ตอนที่แล้วSign in Buddha's palm 207 (I)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSign in Buddha's palm 208 (I)

Sign in Buddha's palm 207 (II) เกาะเซียนทะเลบูรพา


Sign in Buddha's palm 207 (II) เกาะเซียนทะเลบูรพา

“ไม่เป็นไร”

ซูฉินโบกมือ ไม่ได้พูดอะไรมาก

“ไม่เป็นไร?” หญิงสาวเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ

“อาตั่ว ในเมื่อเขาต้องการอยู่เป็นอาหารสัตว์ทะเล พวกเราก็ปล่อยเขาไปเถอะ” ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามา เหลือบมองมาทางซูฉินจากบนเรือแล้วจึงกล่าวคำ

“แต่ถ้าเราไป คนคนนี้จะไม่รอด” ความรู้สึกที่ทนเห็นสิ่งนั้นเกิดขึ้นไม่ได้ฉายออกมาบนหน้าของหญิงสาวที่ถูกเรียกว่าอาตั่ว

“อาเตี่ย ช่วยเขาเถอะนะ” อาตั่วหันไปมองชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ

“ช่วยเขา?” ชายวัยกลางคนดูลังเล บรรดาคนที่ใช้ชีวิตในท้องทะเลต่างเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่ากรรมดีจะช่วยเหลือพวกตนแน่ หากตนสามารถช่วยเหลือผู้คนได้ก็ควรช่วย แต่ซูฉินกลับปฏิเสธความช่วยเหลือจากพวกเขา

“เอาอย่างนี้เป็นไง”

“เราตามเขาไปอีกครึ่งวัน ด้วยคลื่นจากท้องทะเล แพของเขาจะต้องพลิกคว่ำภายในไม่เกินครึ่งวัน”

“ในตอนนั้น เมื่อไม่มีแพแล้ว เขาจะต้องขึ้นมากับพวกเราแน่ๆ”

ชายวัยกลางคนพิจารณาเรื่องราวแล้วจึงกล่าวออกไป

“ขอบคุณอาเตี่ย”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาว

“เฮ้อ......” ชายวัยกลางคนส่ายหัว “ข้าหวังว่าในอนาคต ถ้าเรามีปัญหา จะมีคนมาช่วยพวกเราเช่นนี้บ้างนะ”

ในเวลาต่อมา

เรือประมงก็ตามซูฉินมาห่างๆ

เป็นธรรมดาที่ซูฉินจะรู้ตัวอยู่นานแล้ว และเขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร

ตราบใดที่ไม่รบกวนการค้นหาสิบทวีปและสามเกาะของเขา ก็ไม่เป็นอะไร

ไม่นานนัก

หลายชั่วโมงผ่านไป

ด้านบนเรือประมง ชายวัยกลางคนรู้สึกผิดปกติมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดก็ดูเหมือนจะค้นพบอะไรบางอย่างที่ทำให้ใบหน้าของเขาซีดเผือดราวกับกระดาษ

“ไปเร็ว”

“เราจะต้องรีบไปเดี๋ยวนี้”

เสียงของชายวัยกลางคนสั่นเทา

“อาเตี่ย เกิดอะไรขึ้น?” อาตั่วรีบเดินไปหาชายวัยกลางคนอย่างรวดเร็ว กล่าวถามด้วยความสงสัย “พวกเราจะไม่ช่วยเขาแล้วหรอ?”

ชายหนุ่มอีกคนก็เดินเข้ามาด้วยความสงสัยเช่นกัน

“ช่วยเขา?”

ชายวัยกลางคนยิ้มอย่างขมขื่น “ที่เราอยู่รอดมาจนถึงตอนนี้ก็โชคดีแค่ไหนแล้ว”

“อาเตี่ยหมายความว่าอย่างไร?” สีหน้าชายหนุ่มข้างๆ เริ่มเปลี่ยนไป

“พวกเจ้าดูสิ”

ชายวัยกลางคนสงบลง ระงับความตกใจที่อยู่ภายในและกระซิบคำออกมา “มีร่องรอยของน้ำกระเซ็นขึ้นมาบนแพรึเปล่า?”

“แล้วก็นั่น....ร่างของท่านผู้นั้นได้เปื้อนน้ำทะเลหรือไม่?”

เมื่อชายวัยกลางคนกล่าวเรียกซูฉิน เขาใช้คำว่า 'ท่านผู้นั้น' กระซิบบอกด้วยความหวาดกลัวอย่างยิ่ง

ชายหนุ่มและหญิงสาวจนถึงตอนนี้ก็ไม่ทันสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในน้ำเสียงของชายวัยกลางคน แต่ใบหน้าของพวกเขาก็ยังเปลี่ยนสี

“จริงด้วย ชายคนนี้เนื้อตัวสะอาดมาก......”

ชายหนุ่มพึมพำกับตนเองด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ

ขนาดพวกเขาที่อยู่บนเรือประมง พวกเขายังต้องถูกน้ำทะเลซัดขึ้นมาบ้างเลย แต่แพของซูฉินไม่มีแม้แต่น้ำกระเด็นเข้าไป

นี่เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก

“นอกจากนี้ หลังจากที่เราตามท่านผู้นี้มา เจ้าได้เห็นสัตว์ทะเล หรือรู้สึกถึงคลื่นทะเลบ้างไหม?”

ชายวัยกลางคนกลืนน้ำลาย ตัวสั่น

คำที่กล่าวออกมา

ไม่ว่าจะเป็นอาตั่วหรือชายหนุ่มต่างก็หน้าเปลี่ยนสีไปหมดแล้ว

“อาตั่ว ท่านจะบอกว่า?” หญิงสาวมองดูไปที่ซูฉินที่ยังคงนอนอยู่บนแพจากไกลๆ แล้วจึงกล่าวขึ้นมา

“ท่านผู้นี้ เกรงว่าจะไม่ใช่ชาวประมงที่ประสบภัยจนเรืออับปางอย่างที่เราคิด แต่เป็นเซียนอมตะตัวเป็นๆ”

ชายวัยกลางคนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกระซิบบอก

“งั้นไปกันเถอะ อย่าได้รบกวนท่านเซียน......”

ชายวัยกลางคนตื่นตระหนก

“ได้”

หญิงสาวกับชายหนุ่มก็ตระหนักได้ถึงความตึงเครียดเช่นกัน พวกเขามองหน้ากันแล้วรีบพูดออกมาทันที

อย่างไรก็ตาม

ในตอนนั้นเอง

ขณะที่นอนอยู่บนแพอย่างสบายๆ ดวงตาของซูฉินพลันเป็นประกาย

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

“ในที่สุดข้าก็หาเจอแล้ว”

ทันใดนั้นแพก็ระเบิดออก ท่ามกลางสายตาที่ตื่นตะลึงของทุกคน ซูฉินก้าวเท้าออกไปทีละก้าวราวกับมีบันไดที่มองไม่เห็นตั้งอยู่ในอากาศ จ้องมองออกไปยังที่ห่างไกล

พระอาทิตย์ที่กำลังส่องสว่างก็เข้าปกคลุมซูฉินทั้งตัว กลิ่นอายแพร่กระจายออกมาราวกับเทพเซียน

--------------------------------------------------------

ปล. เนื่องจากไม่แน่ใจว่าชาวประมงมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกันหรือไม่จึงขออนุญาตใช้ อาตั่วเป็นชื่อของหญิงสาว และอาเตี่ยเป็นการเรียกผู้อาวุโสที่เคารพแทนการใช้คำว่าพ่อ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด