ตอนที่แล้วบทที่ 371 สืบหาข้อมูล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 373 วิธีง่ายๆ

บทที่ 372 โลกมันกลม(ตอนฟรี)


บทที่ 372 โลกมันกลม

สีหน้าของฮั่นจงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและกล่าวว่า “ถ้าฉันเดาไม่ผิด คนที่นายเพิ่งพูดถึงกับคนที่ฉันคิดน่าจะเป็นคนคนเดียวกัน แม่งเอ๊ย! ใครจะคิดว่าไอ้คนงี่เง่าปัญญาอ่อนอย่างเว่ยเฉียงจะเป็นลูกชายของเว่ยฮั่นเซิง...”

สีหน้าของจางเล่ยดูตึงเครียดขึ้นมาทันที เขาขมวดคิ้วแล้วถามว่า “ฮั่นจง เว่ยฮั่นเซิงคนนั้นมีภูมิหลังที่ใหญ่โตมากเลยเหรอ?”

ฮั่นจงเบ้ปาก สีหน้าของเขาดูเหยียดหยามเล็กน้อย “ใหญ่โตอะไรล่ะ! เอาเป็นว่าตัวเว่ยฮั่นเซิงเองไม่ได้มีอะไรที่เรียกว่าใหญ่โตได้เลย สิ่งที่พอจะเป็นหน้าเป็นตาให้เขาก็คงจะเป็นบริษัทก่อสร้างเป๋าต่านั่นแหละ ตัวเขาเองก็เป็นแค่รองประธานเท่านั้น แต่กลับทำตัวใหญ่โตเกินเบอร์ ก่อนหน้านี้เขายังมาขอความร่วมมือกับพ่อของฉันอยู่เลย เหมือนว่าจะมาลงหลักปักฐานที่เจียงโจว ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอยู่”

หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง ฮั่นจงก็พูดต่อว่า “คนคนนี้ถือว่าตัวเองเป็นรองประธานบริษัทของรัฐวิสาหกิจ เลยเชิดหน้าชูคอจนเคยตัว จนกระทั่งเจอพ่อของฉันปิดประตูใส่หน้าเข้าไปสองครั้ง ก็ดูเหมือนจะเป็นคนดีขึ้นมาได้หน่อย แต่ก็นะ การเสแสร้งแบบเด็กๆพ่อฉันดูออก!”

พวกเขาหลายคนถึงกับหัวเราะพรวดออกมาทันทีเมื่อได้ยินฮั่นจงพูดถึงเว่ยฮั่นเซิงซะไม่เหลือดี

“จี้เฟิง ในเมื่อเว่ยเฉียงเป็นลูกชายของเว่ยฮั่นเซิงก็ไม่มีอะไรน่ากลัวแล้ว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันจัดการเรื่องนี้ก็แล้วกัน นายคอยดูก็พอว่าฉันจะสั่งสอนเขายังไง!” ฮั่นจงแค่นเสียงอย่างไร้ความปรานี

อันที่จริงฮั่นจงโกรธมาก

ไม่ต้องพูดถึงว่าก่อนหน้าจี้เฟิงช่วยเหลืออะไรเขาบ้าง เอาแค่ว่าถ้าพวกเขาเป็นแค่เพื่อนร่วมห้องธรรมดาๆ แล้วจี้เฟิงมาถูกรังแกแบบนี้ ฮั่นจงก็จะไม่นั่งดูเฉยๆอย่างแน่นอน

ในแวดวงของพวกเขา สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือหน้าตาและการให้เกียรติ เว่ยเฉียงทำเรื่องสกปรกอย่างการใช้เงินฟาดหัวให้พนักงานของมหาวิทยาลัยมาเป็นพวก ใช้เรื่องบัตรรับรองที่พักมากดดันเพื่อสร้างโอกาสในการเข้าหาและจีบถงเล่ยแฟนของจี้เฟิง นี่มันเป็นการตบหน้าพี่น้องของฮั่นจงต่อหน้าฮั่นจงชัดๆ!

ไม่ต้องพูดถึงว่าจี้เฟิงมอบบุหรี่ชนิดพิเศษให้กับฮั่นจงโดยไม่คิดเล็กคิดน้อย เรื่องนี้ทำให้ฮั่นกรุ๊ปได้รับผลประโยชน์ไปไม่น้อยเลย ด้วยเหตุผลเหล่านี้ถ้าฮั่นจงยังทนเฉยอยู่ได้ก็คงจะแปลก!

จี้เฟิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและพูดว่า “นายจะจัดการกับเขายังไง? แล้วมันจะไม่ส่งผลกระทบต่อตระกูลของนายเหรอ?”

เป็นเรื่องดีที่ฮั่นจงเต็มใจที่จะช่วยเหลือ แต่จี้เฟิงก็ไม่ต้องการให้เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของฮั่นกรุ๊ป จากที่ฟังฮั่นจงเล่าดูเหมือนพวกเขาจะมีความเกี่ยวข้องกันในด้านธุรกิจ ถ้าฮั่นจงลงมือทำอะไรลงไป ก็น่าจะส่งผลกระทบบ้างอยู่ดีไม่มากก็น้อย

จี้เฟิงจำได้ว่าฮั่นจงเคยพูดไว้ว่า เรื่องภายในของฮั่นกรุ๊ปไม่ได้สามัคคีกันมากนัก แม้ว่าพ่อของฮั่นจงจะเป็นผู้ถือหุ้นที่ใหญ่ที่สุด แต่ฮั่นจงก็ยังคงต้องถูกตรวจสอบถึงความเหมาะสมในฐานะผู้สืบทอดต่ออยู่ดี

แล้วถ้าหากเรื่องนี้ทำให้หุ้นส่วนรายอื่นๆของฮั่นกรุ๊ปนำมาเป็นประเด็น ความขัดแย้งภายในอาจจะปะทุขึ้นก็ได้

ฮั่นจงโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ “ไม่เป็นไร การจะร่วมมือกันหรือไม่มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แล้วที่สำคัญตัวฉันเองก็ไม่ได้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของฮั่นกรุ๊ปอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามมีตั้งหลายวิธีที่จะใช้จัดการกับเว่ยเฉียง!”

เมื่อเห็นว่าฮั่นจงพูดด้วยความแน่วแน่มั่นใจขนาดนี้ จี้เฟิงก็ไม่คัดค้านอะไรอีก เขาแค่ยิ้มและกล่าวว่า “ขอแค่ไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งภายในบริษัทของนายพอแล้ว!”

ฮั่นจงหวังดีและมีความกระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือขนาดนี้ จี้เฟิงย่อมไม่สามารถปฏิเสธน้ำใจและความหวังดีของเขาได้

แต่ในใจลึกๆจี้เฟิงก็ไม่เคยคิดที่จะปล่อยเว่ยเฉียงและเว่ยเฉินหลิงไปง่ายๆอยู่แล้ว

การวางแผนเพื่อรับมือกับเว่ยเฉียงเป็นเพียงแค่การคิดดอกเบี้ยเท่านั้น นอกจากนี้จี้เฟิงไม่ได้คาดหวังว่าจะให้ฮั่นจงถึงขนาดโค่นล้มเว่ยฮั่นเซิง สุดท้ายแล้วอีกฝ่ายก็เป็นถึงรองประธานบริษัทของรัฐวิสาหกิจ เมื่อใดก็ตามที่ฮั่นกรุ๊ปมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทก่อสร้างเป๋าต่ามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ฮั่นจงจะเข้าไปจัดการ

รองประธานคนนี้ยังถือว่าเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลอยู่บ้าง อย่างน้อยการเอาคืนเล็กๆน้อยไม่สามารถทำให้เว่ยเฉียงรู้สึกเจ็บปวดได้ เว้นเสียแต่ว่าทางนั้นมีบาดแผลที่ร้ายแรงเก็บซ่อนเอาไว้อยู่

ดังนั้นจี้เฟิงจึงมีแผนของตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าคำพูดบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้

อันที่จริงถ้าเว่ยเฉียงแค่ต้องการจะจีบถงเล่ย แม้ว่าจี้เฟิงจะไม่พอใจ แต่เขาก็จะไม่ทำอะไรที่มันมากเกินไป เพราะการที่ผู้ชายจะชอบจะหลงรักผู้หญิงจากรูปร่างหน้าตามันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ดังนั้นจี้เฟิงจึงไม่ใช่คนไร้เหตุผล

แต่เว่ยเฉียงกลับใช้วิธีสกปรกต่างๆนานาเพื่อบีบบังคับถงเล่ยซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาทำถึงขนาดใช้เงินฟาดหัวพนักงานแผนกสำนักงานทั่วไปของมหาวิทยาลัยเพื่อให้คนเหล่านั้นเข้าร่วมแผนชั่วของเขาด้วย นี่คือสิ่งที่จี้เฟิงทนไม่ได้

ในเมื่อเว่ยเฉียงชอบเล่นเกมแบบนี้นักล่ะก็ จี้เฟิงก็จะเล่นด้วย เหตุผลที่อีกฝ่ายกล้าหยิ่งยโสก็เพราะว่าพ่อของตัวเองเป็นรองประธานบริษัทของรัฐวิสาหกิจและมีลูกพี่ลูกน้องเป็นรองประธานสภานักศึกษาไม่ใช่หรือ?

“ก๊อก! ก๊อก!” เสียงเคาะประตูดังขึ้น

พนักงานเสิร์ฟหลายคนเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วและเป็นระเบียบ พวกเขาทำการเสิร์ฟอาหารอย่างชำนาญ

จี้เฟิงยิ้มและพูดว่า “มาๆ เลิกคิดเรื่องนี้แล้วมากินข้าวกันก่อนดีกว่า!”

“เหอะ! ไอ้ลูกหมาเว่ยเฉียงไม่ได้มีค่าพอจนถึงขนาดส่งผลกระทบต่อความอยากอาหารของฉันหรอกนะ!”  เมื่อจางเล่ยเห็นปลานึ่งอยู่ตรงหน้า ดวงตาของเขาก็เป็นประกายและหัวเราะอย่างชั่วร้าย

“พี่รู้อะไรอย่างอื่นบ้างมั้ยเนี่ยนอกจากเรื่องกิน!” เมื่อเห็นพี่ชายของเธอทำท่าทางตะกละตะกลาม เธอก็ถลึงตาใส่เขาด้วยความโมโห

จางเล่ยไม่กล้าพูดอะไรอีก เขารีบยกแก้วขึ้นแล้วตะโกนว่า “มาๆ ชนแก้ว!”

คนอื่นๆ ต่างยกแก้วขึ้นมาอย่างเงอะๆงะๆ

จี้เฟิงก็ยกแก้วขึ้นมา เขายิ้มและพูดว่า “ดื่มๆ!”

ทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนนอก พวกเขารู้ว่าความจริงแล้วจางเล่ยไม่ได้กลัวถงเล่ย แต่เป็นเพราะเขารักน้องสาวคนนี้ของเขามากต่างหาก แต่หลังจากที่เห็นถงเล่ยกับจางเล่ยทะเลาะกับพอหอมปากหอมคอแล้ว บรรยากาศก็กลับมาครึกครื้นขึ้นอีกครั้ง ทุกคนดื่มกันคนละแก้วสองแก้วแล้วก็เริ่มลงมือทานอาหาร

แต่เสียงอึกทึกครึกโครมจากห้องข้างๆ กลับดังขึ้นเรื่อยๆ

“พวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่? คิดว่าที่นี่คือร้านแผงลอยข้างถนนหรือยังไง?” ตู้เส้าเฟิงตวาดอย่างเกรี้ยวกราด “เผลอๆตามร้านข้างถนน ยังไม่มีใครทำตัวไร้มารยาทแบบนี้เลยมั้ง!”

ทุกคนอดขมวดคิ้วไม่ได้ เพราะเสียงจากห้องข้างๆนั้นดังจริงๆ มันเป็นเสียงพูดคุยและหัวเราะอย่างเต็มที่ ไม่มีจิตสำนึกที่จะควบคุมระดับเสียงเลย แม้แต่เสียงตบโต๊ะก็ยังมี ซึ่งดูเหมือนพวกเขาจะสนุกกับมันมาก

“อดทนหน่อยแล้วกัน คนอื่นก็เป็นลูกค้าเหมือนกับเรา พวกเขาคงจะสนุกกันเต็มที่เลยละมั้ง!” จี้เฟิงไม่สนใจเรื่องพวกนี้ อย่างน้อยก็ยังมีกำแพงกั้นอยู่ เสียงก็ดังในระดับที่ยังพอทนได้

แต่ทันทีที่เขาพูดจบ สีหน้าของเขาก็มืดครึ้มลง

เมื่อคนอื่นๆเห็นสีหน้าของจี้เฟิงที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน พวกเขาก็รู้สึกตกใจและถามทันที “มีอะไรเหรอ?”

จี้เฟิงชี้ไปที่ผนังและพูดด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม “ฟังดู!”

ทุกคนเงียบลงทันทีและฟังเสียงการพูดคุยของห้องข้างๆอย่างตั้งใจ

เนื่องจากมีกำแพงกั้นอยู่ บวกกับอีกฝ่ายดูเหมือนจะดื่มมากไปหน่อย แม้ว่าพวกเขาจะพูดคุยกันเสียงดังมาก แต่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่

แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังสามารถจับใจความสำคัญได้บ้างและได้ยินชื่อสองสามชื่อ ถงเล่ย จี้เฟิง!

“ฉันจะออกไปดู!” จางเล่ยเปิดประตูและเดินออกไปทันที

จี้เฟิงรีบลุกขึ้นยืนและเดินตามออกไป

ส่วนคนอื่นๆ แม้ว่าพวกเขาจะไม่แน่ใจว่าคนจากห้องข้างๆพูดว่าอะไรบ้าง แต่พวกเขาก็แน่ใจว่าหนึ่งในนั้นต้องมีเว่ยเฉียงด้วยอย่างแน่นอน!

แต่จี้เฟิงกลับนึกไม่ถึงว่าเขาจะมาเจอกับเว่ยเฉียงที่นี่ เขาเพิ่งจะคิดหาวิธีจัดการกับเว่ยเฉียงอยู่เมื่อครู่ โลกมันกลมจริงๆ!

เมื่อเห็นว่าจางเล่ยกับจี้เฟิงออกไปแล้ว คนอื่นๆที่เหลือก็รีบตามพวกเขาออกไปทันที

ทันทีที่พวกเขามาถึงประตูห้องข้างๆ เสียงหัวเราะอย่างมีเจตนาร้ายแอบแฝงก็ดังออกมา บางคนก็ลุกขึ้นมาและตบโต๊ะอย่างแรง

“ผมว่านายน้อยเว่ยจะโหดร้ายเกินไปแล้ว ฮ่าๆๆ...” เห็นได้ชัดว่าคนคนนี้ดื่มมากเกินไป เวลาพูดแล้วเหมือนลิ้นมันใหญ่คับปาก แต่จี้เฟิงและคนอื่นๆที่ยืนอยู่หน้าประตูก็ฟังเข้าใจได้อย่างชัดเจน “โพสต์ประกาศว่ามีความผิดทางนัยอย่างเปิดเผย วิธีนี้นี่โหดจริงๆ! ถ้าสาวน้อยที่ชื่อถงเล่ยไม่อยากมีความเสื่อมเสียลงบันทึกไว้ในประวัติ ก็คงต้องไปเปิดห้องคุยกับนายน้อยเว่ยเท่านั้น ฮ่าๆๆ!”

“ที่สำคัญคือเป็นเพราะพวกคุณทุกคนร่วมมือกันอย่างดี ถ้าไม่ใช่เพราะพวกคุณคอยกันท่าไม่ให้จางเล่ยกับฮั่นจงไปตรวจสอบการลงทะเบียนและยื่นคำร้องไว้ได้ แผนของฉันก็คงจะไม่สำเร็จง่ายๆแบบนี้แน่!” คนที่พูดไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นเว่ยเฉียง น้ำเสียงของเขาดูมีความสุขและภาคภูมิใจมาก “ถงเล่ย ผู้หญิงคนนั้นกล้าปฏิเสธฉันอย่างเย็นชา! เหอะ! ฉันละอยากจะรู้ว่าผู้หญิงที่เชิดหน้าชูคอแบบนั้นถ้าได้มาอยู่ร่วมเตียงกับฉันแล้วยังจะเย็นชาอยู่อีกรึเปล่า ฮ่าๆๆ~!”

คนในห้องส่งเสียงหัวเราะอีกครั้ง เสียงหัวเราะนั้นเต็มไปด้วยความกระหยิ่มในเรื่องอย่างว่า

ในเวลาจี้เฟิงและคนอื่นๆที่ยืนอยู่หน้าประตูถึงกับมีสีหน้าเปลี่ยนไป พวกเขาโกรธจัด โดยเฉพาะจี้เฟิง จิตสังหารของเขาผุดขึ้นมาอย่างรุนแรงและไม่สามารถควบคุมได้ เขากำลังจะเตะประตูเข้าไป

“ฟึ่บ—!”

จ้าวไคที่เงียบมาตลอดรีบเข้าไปคว้าตัวของจี้เฟิงไว้และดึงรั้งเขาเอาไว้

จ้าวไคกระซิบข้างหูจี้เฟิงอย่างร้อนรน “จี้เฟิง ใจเย็นก่อนอย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่น นี่เป็นโอกาสดีที่เราจะหาหลักฐาน! หลังจากที่เราได้รับหลักฐานแล้ว อย่าว่ากันนะถ้าผมเป็นคนแรกที่จะเข้าไปจัดการกับสัตว์เดรัจฉานกลุ่มนี้!

ใบหน้าของจี้เฟิงมืดครึ้มและน่ากลัวมาก เขากำหมัดแน่นและพยักหน้าอย่างแรง “ได้!”

ในเวลานี้จางเล่ยก็ได้สติกลับมาแล้วเช่นกันหลังจากที่โกรธจนควันออกหู เขาส่งสายตาให้เซียวหยูซวนกับถงเล่ยที่มีสีหน้าไม่สู้ดีนักและบอกให้พวกเขากลับไปที่ห้องอาหารส่วนตัวของพวกเขาก่อน เขากลัวว่าคำพูดเลวๆจะออกมาจากปากเว่ยเฉียงกับไอ้บ้าพวกนั้นอีก แล้วมันจะทำให้ถงเล่ยต้องรู้สึกแย่มากไปกว่านี้

จ้าวไคหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าของเขา และแง้มเปิดประตูห้องส่วนตัวของเว่ยเฉียงอย่างเบามือ เขานั่งยองๆอยู่บนพื้นจากนั้นก็เปิดโหมดบันทึกวิดีโอในโทรศัพท์แล้วหันกล้องไปยังด้านในห้อง

โชคดีที่เว่ยเฉียงและคนอื่นๆในห้องดื่มเหล้ากันไปไม่น้อยแล้ว พวกเขาจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าประตูถูกเปิดแง้มออก พวกเขายังคงพูดคุยและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

จี้เฟิงยืนอยู่ข้างหลังจ้าวไคเมื่อเขามองผ่านช่องว่างของประตู เขาก็พบว่าข้างในห้องส่วนตัวมีคนอยู่ทั้งหมดห้าคน สามคนในนั้นเขาเคยเห็นหน้ามาก่อน

คนหนึ่งคือเว่ยเฉียง และอีกสองคนเป็นพนักงานที่เขาเคยเจอที่สำนักงานทั่วไป หนึ่งในนั้นคือชายสวมแว่นจอมตอแหลกับผู้ชายอีกคนที่เป็นพนักงานเหมือนกัน คราวที่จี้เฟิงกับฮั่นจงมีปัญหาขัดแย้งกับพนักงานสองคนนี้อยู่นิดหน่อย

นอกจากนั้นยังมีชายหนุ่มที่น่าจะเป็นนักศึกษา คิ้วของเขาคล้ายกับเว่ยเฉียงมาก จี้เฟิงเดาว่าผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นรองประธานของสภานักศึกษาคนนั้น เว่ยเฉินหลิง!

ส่วนคนแปลกหน้าคนสุดท้ายดูแล้วเขาน่าจะมีอายุประมาณ 30 ปี ภาพลักษณ์การแต่งตัวโดยรวมแล้วเหมือนกับชายหนุ่มที่สวมแว่น เขาแต่งตัวด้วยชุดสูทและรองเท้าหนัง ดูแล้วน่าจะเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัยเหมือนกับสองคนนั้น

“จริงสิ ผู้อำนวยการฉิน พวกคุณได้เก็บเอกสารหรือข้อมูลการลงทะเบียนบัตรรับรองที่พักไว้ดีหรือยัง? คุณต้องเตรียมตัวให้พร้อมนะ เผื่อมีอะไรผิดพลาดขึ้นมาจะได้แก้ไขทัน!” ถึงยังไงเว่ยเฉินหลิงก็เป็นรองประธานสภานักศึกษา ดังนั้นหากลงมือทำอะไรจะต้องคิดให้มากเป็นธรรมดา ในความคิดเห็นของเขา แฟนของถงเล่ยเป็นคนที่แม้แต่หยุนปิงเขาก็ยังกล้าตบมาแล้ว แล้วถ้าเขารู้ว่าถงเล่ยที่เป็นแฟนของเขาถูกกลั่นแกล้งแบบนี้แล้วเขาไม่โกรธก็คงจะแปลกแล้ว!

…จบบทที่ 372~❤️

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด