ตอนที่แล้วบทที่ 25 รับคนเพิ่ม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 27 คนตาย

บทที่ 26 เงินกระดาษที่เผาไปเพียงครึ่งเดียว


บทที่ 26 เงินกระดาษที่เผาไปเพียงครึ่งเดียว (บทแถมฟรี)

“ผี! ผี! ผี! มีผี!” เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวหยุดลงอย่างกะทันหัน พร้อมกับร่างที่ร่วงหล่นกลายเป็นศพจมกองเลือดอยู่บนพื้น

“มีคนตาย! มีคนตาย!” ไม่นานก็มีเสียงกรีดร้องดังก้องไปทั่ว

“เขตหยิงเจ๋อ ดูเหมือนจะมีคดีการตายเกิดขึ้น” เฉินฮุ่ยเห็นข่าวแบบเรียลไทม์บนโทรศัพท์มือถือและรีบส่งไปยังโทรทัศน์ในบ้านทันที

หลังจากได้ยิน ทุกคนก็มาล้อมวงดูข่าวอยู่หน้าโทรทัศน์

“ผม นักข่าวจากสถานีโทรทัศน์ XXX เมือง X ตอนนี้เราอยู่ในเขตหยิงเจ๋อ เมื่อเช้าวันนี้ พลเมืองดีได้พบศพอยู่ที่ข้างถนนสายนี้” ในข่าว นักข่าวได้ชี้ไปยังถนนที่อยู่ด้านหลังด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

“เขตหยิงเจ๋อ ไม่น่าจะมีเส้นทางเดินรถของ ‘สาย 18’” ทุกคนจำเส้นทางเดินรถของรถเมล์ ‘สาย 18’ ได้เป็นอย่างดี ในบรรดาเส้นทางเหล่านั้นไม่มีเส้นทางไหนที่ผ่านเขตหยิงเจ๋อ

“บางทีอาจเป็นคดีการตายธรรมดา ที่ไม่เกี่ยวอะไรกับรถเมล์ ‘สาย 18’” จ้าวเจิ้นวางมือข้างหนึ่งบนหน้าอก อีกข้างจับที่คาง ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะพูดขึ้นช้าๆ

“หลายวันมานี้ สภาพจิตใจของพวกเราอ่อนล้าเกินไป” เหล่าสวีกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับสภาพจิตใจของทุกคน การสืบสวนในทุกวันนี้ ตราบใดที่มีสิ่งรบกวนเพียงเล็กน้อย ทุกคนก็จะนึกถึงรถเมล์ ‘สาย 18’ ทันที

“เฉียนฉิง นายคิดยังไง?”

ในบรรดาทุกคน ลู่เฉียนฉิงเป็นเพียงคนเดียวที่เฝ้าดูข่าวในทีวีโดยไม่พูดไม่จา ราวกับว่าเขากำลังมองหาบางอย่าง

ลู่เฉียนฉิงไม่ได้ตอบเย่ปิน แต่ยังคงมองดูรายงานข่าวอย่างจริงจัง

ในการรายงานข่าว แม้ว่าสถานที่เกิดเหตุจะถูกถ่ายด้วยก็ตาม แต่เนื่องจากมีเลือดมากเกินไป จึงถูกทำเป็นภาพโมเสค ทำให้ไม่สามารถมองเห็นภาพในที่เกิดเหตุได้ชัดเจน

“เราต้องไปที่เกิดเหตุ” พอจบข่าว ลู่เฉียนฉิงก็หันไปพูดกับเย่ปิน

เย่ปินพยักหน้าตอบรับอย่างไม่ลังเล หลังจากนั้นทีมก็ขับรถไปยังที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเฉินฮุ่ยนัก ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ทุกคนก็มาถึงที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุถูกตำรวจปิดกั้นแล้วอย่างสมบูรณ์ และบริเวณรอบนอกก็ถูกกลุ่มนักข่าวปิดล้อมไว้ หากเย่ปินไม่รู้จักกับตำรวจที่ทำคดี การเข้าไปดูที่เกิดเหตุคงจะเป็นปัญหาใหญ่

“เย่จื่อ นายมาที่นี่ทำไม?” ตำรวจอายุประมาณ 35-36 ปีที่อยู่ในที่เกิดเหตุ พอเห็นเย่ปินกับทีมก็มีสีหน้าประหลาดใจและงุนงง

ตำรวจวัยกลางคนคนนี้มีชื่อว่าเหรินเจิ้งหยุน เขาอยู่ในตำแหน่งเดียวกับตำแหน่งเดิมของเย่ปิน คือเป็นหัวหน้าทีมสืบสวน และมีสถานะสูงในกองกำลังตำรวจ ครั้งหนึ่งเหรินเจิ้งหยุนกับเย่ปินเคยทำงานร่วมกันในการไขคดีฆาตกรรม จากนั้นพวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนกัน แต่ทั้งคู่ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน เนื่องจากแต่ละคนต่างยุ่งอยู่กับงาน

“หยุนเกอ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เย่ปินยิ้มและพูดกับเหรินเจิ้งหยุนอย่างสุภาพ ทั้งคู่เคยร่วมกันทำคดี และเย่ปินก็ได้เรียนรู้มากมายจากเหรินเจิ้งหยุน

“ลมอะไรหอบมาล่ะเนี่ย?” เหรินเจิ้งหยุนถามด้วยความสงสัย

“จริงสิ หยุนเกอ ผมกำลังทำคดีนึงอยู่” เย่ปินไม่ได้ปิดบังเหรินเจิ้งหยุน เขารู้สึกว่า ถ้าให้เหรินเจิ้งหยุนช่วยก็อาจค้นพบเบาะแสใหม่บางอย่าง

“คดีรถเมล์ผีที่อัพโหลดอยู่บนอินเตอร์เน็ตใช่ไหม? ได้ยินว่านายลาออกจากงานเพราะเรื่องนี้” อันที่จริงเหรินเจิ้งหยุนเคยได้ยินเรื่องของเย่ปินอยู่ไม่มากก็น้อย

เย่ปินตอบสนองด้วยรอยยิ้มเหยเก “เฮ้อ เรื่องมันยาว”

เหรินเจิ้งหยุนตบไหล่เย่ปินเบาๆ ในฐานะตำรวจเหรินเจิ้งหยุนเข้าใจภาระหน้าที่ความรับผิดชอบของเย่ปินดีว่าหนักขนาดไหน

หลังจากทักทายกันไม่กี่คำ เย่ปินก็อธิบายความตั้งใจของเขาให้เหรินเจิ้งหยุนฟัง และยังเตือนเหรินเจิ้งหยุนเกี่ยวกับรถเมล์ ‘สาย 18’ ด้วย

หลังจากฟังเรื่องราวของรถเมล์ ‘สาย 18’ สีหน้าของเหรินเจิ้งหยุนก็มืดมนลงเช่นกัน

“ฉันเข้าใจคดีนี้อยู่บ้าง แต่นึกไม่ถึงว่ามันจะเลวร้ายขนาดนี้” แม้เหรินเจิ้งหยุนจะไม่เชื่อถือเรื่องราวเหนือธรรมชาติ แต่เขาเชื่อคำพูดของเย่ปิน

หลังจากเย่ปินคุยกับเหรินเจิ้งหยุน เขาก็ได้รับอนุญาตให้พาลู่เฉียนฉิงเข้ามาในที่เกิดเหตุได้

ในที่เกิดเหตุ ศพของผู้เสียชีวิตได้ถูกนำออกไปแล้ว เหลืออยู่เพียงรอยเลือดที่สาดกระเซ็นอยู่ไปทั่ว ทั้งที่ตรงจุดเกิดเหตุ หัวมุมถนน และที่กำแพงปูน ทำให้สามารถจินตนาการได้ว่า การตายของผู้เสียชีวิตจะน่าสังเวชขนาดไหน

ลู่เฉียนฉิงตรวจสอบบริเวณกำแพงปูนโดยรอบอย่างละเอียด ในที่สุดก็พบว่าที่ขอบกำแพงปูนมีกระดาษยันต์ที่ยังไหม้ไม่หมด เขาหยิบกระดาษยันต์ที่เหลืออยู่ขนาดเท่าหัวแม่มือขึ้นมาดู ลู่เฉียนฉิงก็เข้าใจแล้วว่าคดีนี้คงจะไม่ธรรมดา

หลังจากพูดคุยกับเหรินเจิ้งหยุนแล้ว เย่ปินกับทีมก็ร่วมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย

“เฉียนฉิง นายพบอะไรแล้วเหรอ?” เมื่อเห็นลู่เฉียนฉิงนั่งย่อตัวอยู่ที่มุมกำแพงปูน เย่ปินจึงเดินไปข้างๆและถามขึ้นด้วยความสงสัย

ลู่เฉียนฉิงยื่นกระดาษยันต์ที่เผาไหม้ไม่หมดให้เย่ปินดู พอเย่ปินเห็นกระดาษยันต์ ดวงตาของเขาก็ดูจริงจังขึ้นทันที “นี่มัน!”

“ยันต์นี้มีชื่อว่า ‘ยันต์ปราบผี’ ใช้สำหรับปราบผีอาฆาต”

“ผีอาฆาต? มีผีเกี่ยวข้องกับคดีนี้ด้วยเหรอเนี่ย?” เย่ปินถาม ส่วนเหรินเจิ้งหยุนที่อยู่ด้านข้างพอได้ยินสิ่งที่ลู่เฉียนฉิงพูด สีหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที

“นอกจากผู้เสียชีวิตแล้ว คุณพบอะไรในบริเวณใกล้เคียงบ้างไหม?” ลู่เฉียนฉิงไม่ตอบคำถามของเย่ปิน แต่กลับไปตั้งคำถามกับเหรินเจิ้งหยุน

สำหรับลู่เฉียนฉิง ด้วยการแนะนำของเย่ปินก่อนหน้านี้ ทำให้เหรินเจิ้งหยุนไม่กล้าดูถูกเขา เพราะอย่างไรก็ตาม ขโมยผลงานมาจากเว็บ ThaiNovel ในสังคมปัจจุบันมีคนไม่มากที่เข้าใจเรื่องของภูติผีวิญญาณ

“นอกจากของส่วนตัวของผู้เสียชีวิตแล้ว ก็ไม่พบอะไรอีก”

พอลู่เฉียนฉิงได้ยินก็ไม่ได้ถามต่ออีก เขามองไปรอบๆเหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่าง ประมาณ 10 นาทีต่อมา ลู่เฉียนฉิงก็ไปรอทุกคนอยู่ในที่โล่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ตรงนั้นมีหลุมลึกประมาณ 1 ฟุต และมีถุงพลาสติกสีดำอยู่ในหลุมนั้น

หลังจากเปิดถุงพลาสติกออกดู ทุกคนก็ประหลาดใจที่พบว่า ภายในถุงมี ‘เงินกระดาษ’ ที่เผาไหม้ไปเพียงครึ่งเดียวอยู่ภายใน

“ทำไมเงินกระดาษพวกนี้ถึงถูกเผาไปเพียงครึ่งเดียวล่ะ?” เฉินฮุ่ยยื่นหน้าไปดูในถุงพลาสติกสีดำ แล้วก็ต้องแปลกใจ เมื่อเห็นว่าเงินกระดาษเหล่านั้น ถูกเผาไปเพียงครึ่งเดียว อีกครึ่งไม่มีความเสียหาย

เห็นแบบนั้นทุกคนก็รู้สึกแปลกใจ แล้วสายตาของทุกคนก็หันไปมองลู่เฉียนฉิง

ลู่เฉียนฉิงมองเงินกระดาษที่อยู่ในถุงด้วยสีหน้ามืดมน

“เฉียนฉิง เกิดอะไรขึ้น? พูดให้ฟังได้ไหม?” เย่ปินถาม

ลู่เฉียนฉิงไม่ตอบ แต่สายตายังคงจับจ้องไปยังเงินกระดาษที่อยู่ในถุง เนิ่นนานหลังจากนั้น เขาก็ส่ายหน้า “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมพบเงินกระดาษที่ถูกเผาเพียงครึ่งเดียวแบบนี้ ผมไม่มีอะไรจะพูด” ลู่เฉียนฉิงขมวดคิ้ว เขาไม่รู้ว่าทำไมเงินกระดาษเหล่านี้ถึงได้ถูกเผาไปเพียงครึ่งเดียว

พอได้ยินคำตอบของลู่เฉียนฉิง ทุกคนก็หมดคำพูด หากลู่เฉียนฉิงยังไม่รู้ แล้วคนอื่นจะรู้ได้อย่างไร

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด