ตอนที่แล้ว370 - พิจารณาคดีร่วมกัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป372 - คืนความบริสุทธิ์

371 - เรื่องแทรกซ้อน


371 - เรื่องแทรกซ้อน

ใบหน้าของเสนาบดีกรมอาญากู่ชุนยี่เปลี่ยนเป็นสีดำทันที เอี้ยนลี่เฉียงจับความผิดปกติในคำถามของเขาได้ ดังนั้นเมื่อได้รับคำตอบเช่นนี้จึงทำให้เขาไปไม่เป็นจริงๆ

หลิวกงกงยิ้มให้เอี้ยนลี่เฉียงพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ สวีไท่อี้และเป่ยเถาหยวนมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นนี้

“ใต้เท้ากู่ตั้งใจจะถามว่าเจ้ามีความขัดแย้งกับซูหลางหรือไม่ ไม่สำคัญว่าใครเป็นคนเริ่มการต่อสู้ เพราะการต่อสู้ได้เกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่ใต้เท้ากู่ถามนั้นก็มีความสมเหตุสมผลทุกอย่าง”

สวีไท่อี้พยายามบรรเทาความตึงเครียดและความอับอายที่เกิดกับกู่ชุนยี่

“ข้าน้อยไม่ได้ตั้งใจจะหยาบคาย แต่ข้าน้อยต้องการชี้ให้เห็นว่าใต้เท้ากู่ได้ละเมิดข้อห้ามของการพิจารณาคดี หากข้าตอบคำถามนี้ไม่ระวังเกรงว่าจะกระโดดลงไปในกับดักของคนอื่น!”

“อะแฮ่ม! ใต้เท้าทั้งสองในเมื่อเอี้ยนลี่เฉียงอยู่ที่นี่ ทำไมเราไม่เรียกโจทก์มาที่นี่เพื่อซักถามต่อหน้าจะได้รวบรัดการพิจารณาคดีไปด้วย!” เป่ยเถาหยวนผู้ซึ่งนิ่งเงียบมาโดยตลอด จู่ๆก็เสนอแนะ

ผู้พิพากษาอีกสองคนแลกเปลี่ยนสายตากันก่อนที่จะพยักหน้าเห็นด้วย

“เบิกตัวโจทย์!” สวีไท่อี้หยิบเหรียญแล้วออกคำสั่งกับเจ้าหน้าที่

เจ้าหน้าที่ในลานพิจารณาคดีรับเหรียญและแสดงความเคารพก่อนจะเดินออกไป

เอี้ยนลี่เฉียงยืนเงียบๆไม่มีท่าทีร้อนรน เขารู้ดีว่าโจทก์ที่ฟ้องร้องเขานั้นก็ไม่ได้มีอะไรมากกว่าคนที่ถูกจ้างมา ซึ่งสุดท้ายแล้วเขาที่เป็นผู้ “บริสุทธิ์” ย่อมสามารถพิสูจน์ตัวเองได้

อย่างไรก็ตาม เพียงไม่กี่นาทีต่อมาเจ้าหน้าที่คนนั้นก็รีบวิ่งกลับเข้ามาในลานพิจารณาคดีพร้อมกับกรีดร้องว่า

“ใต้เท้า! มีบางอย่างเกิดขึ้น! โจทก์เสียชีวิตในคุก!”

สวีไท่อี้รู้สึกโกรธทันทีที่ได้ยินเรื่องนี้ เขาลุกขึ้นยืนแล้วตะโกนด้วยความโมโหว่า

“สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? เมื่อไม่กี่ชั่วยามที่แล้วเขายังคงเป็นปกติดี แล้วตอนนี้เขาจะมาตายได้ยังไง”

“เมื่อสักครู่เขายังมีชีวิตอยู่ ในตอนที่ข้าน้อยไปรับตัวเขาเขาก็ตะโกนออกมาว่าเอี้ยนลี่เฉียงเป็นฆาตกร จากนั้นเขาก็ล้มลงและเสียชีวิตทันที!”

“ใต้เท้าโจทก์ที่เป็นคู่กรณีกับเอี้ยนลี่เฉียงเสียชีวิตภายใต้การดูแลของพวกท่าน! มีใครบางคนต้องการกำจัดพยานหรือเปล่า” หลิวกงกงได้โอกาสก็รีบประชดประชันออกมาทันที

“พาศพเขาเข้ามาที่นี่เรียกเจ้าหน้าที่เรือนจำและเจ้าหน้าที่ชันสูตรเข้ามาด้วย…” สวีไท่อี้กระแทกฝ่ามืออย่างหนักกับโต๊ะใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง

ในไม่ช้าศพก็ถูกพาเข้ามา ใบหน้าของคนคนนั้นน่ากลัวอย่างยิ่งเพราะมันเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทที่ไม่ใช่คำอุปมาอุปไมย ทวารทั้งเจ็ดบนใบหน้าของเขามีเลือดสีดำไหลออกมาไม่หยุด

อย่างไรก็ตามเอี้ยนลี่เฉียงยังคงจำใบหน้านั้นได้ ชายคนนี้เป็นส่วนหนึ่งของพวกซูหลางในตอนที่พวกเขาปะทะกันอยู่หน้าร้านอาหารเมื่อไม่กี่วันก่อน

ไม่นานผู้ดูแลเรือนจำและเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพของศาลฎีกาก็มาถึงห้องโถง ผู้คุมเรือนจำรู้สึกหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเขาเดินเข้ามาเขาก็โขกศีรษะให้กับขุนนางใหญ่ทั้งสามไม่หยุด

ในฐานะผู้รับผิดชอบคุก เขารู้ว่านี่เป็นปัญหาที่ร้ายแรงมากแค่ไหน คดีนี้เป็นคดีใหญ่ที่ทุกคนในเมืองหลวงต่างให้ความสนใจแม้แต่จักรพรรดิก็ไม่เว้น

ในเวลานี้โจทก์คนนั้นเสียชีวิตภายในเรือนจำ มันมีความเป็นไปได้สูงที่ผู้คุมเรือนจำอย่างเขาจะกลายเป็นแพะรับบาปในเรื่องนี้

“ใต้เท้าโปรดเมตตา! ชายคนนี้อยู่ภายใต้การดูแลของข้าน้อยตั้งแต่สองวันก่อน

ข้าน้อยขอสาบานว่าไม่เคยมีใครมาเยี่ยมเขา และเราก็ตรวจสอบทุกอย่างอย่างใกล้ชิดแม้แต่เครื่องดื่มและอาหารพวกเราก็ตรวจสอบทุกครั้งว่ามียาพิษหรือไม่…” ผู้คุมเรือนจำร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว

"หุบปาก! เราจะเป็นผู้ตัดสินในเรื่องนี้เอง”

ความโกรธของสวีไท่อี้ได้คลายลงแล้ว เขามองไปที่เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพซึ่งเป็นชายชราที่มีใบหน้าเหี่ยวย่นและร่างกายบางราวกับแผ่นไม้

สวีไท่อี้ชี้ไปที่ศพในขณะที่เขาพูดกับเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ

“นี่คือศพ ตรวจสอบให้แน่ชัดเดี๋ยวนี้…”

“ขอรับใต้เท้า!”

เจ้าหน้าที่ชันสูตรแสดงความเคารพแล้วรีบเดินไปตรวจสอบศพของชายคนนั้นอย่างรวดเร็ว

เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพนั่งลงบนพื้นแล้วหยิบตะขอ ชุดหนึ่ง ไม้พายเล็กๆ มีดผ่าตัด ขวดสารเคมีสองสามขวด และเครื่องมือที่น่าสนใจบางอย่างออกมา จากนั้นเขาก็เริ่มทำงาน

ถึงแม้ว่าจะเป็นการพิจารณาคดีในที่สาธารณะแต่ตามธรรมเนียมก็ไม่อนุญาตให้ผู้หญิงเข้าชม เมื่อทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็เป็นผู้ชาย ดังนั้นเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพจึงถอดเสื้อผ้าของศพออกโดยไม่มีความลังเลใจ

เขาเริ่มตรวจร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างระมัดระวัง ตั้งแต่ผม หู จมูก ปาก เล็บ รักแร้ ก้น ไปจนถึงองคชาติ ไม่มีส่วนไหนที่หลุดรอดจากสายตาของเขาไปได้

ขณะที่เอี้ยนลี่เฉียงมองดูเขารู้สึกประทับใจอย่างเงียบๆกับความเป็นมืออาชีพของเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ

ไม่ต้องสงสัยเลย ผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพที่ดีที่สุดในกรมอาญา บางทีอาจจะเป็นทั้งจักรวรรดิเลยก็ได้

ในที่สุดเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพก็เปิดปากศพออก เขาหยิบบางอย่างออกมาจากปากด้วยคีม เขาดมมันด้วยจมูกของเขาเองพร้อมกับขมวดคิ้ว

จากนั้นเขาก็เทของเหลวจากขวดสารเคมีหนึ่งขวดลงบนวัตถุ เอี้ยนลี่เฉียงสังเกตเห็นปฏิกิริยาจากวัตถุ ดูเหมือนจะเปลี่ยนสีเล็กน้อยทันทีที่สารเคมีหยดลงไป

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว เขาเริ่มเก็บเครื่องมือและคลุมศพด้วยผ้าขาว จากนั้นเขาก็ยืนขึ้นและโค้งคำนับผู้พิพากษาทั้งสาม

“รายงานใต้เท้าพบสาเหตุการตายของเขาแล้ว!”

"พูด!" สวีไท่อี้สั่ง

“ชายคนนี้ซ่อนยาพิษไว้ในซอกฟันของตัวเอง การตายของเขาเกิดจากพิษ ยาพิษชนิดนี้มีชื่อว่าคำเชิญจากนรกถือเป็นพิษที่ร้ายแรงที่สุดในแผ่นดิน…”

เสียงของเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพดังก้องไปทั่วห้องโถง

“ชายคนนั้นซ่อนพิษไว้ในฟันได้อย่างไร”

“ฟันซี่หนึ่งในปากของเขาเป็นของปลอมทำจากกระเบื้องเคลือบและดูเหมือนฟันจริงจึงสังเกตได้ยาก

อย่างไรก็ตาม ฟันซี่นี้กลวงอยู่ภายในและพิษอยู่ในฟันนั้น เพื่อจะทำให้ยาพิษไหลออกมาได้เขาต้องกัดฟันของตัวเองอย่างรุนแรง”

“เจ้าหมายความว่าเขาสวมฟันปลอมนี้ตั้งแต่ก่อนเข้าคุกมา แสดงว่าเขาฆ่าตัวตายอย่างนั้นหรือ?”

“ขอรับใต้เท้า!” เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพพยักหน้า

สวีไท่อี้ลูบหน้าผากและโบกมือ

“เข้าใจแล้ว เอาศพไป พวกเจ้าก็ออกไปได้…”

“ขอรับใต้เท้า…”

ศพถูกพาไปในพริบตา เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพและผู้ดูแลเรือนจำก็ออกจากห้องโถงด้วย ผู้คุมเรือนจำดูจะยังกระสับกระส่ายอยู่เล็กน้อยขณะที่เขากำลังจะจากไป

แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้หวาดกลัวเท่ากับตอนที่เขามาถึงในครั้งแรก ท้ายที่สุดมันเป็นแผนฆ่าตัวตาย แม้ว่าผู้คุมเรือนจำจะต้องรับผิดชอบแต่บทลงโทษคงไม่พ้นการหักเงินเดือนเท่านั้น

“ใต้เท้าทั้งสองในตอนนี้โจทก์ก็ฆ่าตัวตายไปแล้วพวกเราจะทำอย่างไรต่อ”

“ใต้เท้าสวีแม้ว่าเขาจะตายไปแล้วแต่คำให้การของเขายังเป็นผล พวกเราต้องพิจารณาคดีต่อ…” เป่ยเถาหยวนตอบ

สวีไท่อี้มองไปที่กู่ชุนยี่และคนหลังก็พยักหน้าแม้ว่าใบหน้าของเขาจะบิดเบี้ยวอย่างรุนแรงก็ตาม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด