ตอนที่แล้วตอนที่ 28 ทั้งหล่อทั้งรวย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 30 ฉันสั่งให้เธอหยุด

ตอนที่ 29 นับจากนี้ไปนายจะเป็นพี่ชายของฉัน


ตอนที่ 29 นับจากนี้ไปนายจะเป็นพี่ชายของฉัน

เซิ่งอั้นหรานไม่รู้ว่าเธอพูดอะไรผิด และพยักหน้าด้วยความยินดี

“คุณหนูเกาจำฉันได้ด้วย”

เกาย่าเหวินตอบอย่างไม่คาดคิด“ลูกสาวเธอชื่ออะไร?”

สายตาเธอหยุดที่เซิ่งเสี่ยวซิง หลังเห็นใบหน้าอมชมพู เปลือกตาเธอก็กระตุกอย่างควบคุมไม่ได้ ทำไมเธอถึงคิดว่าเด็กสาวคนนี้หน้าตาเหมือนอวี่หนานเฉิงเล็กน้อย?

เป็นไปไม่ได้ เธอร่ำร้องอยู่ในใจ

“หนูชื่อเซิ่งเสี่ยวซิงค่ะ หรือจะเรียกหนูว่าเสี่ยวซิงก็ได้ค่ะ”

เซิ่งเสี่ยวซิงพูดแทรกขึ้นทันควัน และแหงนมองเกาย่าเหวิน

“เซิ่งเสี่ยวซิง?”

พอได้ยินชื่อ เกาย่าเหวินก็กำหมัด นึกถึงกองเอกสารที่เธอเห็นในห้องทำงานของอวี่หนานเฉิงวันนั้น เธอกลายเป็นสงสัยมากขึ้นและถามตรง ๆ

“ทำไมเธอถึงใช้นามสกุลของแม่เธอละ?”

เซิ่งเสี่ยวซิงดูไม่เข้าใจและหันไปมองแม่เธอ

มันเป็นปกติที่เซิ่งอั้นหรานจะพบอะไรผิดปกติจากคำถามก่อนหน้า นี่เป็นประเด็นส่วนตัว ถ้าเธอไม่พบความผิดปกติ เธอคงเป็นคนโง่

ตอนนั้นเอง เธอดึงเซิ่งเสี่ยวซิงไปหลบหลังเธอ และน้ำเสียงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

“เสี่ยวซิงซิงโตที่อเมริกาและเพิ่งกลับจีนค่ะ เธอไม่ค่อยเข้าใจคำถามของคุณหนูเกาหรอกค่ะ แถมนี่ก็เป็นศตวรรษที่ 21 แล้ว เรื่องนามสกุลคนไม่ใช่อะไรที่น่าแปลกใจหรอกนะคะ”

เกาย่าเหวินผงะไปสักพัก จากนั้นก็เห็นอวี่จิงซีหลบหลังเซิ่งอั้นราน เธอจึงยิ่งไม่พอใจ น้ำเสียงเธอเปลี่ยนไป

“ฉันก็แค่อยากรู้เฉย ๆ มันไม่สำคัญหรอกว่าเธอจะใช้นามสกุลใคร โรงเรียนอย่างหลานเป๋าไม่ใช่ที่ที่คนธรรมดาจะส่งลูกเข้าเรียนได้ คุณเซิ่งเป็นแค่ผู้จัดการภายในของกลุ่มเซิ่งถัง ถ้าไม่ใช่เพราะสามี ฉันก็คิดไม่ออกจริง ๆ ว่าคุณจะไปมีปัญหาส่งลูกเรียนที่นี่ได้ไง”

เซิ่งอั้นหรานหน้าเปลี่ยนสี

เธอยอมรับว่าเธอได้ยั่วโมโหเกาย่าเหวิน แต่อีกฝ่ายก็ก้าวร้าวและโจมตีจุดอ่อนเธอในประโยคเดียว ถ้าเป็นตัวเธอเอง เธอไม่มีปัญญาจะส่งเสี่ยวซิงซิงมาที่นี่จริง และเธอก็ยืนอึ้งไปสักพัก

“นี่เป็นเรื่องส่วนตัว” เสียงของอวี่หนานเฉิงเข้ามาทำลายบรรยากาศ ช่วยปกป้องเซิ่งอั้นหราน เขาเหลือบมองเกาย่าเหวินด้วยความไม่พอใจ“ฉันต้องรายงานเธอทุกโรงเรียนที่คนอื่นเข้าหรือไง? ช่วงนี้เธอเข้ามายุ่งหลายเรื่องแล้วนะ”

เกาย่าเหวินหน้าซีดหลังได้ยิน

อวี่หนานเฉิงพูดเพื่อผู้หญิงคนนี้ และไม่ไว้หน้าเธอเลยในที่สาธารณะ

“หนานเฉิง ฉันแค่ทำไปเพื่อจิงซีนะ ฉันกลัวว่าโรงเรียนจะมีหลายชนชั้น ฉันจึงถามให้ชัด”

“ไม่จำเป็น”

อวี่หนานเฉิงหยุดมองเธอ ด้วยท่าทางรำคาญ“เธอกลับไปรถก่อน ฉันจะไปส่งจิงซี”

ผู้ปกครองของเด็กถึงเข้าไปได้ และยามก็จะไม่ปล่อยให้เกาย่าเหวินเข้าไป นี่คือกฎของหลานเป๋า

“หนานเฉิง”

เกาย่าเหวินยืนนอกประตู กระทืบเท้าขณะมองอวี่หนานเฉิงกับเซิ่งอั้นหรานเข้าไปข้างในด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว

เซิ่งเสี่ยวซิงกับอวี่จิงซีเดินนำหน้าผู้ใหญ่ทั้งสอง เด็กสาวมองเหลียวหลัง เห็นเกาย่าเหวินยืนเต้นแร้งเต้นกาอยู่ด้านนอกประตูเหล็ก เธอหดหัวและกระซิบ

“พี่ชายจิงซี พี่ชอบป้าคนนี้จริงเหรอ? ฉันคิดว่าเธอดูน่ากลัวนะ” นับตั้งแต่เธอได้ยินจากปู่ว่าอวี่หนานเฉิงจะแต่งงานกับเกาย่าเหวิน เธอก็ได้ตรวจสอบข้อมูลของเกาย่าเหวินบนเครือข่าย รูปถ่ายบนนั้นถูกถ่ายอย่างดีให้เธอดูเหมือนเทพธิดาลงมาจุติบนโลก แต่พอได้เห็นตัวจริงเข้า เซิ่งเสี่ยวซิงก็ลอบเบะปากในใจ

การแต่งตัวก็ดี แต่ถ้ามองหน้ากับท่าทางการพูด ไม่มีทางที่เธอจะเทียบแม่ของเธอได้ ลุงอวี่คนนี้มีตาหามีแววไม่

อวี่จิงซีพลันกลายเป็นตื่นเต้นและส่ายหัวไปมา

“พี่ชายไม่ชอบเธอ?” เซิ่งเสี่ยวซิงดูตกตะลึง“งั้นพี่ชายยังอยากได้เธอเป็นแม่เลี้ยงอีกงั้นเหรอ?”

อวี่จิงซีส่ายหัวแรงกว่าเดิม

“พี่ชายหมายความว่า พี่ชายไม่อยากได้เธอเป็นแม่เลี้ยง?” ดวงตาของเซิ่งเสี่ยวซิงเป็นประกาย

อวี่จิงซีพยักหน้า

“นั่น...” ดวงตาของเซิ่งเสี่ยวซิงเบิกกว้าง“แล้วพี่ชายคิดยังไงกับแม่ฉัน? คิดว่าอยากให้แม่ฉันเป็นแม่เลี้ยงพี่ชายกว่าไหม? แม่ฉันกับฉันทำอาหารอร่อยมากเลยนะขอบอก”

อวี่จิงซีพยักหน้าถี่ยิบ

พอเห็น เซิ่งเสี่ยวซิงก็แทบกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข ทันใดนั้นเธอก็คว้ามืออวี่จิงซี กะพริบตาปริบ ๆ

“งั้นพี่ชายก็จะเป็นพี่ชายที่แท้จริงของฉันนับจากนี้ไป ไม่ต้องห่วง ถ้าฉันได้กินเนื้อ ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้พี่ชายซดน้ำซุป”

อวี่จิงซีพยักหน้า จากนั้นก็ส่ายหัว และลดหัวลงเพื่อแสดงบางสิ่งบนกระดาน

เซิ่งเสี่ยวซิงไม่รู้ตัวอักษรมาก และขมวดคิ้ว“พี่ชายจิงซี พี่เขียนอะไรนะ?”

เมื่อเห็นอย่างนี้ อวี่จิงซีก็หมุนตัว ยื่นกระดานวาดรูปให้อวี่หนานเฉิง ชี้กระดานวาดและจากนั้นก็ชี้เซิ่งเสี่ยวซิง ซึ่งหมายความว่าเขาควรอ่านออกเสียง

หลังอวี่หนานเฉิงเห็น เขาก็มองอวี่จิงซีแปลก ๆ และเห็นว่าจิงซีกำลังจับชายเสื้อเขา ดูเหมือนจะกังวลมาก เขาจึงขมวดคิ้วและลังเล

“ครอบครัวของฉันรวยมาก เราสามารถกินเนื้อด้วยกันได้? จิงซี ลูกเขียนอะไร?”

อวี่จิงซีมองเขาอย่างเย็นชา คว้ากระดานวาดรูปและหยุดคุยกับเขา เดินไปข้างเซิ่งเสี่ยวซิง และกะพริบตาให้เธอ

เซิ่งเสี่ยวซิงยิ้มและพยักหน้าให้อวี่จิงซีอย่างเริงร่า

“ใช่แล้ว ใช่ ฮี่ๆๆ”

พฤติกรรมแปลก ๆ ของเจ้าตัวน้อยทั้งสองตกอยู่ในสายตาอวี่หนานเฉิง และทั้งคู่ก็ยิ่งเข้าใจได้ยากขึ้น แต่ในความคิดเขา พฤติกรรมของเด็กเข้าใจได้ยากอยู่แล้ว

เซิ่งอั้นหรานกังวลตลอดทาง หลังลังเลสักพัก เธอก็พูด“ประธานอวี่ ขอบคุณที่ช่วยจัดการเรื่องเรียนให้เสี่ยวซิงซิงนะคะ”

อวี่หนานเฉิงมองตรงไปข้างหน้า น้ำเสียงของเขาดูสบาย ๆ

“เธอไม่ต้องคิดมาก จิงซีกับเสี่ยวซิงซิงเข้ากันได้ดีมาก และเสี่ยวซิงซิงก็คือเพื่อนคนแรกของจิงซี จากมุมมองของคนเป็นพ่อ ฉันทำเพื่อจิงซี”

พอได้ยิน เซิ่งอั้นหรานก็พูดไม่ออก

กล้าใช้เงินมากขนาดนี้แค่เพื่อให้เสี่ยวซิงซิงมาเรียนเป็นเพื่อนกับจิงซี นี่มันจะรวยเกินไปแล้ว!

ถ้ามันไม่ใช่เพราะหมอจู้ชุนฟาง เธอคงไม่มีวันยอมตกลงมาเรียนที่นี่

ตอนนี้ เธอทำได้แค่ทน ทนไว้ให้สุดความสามารถ

เซิ่งอั้นหรานเดินตามหลังเขา กำหมัดคู่น้อยด้วยความโกรธ

“เสียงอะไรนะ?” อวี่หนานเฉิงพลันหันไปมองเธอ

เธอรีบคลายมือและฉีกยิ้ม

“เสียงอะไรคะ? ฉันไม่ได้ยินเลย”

ดวงตาของอวี่หนานเฉิงหรี่ลง

“จริงเหรอ? สงสัยฉันหูฝาด”

ขั้นตอนการลงทะเบียนเสร็จแล้ว และเด็กทั้งสองก็ถูกผู้ช่วยพาไปเข้าชั้นเรียน

ครั้งนี้เซิ่งอั้นหรานเดินข้างเขาไปเยี่ยมชมโรงเรียน อวี่หนานเฉิงมีจุดหมายเดียวกับเธอ ข้อแตกต่างเดียวคือเซิ่งอั้นหรานไม่มีเวลามากและต้องกลับไปทำงานก่อนเก้าโมง เธอจึงรีบเดิน

พอเดินไปถึงสนามเด็กเล่น เธอก็มองผ่าน ๆ ก่อนกำลังจะกลับ ทันใดนั้น เธอก็ได้ยินคำถามด้านหลังเธอ และเธอก็หยุดชะงักเท้า

“ที่นี่ไม่มีมาตรการความปลอดภัยสำหรับชิงช้า”

อวี่หนานเฉิงเหลือบมองผู้ช่วยที่เดินตามหลังเขา น้ำเสียงของเขาไม่พอใจเล็กน้อย

“แน่ใจนะว่านี่ปลอดภัย?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด