ตอนที่แล้ว385 - สนทนาส่วนตัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป387 - วิกฤตฮั่นอันยิ่งใหญ่ครั้งใหญ่ 2

386 - ความสำคัญของลมปราณศักดิ์สิทธิ์สิบมังกรคชสาร


386 - ความสำคัญของลมปราณศักดิ์สิทธิ์สิบมังกรคชสาร

หลิวกุ่ยหยวน ยิ้มในขณะที่เขาจ้องมองที่เอี้ยนลี่เฉียง “ในฐานะศิษย์ของนิกายกระบี่ศักสิทธิ์ ใครไม่ต้องการที่จะเป็นลูกศิษย์จ้าวนิกาย? นั่นจะทำให้เจ้ามีโอกาสได้เป็นนักสู้ที่เก่งกาจที่สุดในโลก”

เอี้ยนลี่เฉียงเกาศีรษะและกล่าวว่า

“ท่านอาจารย์ท่านพูดถูกและข้ารู้ดี แต่ถ้าข้าเป็นศิษย์ของจ้าวนิกายแล้วความสัมพันธ์ของเราล่ะ?”

“มรดกของผู้พิทักษ์นิกายเป็นสิ่งที่ลึกลับที่สุดในนิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ สถานะของเจ้าในฐานะศิษย์ของจ้าวนิกายและตัวตนของเจ้าในฐานะผู้พิทักษ์นิกายจะไม่ขัดแย้งกัน

ในฐานะผู้พิทักษ์นิกายนิกายกระบี่ศักสิทธิ์ เป็นเรื่องปกติมากที่จะมีผู้เชี่ยวชาญที่มีสองอัตลักษณ์และสองอาจารย์ ก็เหมือนแสงสว่างและความมืด

อย่างไรก็ตามเนื่องจากเจ้าได้กลายเป็นผู้พิทักษ์นิกายกระบี่ศักสิทธิ์ ความรับผิดชอบนี้จะติดตามเจ้าไปเสมอ ในนิกายกระบี่ศักสิทธิ์ ผู้พิทักษ์นิกายและจ้าวนิกายไม่สามารถเป็นคนเดียวกันได้

แม้ว่าเจ้าจะได้รับการสนับสนุนจากจ้าวนิกายและผู้อาวุโสคนอื่นๆก็ตาม เจ้าไม่สามารถขึ้นเป็นจ้าวนิกายแห่งนิกายกระบี่ศักสิทธิ์ได้ ข้าต้องการให้เจ้าเข้าใจจุดนี้ตอนนี้!

เอี้ยนลี่เฉียงพยักหน้าจากนั้นก็ถามว่า

"จะเกิดอะไรขึ้นถ้าท่านผู้นำนิกายต้องการให้ข้าเรียนรู้วิชากำลังภายใน?"

“แน่นอนว่าเจ้าสามารถเรียนรู้มันได้ ถ้าไม่เช่นนั้นเจ้าจะตั้งหลักในนิกายกระบี่ศักสิทธิ์ได้อย่างไร?

เอี้ยนลี่เฉียงเบิกตากว้างและกล่าวว่า

“ข้าได้เรียนเคล็ดวิชาศักสิทธิ์สิบมังกรคชสารจากท่านแล้วไม่ใช่หรือ? หมายความว่าข้าสามารถเรียนรู้ทักษะการบ่มเพาะภายในที่แตกต่างกันสองประเภทในเวลาเดียวกันหรือไม่?

ทุกคนบอกว่าตันเถียนเป็นเหมือนหลุมที่ปลูกหัวไชเท้าได้เพียงต้นเดียวเท่านั้น ถ้าต้องการฝึกฝนวิชาใหม่ย่อมหมายความว่าต้องทำรายวิชาเดิมทิ้ง…”

“เจ้ารู้ไหมว่าทำไมทักษะการต่อสู้ที่เจ้าฝึกฝนคือเคล็ดวิชาศักสิทธิ์สิบมังกรคชสาร?” หลิวกุ่ยหยวนถามเอี้ยนลี่เฉียงด้วยรอยยิ้ม

“เรื่องนี้ข้าไม่เข้าใจจริงๆ!”

“มังกรและคชสารเป็นการอุปมาอุปไมยการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงของมังกรจะใหญ่หรือเล็กจะหายไปโดยที่คนภายนอกไม่สามารถสัมผัสได้

แต่หากเจ้าฝึกกำลังภายในชนิดอื่นเจ้าจะต้องทำลายวิชากำลังภายในเดิม อย่างไรก็ตามหากทักษะที่เจ้ากำลังบ่มเพาะคือ ทักษะศักดิ์สิทธิ์สิบมังกรคชสารเจ้าจะสามารถฝึกฝนทักษะต่างๆ ได้พร้อมๆกัน

หากทักษะศักดิ์สิทธิ์สิบมังกรคชสารไม่มีความสามารถดังกล่าว เชื้อสายของผู้พิทักษ์นิกายก็ไม่จำเป็นต้องปกปิดแล้ว”

“สิ่งที่อาจารย์พูดหมายความว่าหากข้าฝึกฝนวิชาศักดิ์สิทธิ์สิบมังกรคชสารไปเรื่อยๆต่อให้เป็นจ้าวนิกายก็ไม่สามารถตรวจพบใช่หรือไม่?”

"เป็นเช่นนั้น!" หลิวกุ่ยหยวนพยักหน้าแล้วกล่าวว่า

"ข้าเชื่อว่าภายในสองวันหลังจากที่เจ้าเสร็จสิ้นพิธีกราบอาจารย์ จ้าวนิกายจะถ่ายทอดทักษะเพลิงผลาญฟ้าให้กับเจ้า

ทักษะนี้เป็นหนึ่งในสามวิชากำลังภายในศักดิ์สิทธิ์ของนิกายกระบี่ศักสิทธิ์ ซึ่งเทียบเท่ากับทักษะห้าธาตุศักดิ์สิทธิ์และวิชาสู่ต้นกำเนิด!”

เอี้ยนลี่เฉียงมีคำถามเกี่ยวกับเคล็ดวิชาศักสิทธิ์สิบมังกรคชสาร คำถามนี้สามารถถามได้ก็ต่อเมื่อเขาได้พบกับหลิวกุ่ยหยวนเท่านั้น

“ในหัวข้อของเคล็ดวิชาศักสิทธิ์สิบมังกรคชสาร ข้าพบปัญหาที่อยากจะปรึกษากับอาจารย์มานานแล้ว!”

“บอกมา!”

“อืม ข้าก้าวเข้าสู่ขอบเขตนักรบขั้นสูงสุดเมื่อไม่กี่วันก่อน ข้าสังเกตเห็นว่าหลังจากที่ข้าฝึกฝนเคล็ดวิชาศักสิทธิ์สิบมังกรคชสารมันมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในตันเถียนของข้า…”

“การเปลี่ยนแปลงแบบไหน?”

“ข้าสังเกตเห็นพลังปราณที่สำคัญจากการฝึกฝนทักษะศักดิ์สิทธิ์สิบมังกรคชสารได้ควบแน่นเป็นช้างตัวใหญ่ภายในตันเถียนของข้า อาจารย์พอจะทราบสาเหตุหรือไม่”

“อะไรนะ!…”

ใบหน้าของหลิวกุ่ยหยวนเปลี่ยนเป็นตกใจอย่างสมบูรณ์ ดวงตาของเขาสั่นไหวในขณะที่เขาจ้องไปที่เอี้ยนลี่เฉียงราวกับว่าเขามองเห็นสัตว์ประหลาดตัวน้อย

“ปราณที่สำคัญในตันเถียนของเจ้าตอนนี้ได้ควบแน่นไปในรูปแบบคชสารแล้ว?”

เอี้ยนลี่เฉียงไม่เข้าใจว่าทำไมหลิวกุ่ยหยวนถึงตกใจขนาดนี้

“มันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดหรืออาจารย์?”

“ย้อนกลับไป ข้าต้องก้าวไปสู่ปรมาจารย์นักสู้ก่อน ลมปราณที่สำคัญในตันเถียนของข้าถึงสามารถรวมกันเป็นคชสารตัวแรกได้!”

“แล้วทำไมข้าถึงสามารถควบแน่นได้ในตอนที่เป็นนักรบขั้นสุดยอด?”

“การรวมร่างของช้างไม่เกี่ยวข้องกับขอบเขตของการฝึกยุทธ์ แน่นอนว่าพลังของเจ้าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากฝึกฝนทักษะศักดิ์สิทธิ์สิบมังกรคชสาร นี่คือผลของทักษะดังกล่าว

หากพลังปราณที่สำคัญภายในตันเถียนสามารถรวมร่างเป็นช้างได้หลังจากฝึกฝนเคล็ดวิชาศักสิทธิ์สิบมังกรคชสารแล้ว แสดงว่าพลังปัจจุบันของเจ้าจะเทียบได้กับช้างหนึ่งตัว!”

“สิ่งที่อาจารย์พูดหมายถึงคือพลังปราณที่สำคัญภายในตันเถียนของข้าที่ควบแน่นเป็นช้างนั้นเทียบเท่ากับการได้รับพลังของช้างตัวหนึ่งมาไว้ในร่างกายของข้า?”

"แน่นอน!" หลิวกุ่ยหยวนพยักหน้าจากนั้นเขาก็มองไปที่เอี้ยนลี่เฉียงด้วยท่าทางแปลก ๆและกล่าวว่า

“ข้าไม่คิดว่าตันเถียนของเจ้าจะสามารถสร้างช้างตัวแรกได้เร็วขนาดนี้ ดูเหมือนว่าเจ้ากับเคล็ดวิชาศักสิทธิ์สิบมังกรคชสารจะเข้ากันได้ดีทีเดียว นี่มันเกินกว่าความเข้าใจของคนทั่วไปโชคดีจริงๆที่ข้าค้นพบเจ้า!”

“ดังนั้น หากพลังของข้ายังคงเพิ่มขึ้นในอนาคต ตันเถียนจะยังรวมร่างช้างตัวใหม่ขึ้นมาได้อีกหรือไม่?”

"แน่นอน!"

“แล้วของอาจารย์มีช้างกี่ตัว?” เอี้ยนลี่เฉียงถาม

"ห้า!"

“นั่นเป็นระดับสูงสุดเหรอ?”

“แน่นอนว่าไม่ นี่เป็นเพียงขีดจำกัดพลังของร่างกายข้า เมื่อถึงขีดจำกัดนี้ ช้างในจุดตันเถียนจะไม่เพิ่มขึ้นแม้ว่าขอบเขตการบ่มเพาะจะก้าวหน้ามากแค่ไหนก็ตาม!” หลิวกุ้ยหยวนส่ายหัวและเผยสีหน้าราวกับนึกถึงความทรงจำ

“ข้าได้ยินจากอาจารย์ของข้าในตอนนั้นบอกว่าผู้พิทักษ์นิกายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ในตำนานเคยปรากฏมังกรสิบตัวและช้างสิบตัวขึ้นในตันเถียนของเขา

เมื่อมีพละกำลังของมังกรสิบตัวและช้างสิบตัวรวมกันเจ้าคิดว่าผู้พิทักษ์นิกายศักดิ์สิทธิ์คนนั้นแข็งแกร่งมากแค่ไหน

ว่ากันว่าเพียงการกระทืบเท้าครั้งเดียวของเขาก็สามารถทำให้แผ่นดินแยกออกได้ในตอนนั้นเขากลายเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของแผ่นดินชนิดที่ไม่มีใครเทียบ

แต่น่าเสียดายที่ชีวิตของคนเรานั้นมีอายุขัยจำกัดต่อให้เขาแข็งแกร่งมากกว่านี้เขาก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไป!”

“อย่างนี้นี่เอง!”

เอี้ยนลี่เฉียงก็รู้แจ้งในทันใดตอนนี้เขารู้แล้วว่าช้างสีทองตัวเล็กๆตัวนั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไรและมันให้ประโยชน์ประเภทใดแก่เขา

“เจ้าเพิ่งมีระดับการฝึกฝนเพียงแค่นักรบขั้นสูงสุดแต่เจ้าก็สามารถปรับแต่งรูปช้างในตันเถียนได้แล้ว บางทีในอนาคตเจ้าอาจจะไปถึงระดับสิบมังกรคชสารได้จริงๆ…”

“ข้าตั้งใจจะขอให้อาจารย์สอนทักษะในส่วนหลังของทักษะศักดิ์สิทธิ์สิบมังกรคชสารให้กับข้า!”

หลิวกุ่ยหยวนถอนหายใจยาวและกล่าวว่า

“ปัจจุบันจักรวรรดิฮั่นที่ยิ่งใหญ่ได้ตกสู่ขุมนรกและถูกรุมเร้าด้วยสงคราม เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับนิกายกระบี่ศักสิทธิ์ที่จะมีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน

ข้าไม่สามารถคาดเดาได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ดังนั้นข้าคิดว่าข้าควรบอกเคล็ดวิชาศักสิทธิ์สิบมังกรคชสารฉบับเต็มแก่เจ้า แม้ว่าเจ้าจะไม่สามารถใช้มันได้ในตอนนี้ก็ตาม!”

เอี้ยนลี่เฉียงหลับตาลงตามขั้นตอนแรก หลังจากนั้นพลังงานมหาศาลก็ไหลออกมาจากมือของชายชราเข้าสู่จิตใจของเอี้ยนลี่เฉียง สิ่งที่ตามมานั้นคือความรู้ที่ถูกบันทึกไว้ในตำราลมปราณศักดิ์สิทธิ์ 10 มังกรคชสาร

กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาน้อยกว่าห้านาที เมื่อหลิวกุ่ยหยวนยกมือออกจากศีรษะของเอี้ยนลี่เฉียง ทักษะศักดิ์สิทธิ์สิบมังกรคชสารก็ถูกสลักไว้ในใจของเอี้ยนลี่เฉียงแล้ว

“ขอบคุณอาจารย์ที่ส่งเสริม เฉียงจะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวังอย่างแน่นอน!” เอี้ยนลี่เฉียงจึงโค้งคำนับให้หลิวกุ่ยหยวนอย่างจริงใจอีกครั้ง

“ลุกขึ้นนี่คือสิ่งที่ข้าควรทำในฐานะอาจารย์ของเจ้า!” หลิวกุ่ยหยวนกล่าวขณะที่เขาประคองเอี้ยนลี่เฉียงให้ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด