ตอนที่แล้วตอนที่ 1645 อย่าได้โทษข้าที่ลงมือไม่ไว้ไมตรี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1647 ก็เพียงเท่านี้

ตอนที่ 1646 ผันไปแปรมา


ตอนที่ 1646 ผันไปแปรมา

“เจ้าหนู นับว่ามีความกล้าหาญที่น่ายกย่องเลยทีเดียว จงไปกลับใจในความผิดบาปที่ตัวเองก่อไว้ในนรกเสียเถอะ หากว่ามีโอกาสกลับมาเกิดใหม่ ก็จงอย่าได้คิดที่มาเป็นคางคกริบังอาจคิดจะมากินเนื้อห่านฟ้าอีก จะอย่างไรก็ยังคงมีคนที่สูงส่งจนเจ้าไม่อาจเอื้อมได้อยู่ดี !”หรานอวิ่นถิ่งกระตุ้นพลังภายในกายเข้าสู่เขตพรมแดนกองกำลังอย่างบ้าคลั่ง พร้อมทั้งตวาดออกมาเสียงดังก้อง

เกล็ดหิมะดุจผลึกใสแต่ละแผ่นที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในหลักความเข้าใจในวิถียุทธ์ที่มาจากพรสวรรค์ของนาง โดยที่เขตพรมแดนกองกำลังยังขาดอีกเพียงแค่ขั้นเดียวก็จะเข้าสู่ระดับมหามรรคะ ภายในขอบเขตหวนกำเนิดย่อมไม่มีผู้ใดสามารถเป็นศัตรูด้วยได้อยู่แล้ว

ร่างกายของหยางไคก็พลันถูกเกล็ดหิมะเข้าปกคลุม

ทันใดนั้นสภาวะบรรยากาศพลันกดทับลงมา แม้จะใช้เพียงตาเปล่าก็ยังสามารถที่จะมองเห็นเกล็ดน้ำแข็งค่อยๆเกาะอยู่ตามผิวหนัง จนเกิดการแข็งตัว……

เกล็ดหิมะที่เกาะอยู่บนร่างของหยางไค

ราวกับว่าได้เข้าสู่การแช่แข็งระหว่างฟ้าดินไปจนสิ้น ล้วนแล้วแต่แทรกซึมผ่านเข้าสู่ภายในร่างกายของหยางไค

หลังผ่านไปได้สองช่วงลมหายใจ หยางไคก็ได้ถูกแช่แข็งจนกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง กระนั้นก็ยังคงรักษาสภาวะจากการปล่อยพลังหมัดออกไปอยู่ สองตาสาดทอความเดือดดาล ยืนสดับนิ่งค้างอยู่กลางเวหา แม้แต่เส้นผมสีดำก็ยังคงรักษาสมดุลลอยพลิ้วไหวไปตามกระแสพลัง

เขาที่เปรียบเสมือนดั่งเป็นเหมือนผลงานชิ้นเอกที่เกิดจากปรมาจารย์ช่างแกะสลักรูปหนึ่ง

ในที่ห่างไกลออกไปหลายร้อยลี้ ชิงหย่าที่พึ่งจะทรงกายได้มั่นก็ได้เงยหน้าขึ้น หลังจากที่พบเห็นภาพฉากที่เกิดขึ้น วินาทีนั้นก็ถึงกับแตกตื่นตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ตะโกนส่งเสียงดังก้องออกมาว่า : “หยางไค !”

เสียงของนางยังเต็มเปี่ยมไปด้วยโศกศัลย์

หยางไคถึงแม้จะไม่พ่ายให้แก่ผู้อาวุโสสูงสุดในกระบวนท่าเดียว ! แท้จริงแล้วเป็นเพราะความแตกต่างที่เกิดขึ้นจากความสามารถพลังขอบเขตที่มากจนเกินไปหรืออย่างไร ? แต่หากว่าเขาตายอยู่ในที่แห่งนี้จริงแล้วละก็ เช่นนั้นซูเหยียนนาง……

ชิงหย่าราวกับไม่กล้าที่จะคิดมองต่อไปอีก ช่วงเวลาหนึ่งถึงกับเนื้อตัวแข็งทื่อขึ้นมาแล้ว แม้แต่การครุ่นคิดก็ยังวุ่นวาย

ในขณะนี้ นางยังยินดีที่จะถูกปิงเตี๋ยฆ่าไปเมื่อครู่นี้เสียยังจะดีกว่า ที่จะต้องมาพบว่าหยางไคกลับต้องมาตายเพราะจากสาเหตุที่ตัวเองเป็นผู้ชักนำมา

“ฆ่าศิษย์ทรยศผู้นี้ !”หรานอวิ่นถิ่งที่อยู่ไม่ไกลนัก ก็ได้ค่อยๆทอแววตาเย็นเยียบเหม่อมองมาที่ชิงหย่า จากนั้นก็ได้ออกคำสั่งออกมาในจุดที่ไม่ห่างไกลออกไป สาดทอแววตาที่เต็มไปด้วยความชิงชังออกมา

หลังจากที่กล่าวจนจบ ก็ได้หันไปมองชิงหย่าอีกครา

ราวกับว่าในมุมมองของนาง ความตายของชิงหย่าแทบจะไม่ใช่เรื่องที่สลักสำคัญอะไร ! ขอเพียงสามารถที่จะชดเชยภาวะจิตใจที่แตกสลายไปของซูเหยียนได้ นางก็สามารถที่จะกำจัดทุกอย่างรวมไปจนถึงคนที่เกี่ยวข้องกับซูเหยียน

ปิงเตี๋ยที่พึ่งจะถูกหยางไคทำร้าย แต่ก็ไม่ได้มีอันตรายจนถึงชีวิต ดังนั้นเพียงการพักเพียงชั่วครู่ไม่นานนัก ก็ได้พุ่งเข้าใส่ชิงหย่าอย่างเงียบเชียบอย่างไร้ซึ่งความลังเล สาดทอแววตาเย็นเยียบ ไหลเวียนลมปราณศักดิ์สิทธิ์ภายในกาย จนเกิดเป็นพลังสภาวะเย็นเยียบรายล้อมร่างกายของนางเอาไว้ทีละเล็กทีละน้อย หันไปมองชิงหย่าด้วยแววตาที่เย็นเยียบอย่างถึงที่สุด:“ครั้งนี้ยังจะมีผู้ใดช่วยเจ้าได้อีก !”

ในระหว่างที่กล่าว ก็ได้มาถึงยังเบื้องหน้าชิงหย่าที่ห่างไกลไปกว่าห้าจั้ง พร้อมทั้งฟาดออกไปหนึ่งฝ่ามือ

ชิงหย่าหาได้เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย แทบจะหาได้หันไปสนใจกระบวนท่าสังหารของปิงเตี๋ยไม่ นางที่กำลังเหม่อมองหยางไคที่ลอยเป็นก้อนน้ำแข็งอยู่กลางเวหาด้วยอาการตะลึงลาน สายตาของนางกลับมีแต่เพียงแค่รูปปั้นน้ำแข็งเท่านั้น

แววตาของนางที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ ก็พลันกลายเป็นสีหน้าหดหู่

จบสิ้นแล้วจบแล้ว หยางไคตายอยู่ภายใต้เงื้อมมือของผู้อาวุโสสูงสุด ตัวเองก็คงจะไม่มีหน้าที่จะไปพบกับซูเหยียนอีกแล้ว มิสู้หากเลือกที่จะถูกฝังไปพร้อมกับหยางไคในที่แห่งนี้ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ไม่เลว หนทางไปเยือนสู่ปรภพ อย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนร่วมทาง

ภายใต้การเผชิญหน้ารังสีสังหารของปิงเตี๋ย ชิงหย่าก็ได้ค่อยๆที่จะหลับตาลง อยู่ในสภาพที่เตรียมพร้อมจะตาย

ปิงเตี๋ยที่แทบจะหาได้รั้งสภาวะกลับคืนเพราะการไม่ยอมตอบโต้ขัดขืนไม่ เพียงแต่หันไปกล่าวต่อนางว่า คำสั่งของผู้อาวุโสสูงสุดนั้นคือที่สุด

ศิษย์หุบเขาหฤทัยเยือกเย็นที่อยู่โดยรอบร้องเสียงหลงกันออกมา ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะเกิดความผันไปแปรมาได้ถึงเพียงนี้ จนในท้ายที่สุดก็ยังคงต้องจบสิ้นลงด้วยการที่ชิงหย่าและบุรุษผู้นั้นตายลง

ได้มีผู้คนไม่น้อยที่ทอสีหน้ามัวหมอง เผยสีหน้าเสียใจออกมา

ในเวลานี้ ท่ามกลางอาณาเขตที่เกิดเป็นน้ำแข็งค้างเข้าปกคลุม ที่เบื้องหน้าชิงหย่า ทันใดนั้นก็ได้ศีรษะเล็กๆโผล่ออกมา ศีรษะน้อยนั้นได้มีส่วนที่เป็นเขาแหลมโผล่ออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน เหมือนกับเป็นสิ่งที่ถูกแกะสลักมาจากหินศิลา ดวงตาที่เปรียบเสมือนกับเป็นเม็ดถั่วดำสองเม็ดก็พลันเกิดเป็นประกายขึ้น พร้อมทั้งสาดทอประกายแสงอันคมกล้าแลบผ่านขึ้นมา

ในช่วงเวลาที่คับขัน ศีรษะน้อยๆนั้นก็ได้ลอยขึ้นสู่ทางด้านบน ได้มีสิ่งที่มีลักษณะคล้ายกับหนามแหลมโผล่ขึ้นมา

เบื้องหน้าชิงหย่าได้มีสิ่งมีชีวิตประหลาดขนาดไม่ถึงสามฉื่อ1โผล่ขึ้นมาในทันที

เห็นได้ชัดว่าแทบจะหาได้มีพลังชีวิตแผ่ซ่านออกมาจากบนร่างกายของมันแต่อย่างไร แต่มันกลับแววตาและความเคลื่อนไหวที่ดูเหมือนกับเป็นสิ่งมีชีวิตเป็นอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่ามันเองก็มีสติสัมปชัญญะอยู่เหมือนกัน อีกทั้งยังมีพลังชีวิตของตัวเอง

มันที่ที่มีลักษณะคล้ายกับหินเชิดที่มีรูปลักษณ์เป็นศิลาตัวหนึ่ง !

“นี่มัน……”ปิงเตี๋ยขมวดคิ้วอันดกดำ เหม่อมองไปที่หุ่นเชิดศิลาที่ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของชิงหย่าด้วยความสงสัย ถึงกับขบคิดตั้งสติกลับมาได้ไม่ทันไปสักพัก

จากนั้นนางก็ได้พบเห็นภาพฉากที่ยากจะเชื่อได้ลงเกิดขึ้น

หุ่นเชิดศิลาตัวเล็กๆนี้ถึงกับยืนอยู่กับที่ ขวางอยู่บริเวณทางด้านหน้าของชิงหย่าเอาไว้ แขนขาที่ขยับกวัดแกว่งไปมาแทบจะไม่สอดผสานกันอยู่บ้าง ด้วยแขนที่ยาวเหยียดอย่างชัดเจน กำปั้นเอาไว้จนแน่น เข้ารับการโจมตีที่มาจากตัวนาง

ความเคลื่อนไหวดั่งความไร้พลัง แต่ว่าเมื่อในเวลาที่กระแทกหมัดเข้าใส่หุ่นเชิดคุณสมบัติศิลานี้ พลังสภาวะน้ำแข็งเหมันต์ของตนเองแทบจะไม่ต่างอะไรไปจากไก่กระเบื้องสุนัขดินเผา2 จนเรียกได้ว่าเป็นการโจมตีที่อ่อนโทรม ถึงกับถูกพลังสะท้อนโจมตีกลับไปในพริบตา

ชั่วพริบตาเดียว พลังอันมหาศาลที่เปรียบเสมือนดั่งความสิ้นหวังอันยิ่งใหญ่สำหรับปิงเตี๋ยก็ได้ทับโถมเข้ามา !

ดั่งหนึ่งพลังสยบสิบคำรบ3 ! เพียงมีพลังที่แข็งแกร่งได้ในระดับที่เหมาะสมแน่นอน ย่อมสามารถที่จะไม่เห็นการโจมตีใดอยู่ในสายตาเท่านั้น หนึ่งพลังสลายหมื่นสภาวะวิชา !

ปิงเตี๋ยพลันเกิดความประหลาดใจขึ้น!

เสียงอันน่าแตกตื่นตกใจพลันดังขึ้น นางก็ได้กระเด็นลอยออกไปอีกครั้ง และครั้งนี้นางที่เรียกได้ว่าได้รับบาดเจ็บหนักหน่วงเสียยิ่งกว่าหยางไคเมื่อครู่นี้อย่างเห็นได้ชัด มิหนำซ้ำยังกระเด็นล้มลงไปทางด้านหลัง สลบไสลไปในทันที เป็นตายยากที่จะทราบได้

ผู้คนนับไม่ถ้วนล้วนแต่ได้ยินเสียงกระดูกที่แตกหักบนส่วนแขนของนางดังขึ้น

ครืน……

รอบบริเวณล้วนแต่เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นมาจนเป็นที่แตกตื่นตกใจ

ปิงเตี๋ยถือได้ว่าเป็นศิษย์ของหรานอวิ่นถิ่ง เป็นคนของหอผู้คุมกฎ อีกทั้งยังมีการบ่มเพาะอยู่ในขอบเขตหวนคืนขั้นที่หนึ่ง

ด้วยสิ่งที่โผล่ขึ้นมาอย่างกะทันหัน สิ่งที่ขวางอยู่เบื้องหน้าชิงหย่าแท้จริงแล้วเป็นอะไรกันแน่ ? ถึงกับยังแฝงเอาไว้ด้วยพลังสภาวะลมอันแผ่วเบาพัดเขามาพร้อมกับหมัด ก็เพียงพอที่จะทำให้ปิงเตี๋ยตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้แล้ว

แล้วมันโผล่มาจากที่ไหนกัน ?

แม้แต่ชิงหย่าเองก็ยังต้องเลอะเลือน ! นางก้มหน้าลงต่ำ เหม่อมองไปยังสิ่งที่ยืนอยู่ด้านหน้าของตัวเอง จนอยู่ในท่าทางก้มหลังจนงอค่อม หุ่นเชิดศิลาที่ดูไม่มีพิษมีภัย แต่ภายในแววตากลับสาดเป็นประกายออกมา

“นี่มันตัวอะไรกัน !”หรานอวิ่นถิ่งที่ยืนอยู่ลอยอยู่กลางเวหาก็ได้ทอแววตาเป็นประกายมองไปที่หุ่นเชิดศิลา อีกทั้งยังมีใบหน้าแข็งทื่ออย่างไร้ที่เปรียบ

ถึงแม้ว่านางจะสัมผัสไม่ได้ถูกสภาวะการเคลื่อนไหวและพลังชีวิตจากตัวของหุ่นเชิดศิลาได้ก็ตาม แต่ด้วยพลังชีวิตที่ประหลาดเช่นนี้กลับทำให้นางมีขีดความสามารถที่อันตรายเป็นอย่างยิ่ง นั่นยังเป็นถึงสัมผัสถึงอันตรายที่พบพานกับคู่ต่อสู้ที่หากสู้กันตัวต่อตัวไม่ได้เช่นนั้นเลยก็ว่าได้ !

ภายในจิตใจของนางพลันเกิดเป็นความตื่นตัว พลันตัดสินใจใช้สายตาหันไปมองหยางไคที่ตกอยู่ในสภาพถูกแช่แข็งเอาไว้อยู่

ทันทีที่มองเข้าไป หรานอวิ่นถิ่งถึงกับต้องสะดุ้งขึ้นมา

นางได้จดจ้องมองไปที่หยางไคอย่างไม่วางตา ถึงแม้ว่าจะอยู่ภายในผลึกน้ำแข็ง แต่ก็ยังคงแสยะยิ้มน้อยๆหันมองเข้ามา รอยยิ้มนั้นยังได้เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่เย้ยหยันอย่างเปี่ยมล้น

“เป็นถึงผู้อาวุโสสูงสุดแห่งหุบเขาหฤทัยเยือกเย็น แต่กลับมีพลังฝีมืออยู่เพียงแต่นี้เองงั้นหรือ ? ว่ากันตามตรง ท่านช่างทำให้ข้าผิดหวังกกันเกินไปแล้ว ท่านหากว่ามีความสามารถอยู่เพียงแค่นี้แล้วละก็ ซูเหยียนก็คงจะไม่เหมาะที่จะมีร่ำเรียนการบ่มเพาะกับท่านแล้ว ท่านแทบจะหาได้มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะถ่ายทอดวิชาที่พิสดารมากพอให้แก่นางเลยด้วยซ้ำ !”เสียงของหยางไคได้ดังขึ้นมาจากภายในผลึกน้ำแข็ง หรานอวิ่นถิ่งก็ได้ทอสีหน้าประดั่งพบพานผีสาง ถึงกับมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง

ต่อมา ดวงตาดำคู่หนึ่งของหุ่นเชิดศิลาพลันกลอกไปมา ราวกับคิดอะไรขึ้นมาได้ ทันใดนั้นก็ได้ยื่นมือทั้งสองข้างออกมา พร้อมทั้งทุบเข้าใส่หน้าอกของตัวเอง

ปึงปังปึงปัง……

เกิดเป็นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จนทำให้ยอดเขาน้ำแข็งที่อยู่โดยรอบเกิดการสั่นสะเทือนขึ้น ก้อนหิมะนับไม่ถ้วนและหอกน้ำแข็งได้ร่วงหล่นลง

ท่ามกลางเสียงดังสนั่น ด้วยรูปร่างของหุ่นเชิดศิลาทันใดนั้นก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นใหญ่โตขึ้นมา เดิมทีที่มีขนาดร่างกายสูงใหญ่เพียงสามฉื่อ ทันใดนั้นก็ได้มีขนาดใหญ่ถึงสองจั้ง

จากนั้นมันเมื่อหันกายกลับมา ก็ได้เผยสีหน้าตกใจระคนยินดีออกมา ชิงหย่าได้เงยหน้าขึ้นเหม่อมองไปที่หยางไค ราวกับกำลังโบยบินไปจากจุดเดิมด้วยความเร็วสูง

ที่ด้านบนผืนดินที่เต็มไปด้วยหิมะที่ขาวโพลน กลับเหลือทิ้งเอาไว้แค่เพียงควันอันเบาบาง ที่ทอดจนยาวไปจนห่างไกลออกไป !

ด้วยอากัปกิริยาที่ดูไปแล้วนั้นดุจดั่งจ้าวภูเขาผู้ทรงพลังและโหดร้าย พลันรีบดิ่งลงจากเขาประดั่งพบพานกับฮูหยินถูกฮูหยิน(ภรรยา)ไล่ต้อนเข้ามา เรียกได้ว่าแทบจะหนีลงจากเขาแทบไม่ทันก็มิปาน

เหล่าศิษย์สตรีของหุบเขาหฤทัยเยือกเย็นล้วนแต่ทอแววตาโง่งมกันขึ้นมา!

ศิษย์น้องชิงหย่า……ได้ถูกมนุษย์ศิลาจับตัวไปแล้วงั้นหรือ ?

กระนั้นไม่นานนัก พวกนางก็พลันเข้าใจได้ว่าเหตุใดมนุษย์ศิลาตนนั้นเหตุใดถึงยังต้องจากไปด้วยความรีบร้อน

สภาวะบรรยากาศที่น่าแตกตื่นขุมหนึ่งได้เกิดขึ้นกับมวลอากาศ หยางไคซึ่งเดิมทีสมควรถูกแช่ไว้อยู่ภายในน้ำแข็งก็เกิดแรงสภาวะสั่นสะเทือนแผ่ซ่านออกมา จนผลึกน้ำแข็งที่อยู่ภายนอกร่างกายของเขาเกิดเป็นเสียงของบางสิ่งแตกหักดังขึ้น พร้อมกับผนึกที่แตกออกมาแผ่นแล้วแผ่นเล่า ดั่งรอยแตกที่เป็นดั่งใยแมงมุมแผ่กระจายตัวกันออกมา

ผลึกน้ำแข็งได้ถูกทำลายลงในทันที!

หรานอวิ่นถิ่งทอสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที เหล่าศิษย์สตรีของหุบเขาหฤทัยเยือกเย็นเองก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปโดยพลัน!

พวกนางต่างก็ไม่กล้าที่จะหยุดอยู่ที่เดิมกันอีกต่อไป ต่างก็ได้แยกย้ายกันไปยังตำแหน่งที่ห่างไกลออกไปอย่างถึงที่สุด

“อย่าได้หวัง!”หรานอวิ่นถิ่งตะโกนขึ้นมาเสียงดังก้อง พร้อมกับเกิดเป็นเกล็ดหิมะที่เป็นผลึกแต่ละชิ้นปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมทั้งเข้าปกคลุมหยางไคเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าวางแผนคิดที่จะแช่เขาให้เป็นก้อนน้ำแข็งอีกครา

“แตกสลายไปซะ!”หยางไคตะโกนกู่ร้องเสียงดังก้อง

คว้างคว้างคว้าง ……

ผลึกน้ำแข็งแตกซ่าน ระเบิดจนกลายเป็นผง สาดกระจายไปทั่วทั้งอากาศ

ในเวลาเดียวกันกับที่แตกซ่าน ยังได้มีเขตพรมแดนกองกำลังของหรานอวิ่นถิ่ง !

หิมะโปรยปรายท่ามกลางผืนฟ้าได้หายลับไปอย่างกะทันหัน ดั่งการถูกบางอย่างเข้าแทนที่ พร้อมกับมิติอากาศที่แตกซ่านซึ่งไหลเวียนอยู่ท่ามกลางอากาศ มิติอากาศที่แตกซ่านเหล่านั้นดุจดั่งอสรพิษน้อยสีดำแต่ละสาย ดูไปแล้วทำให้ผู้คนเนื้อตัวสั่นสะท้านกันไม่คลาย ปกคลุมเข้าไปยังภายในหัวใจของหยางไค ภายในบริเวณโดยรอบกว่าสามร้อยจั้ง!

“เป็นไปได้อย่างไรกัน ? เป็นไปได้ยังไงกัน ?”หรานอวิ่นถิ่งโซซัดโซเซเดินถอยไปทางด้านหลัง พร้อมทั้งหันไปมองหยางไคด้วยแววตาเลือนลอย แทบจะหาได้รู้สึกว่าจะสิ้นสุดลงแต่เพียงแค่นี้ไม่ ตนเองที่ได้ปะทะกับบุรุษหนุ่มผู้นี้ซึ่งหน้าภายใต้เขตพรมแดนกองกำลังของนาง ยังถึงกับต้องพบกับความปราชัยอีก!

ตนที่เป็นถึงผู้อาวุโสสูงสุดแห่งหุบเขาหฤทัยเยือกเย็น เขตพรมแดนกองกำลังเองก็มีแนวโน้มที่จะเป็นถึงมหามรรคะ ! บุรุษหนุ่มผู้นี้ที่ไม่มีทั้งคุณธรรมความสามารถ ถึงกับสามารถเข้าควบคุมเขตพรมแดนกองกำลังของตัวเองได้ในทุกด้านได้อย่างไรกัน ?

ขอแรงสนับสนุนให้ผู้แปลมีกำลังใจแปลต่อไปได้ที่ mynovel.co หรือ www.thai-novel.com ด้วยนะคะ

อีกทั้ง ภายในเขตพรมแดนกองกำลังนี้ของเขายังได้แฝงเอาไว้ด้วยพลังอันมหาศาลแปลกประหลาดชนิดหนึ่ง

ไม่เพียงแต่จะทำให้เขตพรมแดนกองที่โอบล้อมอยู่ภายในอาณาเขตจะเปี่ยมล้นไปด้วยพลังที่กระชากได้แม้แต่มิติอากาศ ยังเกิดเป็นรังสีสังหารเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลกระทบที่สามารถชี้ชะตาของตัวเองได้

นางที่แทบจะไม่อาจพบว่าหยางไคนั้นไปอยู่ที่ไหน ! ตำแหน่งของหยางไคจะอยู่ใกล้หรือไกล และระยะห่างระหว่างตัวเองยังเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างมิขาดสาย

พลังแห่งมิติอากาศ!หรานอวิ่นถิ่งถึงกับทอสีหน้าซีดเผือด

มีแต่เพียงพลังแห่งมิติ จึงจะสามารถที่จะทำให้เกิดเป็นรอยแตกของมิติเช่นนี้ได้ และก็มีแต่พลังแห่งมิติอากาศจึงจะสามารถสร้างผลกระทบที่เกิดจากระยะทางของตัวเองได้

บุรุษหนุ่มผู้นี้ถึงกับบ่มเพาะพลังเช่นนี้มาอย่างงั้นหรือ ? อีกทั้งยังสามารถแทรกซึมผสานเข้ากับเขตพรมแดนกองกำลังของตัวเองได้อีก ?

ครานี้หรานอวิ่นถิ่งเหมือนกับได้พบเห็นผีสางแล้วก็มิปาน!

“ตาย!”หยางไคเปล่งเสียงอย่างเย็นเยียบออกมา ราวกับแทบจะไม่ได้ลงมือไว้ไมตรีเนื่องจากที่นางเป็นอาจารย์ของซูเหยียนอีกแล้ว เมื่อบังเกิดความคิดเช่นนี้ มิติอากาศพลันหยุดนิ่ง สภาวะอากาศพลันเกิดเป็นรอยแตกร้าว ถาโถมกดดันเข้าใส่หรานอวิ่นถิ่งไป

“อยากจะให้ข้าตาย ก็ต้องดูว่าเจ้ามีความสามารถที่จะทำเช่นนั้นหรือไม่!”หรานอวิ่นถิ่งที่แทบจะไม่ต่างอะไรไปจากสตรีปากร้ายที่คลุ้มคลั่งขึ้นมา จนไร้ซึ่งอำนาจและสภาวะของการเป็นผู้อาวุโสสูงสุดไป กู่ร้องออกมาด้วยน้ำเสียงบ้าคลั่ง ทันใดนั้นก็ได้ล้วงเอาป้ายคำสั่งที่อยู่ภายในมิติอากาศออกมา ไหลเวียนลมปราณศักดิ์สิทธิ์แทรกซึมผ่านเข้าสู่ภายใน

ชั่วพริบตาเดียว ทันใดนั้นรอบบริเวณก็พลันปรากฏความเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างขึ้นมา!

หยางไคหรี่ตาลง เงยหน้ามองไปโดยรอบ ทันใดนั้นก็ได้พบว่าหิมะน้ำแข็งรอบบริเวณได้กลายเป็นสภาวะความหนาวเหน็บที่น่าสะพรึงกลัวจนถึงขีดสุดระเบิดขึ้นมา อีกทั้งหิมะน้ำแข็งเหล่านี้และป้ายคำสั่งที่อยู่บนมือของหรานอวิ่นถิ่งก็น่าจะมีความเกี่ยวข้องกันอยู่ในระดับหนึ่งอย่างไร้ที่เปรียบ

บนพื้นที่บริเวณทางด้านล่าง ใจกลางแกนศูนย์กลางพื้นที่อาณาเขตของเกาะสุดขั่วเยือกเย็น จนสามารถรวบรวมพลังจากฟ้าดิน ทั้งสี่ทิศแปดด้านเกิดเป็นพลังรังสีแผ่พุ่ง ผุดออกมาบนพื้นธรณี แทรกซึมผ่านเข้าสู่ระหว่างฟ้าดิน และเมื่อผ่านป้ายคำสั่งนั้นอีกครา ก็ได้แปรเปลี่ยนจนกลายเป็นพลังที่หรานอวิ่นถิ่งสามารถควบคุมได้

พลังสภาวะน้ำแข็งเหมันต์ได้รวมตัวกัน โผทะยานรายล้อมอยู่ข้างกายหรานอวิ่นถิ่งดุจดั่งมังกรเข้ารายล้อม ทุกอย่างล้วนแต่เกิดขึ้นเพียงสามชั่วลมหายใจ ก็ได้กดดันจนหยางไคกลับเข้าสู่ภายในเขตพรมแดนกองกำลังไปแล้ว

.

.

.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด