ตอนที่ 16

เมื่อกลับมาถึงบ้านวีก็วางถุงผ้าไว้ที่โต๊ะก่อนจะหยิบซองสีขาวขึ้นมาเปิดดู ซึ่งด้านในนั้นมีเงินค่าล่วงเวลา วีเอาเงินออกมานับก็พบว่ามันมีทั้งหมดหมื่นห้าซึ่งถือว่าได้เยอะพอสมควรสำหรับนายแบบหน้าใหม่อย่างเขา

แต่วีก็พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมถึงได้เยอะนัก เนื่องจากงานนี้เป็นโปรเจคที่ค่อนข้างใหญ่เพราะร่วมงานกับแบรนด์ชั้นนำของต่างประเทศ ดังนั้นค่าจ้างหรือค่าถ่ายงานล่วงเวลาก็น่าจะได้มาเยอะพอสมควร

อีกอย่างก็คือดูเหมือนว่าลูกค้าของพี่ตุ๊กจะเป็นพวกกระเป๋าหนักด้วยล่ะนะทางนัั้นคงจะทุ่มงบให้เยอะอยู่พอสมควรเลยถึงได้สามารถดึงนางแบบตัวท๊อปอย่างเบลมาร่วมงานได้

พอคิดถึงเบลแล้ววีก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงค่าล่วงเวลาที่เบลได้ มันคงเยอะกว่าเขาหลายเท่าเลยแหละอาจจะถึงแสนก็ได้ล่ะมั้ง

เมื่อคิดได้แบบนั้นวีก็ถอนหายใจออกมาทันที

“มีชื่อเสียงนี่มันดีจังน้า ~”

จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมา

“ว่าไปนั่น”

คนที่เคยเป็นดาราเบอร์ใหญ่อย่างวีนั้นรู้อยู่แล้วล่ะว่าการเป็นคนดังนั้นไม่ง่าย แต่เอาเข้าจริงหากคุณมีโชคและจังหวะที่ดีพอคุณก็สามารถมีชื่อเสียงได้แน่นอนว่าในทางที่ดีอ่ะนะ

แต่การจะรักษาชื่อเสียงเหล่านั้นเอาไว้นะสิที่ยาก วีเคยเห็นดารามากมายที่โด่งดังในชั่วข้ามคืนและดับลงในข้ามวันมามากไม่ว่าจะทั้งในและนอกประเทศ

อย่างตัวของวีเองนั้นก็พบเจอกับเรื่องราวมากไม่น้อยเช่นกัน แต่เรื่องเหล่านั้นก็เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้นไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากคอยมีบริษัทจัดการให้อยู่

วันนี้วีเหนื่อยมามากพอแล้วเขาจึงถอดเสื้อผ้าและไปอาบน้ำก่อนจะกลับมานอน

เช้าวันต่อมาวีเดินลงมาด้านล่างพร้อมกับซองที่มีเงินอยู่ด้านใน จากนั้นวีก็วางซองไว้ข้างหน้าแม่พร้อมกับบอกว่า

“แม่ครับอาจจะช้าไปนิด แต่นี่ถือเป็นเงินก้อนแรกที่ผมให้”

แม่ของวีที่กำลังปลอกผลไม้อยู่นั้นก็ได้แต่มองวีด้วยสีหน้าประหลาดใจก่อนหยิบซองขึ้นมาเปิดดูและนับจำนวนเงินด้านใน เมื่อนับเสร็จแม่ของวีก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ

“นี่คือเงินที่ได้จากง่ายถ่ายแบบเมื่อวานงั้นเหรอ ?”

วีพยักหน้า

“อันนี้แค่ค่าล่วงเวลาน่ะครับ ส่วนค่าจ้างเต็มๆได้มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”

แม่ของวีที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้้าก่อนจะผลักซองกลับมาให้วีพร้อมกับบอกว่า

“เงินของลูก ลูกก็เก็บมันไว้ใช้เถอะ ถ้าไม่รู้จะเอาไปซื้ออะไรก็ซื้อเสื้อผ้าหรือของที่อยากได้ก็ได้”

วีได้ยินแบบนั้นก็มองแม่เล็กน้อยก่อนจะถามกลับ

“แม่ไม่เอาเงินนี้จริงอ่ะ ?”

“แม่ไม่เอาหรอก แม่เอาไปก็ไม่รู้จะซื้ออะไรอีกอย่างแม่ก็มีรายได้จากที่ร้านอยู่แล้วด้วย ถึงแม้จะไม่มีแม่ก็ไถเอาจากพ่อก็ได้”

พ่อของวีที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่ได้ยินก็พูดขึ้นมาทันที

“นั่นเงินพ่อนะแม่ ~”

แม่ของวีตอบกลับอย่างรวดเร็ว

“เงินพ่อก็เหมือนกับเงินของแม่นั่นแหละ”

เมื่อเห็นว่าเถียงไปก็ไม่ชนะพ่อถึงขอยอมแพ้

“จ้าๆ”

จากนั้นแม่ของวีก็พูดขึ้นว่า

“เอางี้แล้วกัน ถ้าหากลูกอยากจะให้เงินกับแม่จริงๆแม่ก็จะเก็บไว้ เอาไว้เป็นค่าเรียนมหาลัยของลูกก็แล้วกันนะวี”

วีที่เห็นแม่พูดแบบนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าแม่ของเขาไม่มีทางจะเอาเงินหมื่นนั่นไปใช้แน่ๆ วีจึงได้แต่ถอนหายใจและพยักหน้าเท่านั้น เขาไม่อยากจะบอกเลยว่าหากในอนาคตเขาได้เข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัวแล้วล่ะก็อย่าว่าแต่ค่าเรียนมหาลัยเลยต่อให้ส่งยัยวาไปเรียนต่างประเทศก็ไม่มีปัญหา

หลังจากจัดการเรื่องเงินเรียบร้อยแล้ววีก็แต่งตัวพร้อมกับออกไปวิ่งเหมือนปกติ โดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้โลกโซลเชียลกำลังลุกเป็นไฟจากการกระทำของเขากับเบลเมื่อวาน

ทันทีที่ไลฟ์นั้นถูกตัดจบไปแบบดื้อก็ได้มีเหล่าแฟนคลับมากมายของเบลต่างเข้าอินเทอร์เน็ตเพื่อไปหาข้อมูลของวีกันอย่างบ้าคลั่ง บางคนถึงกับเอาเรื่องนี้ไปลงเพจเฟสบุ๊คเลยทีเดียว

เรื่องของนักร้องหนุ่มหล่อที่โผล่มาในไลฟ์ของเบลได้กลายเป็นกระแสทันทีมีผู้คนมากมายต่างสงสัยว่าวีนั้นเป็นใคร และพยายามสืบหาตัวตนของวีกันให้วุ่น

แต่สิ่งที่พวกเขาพบเจอก็มีเพียงกระทู้ของบอร์ดแห่งหนึ่งเท่านั้นที่บอกเรื่องเล่าของวีเอาไว้สั้นๆว่า เขาเป็นนักร้องของร้านอาหารที่ชื่อว่า ‘บ้านอาหารริมน้ำ’ ที่จะมาร้องเพลงทุกวันพฤหัสและเสาร์อาทิตย์ และเคยขึ้นปกนิตยสารแฟชั่นคู่กับเบลเพียงเท่านั้น

แม้เหล่านักสืบออนไลน์จะพยายามหาข้อมูลกันขนาดไหนก็หาข้อมูลของวีไม่เจอเลย ทั้งบัญชีในโลกโซลเชียล รูปภาพตามอินเทอร์เน็ต แล้วข่าวของเขา ไม่มี ไม่มีอะไรเลย

เหล่านักสืบถึงกับงุนงง เป็นไปได้ยังไงกันคนที่หน้าตาดีขนาดนั้นและร้องเพลงเพราะขนาดนี้ถึงไม่มีเรื่องราวของเขาเลย อย่างน้อยก็น่าจะมีบัญชีเฟสบุ๊คหรือไอจีบ้างสิ แต่นี่ไม่มีอะไรเลย

แน่นอนว่าพวกเขาคงหาไม่เจอหรอกเพราะวีนั้นไม่เล่นไอจี ส่วนเฟสบุ๊คนั้นวีก็ตั้งเป็นแบบส่วนตัวเอาไว้ รูปโปรไฟล์ก็เป็นรูปของวีในสมัยยังอ้วนอยู่ ไม่มีทางที่พวกเขาจะคิดว่าเด็กอ้วนในรูปนั้นเป็นวีอย่างแน่นอนใช่ไหมล่ะ ?