ตอนที่แล้ว315-316
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป319-320

317-318


9/10

Ep.317

“แกเป็นคนฆ่าเขา?”

ชายเคราแพะตกใจ จ้องมองซูเฉินด้วยความงุนงง

เมื่อครู่เขาเฝ้าจับตาดูซูเฉินอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่เห็นซูเฉินเคลื่อนไหวใดๆเลย แล้วซูเฉินจะฆ่าลูกน้องเขาได้อย่างไร?

อีกฝ่ายกำลังโกหก เคลมว่าเป็นผลงานของตัวเอง?

แค่แกล้งทำหรือมีวิธีฆ่าคนที่มองไม่เห็นจริงๆกันแน่?

ชายเคราะแพะไม่อาจตัดสินใจได้ชั่วขณะหนึ่ง เขานิ่งงันอยู่กับที่

“อย่างแกน่ะหรือจะฆ่าเขาได้? ช่างกล้าพูดไม่อายปาก! บิดาจะพิสูจน์เองว่าที่พูดมามันโกหกทั้งเพ!” ชายหยาบคายที่อยู่เบื้องหลังชายเคราแพะเอ่ยสบประมาทคำซูเฉิน ชักมีดกระโจนออกไป

สหายตกตายอย่างลึกลับ แม้เขาจะหวาดกลัวเล็กน้อย แต่ไม่เชื่ออย่างแน่นอนว่านั่นเป็นฝีมือซูเฉิน

“ไปลงนรกซะ!” ชายหยาบคายร้องคำราม

เขาคิดว่าด้วยความแข็งแกร่งในฐานะผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 ของตนเอง ก็เพียงพอแล้วที่จะสังหารซูเฉินในการโจมตีเดียว

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขามาถึงด้านหน้าซูเฉิน และกำลังจะสับมีดลง หัวของเขาก็ถูกเปลี่ยนเป็นละอองเลือด

ซี๊ดดด …

เห็นฉากนี้ ชายเคราะแพะและคนอื่นๆสูดหายใจลึกพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย

หากหัวของชายคนแรกเกิดการระเบิด มันอาจเป็นอุบัติเหตุ แต่สองคนติดต่อกันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแล้ว

มันแสดงให้เห็นว่าที่ซูเฉินพูดมา เป็นเรื่องจริง เขาครอบครองความสามารถในการฆ่าคนที่ไม่มีใครมองเห็น

“แกคือปรมาจารย์พลังจิต!”

จู่ๆชายเคราแพะก็นึกอะไรบางอย่างออก ร้องอุทานขึ้นมา

พลังแห่งจิตวิญญาณ คืออำนาจที่มองไม่เห็น ที่ถูกปลดปล่อยโดยปรมาจารย์พลังจิต ซึ่งสามารถใช้ฆ่าคนโดยที่ไม่มีใครรู้ตัวได้

แต่ประเด็นก็คือ หากต้องการสังหารผู้วิวัฒนาการเลเวล 2 ลงอย่างง่ายดาย อีกฝ่ายต้องเป็นปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 3 ขึ้นไป

เมื่อคิดได้แบบนี้ แผ่นหลังของชาบเคราแพะรู้สึกเย็นวาบ

สีหน้าของคนอื่นๆก็แปรเปลี่ยนไป มองซูเฉินด้วยความสยดสยอง

ปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 3 แม้แต่ในเขตหยูหลินก็ยังหาได้ยากยิ่ง อาจกล่าวเลยได้ว่ามีจำนวนนับนิ้วได้

และแต่ละคนล้วนมีอิทธิพลยิ่งใหญ่ ไม่ใช่สิ่งที่กลุ่มเล็กๆระดับสามอย่างพวกเขาจะสามารถล่วงเกิน

“ผู้อาวุโส พวกเรามีตาแต่ไม่เห็นไท่ซาน ขอผู้อาวุโสโปรดอย่าได้ถือสา”

ท่าทีของชายเคราแพะพลิกตลบ 180 องศา กลายเป็นคนโคตรนอบน้อม

นั่นเพราะเขารู้ดี ว่าพฤติกรรมก่อนหน้านี้ทำให้ซูเฉินขุ่นเคืองมาก หากไม่รีบแก้ไขให้ทันเวลา เกรงว่าวันนี้ยากจะรอดชีวิตไปได้

“บอกฉันมา ว่าพวกแกมีจุดประสงค์อะไรถึงมาหยุดพวกเรา?” ซูเฉินถามเสียงเรียบ

อีกฝ่ายจู่ๆก็เข้ามาหยุดเขา ทั้งๆที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน มีเป้าหมายอะไรกันแน่? จุดนี้ทำให้เขางงเล็กน้อย

“เรียนอาวุโส พวกเราแค่ต้องการสอบถามเกี่ยวกับที่อยู่ของใครบางคน ไม่ทราบท่านพอจะบอกได้หรือไม่” ชายเคราแพะตอบอย่างเร่งรีบ

“นี่พวกแกใช้วิธีสืบข่าวโดยการรังแกคนอ่อนแอหรือ? กลุ่มอินทรีทองของพวกแกมีนิสัยแบบนี้กันหมดเลย?” ซูเฉินแค่นเสียงฮึ่มๆในลำคอ

เมื่อเห็นว่าซูเฉินเริ่มโกรธแล้ว ชายเคราะแพะและคนอื่นๆหุบปากเงียบ

ในเวลาเดียวกัน ข้างในใจของพวกมันยังเกิดความรู้สึกเสียใจ

เพราะกลุ่มอินทรีสองมักทำเช่นนี้เสมอมา

ตอนแรก พวกเขาคิดว่าซูเฉินเป็นแค่ลูกพลับอ่อน สามารถบีบคลึงได้ตามต้องการ

แต่ไม่นึกฝันเลย ว่าจะดันไปเตะแผ่นเหล็กเข้า

หากรู้ว่าซูเฉินมีพลังระดับปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 3 เก็บงำไว้ พวกเขาคงหลีกลี้ ไม่กล้าเสนอหน้ามา ก็ใครเล่าอยากจะโยนตัวเองลงเหวแบบนี้?

“พวกแกกำลังตามหาใคร?” ซูเฉินถามเสียงทุ้มต่ำ

“เรียนอาวุโส พวกเรากำลังตามหาบุคคลคนนี้”

ว่าจบ ชายเคราแพะค่อยๆหยิบม้วนภาพวาดออกมา หลังจาคลี่มัน ก็ปรากฏใบหน้าอันงดงามของหญิงสาวทรงเสน่ห์ขึ้นมา

ซูเฉินรู้สึกว่าผู้หญิงในภาพนี้ดูคุ้นๆ หลังจากเพ่งมากจนถี่ถ้วน เขาก็จำเธอได้

เมื่อหลายวันก่อน ระหว่างเดินทางไปเมืองหวังเยว่ เขาบังเอิญพบกับพวกนิกายขวงฉี และในหมู่พวกมัน มีบุคคลในภาพรวมอยู่ด้วย

“เธอชื่ออะไร เป็นคนของกลุ่มอินทรีทองของพวกแกใช่รึเปล่า?” ซูเฉินถาม

หญิงงามทรงเสน่ห์ในภาพวาด ตกตายภายใต้น้ำมือเขา หากเรื่องนี้แพร่ออกไป อาจเพาะสร้างความแค้นต่อขุมกำลังที่อยู่เบื้องหลังเธอได้

เพื่อป้องกันไว้ก่อน เขาจะต้องรู้ข้อมูลของอีกฝ่ายให้ชัดเจน

10/10

Ep.318

“เธอคือโม่ไฉ่เหลียน ไม่ใช่คนจากกลุ่มอินทรีทองของพวกเรา แต่มาจากภูเขาฉีหลิน (ภูเขากิเลน)” ชายเคราแพะตอบตามสัตย์จริง

“ภูเขาฉีหลิน?” ซูเฉินทวนคำ พยายามเค้นความทรงจำ

ในวันนั้น ชายชราจากนิกายวูหยินได้กล่าวถึงขุมกำลังน้อยใหญ่ในเขตหยูหลินให้เขาฟัง แต่ไม่มีการเอ่ยถึงภูเขาฉีหลินเลย

เป็นไปได้ไหมว่าชายชราจากนิกายวูหยินจะไม่รู้จักภูเขาฉีหลิน?

หรือเป็นไอ้เคราแพะนี่กำลังหลอกลวงเขา?

“ที่ไปที่มาของของภูเขาฉีหลินคืออะไร?” ซูเฉินจ้องมองชายเคราแพะ

คำถามนี้ทำให้ชายเคราแพะลังเล ทว่าภายใต้สายตาของซูเฉิน สุดท้ายยอมกัดฟันเฉลย “เรียนอาวุโส ภูเขาฉีหลินคือนิกายลับ เป็นหนึ่งในสามขุมอำนาจสูงสุดในเขตหยูหลิน”

ซูเฉินชะงักไปครู่หนึ่ง เอ่ยถามว่า “แล้วอีกสองขุมกำลังชื่ออะไร?”

“หุบเขาหวางโหย่ว และขุนเขาเทียนฉี” คราวนี้ชายเคราแพะไม่ลังเลเลย

“หืม ..?”

ซูเฉินขมวดคิ้วเล้กน้อย เพราะเขาจำได้ ว่าชายชราจากนิกายวูหยิน เคยกล่าวว่า สามมหาอำนาจในเขตหยูหลิน ได้แก่ นิกายวูหยิน , นิกายขวงฉี และเมืองทงเทียน

แต่ทำไมพอฟังจากเจ้าเคราแพะ ดันกลายเป็นชื่ออื่นไปได้?

สรุปแล้วสองคนนี้ใครโกหก?

“งั้นขุมกำลังอย่างเมืองทงเทียนจัดอยู่ในระดับไหนของเขตหยูหลิน?” ซูเฉินลองเลียบเคียงถาม

“เมืองทงเทียนคือหนึ่งในขุมกำลังที่เข้มแข็งที่สุดในเขตหยูหลิน แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันคือกองกำลังสาขารองของภูเขาฉีหลิน” ชายเคราแพะอธิบาย

ถึงจุดนี้ สีหน้าของซูเฉินแปรเปลี่ยนไป ในสมองค่อยๆปั่นความคิด

เมืองทงเทียนมีผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ปกครองอยู่ แถมยังมีเลเวล 4 อีกจำนวนไม่น้อย กำลังรบไม่อ่อนแอเลย แต่แท้จริงพวกเขากลับเป็นเพียงสาขารอง เช่นนั้นภูเขาฉีหลินจะแข็งแกร่งถึงขนาดไหนกัน?

“ระดับฝึกตนที่แข็งแกร่งที่สุดของภูเขาฉีหลินคือขั้นไหน?” ซูเฉินถามอีกครั้ง

เร็วๆนี้เขาเพิ่งสังหารคนจากเมืองทงเทียนไปเป็นจำนวนมาก สร้างความบาดหมางกับเมืองทงเทียนอย่างลึกล้ำ

การเดินทางมายังเขตหยูหลินในครั้งนี้ ดีไม่ดีอาจเกิดพายุนองเลือดขึ้นในเมืองทงเทียน

แล้วแบบนี้ ภูเขาฉีหลินมีหรือจะนั่งดูอยู่เฉยๆโดยไม่ทำอะไรเลย?

คำตอบมันชัดเจน ภูเขาฉีหลินย่อมเข้าช่วยเหลือเมืองทงเทียนอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นสงครามนองเลือดคงอุบัติขึ้นอีกระลอก

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงจำเป็นต้องรู้ข้อมูลของภูเขาฉีหลิน เพื่อเตรียมรับมือล่วงหน้า

อีกประเด็นหนึ่งคือ ณ สถานชุมชนฮั่วหลาง เขาได้รู้จากปากผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 มาว่าเมืองทงเทียนกำลังพยายามเปิดทางผ่านเขตแดน

ไม่แน่ว่าเรื่องนี้อาจมีภูเขาฉีหลินอยู่เบื้องหลังก็ได้

“ผู้แข็งแกร่งที่สุดในภูเขาฉีหลินคือผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 และอาจมีมากกว่าหนึ่ง” ชายเคราแพะพูดไปพลาง ลอบสังเกตสีหน้าซูเฉิน

อย่างไรก็ตาม เขาพบว่าตั้งแต่ต้นจนจบ สีหน้าของซูเฉินไม่เปลี่ยนแปลงเลย ราวกับว่าซูเฉินไม่เห็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 อยู่ในสายตา

เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกงงงวยมาก

ต้องรู้นะว่า ผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 นั้นเกือบจะเป็นตัวตนระดับตำนาน แต่ละคนครอบครองอำนาจอันน่าสะพรึงกลัวที่มากพอจะล้างเมืองได้

แต่เหตุใดซูเฉินถึงไม่กลัว?

ผู้วิวัฒนาการเลเวล 5 ไร้เทียมทานในสายตาผู้อื่นก็จริง แต่สำหรับซูเฉินที่สามารถสังหารเต่าอสูรศักดิ์สิทธิ์เลเวล 5 ได้อย่างง่ายดายแล้ว กับอีแค่มนุษย์เลเวล 5 ไม่มีค่าให้กล่าวถึง

“งั้นก็หมายความว่า หุบเขาหวางโหย่วกับขุนเขาเทียนฉีก็มีเลเวล 5 อยู่ด้วยเหมือนกันใช่ไหม?” ซูเฉินถาม

“ใช่” ชายเคราแพะตอบกลับอย่างมั่นใจ

แต่ในตอนนั้นเอง ซูเฉินคล้ายฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ เอ่ยปากอีกครั้ง “จะว่าไป แกรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง? บอกความจริงมา ไม่งั้นอย่าโทษว่าฉันโหดร้าย!”

เขาค่อนข้างแปลกใจ เพราะสิ่งที่แม้แต่ชายชราแห่งนิกายวูหยินก็ยังไม่รู้ แล้วทำไมสมาชิกอ่อนแอของกลุ่มอินทรีทองถึงรู้ดีนัก?

“หัวหน้ากลุ่มของพวกเรามาจากภูเขาฉีหลิน เรื่องนี้เป็นเขาที่บอกมา” ชายเคราแพะตกใจกลัว

ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นเริ่มเค้นสอบถึงเรื่องอื่นๆ หมดธุระแล้วก็ฆ่ากลุ่มอินทรีทองทิ้ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด