ตอนที่แล้ว23 - มุ่งหน้าสู่ดินแดนใหม่ที่แตกต่าง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป25 - ทางเลือก

24 - ภายในโลงศพทองแดง


24 - ภายในโลงศพทองแดง

“มันจะพาเราไปไกลแค่ไหน”

แม้แต่นักเรียนหญิงที่อ่อนแอซึ่งกำลังร้องไห้ก็ยังอดสงสัยในเรื่องนี้ไม่ได้

“เมื่อเราไปแล้วพวกเราจะมีโอกาสได้กลับมาอีกหรือเปล่า”

“นายคิดว่าพระเจ้ามีจริงไหม?”

หวังจื่อเหวินถามออกมาโดยไม่สนใจคำตอบ พวกเขามองเห็นทั้งมังกร โลงศพทองแดง วัดต้าเล่ยหยิน รวมไปถึงบรรพบุรุษจระเข้ คำตอบนั้นมันชัดเจนอยู่แล้ว

“บางทีเทพเจ้าเหล่านั้นอาจเป็นมนุษย์เหมือนกับพวกเรา พวกนายไม่รู้สึกแปลกใจเหรอที่เทพเหล่านั้นให้การปกป้องมนุษย์มากกว่าเผ่าพันธุ์อื่น”

“ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นมนุษย์หรือไม่ แต่เรื่องที่โลกนี้มีเทพหรือไม่นั้นไม่น่าสงสัยอีกต่อไป”

มีแท่นบูชาห้าสีบนยอดเขาไท่ซาน ซึ่งสร้างขึ้นโดยบรรพบุรุษของมนุษย์ในสมัยโบราณ

ในอดีตก็มีตำนานเล่าว่า สามราชาห้าจักรพรรดิและเจ็ดสิบสองผู้ยิ่งใหญ่ต่างก็เคยมาแสวงบุญที่ภูเขาไท่ซานเป็นประจำทุกปี

"บางทีเทพเจ้าเหล่านั้นอาจเป็นบรรพบุรุษของพวกเราจริงๆ ... "

ราชาทั้งสามและจักรพรรดิทั้งห้าล้วนเป็นบุคคลที่ถูกยกย่องให้เป็นเทพเจ้า ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าโบราณสถานที่อยู่ในภูเขาไท่ซานอาจเป็นสิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นเพื่อเดินทางไปยังอีกดินแดนหนึ่ง

สิ่งที่เกิดขึ้นในสมัยโบราณไม่มีผู้ใดสามารถบอกได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าแท่นบูชาห้าสีนั้นมีความเกี่ยวข้องกับประตูของดวงดาวที่ส่งพวกเขามาที่นี่

"ทำไมไม่พูดอะไรเลย?"

ตะเกียงทองแดงดับลงแล้วและภายในโลงทองแดงมืดสนิท และสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ได้กว้างขวางมากนักดังนั้นทุกคนจึงนั่งอยู่ในบริเวณใกล้ๆกัน

เมื่อเห็นใครบางคนนั่งอยู่ที่เดิมเป็นเวลานานจึงทำให้หวังป๋อเกิดความสงสัย

“ทำไมไม่พอใจอะไรหรือเปล่า?”

ผังป๋อเริ่มไม่พอใจที่ฝ่ายตรงข้ามไม่ตอบรับคำพูดของเขาดังนั้นเขาจึงเยาะเย้ยออกมาว่า

“นายเกือบผลักเย่ฟ่านออกจากแท่นบูชาห้าสี มันดีแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่โยนนายลงไปให้จระเข้พวกนั้นกิน .”

“เฮ้ ตื่นได้แล้วนายจะนอนไปจนถึงเมื่อไหร่” เพื่อนอีกคนก็ผลักเขาไปด้านข้างเบาๆ

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็คือคนคนนั้นล้มลงไปกับพื้นราวกับว่าเขาเป็นซากศพซากหนึ่ง

"อะไร?" คนที่ผลักเขาตกตะลึงอยู่ตรงนั้น

ในเวลานี้ทุกคนต่างก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ ต่อให้พวกเขาจะหลับไปก็ไม่มีทางที่จะล้มลงกระแทกพื้น อย่างไรก็ตามเพื่อนของพวกเขาคนนั้นยังคงนอนแน่นิ่งโดยไม่ขยับตัว

“ตื่นได้แล้ว ตื่นเร็ว!”

ผังป๋อก้าวไปข้างหน้าแล้วสะกิดเขาเบาๆ ผังป๋อรู้สึกโกรธเล็กน้อยจึงกระชากคอเสื้อของเขาขึ้นมาแล้วตบหน้าเบาๆอีกครั้ง

“เอ๊ะ! ทำไมร่างกายของเขาแข็งทื่อ!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ทุกคนก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั่วร่างกาย ลางสังหรณ์บางอย่างเกิดขึ้นในใจของพวกเขา

เย่ฟ่านไม่รอช้ารีบยื่นมือไปอังที่จมูกของเพื่อนคนนั้นก่อนจะถอนหายใจพูดว่า

"เขาตายแล้ว"

"อะไร ?!" ทุกคนอุทานออกมาด้วยความตกใจ

พวกเขาเดินทางมาด้วยกันแล้วเพื่อนคนนี้จะไปไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร?

ก่อนหน้านี้เขายังกรีดร้องเบาๆทำให้ทุกคนตื่นขึ้น แต่ตอนนี้เขากลับตายไปแล้ว ตายอยู่ท่ามกลางเพื่อนทุกคน

ภายในโลงศพทองแดงเกิดความตึงเครียดขึ้นมาทันที ทุกคนตกอยู่ในความมืดที่แทบจะมองอะไรไม่เห็น ในเวลานี้พวกเขาต่างก็รีบไขว่คว้าไปที่วัตถุศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเหลืออยู่เพียงไม่กี่ชิ้น

“โทรศัพท์ใครยังมีแบตเหลืออยู่ขอยืมหน่อย?”

เย่ฟ่านขณะที่รับโทรศัพท์ของใครบางคนมาแล้วส่งไปที่ซากศพนั้น

ใบหน้าของเขาขาวซีด ดวงตาของเขาเบิกกว้างและโปนออกมาเล็กน้อย ในขณะที่ลิ้นของเขาก็ยื่นออกมาจากปาก

"ตายแล้วจริงๆ! ... "

เมื่อเห็นอย่างนี้ทุกคนก็ตกใจกลัว การเสียชีวิตอย่างกะทันหันทำให้พวกเขารับสภาพไม่ทัน ภายในโลงศพทองแดงนี้ดูเหมือนจะมีอันตรายไม่สิ้นสุด

เพื่อนร่วมชั้นที่กล้าหาญหลายคนเริ่มตรวจร่างกายทั้งหมดของเขา ต้องการหาสาเหตุว่าเขาตายได้อย่างไร

"ดูคอของเขา ... "

คอของเขาเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ดูเหมือนจะถูกอะไรบางอย่างรัดเข้าไปที่คออย่างแรง

"ผี ... มีผีอยู่ในโลงศพทองแดง!"

หญิงสาวคนหนึ่งรู้สึกหวาดกลัวเธอตัวสั่นและกรีดร้องออกมาราวกับว่าเสียสติไปแล้ว

เมื่อได้ยินประโยคนี้ จู่ๆก็ทำให้หลายคนรู้สึกเสียวซ่านที่หนังศีรษะ เมื่อมองไปที่แผลสีแดงที่อยู่บนลำคอของเพื่อนคนนั้นพวกเขาต่างก็หวาดกลัวเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะตอนนี้พวกเขาติดอยู่ในโลงศพทองแดงไม่สามารถหนีไปที่ใดได้

เย่ฟ่านขมวดคิ้วเขาเอื้อมมือไปแตะคอของศพและพบว่ากระดูกที่ลำคอของเขาถูกบีบจนแหลกละเอียด มีเพียงผิวหนังเท่านั้นที่ยังคงสภาพเดิม

ในเวลานี้รอยนิ้วมือที่อยู่บนลำคอยังคงไม่จางหายไป

“ไม่ใช่ฝีมือของผี มีใครบางคนฆ่าเขา!”

ในขณะนี้หลิวหยุนจื่อมีใบหน้ามืดมนเป็นอย่างมาก สายตาเย็นชาของเขาจ้องมองไปที่ใบหน้าของเย่ฟ่าน

ผังป๋อหันกลับมามองเขาแล้วตะโกนว่า

“แกหมายถึงอะไร”

“จากมุมมองของบาดแผลเขาน่าจะถูกใครบางคนบีบคอจนตาย”

น้ำเสียงของหลิวหยุนจื่อดูเย็นชามาก สายตาของเขาจับจ้องไปยังเย่ฟ่านและผังป๋อและกล่าวว่า

"มีเพียงคนที่อยู่ใกล้ๆเขาและแข็งแรงมากเท่านั้นถึงจะทำได้!"

ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมาทุกคนก็เข้าใจเจตนาของเขา ประโยคของเขาชี้ไปที่เย่ฟ่านโดยตรง เพราะเขาอยู่ถัดจากผู้ตาย

ในขณะเดียวกันทุกคนก็รู้ดีว่าเขาเป็นคนแข็งแรงมีพละกำลังมากมายมหาศาลอีกด้วย

“เจ้าโง่!”

ผังป๋อรู้สึกรำคาญ เขาหยิบแผ่นป้ายทองแดงขึ้นมาถือไว้เตรียมจะฟาดออกไป

หลิวหยุนจื่อเยาะเย้ยมองที่เขาและพูดว่า

"นายต้องการฆ่าฉันอีกคนเหรอ"

เย่ฟานดึงผังป๋อกลับมา

“ต้องเป็นเย่ฟ่านแน่ๆ!”

เพื่อนนักเรียนหญิงที่ยืนอยู่ข้างหลิวหยุนจื่อและหลี่ฉางชิงอุทานออกมาด้วยความตกใจ

“มันต้องเป็นฝีมือของเย่ฟ่าน เขาทำทุกอย่างเพื่อแก้แค้นเรื่องที่เกิดขึ้นบนแท่นบูชา!”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ คนอื่นๆก็นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ และหลายคนก็ถอยกลับทันที

“ใช่ เย่ฟ่าน เขาฆ่าเพื่อนร่วมชั้นของเรา!” หลี่ฉางชิงกัดฟันและพูดว่า

"อาจมีคนอื่นช่วยเหลือเขาด้วย!"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ผังป๋อก็ดิ้นหลุดจากมือของเย่ฟ่านและเตรียมจะใช้ป้ายทองแดงตีหลี่ฉางชิง

“ปัง!”

หลิวหยุนจื่อกระแทกไม้เท้าวัชระของเขาลงกับพื้นทำให้แสงสีทองแผ่ออกมา

ทุกคนรู้สึกตกใจมาก ของวิเศษทั้งหมดแทบจะสูญเสียพลังไปแล้วมีเพียงไม้เท้าวัชระของหลิวหยุนจื่อเท่านั้นที่ยังคงทรงพลังเหมือนเดิม

“เย่ฟ่าน นายใจร้ายเกินไปแล้ว แม้ว่าเขาจะทำผิดแต่นายก็ไม่ควรฆ่าเขาแบบนี้...” หลิวหยุนจื่อถือไม้เท้าวัชระแล้วเดินคุกคามเข้าหาเย่ฟ่าน

“ถ้าฉันบอกว่าฉันไม่ได้ฆ่าเขาพวกนายเชื่อไหม” เย่ฟ่านเหลือบมองทุกคน

“แน่นอนว่าฉันเชื่อ!” ผังป๋อตะโกนออกมาก่อนเพื่อน

“ฉันก็เชื่อเหมือนกัน!” จางจื่อหลิงก็ออกมาข้างหน้าเช่นกัน

เย่ฟ่านมองดูคนอื่นๆแล้วพูดว่า

“พวกนายไม่เชื่อเลย?” จากนั้นสายตาของเขาจับจ้องไปที่หลี่เสี่ยวม่าน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด