ตอนที่แล้วSign in Buddha's palm 209 (I)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSign in Buddha's palm 210

Sign in Buddha's palm 209 (II) แผ่นดินสะเทือน 


Sign in Buddha's palm 209 (II) แผ่นดินสะเทือน

“โอ้?”

“หาทางลงให้แก่ข้า?”

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้มีร่องรอยของการประชดประชันปรากฏบนใบหน้าของซูฉิน เขามองไปที่ชิงชิวชิงหลิงด้วยความสนใจ “เจ้าไม่ต้องการจะรู้หรือ ว่าทำไมข้าที่รู้ว่าเกาะหยิงโจวถูกครอบครองโดยกลุ่มภูตอสูร และมีค่ายกลสังหารภายใน กลับยังกล้าเข้ามา?”

เมื่อซูฉินกล่าวออกไปเช่นนี้

ใบหน้าของชิงชิวชิงหลิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

ถูกต้อง

หากซูฉินทราบว่ามีอันตรายที่นี่ ทำไมเขาถึงยังเข้ามา?

ยิ่งชิงชิวชิงหลิงคิด ก็ยิ่งรู้สึกว่าบางสิ่งไม่ถูกต้อง ซูฉินรู้ถึงอันตรายแต่ก็ยังเข้ามา มีความเป็นไปได้เพียงสองทางเท่านั้น

หนึ่งคือโง่

ประการที่สองคือมีความมั่นใจ

ด้วยความสามารถของซูฉินที่ปีนป่ายขึ้นมาถึงตำนานยุทธระดับนภาชั้นที่เจ็ดได้นั้น เป็นธรรมดาที่จะไม่ได้โง่เง่า ดังนั้นความเป็นไปได้จึงมีเพียงประการหลังเท่านั้น......

อย่างไรก็ตาม ไม่ทันที่ชิงชิวชิงหลิงจะตอบกลับอะไร

“นั่นเป็นเพราะข้ากังวลว่า ถ้าเจ้ายังอยู่ข้างใน หยกเนื้อดีจะถูกเผาทำลายดั่งหินน่ะสิ!” ซูฉินส่ายศีรษะเล็กน้อย ก้าวเท้าไปข้าวหน้าพร้อมกับกล่าวเบาๆ “แต่ตอนนี้ เจ้าไม่สามารถเผาหยกดั่งหิน[2]ได้แล้ว”

ในชั่วพริบตา

ซูฉินก็ยกมือขึ้น ดึงมีดเทพเจ้าปีศาจออกมา ผสานแก่นแท้แห่งพลังเข้าไปและตวัดมีดฟาดฟัน

เปรี้ยง

ซูฉินนั้นราวกับเป็นเทพเจ้าปีศาจ ด้วยรัศมีพลังที่พลุ่งพล่านราวกับน้ำในมหาสมุทร แผ่ขยายออกไปอย่างรวดเร็วทุกทิศทาง

…...

ขณะปัจจุบัน

นอกเกาะหยิงโจว

ร่างงามชุดแดงยืดตัวตรงขึ้น มองดูค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่เริ่มมีความผันผวนอย่างช้าๆ

“ดูเหมือนว่าพวกหัวหน้าเผ่าจะลงมือแล้ว”

ร่างงามในชุดแดงมีชื่อว่า ชิงชิวเฉียนเฉี่ยน เป็นจิ้งจอกตระกูลชิงชิวเช่นเดียวกัน

“ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมหัวหน้าเผ่าต้องใช้ค่ายกลสังหารบนเกาะ ลงมือตรงๆ ก็ดีเยี่ยมแล้ว การใช้ค่ายกลสังหารไม่ใช่ว่าสิ้นเปลืองพลังงานบนเกาะหรอกหรือ......”

ชิงชิวเฉียนเฉี่ยนส่ายศีรษะและพึมพำกับตนเองต่อ “อย่างไรเสีย นี่ก็เป็นตำนานยุทธระดับนภาชั้นที่เจ็ด และท่านหัวหน้าเผ่าคงต้องการใช้ค่ายกลสังหารเพื่อป้องกันความผิดพลาด”

ชิงชิวเฉียนเฉี่ยนคิดไปเรื่อยเปื่อย

จากมุมของชิงชิวเฉียนเฉี่ยน ตราบใดที่ซูฉินเข้าไปในเกาะหยิงโจว เขาก็เหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว ภายใต้พื้นที่ครอบคลุมของค่ายกลสังหาร เป็นไปไม่ได้ที่ซูฉินจะหาทางหลบหนี

“เอ๋?”

“มีมนุษย์อยู่ที่นี่อีกหรือ?”

ชิงชิวเฉียนเฉี่ยนเหลือบมองเรือประมงที่อยู่ไม่ไกลและกล่าวอย่างเป็นกันเองว่า “พวกเจ้ารีบไปเถอะ”

สำหรับชิงชิวเฉียนเฉี่ยน นางไม่ได้สนใจแม้แต่จะโจมตีมนุษย์ที่ราวกับมดปลวก นอกจากนี้นางยังอยู่ในอารมณ์ที่ดี จึงคิดจะไว้ชีวิตพวกเขา และเปิดเขตแดนให้ออกไป

ด้านบนเรือประมง

หญิงสาวอย่างอาตั่วตัวสั่น และเมื่อได้ยินคำกล่าวของชิงชิวเฉียนเฉี่ยนที่ปล่อยให้พวกตนจากไป พวกเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“ท่านเทพธิดา......”

อาตั่ว หญิงสาวกัดฟันแล้วกล่าวถามออกมาว่า “พี่ชายคนเมื่อครู่นี้จะออกมาเมื่อไหร่.......”

อาตั่วหมายถึงซูฉินที่เพิ่งเข้าสู่เกาะหยิงโจว

“เทพธิดา?”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชิงชิวเฉียนเฉี่ยน ในเผ่าพันธุ์จิ้งจอก นางอาศัยอยู่บนเกาะหยิงโจวตลอดเวลา จะมีเวลาไหนบ้างที่ถูกเรียกขานว่าเทพธิดา?

“เขาหรอ......”

“น่าจะตายไปแล้วล่ะ......”

หาได้ยากนักที่ชิงชิวเฉียนเฉี่ยนจะอดทนขนาดนี้

“ตายแล้ว?”

อาตั่วใจสั่น

ใบหน้าของชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านข้างก็เปลี่ยนไป

ในมุมมองของเขา ทั้งซูฉินและชิงชิวเฉียนเฉี่ยนผู้ทรงเสน่ห์เย้ายวน ทั้งคู่ต่างก็เป็น 'เซียนอมตะ'

ชิงชิวเฉียนเฉี่ยนกล่าวว่าซูฉินตายแล้ว เห็นได้ชัดว่ามีการต่อสู้ระหว่างเซียนอมตะเกิดขึ้น

ในการต่อสู้ของเซียนอมตะ นับประสาอะไรกับการที่มนุษย์จะเข้าไปแทรกแซง หากพวกเขาอยู่ใกล้เกินไปสักหน่อย อาจจะตายกันหมดโดยไม่เหลือร่างทิ้งเอาไว้

“ย้อนทิศทางเรือ”

“พวกเรารีบไปกันเถอะ”

ชายวัยกลางคนตื่นตระหนก

หญิงสาวอย่างอาตั่วเหมือนจะยังไม่ยอมแพ้ นางเงยหน้าขึ้นมองชิงชิวเฉียนเฉี่ยนและถามต่อว่า “ท่านเทพธิดา พี่ชายคนนั้นตายแล้วจริงๆ หรือ?”

“แน่นอนว่าตายแล้ว”

“ติดอยู่ในค่ายกลสังหาร ทั้งยังถูกท่านหัวหน้าเผ่าโจมตี เขาน่าจะหมดสิ้นเรี่ยวแรงแล้วในตอนนี้ คงตายจนไม่รู้จะตายอย่างไรแล้ว”

ชิงชิวเฉียนเฉี่ยนขมวดคิ้ว กำลังจะกล่าวต่อ

ฉับพลัน!

ตูมมม!

เห็นใบมีดสีดำฟาดฟันออกมา ราวกับจะตัดทั้งเกาะหยิงโจวออกเป็นสองส่วน

ท่ามกลางสายตาไม่อยากจะเชื่อของทุกคน ชิงชิวชิงหลิงบินหนีออกมาอย่างตื่นตระหนก สภาพกระเซอะกระเซิง เลือดสีน้ำเงินไหลย้อยย้อมน้ำทะเลให้กลายเป็นสีฟ้าอ่อน

“นี่คือ?”

ชิงชิวเฉียนเฉี่ยนเบิกตากว้าง ใบหน้าตกตะลึง

นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ตอนนี้หัวหน้าเผ่าควรจะกลืนกินเลือดเนื้อของตำนานยุทธระดับนภาชั้นที่เจ็ดอยู่ไม่ใช่หรือ?

ขณะนั้นเอง

ซูฉินกำมีดเทพเจ้าปีศาจเอาไว้ในมือ คว่ำปลายมีดลง เดินออกจากเกาะหยิงโจวอย่างไม่รีบร้อน ดวงตาของเขาสงบนิ่ง

“ข้าบอกแล้ว ตอนนี้เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะเผาหยกดั่งหินด้วยซ้ำ”

----------------------------------------

[2] 玉石俱焚เผาหยกดั่งหิน มีความหมายคือ นำหยกที่เป็นของสูงค่าไปเผารวมกับหินที่เป็นของด้อยค่า แน่นอนว่าย่อมทำให้หยกสูญเสียความงดงามหรือพังทลายลงได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด