ตอนที่แล้ว315 - หนูทดลอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป317 - หายนะครั้งใหญ่ของสถาบันเทพสงคราม

316 - ความปั่นป่วนในสถาบันเทพสงคราม


1627 -

“เจ้าเข้าใจหรือยัง? ว่าหนทางของพวกเราจะจบลงตรงไหน” วัวผู้เฒ่ากล่าวพร้อมกับถอนหายใจ คราวนี้เขารอดชีวิตได้ เพียงแค่นี้เขาก็รู้สึกมีความสุขแล้ว

ในท้ายที่สุดสือฮ่าวก็ได้รับเลือกให้ต่อสู้กับนักเรียนคนหนึ่ง

อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นไม่นานตัวตนของเขาก็ได้รับการเปิดเผย แม้ว่าผมของเขาจะยุ่งเหยิงแต่ใบหน้าของเขาก็ยังสามารถเห็นได้ชัดเจน

สิ่งนี้ก่อให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่!

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่รู้ว่าฮวงอยู่ที่นี่ แต่มีห้องบรรยายตำราหลายห้อง พวกเขาไม่คาดคิดว่าฮวงจะถูกนำตัวมาที่นี่ในวันนี้

สิ่งมีชีวิตที่เลือกสือฮ่าวไม่กล้าที่จะลงมือต่อสู้ เพราะว่ามีโอกาสอย่างมากที่เขาจะถูกฆ่าตาย

“ไม่เป็นไรญาณวิเศษของเขาถูกปิดผนึกไว้แล้วไม่มีโอกาสใช้ออก เจ้าสามารถลงมือต่อสู้ได้อย่างเต็มที่” ผู้สูงสุดคนนั้นกล่าวให้กำลังใจ

“สิ่งที่เรียกว่าเต๋าอันยิ่งใหญ่ก็เป็นเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะเป็นฮวงที่มีชื่อเสียงโด่งดังแต่เขาก็ยังเป็นเพียงนักโทษคนหนึ่ง ตอนนี้พวกเราทุกคนสามารถใช้เขาเป็นหนูทดลองในการใช้ความรู้ใหม่ที่ได้รับในวันนี้” ครึ่งก้าวผู้สูงสุดคนนั้นรีบเสริม

แน่นอนว่าเมื่อได้ยินสิ่งนี้ นักเรียนทุกคนต่างแย่งชิงกันเพื่อที่จะได้มีโอกาสก่อนคนอื่น

ฮ่อง!

แม้ว่าสือฮ่าวจะถูกปิดผนึกญาณวิเศษไว้แต่เขาก็ยังเคลื่อนไหวได้เร็วมาก ร่างกายของเขาเป็นประกายสีทองหายไปจากสายตาของนักเรียนเหล่านั้น

เมื่อเขาเห็นนักสู้รอบตัวเขากรีดร้องอย่างน่าสังเวชยิ่งกว่านั้นชีวิตของพวกเขาใกล้จะถูกทำลายไปหมดสิ้น

ใบหน้าของสือฮ่าวก็เต็มไปด้วยความเย็นชา ร่างกายของเขาปะทุขึ้นได้แสงสีทองพร้อมกับเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

เผิงเพ็ง…!

นักเรียนทุกคนต่างถูกส่งบินออกไปด้านนอก เต๋าอันยิ่งใหญ่ที่พวกเขาใช้ออกถูกทำลายไปจนหมดสิ้น

พัง!

จากนั้นโซ่เหล็กที่มัดแขนของสือฮ่าวก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เขาใช้มือทั้งสองข้างรัดคอนักเรียนคนหนึ่งไว้พร้อมกับฉีกมันออกจากร่างกายของเขาอย่างโหดเหี้ยม

เดิมทีพระราชวังแห่งนี้เต็มไปด้วยโลหิตไหลนองอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามเมื่ออัจฉริยะแห่งสถาบันเทพสงครามถูกตัดศีรษะเรื่องทุกอย่างก็แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง

อัจฉริยะถูกฆ่าตายในวังเต๋าใหญ่ศีรษะของเขาร่วงลงกับพื้น สิ่งนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกสะท้านหวั่นไหวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เรื่องนี้เคยเกิดขึ้นครั้งสุดท้ายตั้งแต่เมื่อใด? โดยปกติแล้วอัจฉริยะจากสถาบันเทพสงครามมักจะสังหารคู่ต่อสู้ของพวกเขาอยู่เสมอ เรื่องแบบนี้แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย

แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด แต่ก็เป็นเพียงการบาดเจ็บเล็กน้อย ตั้งแต่เมื่อใดที่ 'นักสู้' กล้าสังหารศิษย์ของสำนัก?

สถานะของนักสู้เรียกว่าต่ำมากไม่มีค่าอะไรเลย ถ้าพวกเขาไม่ใช่ลูกหลานของเก้าสวรรค์ก็ต้องเป็นผู้ที่ทำความผิดอย่างใหญ่หลวง

สือฮ่าวยืนอยู่ที่นั่นโซ่ที่แขนของเขามีเลือดไหลอาบลงมา สายตาของเขามองไปที่ทุกคนอย่างเย็นชาไม่มีความรู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย

วังเต๋าใหญ่เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการบรรลุเต๋า พลังแห่งความโกลาหลฟุ้งกระจายอยู่ทุกที่ แต่ในตอนนี้บรรยากาศกับเต็มไปด้วยความอึดอัด ไม่มีผู้ใดส่งเสียงออกมา

“ฮวงเจ้ากล้าทำเลวทราม?!” ครึ่งก้าวผู้สูงสุดคนนั้นตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว ในบรรดานักเรียนด้วยกันเขาถือว่ามีสถานะสูงสุด

ใบหน้าของสือฮ่าวยังคงเฉยเมยไม่ให้ความสนใจเขา สายตาของเขาจ้องมองไปยังนักเรียนของสถาบันเทพสงครามทุกคนด้วยความเย็นชา

“ลืมไปเถอะ ได้แต่โทษว่าเด็กคนนั้นอ่อนด้อยกว่าผู้อื่น” ผู้สูงสุดที่ทำหน้าที่บรรยายกล่าวออกมา

เขาก้มไปมองศีรษะของผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรปลดปล่อยตนเองที่กลิ้งอยู่บนพื้นคนนั้นพร้อมกับตะโกนว่า“ยังไม่ลุกอีกเหรอ!”

อย่างไรก็ตามศีรษะนั้นดวงตาเบิกกว้างไม่สามารถผสานเข้ากับร่างกายของตนเองได้อีกครั้งพลังชีวิตของเขาค่อยๆถูกลบหายไป

ทุกคนตื่นตระหนกตกใจอย่างมาก ใบหน้าของครึ่งก้าวผู้สูงสุดคนนั้นเย็นชาเป็นอย่างมาก เป็นเพราะวิญญาณดั้งเดิมของผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรปลดปล่อยตนเองที่ถูกตัดศีรษะหายไปอย่างสิ้นเชิงนับได้ว่าเสียชีวิตอย่างสมบูรณ์แล้ว

“หากไม่ใช่คำสั่งของอาจารย์ ข้าคงสังหารเจ้าไปนานแล้ว!” เขาตะโกนออกมาด้วยความโกรธ

ใบหน้าของสือฮ่าวยังคงเฉยเมยสายตาของเขามองออกไปอย่างเย้ยหยัน เป็นเพราะมันไม่มีประโยชน์ไม่ว่าพวกเขาจะพูดอะไร

สถานะของเขาในสถานที่แห่งนี้พิเศษเล็กน้อย อย่างน้อยที่สุดเขาก็จะไม่ตายในทันที แต่ลูกหลานของเก้าสวรรคคนอื่นๆนั้นมีสถานะต่ำกว่าสัตว์เลี้ยงเสียอีก

ในฐานะนักสู้พวกเขาไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ แต่ละวันผ่านไปอย่างยากลำบากไม่มีใครปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนมนุษย์คนหนึ่ง

“วันนี้เราจะพอกันแค่นี้ก่อน!” ผู้สูงสุดคนนั้นประกาศจบชั้นเรียนพร้อมกับเดินออกไปด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว

หลังจากนั้นก็มีการประชุมกันระหว่างคณะอาจารย์ของสถาบันเทพสงครามแห่งนี้

“เราจะให้เขาอยู่ที่นี่นานแค่ไหน? เมื่อไหร่เขาจะไปให้พ้นๆสักที”

น่าเสียดายที่คำตอบกลับมาคือพวกเขาไม่สามารถทำร้ายฮวงได้ในตอนนี้

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเวลาผ่านไปไม่มีข่าวคราวของอันหลาน ซือถู ก็ยิ่งสร้างความหวาดวิตกให้กับพวกเขา

หลายคนรู้ว่าจักรพรรดิภูมิไม่ดับสูญเข้าไปในส่วนลึกของพื้นที่ฝังศพโบราณ แม้ว่าจะผ่านไปหลายเดือนแล้วแต่พวกเขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะกลับมา เรื่องนี้ทำให้ทุกคนร้อนใจเป็นอย่างมาก

แน่นอนว่าทุกตระกูลต่างมีความเชื่อมั่นในตัวอันหลาน ซือถู ว่าในโลกนี้ไม่มีผู้ใดสามารถทำร้ายเขาได้ สาเหตุที่พวกเขายังไม่กลับมาจะต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่าง

“ข้าได้ยินมาว่าฮวงดุร้ายอย่างยิ่ง แม้ว่าเขาจะถูกล่ามโซ่และญาณวิเศษถูกปิดผนึกแต่เขาก็ยังลงมือสังหารผู้คนอย่างต่อเนื่อง!”

ข่าวนี้แพร่สะพัดไปทั่วสถาบันเทพสงครามมันดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมาย

ห้องโถงสงครามเป็นสถานที่ที่อากาศหนาวเย็นมากเพราะมีอาวุธมากมายอยู่ที่นี่ ทั้งถูกสร้างมาจากโลหะทั้งถูกสร้างมาจากกระดูกของสัตว์ร้ายบางชนิด

“ในส่วนของอาวุธนั้นถือได้ว่าเป็นส่วนเสริมร่างกายของเรา…”

เมื่อผู้บรรยายระดับผู้สูงสุดกล่าวจบเขาก็เดินออกไปจากห้อง พร้อมกับส่งมอบหน้าที่ดูแลนักเรียนให้กับครึ่งก้าวผู้สูงสุดที่ทำหน้าที่เหมือนกับหัวหน้าห้อง

“เมื่ออาวุธผสานเข้ากับร่างกายแล้ว ทั้งสองแทบจะเป็นอวัยวะเดียวกันต้องได้รับการขัดเกลาอย่างระมัดระวังจนกระทั่งมันเติบโตขึ้นมาในร่างกายของเรา”

ในห้องโถงมีคนไม่มากนักและมีเพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น ในที่สุดก็ถึงเวลาสำหรับภาคการปฏิบัติอีกครั้ง

แน่นอนว่าสือฮ่าวและนักโทษคนอื่นๆถูกนำตัวออกมาอีกครั้งโดยทำหน้าที่เป็นนักสู้เป้าหมายการฝึกซ้อม

ก่อนที่จะมาที่นี่สือฮ่าวถูกมัดโซ่ให้แน่นหนามากกว่าเดิม นี่เป็นการลงมือของผู้สูงสุดด้วยตนเอง เพราะพวกเขาไม่ต้องการให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมาอีก

ตามที่คาดไว้หลังจากเหตุการณ์ล่าสุด นักเรียนมากมายล้วนไม่มีใครกล้าที่จะเลือกเขาเป็นคู่ต่อสู้

“ ดูสิพวกเจ้าทุกคนนี่เป็นอาวุธร้ายแรง เมื่อได้รับการเลี้ยงดูด้วยเลือดพลังของมันจะยิ่งมากขึ้น แต่มันก็จะก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวเองเช่นกัน

มันมีพลังแห่งการสังหารซึ่งจะนำมาซึ่งอันตรายต่อวิญญาณดั้งเดิมของเรา แต่หากสามารถทำให้มันยอมจำนนและถูกเลี้ยงดูภายในร่างกายของเราเองจะทำให้ความแข็งแกร่งของผู้ฝึกฝนเพิ่มมากขึ้นอย่างที่พวกเจ้าไม่อาจจินตนาการถึง”

ครึ่งก้าวผู้สูงสุดคนนั้นยกหอกสีเลือดด้ามหนึ่งขึ้นมาชี้ให้นักเรียนทุกคนเห็นถึงประโยชน์และโทษของมัน

“นั่นคือเหตุผลว่าทำไมในการบำรุงรักษาอาวุธที่ชั่วร้ายอย่างนี้เราจำเป็นต้องมีแผนการที่เหมาะสม มันจะถูกหล่อเลี้ยงอย่างระมัดระวังเพื่อให้พลังงานที่ชั่วร้ายในอาวุธไม่หันมาทำร้ายตัวเราเอง?”

เมื่อเขาพูดถึงตรงนี้ผู้สูงสุดครึ่งก้าวก็เหวี่ยงหอกโลหิตออกไป ทิ่มแทงนักสู้หลายคนจนเสียชีวิต

มีคนไม่น้อยที่ร้องออกมาอย่างน่าสังเวชโลหิตแก่นแท้ในร่างกายของพวกเขาถูกดูดซึมโดยหอกสีแดงเล่มนี้ ร่างกายของพวกเขาแห้งเหี่ยวอย่างรวดเร็วเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกกองหนึ่งเท่านั้น

“อาวุธที่ชั่วร้ายนี้ได้รับการบำรุงเลี้ยงมาหลายปีเลือดที่มันดูดซึมก็ทรงพลังอย่างน่าอัศจรรย์ ตอนนี้มันได้ดื่มเลือดของผู้คนนับสิบจึงถือว่าอิ่มแล้ว หากให้มันดูดเลือดต่อไปพลังชั่วร้ายของมันจะแว้งกลับมาทำร้ายผู้เป็นเจ้าของ” ครึ่งก้าวผู้สูงสุดคนนั้นกล่าวอย่างใจเย็น

ปู!

คราวนี้วัวที่อยู่ข้างกายของสือฮ่าวถูกอาวุธชิ้นหนึ่งทิ่มแทง โลหิตแก่นแท้ของเขาถูกดูดออกไปจนเส้นขนทุกเส้นของเขาหงอกขาวแก่ชราลงไปมาก

แดง!

สือฮ่าวไม่สามารถเฝ้าดูได้ เขาลงมือใช้โซ่ที่มัดแขนของเขาไว้ทำลายกระบี่สีแดงเล่มนั้นทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด