ทำให้ข้อความในตอนนั้นไม่ได้ปรากฏขึ้น

แต่ครั้งนี้มันกลับปรากฏออกมาอย่างรวดเร็ว

[ลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ ได้รับทักษะเก้ากระบี่ทลายวิญญาณ]

ทักษะนี้มีเก้ากระบวนท่าที่สามารถสลายจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของศัตรูได้ในทันที

“ดี สิ่งนี้ค่อนข้างเหมาะกับข้า...ข้าจะใช้สิ่งนี้ในการทำลายจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของอีกฝ่ายซะ”หลินจิ่วเฟิง รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก

เขาได้หลับตาลงและรับเอาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับทักษะในทันที

ไม่นานเขาก็ได้เรียนรู้ เก้ากระบี่ผ่าวิญญาณ เขาได้ลืมตาขึ้นและมองไปที่ หลินเทียนหยวน

ตอนนี้อีกฝ่ายกำลังตกอยู่ในฝันร้ายแล้ว

หมอกสีดำได้ปรากฏขึ้นที่ระหว่างคิ้วของเขา

บูม!

หลินจิ่วเฟิง ได้วางฝ่ามือลงบนหน้าผากของ หลินเทียนหยวน จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ค่อย ๆ ไหลผ่านเข้าไปยังร่างกายของ หลินเทียนหยวน

ในเวลานี้ โลกภายในจิตวิญญาณของ หลินเทียนหยวน กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

เขาได้ถูกจับและถูกคุมขังในพระราชวังที่มืดมิด

มีหมอกดำมหึมากำลังรายล้อมอยู่รอบตัวเขา และ มีสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวซ่อนตัวในหมอกดำ

หมอกสีดำนี้ราวกับหมอกไร้สิ้นสุดที่เขาไม่สามารถมองหาทางออกได้เจอ

และสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวนั่นกำลังจับจ้องมองมาที่เขา

เปรี้ยง!

แส้พลังทมิฬได้ฟาดลงบนร่างของ หลินเทียนหยวน

ในเวลานี้ ราชาวิญญาณขุนเขา ที่ดูเหมือนลิง ก็ปรากฏตัวขึ้นเช่นเดียวกัน

เขามองไปที่ หลินเทียนหยวน ด้วยสีหน้าที่ดูน่าเกลียด

“คิดว่าตนเองเป็นจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาและจะยิ่งใหญ่มากงั้นเหรอ?”

“เป็นเวลานานแล้วที่พวกเราไม่ได้เปิดเผยตัวให้โลกภายนอกได้รู้จัก นั่นก็เพราะพวกเรามีเหลือกันอยู่ไม่มาก แต่เจ้ากลับกล้าออกราชโองการให้จับพวกเราทุกคน?”

ราชาวิญญาณขุนเขาได้มองไปที่ หลินเทียนหยวน ด้วยความโกรธ

“หึ่ม เจ้ากล้าที่จะมาปรากฏตัวที่นี่เองเลยงั้นหรือไม่?”ใบหน้าของหลินเทียนหยวนซีดเผือก

ถึงกระนั้นเขาก็ไม่หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย

เขาได้เย้ยหยันออกมาแทน

“นี่คือโลกจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของบรรพบุรุษเผ่าวิญญาณขุนเขาของข้า เราได้ใช้ทักษะลับเพื่อนำจิตวิญญาณของเจ้ามาที่นี่ ในโลกนี้ถ้าไม่ได้เข้าใจถึงจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์อย่างถ่องแท้ก็จะไม่สามารถค้นพบสถานที่แห่งนี้ได้”ราชาวิญญาณขุนเขาได้กล่าวอย่างภาคภูมิใจ

เขาไม่ได้กลัวเลย

“ในเมืองหลวง เจ้าอาจจะเป็นจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวา”

“แต่ที่นี่...ข้าคือผู้ที่กุมอำนาจทุกสิ่ง!”

“ตอนนี้ต่อให้พระเจ้าเสด็จลงมา หรือเทพมนุษย์จากราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์หยูฮวาของเจ้าอยู่ที่นี่ พวกเขาก็จะต้องคุกเข่าต่อหน้าของข้า!”

ราชาวิญญาณขุนเขาได้ตะโกนออกมาอย่างเย่อหยิ่ง

“จะใช่งั้นเหรอ?”

แต่ทว่าทันใดนั้นเองเสียงที่เย็นชาก็ได้ดังขึ้น

ปราณกระบี่อันเจิดจรัสได้ฟาดผ่าลงไปแยกหมอกสีดำที่รายล้อมอยู่เบื้องล่างในทันที

หลินจิ่วเฟิง ได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับออร่าแสงสีทอง

เขาจ้องมองไปที่ ราชาวิญญาณขุนเขาด้วยสายตาที่เย็นชา

จากนั้นเขาก็ชี้นิ้วที่เหมือนกระบี่ออกไป“เจ้าช่วยพูดอีกครั้งได้หรือไม่?”

“เจ้า…”

“เจ้าคือเทพมนุษย์?”

“เจ้ามาที่นี่ได้ยังไง ที่นี่คือโลกจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษของเผ่าวิญญาณขุนเขาของข้า…”

ราชาวิญญาณขุนเขา มองไปที่ หลินจิ่วเฟิง ด้วยความประหลาดใจ

ความเย่อหยิ่งของเขาดูเหมือนจะถูกบดบังด้วยรูปลักษณ์ของ หลินจิ่วเฟิง

“ข้ามาที่นี่ได้ยังไงไม่สำคัญ เจ้ารู้เพียงแค่ว่าข้ามาเพื่อฆ่าเจ้าก็พอ!”หลินจิ่วเฟิง ได้ตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา

หลินจิ่วเฟิง เดิมต้องการช่วย หลินเทียนหยวน จับตัวผู้บ่งการ แต่ใครจะไปคิดว่าราชาวิญญาณขุนเขาจะดูเย่อหยิ่งขนาดนี้

ในเมื่อเป็นกรณีนี้ เขาก็จะไม่ปรานีอีกฝ่าย

“ฮ่าฮ่า หูข้าได้ยินไม่ผิดใช่หรือไม่?”

“ที่นี่คือโลกจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษของข้า เจ้าบอกจะฆ่าข้าที่นี่ เจ้าคิดว่าจะทำได้งั้นเหรอ หรือเจ้าคิดว่าบรรพบุรุษของข้าไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย?”

ราชาวิญญาณขุนเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและไม่หวาดกลัว หลินจิ่วเฟิง

ข้างหลังของเขามีหมอกสีดำหนาแน่นกำลังเคลื่อนตัว ราวกับว่ามีสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวซ่อนอยู่ในนั้น

“คนขี้ขลาดที่เอาแต่หลบซ่อนตัวในความมืดจะปกป้องเจ้าได้อย่างไร?”หลินจิ่วเฟิง กล่าวพูดด้วยท่าทางรังเกีจ เขาได้ยกมือขึ้นและใช้ทักษะเก้ากระบี่ทลายวิญญาณที่เขาเพิ่งได้รับมา

กระบวนท่าแรก-ทักษะเก้ากระบี่ทลายวิญญาณ-กระบี่สวรรค์ทลายวิญญาณ!

เขาใช้นิ้ววาดเป็นกระบี่เชื่อมโยงผืนนภาและโลกหล้าเข้าด้วยกัน

ในโลกจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ หลินจิ่วเฟิง สามารถเรียกลมเรียกฝนได้

จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขาทรงพลังอย่างมาก

ในเวลาต่อมา ปราณกระบี่ของเขาก็ฟาดฟันออกไป

“ท่านบรรพบุรุษ ช่วยข้าด้วย!”ราชาวิญญาณขุนเขาได้ตะโกนขึ้น

เขาไม่เชื่อว่าเทพมนุษย์อย่าง หลินจิ่วเฟิง จะสามารถฆ่าเขาใน โลกจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของท่านบรรพบุรุษได้

หมอกสีดำได้เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว

มันได้ควบแน่นเป็นเกราะป้องกันขวางด้านหน้าของราชาวิญญาณขุนเขาโดยตรง

หึ่ม!

โล่สีดำขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่งได้ปรากฏขึ้นในเวลานี้

มันดูทรงพลังอย่างมาก

รอยยิ้มแห่งความมั่นใจได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของราชาวิญญาณขุนเขา

แต่ หลินจิ่วเฟิง ก็มีความมั่นใจเช่นเดียวกัน

เขาได้พูดเบา ๆ“ได้เวลาตายของเจ้าแล้ว!”

เมื่อคำพูดของเขาสิ้นสุดลง ทักษะเก้ากระบี่ทลายวิญญาณ ก็แยกโล่ออกเป็นชิ้น ๆ ด้วยแรงกระแทกอันมหาศาล

เพียงวาดกระบี่เพียงครั้งเดียว ก็สามารถทำลายจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของบรรพบุรุษวิญญาณขุนเขาได้

มันดูง่ายดายมาก

โล่สีดำที่ดูแข็งแกร่ง แต่ภายใต้การฟาดฟันที่เต็มไปด้วยเจตจำนงค์กระบี่ของ หลินจิ่วเฟิง โล่นั่นก็ถูกตัดราวกับกระดาษ

ราชาวิญญาณขุนเขาได้มองไปที่ หลินจิ่วเฟิง ด้วยความงุนงง

จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ด้านหน้าได้ถูกทำลาย มันได้กระจายกลายเป็นหมอกสีดำ

ก่อนที่ราชาวิญญาณขุนเขาจะตายอย่างสมบูรณ์ เขาได้มองไปที่ หลินจิ่วเฟิง ด้วยความไม่เชื่อ

เขาอยากรู้ว่าทำไม

ทำไมการโ๗มตีเช่นนี้ถึงได้ทรงพลังนัก?

แต่ หลินจิ่วเฟิง ไม่ได้มองเขาด้วยซ้ำ

การฆ่าอีกฝ่ายนี้เขาคิดว่าอีกฝ่ายตายง่ายเกินไป

แต่ท้ายที่สุดเขาก็แก้แค้นให้ชายชราคนนั้นได้แล้ว

หลินจิ่วเฟิง มองไปที่หมอกสีดำที่พลุ่งพล่านอยู่รอบตัวเขา

มันดูโกรธจัด

มันเดือดดาลอย่างมากและปลดปล่อยแรงกดดันมหาศาลพัดถล่มลงมา

หลินจิ่วเฟิง ยืนเอามือไขว้หลังเอาไว้

เขามองไปที่มันด้วยท่าทีสงบ“ไม่ต้องเดือดไป ข้าจะส่งเจ้าไปปรโลกเช่นเดียวกัน!”

เผชิญหน้ากับการโจมตีเมื่อครู่ของเขา หมอกสีดำไม่ได้หายไปอย่างสมบูรณ์ มันรู้สึกโกรธ หลินจิ่วเฟิง อย่างมาก

เพียงแต่ แม้ว่ามันจะโกรธ แต่ท่าทีของมันกลับดูหวาดกลัวจากภายใน มันไม่ลังเลที่จะหลบหนีไป

มันตระหนักได้ว่า หลินจิ่วเฟิง ไม่ใช่คนที่มันสามารถต่อกรได้

ปราณกระบี่แบบเดียวกับที่ปรากฏขึ้นในประวัติศาสตร์ของเมืองหลวงราชวงศ์ก่อนหน้านี้ได้ปรากฏขึ้นบนแผ่นหลังของ หลินจิ่วเฟิง

เขาได้แสดงกระบวนท่าอื่นจาก ทักษะเก้ากระบี่ทลายวิญญาณ

ทลายวิญญาณ!

“ไปตายซะ!”หลินจิ่วเฟิง ได้บ่นพึมพัมออกมา

เขาได้เหวี่ยงปราณกระบี่ของเขาลงไปทำให้โลกจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ถูกฉีกขาดโดยทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด