ตอนที่แล้วผู้กล้าอาคมดำ ตอนที่ 16
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปผู้กล้าอาคมดำ ตอนที่ 18

ผู้กล้าอาคมดำ ตอนที่ 17


ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ผู้กล้าอาคมดำ ตอนที่ 17

เมื่อเส้นทางถอยถูกพวกศพเดินได้ตัดทิ้งไป พวกหมาป่าก็เกิดความแตกตื่น

พวกซอมบี้มีกันเพียงสิบตัว แต่ที่ด้านหลังนั่นยังมีศพที่นอนนิ่งอยู่ตามพื้นอีกมากมาย

ศพที่นอนอยู่บนพื้นเหล่านั้นกับพวกที่ลุกขึ้นมานั้นแทบจะไม่แตกต่างกัน อย่างเดียวที่แตกต่าง นั่นก็คือ พวกที่ลุกขึ้นมานั้นมีไฟวิญญาณ โดยอาศัยสกิล [ปลุกชีพ] ร็อดได้กระตุ้นไฟวิญญาณของซากศพให้ลุกโชนขึ้นมาและเปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นซอมบี้

ไม่ใช่ว่าร็อดไม่ต้องการจะปลุกซากศพขึ้นมาทั้งหมด เพียงแต่เขามีมานาไม่พอ

ก่อนที่จะจุดไฟวิญญาณให้กับซากศพ ร้อดได้เปลี่ยนไปสวมใส่รางวัลความสำเร็จ [เนโครแมนเซอร์] ก่อนแล้ว และนั่นทำให้ระดับของ [ปลุกชีพ] เพิ่มขึ้นมาอีกระดับ ซึ่งเหมือนกับการได้แต้มสกิลฟรีไปลงให้ [ปลุกชีพ]

ด้วยผลของ [ปลุกชีพ ระดับกลาง] ตอนที่ปลุกซอมบี้ขึ้นมา แต่ละตัวจึงใช้มานาเพียง 1 หน่วย

เดิมทีการปลุกพวกมันขึ้นมาจะต้องใช้มานาจำนวนไม่น้อย มานาส่วนใหญ่ถูกใช้ในการกลายสภาพให้กับศพและเปลี่ยนมันให้กลายเป็นอันเดด มานาเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะถูกใช้ในการสร้างไฟวิญญาณ

แต่เพราะว่าในสุสานแห่งนี้มีพลังความตายมากเพียงพอ ซากศพจึงถูกเปลี่ยนสภาพจนเกือบจะสมบูรณ์อยู่ก่อนแล้ว ที่เหลือก็รอให้เอลล็อตมาสร้างไฟวิญญาณ

แต่แน่นอนการกลายสภาพภายในสุสานนั้นยังต้องใช้เวลาพอสมควร ด้วยเหตุนั้นหลังจากที่ร็อดฟื้นขึ้นมาแล้ว เขาจึงพบเห็นซากศพที่ใกล้จะกลายสภาพโดยสมบูรณ์แต่ไม่พบตัวเนโครแมนเซอร์เจ้าของศพ

ไฟวิญญาณของอันเดดระดับต่ำไม่มีผลลัพธ์พิเศษอะไร มันทำได้เพียงปลูกสำนึกฆ่าฟันไว้ในซากศพนั้น การยกรระดับสกิล [ปลุกชีพ] จากระดับต่ำเป็นระดับกลางนั้นก็เพียงแค่ช่วยในการประหยัดมานาที่ใช้

แต่หลังจากปลุกซอมบี้ได้สิบตัว มานาของร็อดก็หมดเกลี้ยง

หากว่าศพไม่ได้ถูก [ปลุกชีพ] และปล่อยให้มันเกิดไฟวิญญาณขึ้นมาเอง ต่อให้ซากศพนั้นจะถูกพลังความตายหล่อเลี้่ยงจนมีร่างกายถึงระดับมาตราฐานของอันเดดทั่วไป แต่มันก็ยังต้องใช้อีกช่วงใหญ่ในการสรา้งไฟวิญญาณ

ท่ามกลางฝูงหมาป่าที่กำลังโกลาหล จ่าฝูงหมาป่ารีบมองประเมินสถานการณ์ตรงหน้า หลังจากยืนยันบางสิ่งได้แล้ว ดวงตาของราชาหมาป่าก็จับจ้องไปที่ร็อดอีกครั้ง มันสัมผัสได้ถึงพลังงานที่ใช้ในการควบคุมซากศพเหล่านี้จากตัวร็อด

จ่าฝูงหมาป่าส่งเสียงหอน เหล่าหมาป่าต่างสงบลง ราวกับเข้าใจความต้องการของจ่าฝูง พวกมันเริ่มหันไปมองร็อดทีละตัว จากนั้นจึงพุ่งเข้าใส่ร็อด

จ่าฝูงหมาป่าต้องการจะใช้จำนวนที่มากกว่าสังหารร็อดในรวดเดียว ขอเพียงฆ่าร็อดลงได้ พวกมันก็ยังมีโอกาสที่จะหนีออกไปจากที่นี่

เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของพวกหมาป่า ร็อดก็ออกคำสั่งผ่านทางตราประทับวิญญาณ นักรบโครงกระดูกที่ยืนอยู่ด้านข้างของร็อดก้าวขึ้นหน้าพลางยกตั้งโล่

ร็อดที่ยืนกุมดาบอยู่ด้านหลังนักรบโครงกระดูกกำลังรอคอยจังหวะ

ร็อดย่อมไม่พุ่งเข้าไปโรมรันในฝูงหมาป่าอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นต่อให้มีพวกซอมบี้หรือไม่มีก็ไม่ต่างกัน

ตามการประมาณการของร็อดแล้ว ซอมบี้สิบตัวเพียงพอจะจัดการพวกหมาป่าทั้งหมดยกเว้นตัวจ่าฝูง ที่เขาต้องทำในตอนนี้็คือต้านทานหมาป่าที่บุกเข้ามาเพื่อรอให้พวกซอมบี้มาถึง

พวกซอมบี้ที่อยู่ทางด้านหลังของพวกหมาป่าถูกทอดทิ้งเอาไว้เพราะการเคลื่อนไหวอันเชื่องช้า พวกมันทำได้แต่ค่อยๆติดตามพวกหมาป่าไป ไม่ทราบเมื่อใดจึงตามทัน

เนื่องเพราะตัวสุสานไม่ได้กว้างขวางมากนัก หากต้องการจะโจมตีร็อด พวกมันก็ต้องจัดการนักรบโครงกระดูกให้ได้ก่อน

เดิมทีนักรบโครงวกระดูกนั้นพึ่งพาเพียงสัญชาตญาณในการต่อสู้ และบ่อยครั้งก็ทำให้เผยจุดอ่อนต่อศัตรู แต่ตอนนี้มันกำลังถูกร็อดควบคุม อันเดดที่ถูกควบคุมนั้นจะได้ค่าโบนัสจากค่าความสามารถของผู้เล่น และนั่นทำให้ความแข็งแกร่งของมันสูงขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ในที่สุดข้อดีของค่าความแข็งแกร่งที่ลงแต้มไปก็ถูกนำมาใช้ในเวลานี้

เมื่อการโจมตีของพวกหมาป่ามาถึง นักรบโครงกระดูกก็ใช้โล่ป้องกันการโจมตีของพวกมันเอาไว้

ภายใต้การควบตุมของร็อด นักรบโครงกระดูกคอยยกโล่กันอยู่ทางด้านหน้า มุ่งเน้นป้องกันตำแหน่งสำคัญ ขณะที่ดาบในมืออีกข้างนั้นทำหน้าที่เพียงฟันไปยังพวกมหมาป่าที่จะเข้ามากัดกระดูกขา

นักรบโครงกระดูกไร้ซึ่งความกลัวหรือความเจ็บปวด เพียงพึ่งพาค่าความเสียหายจากการกัดแทะกระดูกขายังไม่พอที่โค่นนักรบโครงกระดูกลงได้ในเวลาอันสั้น

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับนักรบโครงกระดูก แม้จะมีเปรียบด้านจำนวน แต่เพราะสภาพพื้นที่อันคับแคบของสุสาน การกระโดดหลบของพวกหมาป่าจึงถูกจำกัด ขณะเดียวกันก็มีหมาป่าเพียงสองสามตัวเท่านั้นที่ได้โจมตีนักรบโครงกระดูก

พวกหมาป่าตัวที่เหลือต่างหันไปส่งเสียงขู่ใส่พวกซอมบี้ที่อยู่ทางด้านหลัง แม้จะอยากจัดการศัตรูที่ขวางอยู่เบื้องหน้ามากเท่าไร พวกมันก็ยังไม่อาจกระทได้ในเวลาอันสั้น

เมื่อเห็นพวกซอมบี้เดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ พวกหมาป่าที่อยู่ด้านหลังก็เริ่มสับสน พวกมันไม่รู้ว่าควรจะเชื่อฟังคำสั่งจ่าฝูงหรือจะโจมตีพวกศพเดินได้ที่อยู่เบื้องหน้า

สมาธิทั้งหมดของร็อดถูกใช้ไปกับการควบคุมนักรบโครงกระดูก ด้วยประสบการณ์การต่อสู้ของเขาแล้ว นักรบโครงกระดูกก็แทบจะกลายเป็นร็อดในเวอร์ชั่นที่ไม่กลัวตาย มันต้านทานการโจมตีของพวกหมาป่าอย่างใจเย็น

เมื่อมีร็อดคอยควบคุม ไม่เพียงแต่พวกหมาป่าจะไม่อาจทำอย่างไรต่อนักรบโครงกรนะดูกได้เท่านั้น แต่พวกมันยังทยอยได้รับบาดเจ็บแผลแล้วแผลเล่า

มองดูซากศพที่ค่อยๆทำการปิดล้อมด้านหลังของฝูงหมาป่า จ่าฝูงหมาป่าก็ทราบว่ามันไม่อาจปล่อยให้เป็นเช่นนี้ได้อีกต่อไป มันจะต้องรีบหาหนทางจัดการกับศัตรูที่เบื้องหน้า ด้วยเหตุนั้นมันจึงเริ่มรวบรวมพลังเวท

เมื่อเห็นช่องว่างของนักรบโครงกระดูกที่ฟันดาบออกมา จ่าฝูงหมาป่าก็พลันยิงศรเวทเข้าใส่นักรบโครงกระดูก

นักรบโครงกระดูกนั้นมีจุดสำคัญเพียงไม่กี่จุด และเพราะกะโหลกของมันบรรจุไว้ด้วยไฟวิญญาณ ดังนั้นการทำลายส่วนหัวจุดถือเป็นจุดตายของนักรบโครงกระดูก ร็อดให้นักรบโครงกระดูกคอยยกโล่สูงอยู่ตลอดเพื่อป้องกันไม่ให้จ่าฝูงหมาป่าทำลายกระดูกคอของมัน แต่ให้ส่วนอีกจะได้รับความเสียหาย นักรบโครกงระดูกก็ยังจะต่อสู้ได้ไปอีกระยะ

ร็อดได้ส่งนักรบโครงกระดูกตัวแรกไปสกัดพวกหมาป่า แต่มันก็ถูกสังหารในไม่เวลาไม่นาน เหตุผลที่เป้นเช่นนั้นก็เพราะจ่าฝูงหมาป่าเล็งโจมตีไปที่กระดูกคอ เป็นตำแหน่งเดียวกับที่ร็อดเล็งโจมตีตอนที่สู้กับพวกอันเดด

หากไม่ใช่เพราะโดนเวทมนตร์โจมตีใส่ตำแหน่งนั้น นักรบโครงกระดูกก็สามารถยืนหยัดต้านทานพวกหมาป่าได้เป็นเวลานาน การถูกโจมตีกระดูกขานั้นไม่ค่อยมีภัยคุกคามสักเท่าใด

จ่าฝูงหมาป่าก็อาจจะสังเกตเห็นจุดนี้เช่นกัน เมื่อโล่เหล็กถูกยกขึ้นปกปิดร่างกายส่วนบนอย่างมั่นคง ศรเวทที่ปล่อยออกไปจึงไม่เล็งไปที่กระดูกคอ หากแต่เล็งไปที่ส่วนท้อง

นักรบโครงกระดูกเชื่องช้าเกินไป ศรเวทดอกนั้นจึงยิงถูกเป้าหมาย หากเปลี่ยนเป็นร็อด เขาก็คงจะหลบได้ แต่อาศัยเพียงการสั่งการผ่านตราประทับจิตวิญญาณนั้นยังไม่พอทำให้นักรบโครงกระดูกหลบการโจมตีนี้ทัน

เนื่องเพราะลักษณะของอันเดดโครงกระดูก ศรเวทจึงทะลุผ่านตำแหน่งที่เคยมีอวัยวะอยู่และกระแทกใส่กระดูกสันหลังของมันเข้าอย่างจัง

เกิดเสียงดังขึ้นคราหนึ่ง นักรบโครงกระดูกล้มลงไปบนพื้น กระดูกสันหลังนั้นเชื่อมต่อกับร่างกายส่วนล่างทั้งหมดของมัน หลังจากถูกโจมตีใส่ก็ทำให้มันสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว

เพียงศรเวทดอกหนึ่ง จ่าฝูงหมาป่าก็ทำให้นักรบโครงกระดูกแทบจะหมดสภาพ

ด้วยเพราะทางเดินที่ค่อนข้างคับแคบ อาศัยนักรบโครงกระดูกตัวหนึ่งก็ยืนหยัดต้านศัตรูได้ แต่ขณะเดียวกันมันก็เป็นการขัดขวางร็อดเอาไว้ด้วย ขัดขวางร็อดจากการโจมตีใส่พวกหมาป่า

นักรบโครงกระดูกล้มลงขระที่หลงเหลือพลังชีวิตอันน้อยนิด เมื่อหมาป่าตัวอื่นๆเห็นจ่าฝูงลงมือประสบผล พวกมันก็รีบเข้าไปซ้ำนักรบโครงกระดูกที่ล้มอยู่กับพื้นทันที

แต่ขณะที่พวกหมาป่ากำลังจะกัดกระดูกคอของนักรบโครกงระดูกนั้นเอง ประกายสีเงินก็สว่างวาบขึ้นคราหนึ่ง ศีรษะของหมาป่าพลันหลุดออกจากลำตัว โลหิตฉีดพุ่งจนอาบย้อมกระดูกบนพื้นให้กลายเป็นสีแดง และร็อดก็ตัวออกไป.....

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด