ตอนที่แล้ว177-178
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป181-182

179-180


วันนี้ลง 179 180

Ep.179

จากการสังเกตก่อนหน้านี้ของซูเฉิน หญิงงามในชุดลายดอกไม้แสดงท่าทีเต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อพวกเขาอย่างชัดเจน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่มองไปยังตันหลินและหยางเฉียน เจตนาฆ่ายิ่งคุกรุ่นจนไม่อาจปกปิดได้

ฉะนั้น ดูจากการกระทำและคำพูดก่อนหน้านี้ทั้งหมด มีแนวโน้มว่าอาจเป็นอุบายชั่วคราวที่คิดขึ้นมาอย่างกะทันหันเพื่อช่วยชีวิตตัวเอง

“คุณแสดงเก่งมาก แต่ดันเลือกเป้าหมายผิดไปหน่อย” ซูเฉินมองไปยัหญิงงามในชุดลายดอกไม้ กล่าวเสียงเย็นชา

ได้ยินแบบนั้น ใบหน้าอันงดงามก็แสดงออกถึงความตื่นตระหนก แต่ก็รีบสลายมันไปอย่างรวดเร็ว พยายามโต้เถียงว่า “ฉันไม่ได้โกหกคุณ สิ่งที่ฉันพูดเป็นความจริง”

ซูเฉินแค่นเสียงเย็น ไม่คิดพล่ามไร้สาระกับเธออีก เขายกมือขึ้นและยิงใบมีดสายลมออกไป

หญิงงามในชุดลายดอกไม้คล้ายหวาดกลัวจนกลายเป็นโง่งม ไม่มีการเคลื่อนไหวหรือต่อต้านใดๆ เพียงเฝ้ารออยู่เงียบๆให้ใบมีดสายลมใกล้เข้ามา

ในวินาทีนั้นเอง ใบมีดสายลมพัดผ่านร่างของเธอไปอย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ไม่คาดฝันได้บังเกิดขึ้น

ปรากฏว่าหญิงงามในชุดลายดอกไม้ไม่ได้ถูกผ่าครึ่งซีก แต่ร่างกายของเธอเริ่มกลายเป็นพร่ามัวไปอย่างรวดเร็ว

ในชั่วพริบตาเดียว ก็สลายหายไปจากตำแหน่งนั้น

“เธอหายไปได้ยังไงกัน?” ดวงตาของหยางฮ่าวเบิกกว้าง ราวกับเห็นผี

คนอื่นๆต่างก็ประหลาดใจเช่นกัน

ซูเฉินขมวดคิ้ว พลังจิตของเขาถูกปลดปล่อยออกมาในทันที

ภายใต้ขอบเขตการตรวจจับของพลังจิต ไม่นานก็ค้นพบเบาะแส

ห่างออกไปข้างหน้าราวๆ 10 เมตร โล่แสงสีขาวปรากฏขึ้นอย่างเลือนราง ตามมาติดๆด้วยร่างๆหนึ่งก้าวออกมา

เป็นหญิงงามในชุดลายดอกไม้ที่หายตัวไปต่อหน้าต่อตาก่อนหน้านี้เอง

เห็นได้ชัดว่าเธอใช้เทคนิคลับบางอย่างที่คล้ายกับการเคลื่อนย้ายชั่วพริบตา ทำให้สามารถหลบหนีจากใบมีดสายลมไปได้

“ฉันประเมินคุณต่ำไปจริงๆ” ซูเฉินหรี่ตาลง กล่าวอย่างเฉยเมย

“คิดฆ่าฉัน แกยังอ่อนหัดนัก” หญิงงามในชุดลายดอกไม้หัวเราะคิกคัก จากนั้นกล่าวเสียงขรึมว่า “ฉันจำหน้าแกได้แล้ว ครั้งต่อไปที่เจอกัน มันจะเป็นวันตายของแก!”

สิ้นเสียง เธอก็หันหลังและวิ่งหนีไปทันที ทุกย่างก้าวว่องไวดุจสายลม บ่งบอกชัดว่าเป็นความเร็วในระดับผู้วิวัฒนาการเลเวล 3

“ที่แท้เธอเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 !” หยางฮ่าวตกใจ

ใบหน้าของหวู่หยางและคนอื่นๆเต็มไปด้วยความหวาดผวา

หากเมื่อครู่ซูเฉินไม่สามารถมองโฉมหน้าที่แท้จริงของหญิงสาวในชุดลายดอกไม้ออก เกรงว่าพวกเขาคงถูกหลอกกันหมด

ไม่เพียงเท่านั้น แต่ด้วยความแข็งแกร่งระดับผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 หากอีกฝ่ายลอบโจมตี ผลที่ตามมาเท่ากับหายนะ!

“คิดหรือว่าจะหนีไปได้?” ซูเฉินยิ้มหยัน

ทันใดนั้นเอง ประกายแสงสีม่วงพลันปรากฏขึ้นที่สองเท้าของเขา จากนั้นราวกับหงส์เหินมังกรเหาะ ทั้งคนทั้งร่างของเขาพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

หลังจากเปิดใช้งานฟังก์ชั่นเพิ่มความเร็วของ [รองเท้าเพิ่มความเร็ว] แล้ว สามารถกล่าวได้เลย ว่าความเร็วของซูเฉินเหนือกว่าผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 อย่างสมบูรณ์

“โอ้ให้ตายเถอะ! พี่เฉินจะสุดยอดเกินไปแล้ว!!” เฉาหรานร้องอุทานด้วยความตกใจ คนอื่นๆต่างก็ตกใจจนอ้าปากค้างเช่นกัน

เพียงไม่กี่อึดใจ ซูเฉินก็สามารถไล่ตามหญิงในชุดลายดอกไม้ได้ทัน

เพื่อป้องกันไม่ให้คู่ต่อสู้ใช้เทคนิคลับในการหลบหนีอีกครั้ง เขาจึงส่งพลังจิตออกไปทันที

หญิงชุดลายดอกไม้สัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลที่มองไม่เห็นโอบรัดตัวเธอ เสมือนดั่งตกลงไปในหล่มโคลน การเคลื่อนไหวทั้งหมดของเธอเชื่องช้าลง

จากนั้น เธอก็หันไปเห็นว่าซูเฉินกำลังพุ่งเข้ามาราวกับเทพสังหาร ใบหน้างดงามซีดเผือดด้วยความตื่นตระหนก ร้องตะโกนเสียงสั่นว่า “แก .. แกเป็นปรมาจารย์พลังจิตเลเวล 3!”

ซูเฉินไม่คิดตอบคำถาม เพียงสับดาบเล่มหนึ่งลงในอากาศ

เมื่อเผชิญหน้ากับความตาย ใบหน้าของหญิงงามชุดลายดอกไม้ก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างลึกล้ำ ร้องอ้อนวอนขอความเมตตา “ได้โปรดอย่าฆ่าฉัน!”

ได้ยินเพียงเสียง ‘ฟุ่บบบ!’ อันคมชัด

ซูเฉินใช้ดาบของเขา สับแยกร่างหญิงงามในชุดลายดอกออกเป็นสองส่วน

มองไปยังศพตรงหน้า ซูเฉินหันหลังและเดินกลับไป

หลังจากกลับมารวมกับทุกคน เขาก็หันไปสั่งหยางฮ่าวและคนอื่นๆว่า “เอาล่ะ ทุกคนไปค้นศพ แล้วขุดหินพลังงานต่อได้”

10/10

Ep.180

ระหว่างที่หยางฮ่าวและคนอื่นๆกำลังค้นตัวศพ หวู่หยางถือโอกาสนี้เดินเข้าไปใกล้ซูเฉิน กระซิบเตือนว่า“คนพวกนี้ล้วนมาจากนิกายขวงฉี หลังจากนี้ไปพวกเราต้องระวังตัวกันให้มาก”

นิกายขวงฉีตั้งอยู่ในเขตหยูหลินของเกาะเฉียนหยู ถือเป็นขุมกำลังสูงสุดมีชื่อเสียงเทียบเท่ากับนิกายวูหยินและเมืองทงเทียน

ในนิกายไม่เพียงมีผู้ฝึกฝนอยู่มากมายราวกับก้อนเมฆบนท้องฟ้า แต่พวกเขายังมีประมุขหลี่จ้านเทียนซึ่งเป็นผู้วิวัฒนาการเลเวล 4 ที่ทรงพลงอีกด้วย

นิกายขวงฉี … ครอบครองความแข็งแกร่งที่หวู่หยางต้องหวาดกลัว

ซูเฉินยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “เป็นนิกายขวงฉีต่างหาก ที่ถ้าเป็นไปได้ก็อย่ามาแหยมกับผม --เสนอหน้ามาเท่าไหร่ ผมจะฆ่าเท่านั้น!”

ไม่กี่วันก่อน ซูเฉินเพิ่งสังหารผู้วิวัฒนาการเลเวล 3 สองคนจากเมืองทงเทียน

ก่อนหน้านี้ยังได้สังหารคนของนิกายวูหยินไปหลายคน

สามารถกล่าวได้เลยว่า ซูเฉินได้ล่วงเกินขุมอำนาจสูงสุดทั้งสามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่แล้วไง?

โลกใบนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความแข็งแกร่ง ซูเฉินมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างยิ่ง ว่าด้วยกำลังรบของเขา มันมากพอที่จะบดขยี้ศัตรูที่ต่ำกว่าเลเวล 5

แล้วบนเกาะเฉียนหยู มีผู้วิวัฒนาการ , ผู้ศึกษาพลังที่เลเวล 5 หรือสูงกว่าบ้างไหม?

เอาจริงๆก็อาจจะมีสักหนึ่งหรือสองคน

แต่ช่างประไร เพราะซูเฉินสามารถแลกเปลี่ยนชิ้นส่วน [คุณสมบัติเลเวล 4 อย่างเต็มรูปแบบ] ได้ตลอดเวลา สามารถเลื่อนขั้นเป็นเลเวล 4 แล้วบดขยี้ศัตรูได้ทุกเมื่อ!

ดังนั้น ซูเฉินจึงไม่หวั่นเกรงการแก้แค้นของนิกายขวงฉีเลย

หวู่หยางตระหนักดีว่าซูเฉินมีทุนที่จะเอ่ยเช่นนี้ ดังนั้นเขาไม่คิดเอ่ยเตือนใดๆอีก

รอจนหย่างฮ่าวและคนอื่นๆริบสินสงครามที่ได้มา ซูเฉินก็เรียกทุกคนขึ้นรถ มุ่งหน้าต่อไปยังเมืองหวังเยว่

ระหว่างทาง มีซอมบี้แวะเวียนเข้ามาประปราย แต่จำนวนไม่มากมายอะไร ซูเฉินเลยคร้านจะลงมือสังหาร

ส่วนมนุษย์ ระหว่างทางพวกเขาไม่เจอใครอีกเลย

หลังจากเดินทางมานานกว่าสองชั่วโมง [รถศึกอัจฉริยะ] ก็มาถึงเมืองใหญ่

มิใช่ใดอื่น เป็นเมืองหวังเยว่นั่นเอง

พิจารณาจากขนาดแล้ว เอาจริงๆเมืองหวังเยว่ไม่ได้ด้อยไปกว่าเมืองจิงกังเลย

อย่างไรก็ตาม อาจเป็นเพราะผลจากสงคราม ทำให้เมืองหวังเยว่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง กำแพงเมืองทรุดตัวลงทับพื้นที่ขนาดใหญ่ มันเลยกลายเป็นเมืองร้าง

ซูเฉินเหลือบมองออกไปนอกรถ จากนั้นสลับมามองแผงหน้าจอควบคุมส่วนกลาง

บนหน้าจอแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ว่าเมืองหวังเยว่ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนจากใจกลาง

ครึ่งหนึ่งเป็นของมนุษย์ อีกครึ่งหนึ่งเป็นอาณาเขตของซอมบี้

ซูเฉินเอื้อมมือไปชี้ตรงจุดที่ซอมบี้รวมตัวกัน กล่าวกับ [รถศึกอัจฉริยะ] “เสี่ยวจื่อ ไปทางนี้”

“รับทราบ”

[รถศึกอัจฉริยะ] ค่อยๆขับเข้าสู่เมืองหวังเยว่อย่างช้าๆ

ภายในเมืองหวังเยว่ มีถนนเส้นตรงเป็นพื้นที่โล่งกว้าง

ไม่เพียงใช้สัญจรเท่านั้น แต่ถนนสายนี้ ยังถูกใช้เป็นเส้นแบ่งกองกำลังระหว่างมนุษย์กับซอมบี้อย่างชัดเจน

น่าแปลกตรงที่ว่าถนนสายนี้ไม่มีสิ่งกีดขวางเลย มันเป็นทางเรียบยาวๆ

ตรงกันข้าม กลับเป็นอาคารส่วนใหญ่สองข้างทางที่พังทลายลง บางแห่งก็เต็มไปด้วยวัชพืช ดูรกร้างเปล่าเปลี่ยว

ซูเฉินนั่งอยู่บนเก้าอี้คนขับ มองออกไปด้านนอกรถ

ในขณะที่[รถศึกอัจฉริยะ] เคลื่อนไปข้างหน้าได้ประมาณ 100 เมตร ทันใดนั้นเอง ทางซากปรักหักพังฝั่งด้านซ้าย ชายฉกรรจ์อาวุธครบมือกว่าสิบคนก็ปรากฏตัวขึ้น

ทันทีที่พวกเขาปรากฏตัว ก็วิ่งมาหยุดตรงกลางถนน เห็นได้ชัดว่าพยายามขวางทาง [รถศึกอัจฉริยะ]

“นี่พวกมันคงไม่ได้คิดจะปล้นพวกเราหรอกนะ?” หวู่หยางเดินมาข้างซูเฉิน บ่นพึมพำ  และลอบเอ่ยในใจว่า ‘ถ้าเป็นแบบนั้นคงหาที่ตายแท้ๆ’

“รอดูเดี๋ยวก็รู้เอง” ซูเฉินยิ้ม ผุดลุกขึ้น

เมื่อ [รถศึกอัจฉริยะ] เข้ามาใกล้ ชายฉกรรจ์หลายสิบคนก็แยกย้าย อ้อมไปล้อมรอบรถศึก

ชายคนหนึ่งที่มีรอยแผลเป็นยาวบนใบหน้า ถือมีดมาเชเต้ (มีดใบตาย) ในมือ ชี้ไปทาง [รถศึกอัจฉริยะ] ตะโกนว่า “ทั้งหมดลงมาจากรถ ถ้ายังไม่อยากตาย!”

“เสี่ยวจือ หยุด”

ซูเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย เปิดประตูรถ เดินลงไปคนเดียว

ชายหน้าบากมองสำรวจซูเฉิน เมื่อเห็นว่าซูเฉินยังเด็ก ท่าทีเขาก็ยิ่งหยิ่งผยองมากกว่าเดิม “บิดาบอกให้ทุกคนลงมา แล้วทำไมถึงมีแค่แกคนเดียว? ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเหรอ!?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด