ตอนที่แล้วบทที่ 80 เริ่มการล่า 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 82 ล่าหรือถูกล่า 1

บทที่ 81 เริ่มการล่า 2


บทที่ 81 เริ่มการล่า 2

“ม่าย!!!!”  โดยไม่รู้ตัว น้ำตาของคังเสวี่ยก็เอ่อล้นออกมาจากดวงตาขอเธอ ในขณะที่เธอร้องไห้ออกมาอย่างไม่เต็มใจ ชายผู้นี้เป็นผู้ช่วยชีวิตของเธอ แต่ตอนนี้เขาก็ได้ตายไปแล้ว

' ถ้าฉันยอมวิ่งตามคนอื่นไป... ถ้าฉัน...' เธอเสียใจกับการตัดสินใจที่โง่เขลาของเธอ หลังจากดูการต่อสู้ คังเสวี่ยก็เข้าใจได้ทันทีว่าเธอนั้นเป็นภาระของชายคนนั้น ถ้าเธอไม่อยู่ที่นี่ บางทีชายคนนั้นก็อาจจะยังไม่ตาย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาก็ได้ตายไปแล้ว

“ทำไมนายถึงไม่ปล่อยให้ฉันตายล่ะ? ทำไมนายถึงต้องมาปกป้องฉันด้วย?” นั่นคือสิ่งที่เธอคิดขณะมองดูเคียวที่แทงเข้าไปที่หลังของชายคนนั้น

อย่างไรก็ตาม ในวินาทีถัดมา เสียงที่ฟังดูรำคาญก็ดังขึ้นมาจากทิศทางของชายคนนั้น “ทำไมเธอถึงต้องมาดราม่าขนาดนี้ด้วย ฉันยังสบายดี นังโง่  นังหงส์อัปลักษณ์!”

ถังเส้าหยางแกว่งแขนขวาไปด้านหลังขณะที่หมุนตัวไปรอบๆ จากนั้นดาร์คก็อบลินทั้งห้าก็ถูกจับและโยนกระแทกไปทางขวาด้วยแขนขวาของเขา ก็อบลินทั้งห้ากองซ้อนกันทางด้านซ้าย

[ ขวานคลั่ง ]

เขาเปิดใช้งานสกิลของเขาและขวานทั้งสองก็บินไปยังก็อบลินที่กองซ้อนกันอยู่ห้าตัว

สาด!

[ ขวานคลั่ง ] ฆ่าก็อบลินได้เพียงแค่สามตัวแรกเท่านั้น ก็อบลินทั้งสามตัวถูกหั่นเป็นสามส่วนด้วยขวาน

จากนั้นถังเส้าหยางก็เคลื่อนไปหยิบขวานศึกขึ้นมา เนื่องจากเขาต่อสู้กับพวกมันในระยะพื้นที่ที่จำกัด ดังนั้นเขาจึงจับไปที่ตรงกลางด้ามขวานศึก เพื่อที่เขาจะได้สามารถใช้เดสทรอยเยอร์ได้อย่างอิสระแม้จะมีพื้นที่จำกัดก็ตาม

เมื่อหยิบมันขึ้นมาได้แล้ว ถังเส้าหยางก็ยกและสับมันลงไปที่ก็อบลินทั้งสองตัวที่เหลืออยู่

กระเด็น!

ก็อบลินผู้น่าสงสารทั้งสองถูกผ่าออกเป็นสองซีก เลือดสาดกระจายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง พื้นกระเบื้องสีน้ำเงินตอนนี้ได้ถูกปกคลุมไปด้วยเลือดของก็อบลิน

เคียวมรณะเจ็ดจากสิบสองถูกฆ่าตายไปแล้ว ถังเส้าหยางเดินออกจากบันไดฉุกเฉินโดยไม่หันกลับมามอง “อยู่ตรงนั้นแหละ นังโง่งี่เง่าอัปลักษณ์!” เขาไม่ลืมเตือนหญิงสาวให้ก้าวออกจากบันไดฉุกเฉิน

แม้ว่าจะมีคำว่าโง่งี่เง่าและอัปลักษณ์เป็ชื่อ แต่เธอก็มีความสุขอยู่ลึกๆ  เมื่อกี้เธอคิดว่าเคียวทั้งห้าจะแทงทะลุแผ่นหลังของเขาไปยังหัวใจของเขาแล้ว แต่ตอนนี้เธอเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

เคียวทั้งห้ายังคงห้อยอยู่บนหลังของเขา อย่างไรก็ตาม ใบมีดของเคียวก็เจาะเข้าไปได้เพียงสองนิ้วเท่านั้น

ในขณะนี้  คังเสวี่ยก็ไม่สนใจแล้วว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับชายคนนี้ ไม่ว่าเขาจะเปลี่ยนไปเป็นอะไร มันก็ไม่สำคัญสำหรับเธออีกต่อไปแล้ว สิ่งที่สำคัญคือชายคนนั้นปลอดภัยดี แม้ว่าเธอจะกังวลเรื่องอาการบาดเจ็บที่หลังของเขาอยู่ก็ตาม

และเนื่องจากชายคนนั้นบอกให้เธออยู่ข้างหลัง ดังนั้นเธอก็จะเชื่อฟังคำพูดของเขาและอยู่ข้างหลัง

หลังจากฆ่าก็อบลินไปเจ็ดตัว อีกห้าตัวที่เหลือก็ยังไม่แสดงตัว พวกมันซ่อนตัวอยู่ในความมืด  ถังเส้าหยางกำเดสทรอยเยอร์เอาไว้ในมือขณะเดินไปรอบๆโรงอาหาร

สิ่งหนึ่งที่เขาได้เรียนรู้หลังจากกลับเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งก็คือ เขาไม่สามารถมองเห็นพวกก็อบลินได้ด้วยตาของเขา แต่เขาสามารถได้ยินเสียงเล็กน้อยได้เมื่อพวกก็อบลินใช้สกิลของพวกมัน  สกิลนี้คือสกิลที่ทำให้พวกมันล่องหน และเขาก็คิดว่ามันน่าจะเป็นสกิลที่ได้มาจากคลาสของพวกมัน

เขาจดจ่ออยู่กับการได้ยินมากกว่าการมองเห็น ถังเส้าหยางหลับตาลงช้าๆ  และสิ่งนี้ก็ทำให้เขาประหลาดใจ เขาได้ยินเสียงหายใจของหญิงสาวที่อยู่ข้างหลังเขา

คังเสวี่ยไม่รู้ว่าชายคนนั้นทำอะไรในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศที่เงียบสงบและมืดมิดก็ทำให้การหายใจของเธอถี่ขึ้นเล็กน้อย เธอหายใจออกและสูดอากาศเร็วขึ้นซึ่งเกิดจากความประหม่า

เกมแห่งความอดทน นั่นคือสิ่งที่ถังเส้าหยางกำลังทำอยู่ในตอนนี้ เขาต้องอดทนที่จะฆ่าก็อบลินที่เหลืออยู่

สิบวินาทีผ่านไป…

ยี่สิบวินาทีผ่านไป…

ในวินาทีที่สามสิบ หูของเขาก็กระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินการเคลื่อนไหว

' สองจากซ้าย หนึ่งจากบน และอีกหนึ่งจากขวา… หนึ่งตัวหายไป…' เขานับในใจขณะลืมตาขึ้นพร้อมๆกัน

[ สงครามร่ำไห้ ]

ถังเส้าหยางใช้สกิลของเขาเมื่อเขาตรวจพบการเคลื่อนไหว เสียงสิงโตคำรามดังสนั่นออกมาจากปากของถังเส้าหยาง เสียงคำรามนี้ทำให้ผนังและพื้นสั่นสะเทือนเล็กน้อย

ในเวลาเดียวกัน ก็อบลินทั้งห้าก็ได้แสดงตัวออกมา หรือไม่บางทีสกิลของพวกมันก็อาจจะถูกยกเลิกโดยผลของ [ สงครามร่ำไห้ ] ของถังเส้าหยาง   เขารู้สึกยินดีกับความประหลาดใจนี้ และโดยไม่เสียเวล เขาเหวี่ยงเดสทรอยเยอร์ออกไปทางก็อบลินทั้งห้า เมื่อถึงตอนนี้เขาก็ได้รู้ว่ามันยังมีก็อบลินอีกตัวที่อยู่ด้านบน แต่ที่สุดแล้วมันก็อยู่ในระยะของเขาพอดี

ด้วยการเหวี่ยงเดสทรอยเยอร์เพียงครั้งเดียว ถังเส้าหยางก็สามารถสังหารก็อบลินทั้งห้าตัวลงได้สำเร็จ

[ คุณได้เลเวลอัพแล้ว! ]

[ คุณได้รับคะแนนค่าคุณสมบัติ 2 คะแนน! ]

[ คุณสามารถจัดสรรคะแนนค่าคุณสมบัติได้โดยการเปิดหน้าจอค่าสถานะ! ]

แม้น้ำเสียงของเสียงหุ่นยนต์จะฟังดูเย็นชา แต่มันก็ทำให้ถังเส้าหยางยิ้มออกมาในขณะที่เขาชูมือขึ้น “ใช่แล้ว ที่รัก อัพเลเวล ...”

“อุ๊ย!”

การแสดงความยินดีหยุดลงกลางคันเมื่อความเจ็บปวดรวดร้าวปรากฎขึ้นที่แผ่นหลังของเขา เขาเพิ่งรู้ว่าเคียวทั้งห้ายังคงห้อยอยู่บนหลังของเขา เขาเอื้อมมือไปที่เคียวและดึงมันออกมาในทันที

“อย่า…!”  คังเสวี่ยตะโกนขึ้นอย่างกะทันหัน  แต่กระนั้นเธอก็ยังสายเกินไป ถังเส้าหยางได้ดึงพวกมันออกมาจากหลังของเขาแล้ว

“อะไร?” ถังเส้าหยางหันกลับมา

“คุณดึงมันออกมาทำไม?” เธอเข้ามาใกล้ในขณะที่เธอพยายามจะดูแผลที่หลังของเขา

“แน่นอน ฉันต้องดึงมันออกสิ! ก็มันติดอยู่บนหลังของฉันนี่!” เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหงส์ขี้เหล่คนนี้จึงพยายามห้ามไม่ให้เขาดึงเคียวออก มันเจ็บปวดเมื่อคุณมีสิ่งเหล่านั้นบนหลังของคุณ ดังนั้นเพื่อกำจัดความเจ็บปวดนั้น เขาจึงต้องดึงสิ่งเหล่านั้นออกมาจากหลังของเขา

“เราต้องเตรียมอะไรมารักษาบาดแผลและห้ามเลือด” เธอหันความสนใจไปที่หลังของถังเส้าหยาง  “ดูสิ มันมีเลือดออกเยอะเลย เราต้องดูแลบาดแผลในตอนนี้ ไม่อ่างนั้นคุณก็อาจจะเสียเลือดจนตายก็ได้!” เธอตรวจดูบาดแผลด้วยความห่วงใย

“ไม่เป็นไร! ฉันแข็งแกร่งจะตาย!”  ถังเส้าหยางโบกมืออย่างสบายๆ  “เธอควรไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆนะ หรืออย่างน้อยก็ออกไปจากโรงพยาบาลซะ!”

' การล่าเริ่มต้นขึ้น!'

เนื่องจาก [ สงครามร่ำไห้ ] สามารถยกเลิกสกิลหายตัวของเคียวมรณะได้  ดังนั้นถังเส้าหยางจึงสามารถฆ่าเคียวมรณะก่อนหน้านี้ได้ และมันก็ทำให้เขาเลเวลอัพขึ้นมาหนึ่งเลเวล  ด้วยเหตุนี้เอง ถังเส้าหยางจึงคาดว่าหากเขาสามารถฆ่าพวกมันทั้ง 88 ตัวได้ มันก็อาจจะทำให้เขาเลเวลอัพขึ้นมาอีกสามเลเวล

------------------------------------

[ มินิเกมโหมดปกติ ]

วัตถุประสงค์:

1. ช่วยเหลือผู้รอดชีวิตในพื้นที่โรงพยาบาล 31 ผู้รอดชีวิต
2. สังหารเคียวมรณะทั้งหมด (76)

หมายเหตุ: หากบรรลุวัตถุประสงค์ทั้งสองสำเร็จ คุณจะได้รับรางวัลโบนัส!

การล้มเหลว:

1. ผู้รอดชีวิตทั้งหมดตาย
2. ผู้เข้าร่วมทั้งหมดเสียชีวิต

หมายเหตุ: มินิเกมโหมดปกติไม่ได้ให้บทโทษแก่คุณ

รางวัล:

1. หีบสมบัติเลเวล 7 สำหรับผู้เข้าร่วมที่รอดตายแต่ละคน
2. +20 คะแนนสกิล
3. +3 เลเวล
4. 100,000 GC สำหรับผู้เข้าร่วมที่รอดตายแต่ละคน และ 100,000 GC สำหรับสังกัดของคุณ หากคุณมีสังกัด
5. รางวัลโบนัสแบบสุ่มหากคุณทำสำเร็จทั้งสองวัตถุประสงค์

ระยะเวลา: ไม่จำกัดเวลา!

------------------------------------

จากนั้นเขาก็ตรวจสอบความคืบหน้าของวัตถุประสงค์ มันมีเคียวมรณะตายไปแล้ว 12 ตัว ดังนั้นมันจึงเหลือเคียวมรณะเพียง 76 ตัวเท่านั้น

' ผู้รอดชีวิตอีก 10 คนและเคียวมรณะ 76 ตัว!'

*** ***

ในขณะเดียวกันที่ด้านนอกโรงพยาบาล ว่านจิงยี่เข้ารับตำแหน่งแทนถังเส้าหยางชั่วคราว มันไม่มีใครคัดค้านอะไรเมื่อเห็นว่ามีจ้าวจงและฉินซั่วซานสนับสนุนเธอ

“ดูเหมือนว่าเขาจะยังสบายดีนะ!” เสียงคำรามดังมาจากข้างในโรงพยาบาล  และเมื่อฟังจากเสียงคำราม เธอก็สามารถบอกได้ว่าที่มาของเสียงคำรามนั่นก็คือบอสของเธอ ถังเส้าหยาง ในตอนแรกพวกเขาก็กังวลเรื่องควมปลอดภัยของถังเส้าหยาง อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นว่าเขายังมีแรงตะโกน ทุกคนจึงยังเชื่อว่าเขายังสบายดี

“รออีกสิบนาที ถ้าเขาไม่กลับมา เราก็จะกลับเข้าไปในโรงพยาบาล! เราจะเริ่มภารกิจช่วยเหลือผู้รอดชีวิตอีกสิบคน และฆ่าเคียวมรณะทั้งหมด!” จากนั้นว่ายจิงยี่ก็หันไปทางผู้รอดชีวิตที่พวกเขาเพิ่งช่วยไว้  “มีใครรู้จักแผนผังของโรงพยาบาลไหม”

ก่อนที่ผู้รอดชีวิตคนใดจะทันได้ตอบเธอ หนึ่งในทีมของเธอก็คัดค้านขึ้นมาว่า “เราจะกลับเข้าไปจริงๆหรอ? มันเหมือนกับการฆ่าตัวตายเลยนะ เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบอสยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วในตอนนี้?”

หลังจากนั้นทุกคนก็จับจ้องไปที่ชายคนนั้น เขาเป็นหนึ่งในยี่สิบคนจากกลุ่ม “ทาส” มันมีสองคนเสียชีวิตไปแล้วก่อนหน้านี้และพวกเขาก็ยังต้องการให้เขาเข้าไปในโรงพยาบาลอีกครั้ง? ไม่มีทาง เขาไม่ต้องการที่จะเอาชีวิตของเขาเข้าไปเสี่ยงอีกแล้ว

เนื่องจากกลุ่มทาสนั้นไม่เคยมีโอกาสได้ไปสัมผัสกับการโจมตีของฝูงซอมบี้สองฝูงใหญ่ ดังนั้นพวกเขาจึงยังไม่เข้าใจว่าการเอาชีวิตไปเสี่ยงที่แท้จริงนั้นเป็นยังไง

“อะไรกัน ฉันผิดหรอ? เราจะฆ่าสิ่งที่เรามองไม่เห็นได้ยังไงกัน?” การเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจนั้นทำให้ผู้ชายคนนั้นกังวล เขาลุกขึ้นและตะโกนออกมาโดยไม่รู้ตัว

“ถ้าแกไม่อยากเข้าไปในโรงพยาบาล งั้นฉันก็จะฟันคอของแกด้วยดาบของฉันนี่แหละ!” ฉินซั่วซานที่เงียบอยู่เสมอยืนขึ้น เขาจับไปที่ด้ามดาบในขณะที่เขาพร้อมที่จะชักดาบออกมา เขาดูทจริงจังกับคำพูดของเขา

จ้าวจงเองก็ยืนขึ้นด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เขาพร้อมที่จะสนับสนุนฉินซั่วซานเช่นกัน

ผู้ชายคนนั้นถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว เขาถูกคนสองคนข่มขู่ จากนั้นเขาก็มองไปรอบๆในขณะที่เขาพยายามมองหาเพื่อนที่จะช่วยเหลือเขา เขาเชื่อว่ามันจะต้องไม่ใช่แค่เขาคนเดียวแน่ๆที่กลัวสิ่งที่อยู่ในโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม ทุกคนก็หลบสายตาของเขา มันไม่มีใครเต็มใจที่จะท้าทายคนสำคัญทั้งสามคนของฐาน

ว่านจิงยี่ก้าวเข้ามาในขณะที่เธอป้องกันไม่ให้สองคนนี้บ้าคลั่งและเริ่มการสังหารหมู่ เธอเดินไปหาชายผู้ที่กล่าวคัดค้านการเข้าไปในโรงพยาบาล “ถ้าเราไม่เข้าไปในโรงพยาบาล เราก็จะไม่บรรลุวัตถุประสงค์ อย่างงั้นแล้วเราจะออกไปจากที่นี่ได้ยังไง?” เธอชี้ไปที่ทางเข้าที่ถูกขวางอยู่

“ยิ่งไปกว่านั้น อย่าลืมสถานะของนาย! นายยอมรับมันแล้ว! นายมีหน้าที่แค่ทำตามคำสั่ง! นายเข้าใจไหม”  ว่านจิงยี่หยุดอยู่เหนือผู้ชายคนนัน สิ่งนี้ทำให้เขาไม่กล้าที่จะสบตาเธอ

ชายคนนั้นหลีกเลี่ยงการสบตากับว่านจิงยี่ในขณะที่เขาก้มศีรษะลง เขาไม่กล้าแม้แต่จะตอบคำถามของเธอ

“นายเข้าใจแล้วใช่ไหม?” ว่านจิงยี่ถามซ้ำอีกครั้ง

“เข้าใจแล้วครับ…” ชายคนนั้นพยักหน้าอย่างบ้าคลั่ง

“ดี!” จากนั้นว่านจิงยี่ก็หันกลับมา เธอเดินกลับไปหาผู้รอดชีวิต  “มีใครในพวกคุณที่รู้แผนผังของโรงพยาบาลไหม ถ้ารู้ก็โปรดยกมือขึ้น!”

ฉินซั่วซานและจ้าวจงเองก็มองตามสายตาของว่านจิงยี่  ด้วยเหตุผลบางอย่าง เหล่าผู้รอดชีวิตที่ถูกข่มขู่โดยสายตาก็ค่อยๆยกมือขึ้นทีละคน

“ดี! ถ้าอย่างนั้นก็บอกเรามา เราจะเริ่มการล่าในอีกสิบนาที!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด