ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1502 ขาดแคลนดวงวิญญาณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1504 พบผู้มีพระคุณ

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1503 กองทัพอสูรวิญญาณ (อ่านฟรี)


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1503 กองทัพอสูรวิญญาณ (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT  

ฟางหยวนขี่ก้อนเมฆสีขาวและเคลื่อนที่ผ่านท้องฟ้า

มันไม่เร็วมากแต่รอบตัวเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายของวิญญาณอมตะ

เมฆที่เขาขี่ไม่ใช่เมฆธรรมดา มันมีต้นกำเนิดมาจากมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน หลังจากดัดแปลง ฟางหยวนสามารถใช้งานมัน

มันถูกเรียกว่าเมฆมงคล

เมฆมงคลไม่ได้เคลื่อนไหวไปตามความต้องการของฟางหยวนแต่มันถูกขับเคลื่อนโดยโชค

ฟางหยวนไม่รู้ว่ามันจะนำพาเขาไปที่ใด แต่เขาเข้าใจว่าเมฆมงคลจะนำเขาไปพบกับโชคดี

เขาใช้เวลาหลายวันเพื่อมาที่นี่

มันคือทะเลทรายผีเขียว

มันเป็นสถานที่อันตรายของทะเลทรายตะวันตก ในช่วงแสนปีที่ผ่านมามีผู้อมตะจำนวนมากเสียชีวิตอยู่ที่นี่

ท้องฟ้าของทะเลทรายผีเขียวปกคลุมไปด้วยกลุ่มเมฆสีดำตลอดทั้งปี แสงแดดแทบไม่สามารถสาดส่องลงมา

ทะเลทรายแห่งนี้เต็มไปด้วยพืชพรรณ

มันเป็นต้นไม้ที่ดูราวกับภูตผีกำลังร้องไห้ ทุกครั้งที่ลมพัดผ่าน มันจะเกิดการสั่นสะเทือนและส่งเสียงโหยหวนออกมา

ต้นไม้เหล่านี้กำลังร้องไห้คร่ำครวญขณะที่อสูรวิญญาณสัญจรไปมาอยู่อย่างเงียบๆ

อสูรวิญญาณที่ดูคล้ายแมลงสาบแต่มีหางยาวเหมือนอสรพิษกำลังคืบคลานเข้ามาด้านหลังฟางหยวน

แต่ดูเหมือนฟางหยวนจะไม่รู้สึกถึงมัน มันยกแขนเคียวทั้งสองขึ้นและฟาดมาที่ฟางหยวน

ผลลัพธ์ถูกกำหนดไว้แล้ว

ร่างของอสูรวิญญาณแข็งค้างอยู่กลางอากาศก่อนจะล้มลงบนพื้น

ฟางหยวนโบกมือเบาๆขณะที่ศพของอสูรวิญญาณลอยขึ้นมาอยู่ต่อหน้าเขา

ศพของอสูรวิญญาณกลายเป็นควันสีเทาเข้มและสลายไปกับสายลม หลังจากนั้นมีเพียงแก่นกลางที่ดูเหมือนลูกแก้วของมันวางอยู่ในมือของเขา

ลูกแก้วสีฟ้าค่อนข้างมีน้ำหนัก ฟางหยวนรู้สึกราวกับกำลังถือถังสุราเอาไว้ในมือ

นี่เป็นทรัพยากรอมตะระดับหก

แก่นแท้อสูรวิญญาณ

เช่นเดียวกับอสูรโคลนที่จะทิ้งแก่นแท้ของพวกมันเอาไว้หลังจากความตาย

อสูรวิญญาณ อสูรโคลน อสูรโลหิต และสัตว์อสูรประเภทภูตผีจะเก็บร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเอาไว้ในแกนกลางของพวกมัน

หลังจากยืนยันว่าไม่มีสิ่งผิดปกติ ฟางหยวนก็โยนมันเข้าไปในมิติช่องว่างของเขา

ในมิติช่องว่างจักรพรรดิมีแก่นแท้อสูรวิญญาณอยู่เล็กน้อย

ส่วนใหญ่เป็นแก่นแท้อสูรวิญญาณระดับหก มีระดับเจ็ดบางส่วน แต่ไม่มีระดับแปด

ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของฟางหยวน มันเป็นเรื่องง่ายที่เขาจะสังหารอสูรวิญญาณเดียวดายและอสูรวิญญาณบรรพกาล

หลังจากมาถึงทะเลทรายผีเขียว อสูรวิญญาณเดียวดายและอสูรวิญญาณบรรพกาลจำนวนมากก็พุ่งเข้ามาหาเขา

แม้ฟางหยวนจะมีผนึกภูตผีและอาภรณ์วิญญาณ แต่เมฆมงคลไม่ได้ปกปิดกลิ่นอาย เป้าหมายของอสูรวิญญาณเหล่านั้นก็คือเมฆมงคล แต่น่าเสียดายที่พวกมันตกลงสู่หลุมพรางที่ชั่วร้ายของฟางหยวน

การถือกำเนิดของอสูรวิญญาณเกี่ยวกับเทพปีศาจสองคน

หนึ่งคือเทพปีศาจบัวแดง เขาทำลายวิญญาณชะตากรรม นั่นทำให้รูปแบบชีวิตมากมายสามารถหลบหนีจากโซ่ตรวนของโชคชะตา หลังจากตกตาย ดวงวิญญาณของพวกมันสามารถหลบหนีออกมาจากประตูแห่งชีวิตและความตาย

สองคือเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาสร้างเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ นั่นทำให้ดวงวิญญาณสามารถเปลี่ยนเป็นอสูรวิญญาณ

แต่ในปัจจุบันส่วนหนึ่งของอสูรวิญญาณสามารถถือกำเนิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติในสถานที่ที่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณที่หนาแน่น

เวลาเปลี่ยนไป สิ่งต่างๆก็เปลี่ยนแปลง

จากอดีตจนถึงปัจจุบันโลกของผู้ใช้วิญญาณเกิดการเปลี่ยนแปลงมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

ด้วยเหตุผลดังกล่าว แก่นแท้อสูรวิญญาณสามารถใช้ทดแทนดวงวิญญาณเพื่อเป็นอาหารให้กับภูเขาตงฮัน

แต่คุณภาพของแก่นแท้อสูรวิญญาณยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับดวงวิญญาณของผู้อมตะ มันเทียบได้กับดวงวิญญาณของสัตว์อสูรหรือพืชอสูรเท่านั้น

‘ตั้งแต่ข้าเข้ามาในทะเลทรายผีเขียว ข้าได้รับแก่นแท้อสูรวิญญาณมามากมาย ข้าหวังว่าข้าจะสามารถยึดครองสถานที่แห่งนี้ได้อย่างสมบูรณ์’ ฟางหยวนคิดกับตนเอง

หากเขาสามารถยึดครองสถานที่แห่งนี้ มันก็เหมือนกับเขาสามารถผลิตวิญญาณความเด็ดเดี่ยวได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

มันสามารถผลักดันรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเขา

ขณะที่ฟางหยวนกำลังครุ่นคิด เสียงที่แหลมสูงก็ดังมาจากด้านหลังทางซ้าย

แมงป่องยักษ์กำลังบินเข้ามาหาเขา

รูม่านตาของฟางหยวนหดเล็กลงทันทีเมื่อเขาชำเลืองมอง

แมงป่องสีดำที่มีร่างกายแบนราวกับจานทรงกลมพุ่งเข้ามาหาฟางหยวนด้วยความดุร้าย

‘นี่คือแมงป่องจานบินแรกกำเนิด มันเป็นสัตว์อสูรบนเส้นทางแห่งปัญญา อาหารของมันคืออสูรวิญญาณ!’ ข้อมูลของมันปรากฏขึ้นในใจของฟางหยวนอย่างรวดเร็ว

ผนึกภูตผีสามารถซ่อนฟางหยวนจากการรับรู้ของอสูรวิญญาณแต่มันไม่มีผลกับสัตว์อสูรตัวนี้

ฟางหยวนกระโดดออกจากเมฆมงคลและหลบหนี

ฟางหยวนมีพลังการต่อสู้ระดับแปด เขาไม่ได้หวาดกลัว อย่างไรก็ตามเป้าหมายในการเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่การต่อสู้กับแมงป่องจานบินแรกกำเนิด แต่เพื่อรวบรวมแก่นแท้อสูรวิญญาณให้ได้มากที่สุด

ฟางหยวนล่าถอยแต่แมงป่องจานบินแรกกำเนิดไม่ยอมปล่อยเขาไป แต่หลังจากชั่วระยะเวลาหนึ่ง ฟางหยวนก็ประสบความสำเร็จในการหลบหนี

อันตรายแฝงตัวอยู่ทุกหนทุกแห่งในทะเลทรายผีเขียว กระทั่งฟางหยวนก็ไม่ปลอดภัยเมื่ออยู่ที่นี่

ฟางหยวนออกล่าอสูรวิญญาณและบ่มเพาะจิตวิญญาณไปพร้อมกัน หากพบสัตว์อสูรเช่นแมงป่องจานบินแรกกำเนิด ฟางหยวนจะพยายามหลบหนี

ฟางหยวนไม่ใช่คนเดียวที่ออกล่า สมาชิกนิกายเงาก็ทำเช่นเดียวกัน

แก่นแท้อสูรวิญญาณทั้งหมดที่พวกเขาได้รับถูกส่งมอบให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเพื่อผลิตวิญญาณความเด็ดเดี่ยว

ในเวลาไม่ถึงครึ่งเดือน รากฐานของฟางหยวนก็พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง

‘รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของข้าเพียงพอแล้ว ถึงเวลาเปลี่ยนกลยุทธ์แล้ว’ ฟางหยวนออกคำสั่งให้สมาชิกนิกายเงาหยุดสังหารอสูรวิญญาณแต่เปลี่ยนเป็นจับและสะกดข่มพวกมัน

ฟางหยวนมีมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขามีวิธีการมากมายในการกดขี่อสูรวิญญาณ

สิ่งเดียวที่เขาไม่มีคือวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณและเส้นทางแห่งทาส

ภายใต้ความพยายามของทุกคน ในไม่ช้าพวกเขาก็ได้รับทาสอสูรวิญญาณฝูงใหญ่ ท่ามกลางพวกมันมีอสูรวิญญาณเดียวดายหกสิบตนและมีอสูรวิญญาณบรรพกาลอีกยี่สิบตน

อสูรวิญญาณมีรูปร่างพิสดารทุกประเภท มันกลายเป็นกองกำลังขนาดใหญ่ที่ออกอาละวาดอยู่ในทะเลทรายผีเขียว

เมื่อพวกเขาพบอสูรวิญญาณที่อยู่เพียงลำพังหรือฝูงอสูรวิญญาณ ฟางหยวนจะสั่งให้ทาสอสูรวิญญาณของเขาโจมตีพวกมัน อสูรวิญญาณตัวที่พวกเขาไม่สามารถควบคุมจะถูกสังหารเพื่อรับแก่นแท้อสูรวิญญาณ อสูรวิญญาณที่เหลือจะกลายเป็นทาสของฟางหยวนและคนอื่นๆ

ผ่านไปสิบกว่าวัน กองทัพทาสอสูรวิญญาณก็เติบโตขึ้นถึงสามเท่า