ตอนที่ 256 เหตุการณ์ที่ผ่านมา
ตอนที่ 256 เหตุการณ์ที่ผ่านมา
ณ ดาวเคราะห์ A111 เมืองหลวงไทกีล่า สมาพันธ์นักล่า
หนึ่งปีหลังจากการหายตัวไปของประธานสมาพันธ์นักล่าและระดับสูงอีกหลายคน เรื่องราวมากมายได้ผ่านเข้ามาที่สมาพันธ์นักล่า ไคโรขึ้นมาควบคุมอำนาจของสมาพันธ์แทนลูกชาย ก่อนจะจัดการกบฏที่ต้องการยึดอำนาจของสมาพันธ์ ซึ่งคนเหล่านั้นก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นอดีต 5 รัฐมนตรีที่เคยมีอำนาจควบคุมเมืองย่อยก่อนจะเข้าร่วมกับสมาพันธ์นักล่า
พวกนั้นพยายามกระจายข่าวลือ เรื่องที่ประธานสมาพันธ์นักล่า ไนเรล อาจนกระทั่งเดีย รองประธานสมาพันธ์นักล่า เอวา พร้อมด้วยคนอื่น ๆ นั้นโดนซอมบี้ที่มีนามว่า จักรพรรดิซอมบี้ ฆ่าทิ้งไปหมดแล้ว
แน่นอนว่าเรื่องนี้ทำให้สมาพันธ์นักล่าเกิดการแบ่งเป็นหลายฝ่าย แต่ถึงหลายคนจะเชื่อจนโดนดึงเข้ามาร่วมกบฏ แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถโน้มน้าวตาเดียวกับกองกำลังอื่น ๆ ได้ โดยเฉพาะกองกำลังผู้พิทักษ์สมาพันธ์นักล่า
คนพวกนี้แทบจะทั้งหมดรู้ว่านายท่านไนเรลยังไม่ตาย ก็เพราะหนึ่งในความสามารถคำบัญชาเผ่าพันธุ์
แม้จะมีหลายช่วงที่คำบัญชาเผ่าพันธุ์ที่พวกเขาเอ่ยคำสัญญาไว้พลังจะขาด ๆ หาย ๆ แต่เมื่อไม่นานมานี้มันกลับมาเชื่อมถึงพวกเขา แถมยังทรงพลังขึ้นเรื่อย ๆ
ภายใต้คำสั่งของเนโค กองกำลังผู้พิทักษ์เริ่มการกวาดล้างกบฏ โดยมีตาเดียวที่มีพลังถึงระดับสีม่วงขั้นสูงนำทัพจัดการทั้งเมืองหลวงไทกีล่าและเมืองซานติเกีย
หลังจากสืบต้นต่อเรื่องทั้งหมด ก็ได้รู้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังนั้นคือ เอิร์ลดาโก้ แต่ร่องรอยของเอิร์ลดาโก้นั้นหายไปอย่างน่าแปลกใจ
...
สองเดือนหลังการกวาดล้างกบฏของสมาพันธ์นักล่า
ฝูงซอมบี้บุกโจมตีที่เมืองหลวงไทกีล่าอีกครั้ง นำโดยจักรพรรดิซอมบี้มันเป็นการต่อสู้ที่ยืดเยื้อราวกับจักรพรรดิซอมบี้ต้องการค่อย ๆ ฆ่าและทรมานพวกเขา
โชคยังดีที่องค์ชายใหญ่พากองกำลังของตัวเองมาช่วยพวกเขาสู้ที่เมืองหลวงเก่าไทกีล่ายันกองทัพซอมบี้ไว้ได้หลายเดือน แต่ดูเหมือนการโจมตีของจักรพรรดิซอมบี้เป็นเพียงการเปิดฉากความวุ่นวายที่แท้จริงเท่านั้น
เพราะหลังจากนั้นก็เรื่องใหญ่ขึ้นในเผ่ายักษ์เถื่อน
เผ่าวารีเริ่มการต่อสู้ระหว่างยักษ์เถื่อนด้วยกันเอง โดยการสังหารราชาของเผ่าอัคคี และเผ่าปฐพี การต่อสู้ที่เผ่าอัคคีทำลายกำแพงโดมใต้พิภพที่กักขังเหล่ายักษ์เถื่อนทั้งหมด
ทำให้เหล่ายักษ์เถื่อนเผ่าอัคคีและเผ่าอื่น ๆ บางส่วนหนีออกมาได้ ด้วยการสละชีวิตของข้ารับใช้ชรา ซึ่งได้กลับไปที่เมืองใต้พิภพ จัดการงานให้องค์ชายใหญ่
และการที่องค์ชายใหญ่มาสู้กับซอมบี้ที่เมืองหลวงไทกีล่าทำให้เขารอดพ้นชะตากรรมการกวาดล้างราชวงศ์เผ่าเทพไททันของราชาวารีไปได้
หลังจากองค์ชายใหญ่ทราบเรื่องก็โกรธแค้นราชาวารีเป็นอย่างยิ่ง ในมือถือกระบอกบันทึกเสียงอยู่ “เมื่อไหร่เจ้าจะกลับมา มันบอกว่าเจ้าคือผู้ที่จะพาเผ่าเทพไททันออกไปจากที่นี่”
ในตอนนั้นเองไคโรก็เดินเข้ามา
ก่อนที่ทั้งสองจะคุยการเรื่องเผ่ายักษ์เถื่อนที่อพยพเข้ามาที่เมืองซานติเกีย ไคโรมองเห็นโอกาส เผ่ายักษ์เถื่อนเป็นเผ่านักสู้ จึงช่วยพวกเขาได้อย่างแน่นอน
ที่สำคัญกว่านั้นเผ่ายักษ์เถื่อนจะเป็นปราการด้านตะวันออกของเมืองซานติเกียรับมือกับยักษ์เถื่อนเผ่าอัคคีที่กำลังยกทัพมาตีเมืองซานติเกีย
แน่นอนว่าองค์ชายใหญ่รู้เรื่องนี้ องค์ชายรู้ความคิดของไคโร แต่ก็ยอมรับมัน เพราะเขาต้องการแก้แค้นให้กับตระกูลของตนเอง
สิบแปดเดือนหลังจากการหายไปของไนเรล การต่อสู้ที่เมืองหลวงไทกีล่ากับซอมบี้ก็มาถึงทางตัน กองกำลังกว่าครึ่งของฝั่งมนุษย์โดนฆ่า ฝูงซอมบี้ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือพวกมันสร้างนางพญาซอมบี้ขึ้น ทำให้เกิดการปลดปล่อยหมอกพิษสีดำปกคลุมดินแดนทางเหนือของไทกีล่าทั้งหมด
ไคโรไม่มีทางเลือกต้องสั่งอพยพประชากรทั้งหมดถอยกลับไปที่เมืองซานติเกีย ซึ่งตอนนี้ทางด้านตะวันออกยังคงสู้กับยักษ์เถื่อนเผ่าวารี
แล้วทิ้งกองกำลังพยัคฆ์ กองกำลังหมาป่า และกองกำลังเวหาสู้กับซอมบี้ต่อไป
ไคโรมองไปที่เมืองหลวงเก่าไทกีล่าด้วยความขมขื่น ถ้าไม่ใช่เพราะหมอกพิษสีดำพวกเขาคงไม่เสียเมืองหลวงไทกีล่าเร็วขนาดนี้
ตอนนี้สถานการณ์ย่ำแย่มาก โดยเฉพาะในเรื่องทรัพยากรมนุษย์ จากที่มีอยู่ 15 ล้านคนตอนนี้ประชากรมนุษย์ลดลงไปเหลือเพียง 8 ล้านคนเท่านั้น การตายของประชากรเกือบ 50% ถือเป็นเรื่องร้ายแรงมาก
แต่แล้วหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ต่อมาเกิดเรื่องที่เมืองพันธมิตรมนุษย์ขึ้น ขณะที่มาราคอจนกระทั่งนำกองกำลังกว่า 4 แสนคนสู้กับเผ่าเจ้าสมุทรอยู่นั้น ก็มียานขนส่งอวกาศขนาดใหญ่ยักษ์กว่าร้อยเมตรลอยลำนิ่งอยู่เหนือพื้นดิน ลอบโจมตีเมืองพันธมิตรมนุษย์
ด้วยปืนใหญ่ของยานขนส่งอวกาศมันรุนแรงกว่าปืนใหญ่พลังงานของพวกเขาหลายเท่านัก เป้าหมายการโจมตีคือบริเวณที่ผู้คนอามิวกัสอาศัยอยู่มากที่สุด
การโจมตีของยานขนส่งอวกาศยิ่งอย่างต่อเนื่องถึง 1 ชั่วโมงเต็ม จนกระทั่งในที่สุดเมืองพันธมิตรมนุษย์ก็ยอมแพ้
แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นมากซะจนไม่มีใครรับไหว ประชากรที่เคยเป็นคนอามิวกัสตายมากกว่า 95% ส่วนพวกที่รอดส่วนใหญ่คือจีนาส
หลายคนยินดีเจ้าร่วมกับเอิร์ลดาโก้ แต่มีหลายคนที่ต่อต้านทั้งหมดถูกสังหารจนหมด
เอิร์ลดาโก้ไม่เพียงถล่มเมืองแต่ขนทรัพยากรทั้งหมดไปด้วย พร้อมกับถล่มเมืองพันธมิตรมนุษย์อีกครั้งจนมันกลายเป็นเพียงซากเท่านั้น
มาราคอฟที่นำทัพออกไปสู้กับเผ่าเจ้าสมุทรหลังรู้เรื่องเขาก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
การล่มสลายของเมืองพันธมิตรมนุษย์ เป็นเหมือนการปิดประตูตายกองทัพนับแสนคนที่สู้กับเผ่าเจ้าสมุทร เมื่อไม่มีเมืองให้ถอยกลับก็ทำให้พวกเขาต้องสู้จนตายเท่านั้น
มาราครอฟสละชีวิตของตัวเองจนถึงวินาทีสุดท้ายตายไปพร้อมกับกองทัพพันธมิตรมนุษย์
เอิร์ลดาโก้รับรู้เรื่องนี้ แต่เขาไม่สนใจเพราะตอนนี้เขาอยู่บนยานขนส่งอวกาศ มันจะกลายเป็นเมืองและปราการในการขึ้นครองอำนาจของเขา
เอิร์ลดาโก้ยืนอยู่ภายในยานอวกาศ มองดูกองทัพจีนาสหนึ่งล้านนายที่จัดแถวเป็นระเบียบอยู่ภายในยานขนส่งอวกาศ
“ต่อไปนี้พวกเราจะเป็นกองกำลังที่ทรงพลังที่สุด ด้วยยานลำนี้ มันจะเป็นปราการสุดท้ายที่แข็งแกร่งที่สุด พวกเราจะรวบรวมเผ่าพันธุ์มนุษย์ จีนาสจะปกครองมนุษย์ พวกเราจะครองโลกใบนี้”
เสียงของเอิร์ลดาโก้ก้องกังวานไปทั่วทั้งยาน ผู้คนทั้งหมดต่างส่งเสียงเฮลั่นดังสนั่นหวั่นไหว
“ปราการสุดท้าย เคลื่อนทัพไปถล่มสมาพันธ์นักล่า” เอิร์ลดาโก้พูดด้วยความแค้น ตั้งแต่ก่อนเกิดวันโลกาวินาศ จนมาถึงตอนนี้ เอิร์ลดาโก้โกรธแค้นอยู่สิ่งเดียวเท่านั้น หนึ่งคือเนโค อาโรเดีย แต่ตอนนี้มันเพิ่มมาอีกอย่างแล้ว สมาพันธ์นักล่าที่นำโดย คนของตระกูลอาโรเดียด้วยเช่นกัน
“ข้ายอมรับว่ากลัวเจ้า ไนเรล อาโรเดีย แต่ตอนนี้เจ้าไม่อยู่แล้ว ข้าจะทำลายสิ่งที่เจ้าสร้างขึ้นมา สมาพันธ์นักล่าต้องโดนทำลาย” เอิร์ลดาโก้ปลดปล่อยพลังงานออกมา แสดงให้เห็นว่าตอนนี้เขามาถึงระดับ สีม่วงขั้นสมบูรณ์แล้ว
เพราะหลังจากยึดครองยานขนส่งอวกาศได้ เอิร์ลดาโก้ใช้มันทำสิ่งแรกเลยนั้นคือ ‘ล่าสัตว์กลายพันธุ์’ เพื่อเอาแก่นพลังงานมาเพิ่มพลังให้กับตัวเอง
เอิร์ลดาโก้ไม่เคยเชื่อใจใคร ไม่เชื่อใจพลังของยานอวกาศเพราะมันไม่ใช่พลังของเขาจริง ๆ เขาเชื่อเพียงพลังของตัวเองเท่านั้น
“นอกจากจักรพรรดิซอมบี้แล้ว ข้าคือชายที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกใบนี้ ฮ่า ๆ” เอิร์ลดาโก้หัวเราะด้วยเสียงที่ดูชั่วร้าย พร้อมกับที่ปราการลอยห่างออกไป
.............
หนึ่งเดือนต่อมาที่เมืองซานติเกีย การมาถึงของเอิร์ลดาโก้ทำให้เกิดการต่อสู้ขนาดทำลายแม่น้ำจนแหลกลาญ เปิดโอกาสให้ราชาวารีเข้าร่วมโจมตีด้วย ตอนนี้สมาพันธ์นักล่ารับมือกับทั้งซอมบี้ เอิร์ลดาโก้และราชาวารี
ไคโรและเซน พร้อมด้วยศิษย์อีกสองคน ดานเต้ชายหนุ่มผู้ได้สืบทอดความสามารถ [ปืนใหญ่วารี S] และนิรินหญิงสาวคนที่ได้สืบทอดความสามารถ [มนุษย์งูยักษ์ S] ไป ทั้งสองเข้าสู้กับเอิร์ลดาโก้
ส่วนตาเดียวและองค์ชายใหญ่ต่อสู้กับราชาวารี
แต่สถานการณ์กลับไม่ได้เข้าข้างพวกเขาเลยแม้แต่น้อย เพราะปราการสุดท้ายของเอิร์ลดาโก้ ยิ่งถล่มเมืองซานติเกียอย่างต่อเนื่อง
แม้ปืนใหญ่พลังงานรอบ ๆ กำแพงก็ไม่อาจจะสร้างความเสียหายให้กับปราการสุดท้ายของเอิร์ลดาโก้ได้เลยแม้แต่น้อย
“บัดซบ เอิร์ลดาโก้ เจ้าคิดจะพินาศไปพร้อมกันอย่างนั้นเหรอ” ไคโรตะคอกด้วยความร้อนรน ผู้คนในเมืองตายอย่างต่อเนื่อง แต่เขากลับไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยแม้แต่น้อย
“ฮ่า ๆ ต่ายพร้อมกันอย่างนั้นเหรอ ผิดแล้วพวกเจ้าตั้งหางที่ต้องตาย ส่วนเผ่ายักษ์เถื่อนนั้นพวกมันไม่มีทางทำอันตรายพวกข้าได้ตราบใดที่ยานขนส่งอวกาศยังอยู่” เอิร์ลดาโก้ยิ้มออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์และยังกล่าวต่อว่า “เจ้าบอกให้ AI ซีโร่ เลิกพยายามเถอะ ยานนี้คือเทคโนโลยีชั้นสูง ด้วยระดับ AI ของมันไม่มีทางทำเจาะผ่านระบบของยานได้อย่างแน่นอน”
ในตอนนั้นเองทางด้านฝั่งตะวันออกยักษ์เถื่อนเผ่าอัคคีกำลังจะพ่ายแพ้ องค์ชายใหญ่โดนดาบแทงเข้าไปที่ท้องก่อนจะลอยตกจากฟากฟ้าราวกับลูกไฟกระแทกลงกับอาคารกระดอกเต่าในเมือง
แรงกระแทกทำให้อาคารสั่นไหว แม้แต่กระดองเต่าของสัตว์กลายพันธุ์ระดับ 5 ที่กลายเป็นอาคารหลบภัยก็ยังเกิดรอยแตกร้าว สีหน้าของไคโรดูไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง
เพราะที่นั่นคือสถานที่ ซึ่งผู้คนหลบภัย
“ส่งทหารออกไป ใครสู้ฆ่าให้หมด จับเป็นมาผู้หญิงเราต้องใช้เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์” เอิร์ลดาโก้กล่าวออก
เมืองซานติเกียโดนถล่มจนย่อยยับ ไคโรและคนระดับสูงต่างพากันถอยเข้าไปหลบที่อาคารกระดองเต่าเพื่อรักษาชีวิต เอิร์ลดาโก้ไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าการโจมตีของตัวเองทำให้ยักษ์เถื่อนเผ่าวารีเข้ามาในเมืองซานติเกียได้
เพราะตอนนี้เอิร์ลดาโก้มีแต่ความสะใจ มันอยากจะเห็นสีหน้าของไนเรล ถ้ารู้ว่ามันมาถล่มเมืองซานติเกีย
“ไปจับไคโรและแม่ของไนเรลมาให้ได้ ก่อนที่ยักษ์เถื่อนจะเข้าไปฆ่าพวกมันก่อน ข้าต้องการพวกมันแบบเป็น ๆ”
แต่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เอิร์ลดาโก้หวัง เพราะในตอนนั้นเองก็มีหญิงสาวผู้แปลกประหลาดปรากฏตัวขึ้น ด้านหลังมีดาบคู่เขางูเก็บไว้อยู่ ออร่าที่เด็กสาวแผ่ออกมันนั้นมันความบริสุทธิ์จนไม่อาจจะมีสิ่งใดทัดเทียมได้
เธอขี่กวางเผือกสูงใหญ่กว่า 4 เมตรเดินออกมาขวางหน้าอาคารกระดองเต่า
ด้านข้างยังมีชายวัยกลางคนแต่งตัวเรียบง่าย แม้พลังจะเป็นเพียงแค่ระดับ สีน้ำเงินขั้นสมบูรณ์เท่านั้น แต่ก็ทำให้เอิร์ลดาโก้สนใจได้
ทั้งสองคนไม่ใช่ใครอื่น ๆ แต่เป็น โนแลนและลูกสาวของไนเรลับราชินีนิมฟ์ เธอมีนานว่า....
