ตอนที่แล้วตอนที่ 238 ปราการสุดท้ายของมนุษย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 240 บังคับเป็นทหารเดนตาย

ตอนที่ 239 ความจริงที่ตามหามาทั้งชีวิต


ตอนที่ 239 ความจริงที่ตามหามาทั้งชีวิต

แสงไฟในห้องโถงสว่างขึ้น เผยให้เห็นกลุ่มคนทั้ง 7 รวมถึงชายลึกลับที่พาไนเรลมาที่นี่ด้วย ดินที่กักขังไนเรลนั้นหายไปนานแล้ว แต่ก่อนที่ไนเรลจะได้เห็นใบหน้าของคนพวกนี้ชัด ๆ ในตอนนั้นเองก็มีโซ่พุ่งออกมาจากพื้นห้องล่ามแขนขาของเขาเอาไว้อย่างแน่นหนา

ตัวของไนเรลถูกตรึงแน่น...

เขามองไปกลุ่มคนทั้ง 7 อีกครั้ง ในครั้งนี้ภาพที่อยู่ตรงหน้ากลับทำให้ไนเรลช๊อกเป็นอย่างมาก ชายลึกลับที่จับตัวไนเรลมาคืออารอน มนุษย์ชั้นสูงที่เขาเคยสู้ที่แม่น้ำเมืองซานติเกีย ชายผู้ที่มีความสามารถ [พลิกปฐพี S] คนที่ไนเรลเคยต่อยจนบาดเจ็บสาหัสและหายไปในแม่น้ำ

ถัดไปนั้นยิ่งทำให้ไนเรลไม่อยากจะเชื่อยิ่งกว่า เพราะสองคนนี้คือคนของเขา ตาเดียวและชารอน แต่ท่าทีของทั้งสองนั้นต่างออกไป ตาเดียวนั้นเต็มไปด้วยจิตสังหาร เขามีดวงตาข้างเดียว ส่วนชารอนนั้นเย็นชาจนดูห่างเหินสุด ๆ

คนต่อมาคือคนที่ไนเรลเคยฆ่าไปแล้ว อาบิเกลยังไม่ตาย ทั้งยังมองมาที่ไนเรลด้วยท่าทีหยิ่งผยอง อีกสองคนไนเรลไม่รู้จัก แต่เป็นสาวโรคจิตและชายรอยสักเต็มตัวทั้งสองมีหน้าตาเหมือนกับคนของประเทศจีนาสอย่างชัดเจน

สุดท้ายคือคนที่ทรงพลังที่สุด เอิร์ลดาโก้ที่ตอนนี้ยืนอยู่หน้าของทุกคน จากต่ำแหน่งอาจจะไม่ได้สำคัญ แต่พอมองดี ๆ คนอื่น ๆ ทั้ง 6 ต่างก็เคารพเอิร์ลดาโก้อยู่ส่วนหนึ่ง

“เจ้าคือไนเรลสินะ” เอิร์ลดาโก้ถาม ขณะที่ยืนจ้องมาที่ไนเรล พลังที่ปลดปล่อยออกมานั้นกดดันจนไนเรลแทบจะหายใจไม่ออก คริสตัลบนหน้าผากของเอิร์ลดาโก้นั้นเปลี่ยนเป็นสีทองเกือบหมดแล้ว แสดงให้เห็นว่าเขาอยู่ในระดับสีทองขึ้นสูง จนเกือบจะข้ามไประดับขั้นสมบูรณ์แล้ว

“ใช่ พวกแกต้องการอะไรกันแน่” ไนเรลถามไปตรง ๆ มาถึงตรงนี้แล้วไม่ต้องเล่นลูกไม้อะไรอีก

“ต้องการอะไรอย่างนั้นเหรอ ซีโร่”

ร่างโฮโลแกรมของซีรี่เหมือนกับจูเรียถูกสร้างขึ้นมาหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ เอิร์ลดาโก้ พร้อมกับแสดงภาพ ๆ หนึ่งขึ้นมา มันเป็นภาพของไนเรล แต่ไม่ใช่ไนเรลในตอนนี้มันกลับเป็นไนเรลที่ค่ายลี้ภัย 101 และภาพไนเรลที่เมืองหลวงไทกีล่า ซึ่งเป็นภาพของชาติที่แล้วไม่ผิดอย่างแน่นอน และซีโร่เริ่มเล่า

“ไนเรล แห่งตระกูลอาโรเดีย เริ่มแรกหนีมาที่ค่ายลี้ภัยของยักษ์ที่ติดกับค่ายลี้ภัย 101 ภายหลังน้องสาวชื่อ นิเรีย ได้เข้าหน่วยโล่ แต่ถูกเพื่อนร่วมใช้เป็นเหยื่อล่อทิ้งให้ซอมบี้กินทั้งเป็นในภารกิจหนึ่ง รายละเอียดไม่แน่ชัด

ภายหลังเขาถูกตรวจพบว่ามีความสามารถ [เร่งการเจริญเติมโตของพืชระดับ F] จึงถูกพาตัวไปที่เมืองหลวงไทกีล่า ต่อมาสูญเสียพ่อและแม่ในสงครามซอมบี้ ส่วนปู่ที่ชื่อเนโค ถูกตามจับได้โดยพาราซัส ก่อนจะถูกจับไปทดลองจนตาย รายละเอียดไม่แน่ชัด

ภายหลังได้แต่งงานกับหญิงที่ชื่อสเตล่ามีลูกสาวหนึ่งคนชื่อลูน่าและทำงานให้กับไทกีล่ามาหลายปี จนเกิดสงครามเผ่ายักษ์เถื่อนและสงครามเผ่าเจ้าสมุทร ภายหลังทางไทกีล่าจับได้ว่าสเตล่าคืออสูรสาวจากเผ่าเจ้าสมุทรที่แฝงตัวเขามา ซึ่งเธอได้สร้างความเสียหายให้กับรัฐบาลกลางไทกีล่าเป็นอย่างมาก จนการป้องกันเมืองถูกทำลายกว่า 70% นำมาสู่การทำลายของเมืองหลวงใหม่ไทกีล่าและรัฐบาลไทกีล่า ก่อนที่พาราซัสจะเข้าควบคุม

ลูกสาวลูน่าระบุว่าตาย แต่ภายหลังได้ข้อมูลมาใหม่ว่า อสูรเผ่าเจ้าสมุทรหรือชื่อสเตล่า พาเธอไปซ่อนก่อนทำลายเมือง ไนเรล อาโรเดียรอดจากการทำลายเมืองมาได้ เดินทางไปกลับกลุ่มผู้อพยพที่หนีตายจากซ่อมบี้ไปอย่างไร้จุดหมาย ก่อนจะถูกระบุว่าหายสาบสูญ

10 ปีให้หลังตรวจพบว่า ไนเรล อาโรเดียปรากฏตัวที่มิสทาล ศูนย์กลางการระบาดของพลังงานวิวัฒนาการ และที่อยู่ของจักรพรรดิซอมบี้ ก่อนจะหายตัวไป รายละเอียดไม่แน่ชัด

ภายหลังได้เอกสารสำคัญจากเผ่ายักษ์เถื่อนระบุว่า ไนเรล อาโรเดียได้ขโมยสิ่งที่เรียกว่า เมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการและหายสาบสูญไป รายละเอียดไม่แน่ชัด”

ซีโร่เล่ารายละเอียดทั้งหมดของไนเรลจนจบ แม้แต่เรื่องที่ไนเรลไม่รู้ซีโร่ก็ยังมี ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าปู่ของเขาตายยังไง ไนเรลดิ้นไปมา แต่โซ่มันกลับแข็งแกร่งมาก เขาจึงทำได้เพียงมองด้วยความโกรธ

นอกจากเรื่องปู่ ที่ผ่านมาเขาคิดว่า สเตล่าฆ่าลูน่าไปแล้ว แต่ไม่ใช่ เธอพาลูน่าไปซ่อน ไนเรลรู้สึกสับสนและเสียใจมาก ที่มากกว่านั้นคือ เขาทิ้งให้ลูน่าใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวมาตลอด

ใจของไนเรลราวกับถูกบดขยี้อีกครั้งและอีกครั้ง แม้ทุกอย่างจะผ่านมานานแล้ว

มาจนถึงตอนนี้และภาพที่ซีโร่ในร่างของจูเรียแสดงให้เขาดูก็หมายความว่าที่นี่คือโลกใบเดิมโลกที่เขามาเกิดใหม่ในชีวิตที่สอง ดังนั้นโลกก่อนที่เขาจะข้ามผ่านประตูเคลื่อนย้ายมาที่นี่คืออีกโลก มันไม่ใช่การย้อนเวลา แต่เป็นสองโลกที่สร้างมาเหมือน ๆ กัน ทั้งบุคคล เหตุการณ์ และสภาพแวดล้อม

และสิ่งเดียวที่ทำได้ขนาดนี้ก็คงจะเป็นระบบ ไม่สิต้องบอกว่าสิ่งที่สร้างระบบและโดมขนาดใหญ่ที่เมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการเคยพาจิตรของเขาออกไป หลังจากที่เขาใช้พลังเกินจนสลบไปตอนต่อสู้ที่ค่ายลี้ภัยตะวันออก 101 ที่ตอนนี้น่าจะเหลือเพียงแต่ซากแล้ว

“ถ้าอย่างนั้นนี่คือโลกแรกที่เกิดเรื่องทั้งหมดสินะ” ไนเรลพึมพำออกมาด้วยความเหนื่อยล้า แม้จะค้นหาคำตอบมานาน แต่พอรู้ความจริงมันกลับทำให้เขาเจ็บปวดมากกว่า

โลกทั้งสองคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ถ้าอย่างนั้น ทั้งปู่ พ่อ แม่ น้องสาว สเตล่า และคนอื่น ๆ ในโลกนี้ก็ตายไปจริง ๆ แล้ว เขากลับคิดมาตลอดว่าย้อนอดีตกลับไปเผื่อที่จะเปลี่ยนมันได้ สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้มันเกิดขึ้นไปแล้ว

สิ่งที่เกิดอีกโลกก็เกิดขึ้นอีกเช่นกัน

แม้แต่โลกใบที่สอง เขาที่มีพลังมากกว่าเดิมก็ยังช่วยปู่ไว้ไม่ได้จนตอนนี้ไม่รู้ว่าปู่เป็นหรือตาย

ไนเรลเริ่มสับสน มันมาจากทั้งคำถามและสิ่งที่รู้ ตอนนี้ตัวเขาคือใคร และเป็นคนของโลกไหนกัน เพราะเขามีชีวิตทั้งในโลกนี้ และอีกโลก ทั้งสองเกิดวันโลกาวินาสไม่ต่างกัน และเขาผ่านมันมาทั้งคู่

เอิร์ลดาโก้เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าไนเรล เขากล่าว

“โลกแรกอย่างนั้นเหรอ เจ้าคงแทบไม่รู้สินะ ถึงสถานที่ซึ่งเราอยู่มันคืออะไร โลก เรียกแบบนั้นไม่ถูกสิ ต้องเรียกว่า ดาวเคราะห์ทดลอง A000 และ ดาวเคราะห์ทดลอง A111 ถึงจะถูก ทั้งสองเป็นดาวเคราะห์ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้เหมือนกันในทุก ๆ ด้าน แน่นอนว่าพวกมันถูกทดลองมาหลายครั้งแล้ว จำนวนไม่แน่ชัด แต่สิ่งที่ฉันกับนายเจอคือดาวเคราะห์ทดลอง A000 แห่งนี้เริ่มการทดลอง วันโลกาวินาสมา 212 ปีแล้ว”

“แล้วพวกแกต้องการอะไร หรือต้องการออกไปจากสถานที่ทดลองนี่” ไนเรลถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา ถ้าพวกนี้คือคนของโลกนี้ ที่ผ่านการวิวัฒนาการมา 212 ปี และคือตัวตนเดียวกับเขา ดังนั้นก็คงจะอยู่มาถึง 212 ปีและคงจะหาทางออกจากโดมพวกนั้นที่ระบบดูแลอยู่

“ออกอย่างนั้นเหรอ แน่นอน อิสรภาพคือสิ่งที่ทุกชีวิตตามหา แต่ที่มากกว่านั้นคือ พวกเราต้องรอดไปให้ได้ก่อน เจ้ารู้ไหมทำไมการทดลองถึงมีซอมบี้”

เมื่อคำถามนี้ถูกถาม ไนเรลก็ย้อนกลับไปถึงความคิดของตัวเอง ซอมบี้คืออะไร พวกมันเป็นไวรัส เป็นโรคร้ายเป็นความตายอย่างนั้นเหรอ ไม่ใช่พวกมันคือ...

“พวกมันหนึ่งในปัจจัยการทดลองที่ถูกสร้างขึ้น” เอิร์ลดาโก้ตอบไนเรล

เขายังกล่าวต่อ “เมื่อใดที่ซอมบี้ครองโลกใบนี้จนหมด โลกก็จะตาย ทุกชีวิตก็จะตาม และโลกนี้มันเริ่มตายซากมานานแล้ว อากาศที่เป็นพิษ ชีวิตที่ตาย แม้เผ่าพันธุ์อื่นจะไม่ติดเชื้อไวรัสซอมบี้ แต่พวกเขาจะต้องตายเช่นกัน ยกเว้นจะทำแบบพวกยักษ์ในอดีตเคยทำที่หลบซ่อนอยู่ใต้ดิน

แต่วิธีการนี้คงจะให้ไม่ได้อีกแล้ว เพราะเจ้านั้น เมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการที่เจ้าขโมยไปจากดาวเคราะห์ทดลอง A000 แต่มันจะเป็นสิ่งที่ช่วยข้าและทุกคนออกไปจากที่นี่เช่นกัน”

“แกต้องการให้ฉันร่วมมือกับแกต่อกรกับระบบ?”

“ไอ้หนู! เจ้ายังไม่เข้าใจ การสู้กับระบบจะเกิดขึ้น แต่ยังไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำตอนนี้ สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกคือ ข้าต้องการ ดาวเคราะห์ทดลอง A111 มันจะให้เวลาพวกเราเตรียมตัวอีก 200 ปีนั้นมากพอจะทำลายระบบ เจ้าคือผู้เสียสละ”

เอิร์ลดาโก้กล่าวจบตัวของไนเรลก็ถูกดึงเข้าหากำแพงทันที มีเข็มจำนวนมากแทงไปที่ตัวของเขาและหน้าอก หลังจากนั้นสิ่งที่ไนเรลรับรู้ได้คือ ความเจ็บปวด เขาได้เข้ามาอยู่ในเครื่องบางอย่าง เทคโนโลยีพวกนี้ล้ำยุคเป็นอย่างมาก

มันเหมือนเขากำลังถูกใส่เข้าไปในเครื่องสูบพลังงานทั้งหมดออกไป แต่มันไม่ใช่พลังของตัวเขามันคือพลังของเมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการที่โดนระบบกักขังอยู่

การกระตุ้นพลังงานของเมล็ดพันธุ์ในครั้งนี้ทำให้การเรื่องเหมือนกับตอนที่ไนเรลนั่งอยู่บนรถ

ตามหา...

ตามหา......

ตามหา.........

ไนเรลไม่รู้มันให้เขาตามหาอะไร ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วมันให้ตามหาอะไร เขาอยากจะเอาหัวโขกกำแพงให้ตัวเองสลบไปจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดแบบนี้อีก

อ๊ากกกกก!!!

ไนเรลร้องออกมาและทั้ง 7 ไม่มีใครสนใจเรื่องนี้ ทุกคนมองด้วยความสงบนิ่ง ราวกับสิ่งที่เห็นนั้นเป็นเพียงเรื่องธรรมดาเท่านั้น จะมีก็แต่ชารอนเท่านั้นที่ดูจะไม่พอใจสักเท่าไหร่

“เราไปกันเถอะ” ชารอนพูดกับตาเดียวก่อนที่จะหันกลับเดินออกไป

ตาเดียวไม่ได้พูดอะไรมาก เขาเพียงเดินตามเธอไปอย่างเงียบ ๆ เท่านั้น ทั้งสองหายไปในประตูที่เปิดขึ้นมาทางกำแพงด้านหลัง

“เราจำเป็นต้องบอกเรื่องนี้กับเขาด้วยอย่างนั้นเหรอ ข้ารู้สึกว่ามันคือตัวอันตรายถ้ารู้มากเกินไป” ชายรอยสักกล่าว

“คิ ๆ เจ้าไม่รู้เหรอ เราต้องทำให้มันรู้สึกแหลกสลาย สับสน ก่อนจะดึงพลังออกมาอย่างนั้นมันจะง่ายกว่า” สาวโรคจิตกล่าว

“ว่าแต่ตัวเจ้าเจอกันหรือยัง”

“แน่นอน คิ ๆ แต่ตัวเจ้าตอนหนุ่ม ๆ ก็ดูซื่อบื่อดี คิ ๆ”

“หึ พวกเจ้าทั้งสองยังโรคจิตไม่ต่างกันๆ ไม่ว่าจะโรคไหน ๆ”

“ไม่หรอกมันจะมีแค่ข้า ๆ เพราะข้าฆ่านางไปแล้ว พอมีตัวเองอีกคนแล้วรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก คิ ๆ” หญิงสาวโรคจิตพูดไปก็หัวเราไป

ชายรอยสักถึงกลับหรี่ตามอง “เจ้ามันวิปริต”

ขณะที่อาบิเกลยืนฟังการสนทนาของทั้งสองอยู่เงียบ ๆ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความคิดที่ไม่อาจจะอ่านออกได้

อาบิเกลเดินเข้าไปยังจุดที่ไนเรลโดนสูบพลังอยู่

“พลังสีเขียวนั้นคือพลังที่ได้จากเมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการสินะ” อาบิเกลกล่าวออกมา ขณะที่มือเหมือนกำลังจะยื่นเข้าไปหาพลังที่ถูกดึงออกมาจากตัวของไนเรลที่ตอนนี้กำลังจับตัวกันเป็นแก่นพลังงาน

แต่ทันใดนั้น เอิร์ลดาโก้ก็ยืนมือมาจับมือของอาบิเกลและบีบมันไว้จนสีหน้าของอาบิเกลเปลี่ยนแปลงไป

“ไอ้หนู เจ้าเก็บพลังจิตนั้นกลับไปก่อนที่ข้าจะระเบิดหัวของเข้าทิ้ง”

อาบิเกลมองไปที่เอิร์ลดาโก้ “เจ้าก็อย่าลืมว่าข้าคือคนที่ทำให้เมืองหลวงไทกีล่าย่อยยับจากภายใน ทำให้เจ้าพาจีนาสมายึดครองมันได้ และหวังว่าเจ้าจะยังไม่ลืมข้อตกลง มนุษย์ที่ไม่ใช้จีนาสของดาวเคราะห์ A111 นั้นข้าต้องได้ทั้งหมด”

“ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดี หลังจากข้าขึ้นไปในระดับดวงดาวแล้ว เจ้าจะได้ในสิ่งที่ต้องการ”

เอิร์ลดาโก้กล่าวจบก็หันหลังเดินออกไป ปล่อยให้อาบิเกลยืนมองดูไนเรลอยู่ในเครื่องสูบพลังดิ้นไปมาด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด

“แล้วเจ้าจะได้เห็นดีกันว่าใครคือผู้ชนะ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด