ตอนที่แล้วตอนที่ 1641 วาจาอันมิถูกชะตา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1643 ท้อแท้ใจ

ตอนที่ 1642 แรงกดดันของหรานอวิ่นถิ่ง


ตอนที่ 1642 แรงกดดันของหรานอวิ่นถิ่ง

หรานอวิ่นถิ่งพยักหน้าเล็กน้อย สาดทอแววตาเป็นประกายกวาดไปมองชิงหย่า

อีกทั้งยังไม่ทราบว่าเป็นเพราะมีมูลเหตุมาจากหยางไคหรือไม่ ทันใดนั้นหรานอวิ่นถิ่งก็ได้พบว่าพบเห็นศิษย์นอกเกาะที่มีชาติกำเนิดมาจากทวีปถ่งซ๋วนขัดหูขัดตากันอยู่บ้าง ใบหน้าที่ไม่รู้จักวางตัวของหยางไคนั้นก็ได้ลอยอยู่ภายในหัวของนาง จนทำให้จิตใจนางฉุนเฉียวขึ้นมาบ้างแล้ว

“ต่างก็กำลังเอะอะอะไรกันอยู่ในที่แห่งนี้กัน? ไม่รู้ว่าซูเหยียนเก็บตัวอยู่ในที่แห่งนี้หรือไง?” หรานอวิ่นถิ่งกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

ศิษย์สตรีสองนางที่คอยดูแลรับผิดชอบซูเหยียนพลันทอแววตาแตกตื่นขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับรู้สึกว่าผู้อาวุโสสูงสุดมีภาวะจิตใจที่ไม่สู้ดีนัก วินาทีนั้นก็ทำได้แต่เพียงพยัคฆ์หน้ารับคำเพียงถ่ายเดียว

สตรีแซ่โจวนั้นก็ได้ถลึงตามองไปที่ชิงหย่า พูดเชิงโยนความผิดให้: “เรียนผู้อาวุโสสูงสุด เป็นศิษย์น้องผู้นี้ที่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องพบกับซูเหยียนให้ได้ พวกศิษย์ได้ห้ามปรามนางแล้ว แต่ว่านางยังคงไม่ยินยอมเลิกรา จนไม่ยอมจากไป!”

“ผู้อาวุโสสูงสุดโปรดให้ความเป็นธรรม กลับหาใช่พวกศิษย์ตั้งใจที่จะไปรบกวนซูเหยียนไม่ ความจริงล้วนแต่เกิดจนสาเหตุเหล่านี้!” สตรีที่อยู่อีกทางด้านก็ได้กล่าวเสริม

หรานอวิ่นถิ่งสาดทอแววตาดุร้ายมองไปที่ชิงหย่า กล่าวอย่างเย็นเยียบขึ้นว่า : ในเมื่อไม่ยอมกลับไป พวกเจ้าก็ไม่รู้จักใช้กำลังไล่นางกลับไปงั้นหรือ? บ่มเพาะมาตั้งหลายปีกลับไม่มีประโยชน์เลยหรือไงกัน?”

เมื่อได้เปล่งวาจานี้ออกมา ทั้งสามคนถึงกับทอสีหน้าตะลึงลาน

ราวกับคิดไม่ถึงว่าผู้อาวุโสสูงสุดจะกล่าวออกมาเช่นนี้

ภายในหุบเขาหฤทัยเยือกเย็น ถึงแม้จะมีการต่อสู้ช่วงชิงกันระหว่างศิษย์พี่ศิษย์น้อง ก็ยังมีข้อห้ามอยู่ จึงทำให้หาได้มีคนคิดที่จะเป็นฝ่ายลงมือก่อน

แต่ความหมายของผู้อาวุโสสูงสุด ถึงกับยอมให้ตัวเองลงมือต่อชิงหย่าสักรอบเลยอย่างงั้นหรือ? ช่วงเวลาหนึ่งสตรีแซ่โจวก็คล้ายกับขบคิดตามแทบไม่ทัน ถึงกับยืนแน่นิ่งอยู่กับที่

“ยังมัวยืนเหม่ออะไรกันอีก? พวกเจ้าหูหนวกกันหรือไง?” หรานอวิ่นถิ่งตวาดอีกครั้ว

สตรีแซ่โจวจึงค่อยตั้งสติกลับมาได้ ทราบว่าผู้อาวุโสสูงสุดคงจะไม่ได้ล้อเล่นแล้ว ในใจพลันเกิดความเดือดดาลที่ถูกตำหนิพลุ่งพล่านขึ้น ตะโกนออกมาด้วยเสียงเจือแจวว่า : “ถูกต้อง ศิษย์น้อมรับคำสั่งของผู้อาวุโสสูงสุด!”

ในระหว่างที่กล่าว ก็ได้ไหลเวียนลมปราณศักดิ์สิทธิ์ขึ้น ฟาดเข้าใส่ชิงหย่าไปหนึ่งฝ่ามือ

“ผู้อาวุโสสูงสุด……” ชิงหย่าร้องเรียก แต่พึ่งจะกล่าวออกมาได้เพียงไม่กี่คำ ก็ได้ถูกสภาวะพลังที่รุนแรงขุมหนึ่งฟาดเข้าใส่ตรงกลางอก จนนางอันอ้อนแอ้นของนางต้องลอยออกไปอย่างไม่อาจควบคุมเอาไว้ได้ ในระหว่างที่ลอยอยู่กลางอากาศ ยังถึงกับกระอักเลือดออกมา จนคราบเลือดเปื้อนอยู่บนชายกระโปรงขาวของนาง

บรึม……

ชิงหย่าลอยกระเด็นไกลออกไปหลายสิบจั้ง กระแทกชนกับกำแพงน้ำแข็ง จึงค่อยกระแทกเข้ากับพื้นด้วยสภาพที่ทุลักทุเล

บนใบหน้าที่ซีดเผือดไร้สีเลือด กับพยายามฝืนรวบรวมสมาธิเพื่อลุกขึ้น แม้แต่จะหายใจให้ได้สักครึ่งลมหายใจก็ยังยากลำบาก

บัดนี้นางที่มีการบ่มเพาะอยู่ที่ขอบเขตราชันเซียนขั้นที่สอง สตรีแซ่โจวที่ลงมือต่อนางกลับอยู่ในขอบเขตหวนคืนขั้นที่หนึ่ง นับว่ามีความแตกต่างในการบ่มเพาะพลังขอบเขตเป็นอย่างยิ่ง จนทำให้นางเดิมทีก็ไม่อาจต้านทานการโจมตีนี้เอาไว้ได้

เพียงแค่ฝ่ามือเดียว ชิงหย่าก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส!

แววตานางสั่นสะท้านอย่างรุนแรง หันไปมองหรานอวิ่นถิ่งด้วยสายตาไม่อยากที่จะเชื่อ ราวกับว่ายังไม่ทันตั้งสติกลับมา ไม่อาจกระจ่างชัดว่าเพราะเหตุใดถึงได้ออกคำสั่งที่ไร้น้ำใจถึงเพียงนี้!

“ไสหัวไป!หลังจากนั้นก็อย่าได้ริอาจหาญมาเหยียบย่างหาหรานอวิ่นถิ่งอีก ผู้อาวุโสอย่างข้าจะเป็นคนขับเจ้าออกจากหุบเขาหฤทัยเยือกเย็นเอง!” หรานอวิ่นถิ่งหาได้แยแสแม้แต่น้อย อีกทั้งยังตำหนิด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ชิงหย่า!” ภายในห้องของซูเหยียนทันใดนั้นก็ได้ถูกเปิดออก นางพลันเผยสีหน้าร้อนรนออกมา ร่างกายที่อ้อนแอ้นเองก็ได้ขยับส่ายโอนไปมาและพุ่งเข้าหาชิงหย่า

เมื่อครู่นางถึงแม้จะจะได้ยินข้อพิพาทระหว่างชิงหย่าและสตรีแซ่โจว แต่เพราะว่ามีคำสั่งของหรานอวิ่นถิ่ง ดังนั้นจึงไม่กล้าที่จะเผยโฉมโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต ทำได้แต่เพียงเก็บตัวไม่พบเจอผู้คน

แต่ว่าบัดนี้ ชิงหย่าถึงกับถูกทำร้ายจนสาหัส นางเองก็อดทนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว!

ทั้งสองคนที่ได้มาจากทวีปถ่งซ๋วน กราบเข้าหุบเขาหฤทัยเยือกเย็นเพื่อบ่มเพาะร่วมกัน มีความสัมพันธ์กันดั่งพี่สาวน้องสาว มีหรือที่จะยอมเอาแต่มองดูชิงหย่าถูกจัดการได้?

แต่กลับไม่คิดในขณะที่พึ่งจะเปิดเผยตัว หรานอวิ่นถิ่งเพียงแค่ปัดมือออก ลมกระโชกแรงพัดเข้ามา กดดันซูเหยียนจนถอยกลับไป

“หากเจ้ากล้าออกมาแม้เพียงก้าวเดียว ข้าจะฆ่านางทันที!” หรานอวิ่นถิ่งยืนอยู่นอกเรือนน้ำแข็ง เหม่อมองซูเหยียนด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง แสดงสีหน้าเจ็บปวดรวดร้าว

ซูเหยียนฉายแววแห่งความกลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้า ใช้สายตาที่คล้ายกับพบเห็นคนแปลกหน้ามองไปที่หรานอวิ่นถิ่ง จนอ้าปากค้าง ท้ายที่สุดก็ไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม ใช้เวลานานกว่าจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ได้สักคำ กัดฟันกล่าวขึ้นว่า : “หวังว่าท่านอาจารย์จะเห็นแก่ที่ชิงหย่ากระทำความผิดครั้งแรก อย่าลงโทษนางอีกแล้ว!”

หรานอวิ่นถิ่งพยักหน้า: “ขอเพียงเจ้ายอมเชื่อฟัง ข้าก็ไม่ทำให้นางลำบากใจแน่นอน!”

ซูเหยียนกัดฟัน กำหมัดขึ้นจนแน่น ตอบไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา : “ศิษย์จะเชื่อฟังคำพูดของท่านอาจารย์”

หรานอวิ่นถิ่งจึงค่อยแสดงสีหน้าของความพึงพอใจออกมาเล็กน้อย: “เป็นเช่นนี้ได้ก็ดี!ครั้งนี้ข้าก็มาเพื่อที่จะบอกต่อพวกเจ้า คนผู้นั้นที่มาถึงยังเกาะสุดขั่วเยือกเย็น เจ้าจงพยายามขัดขวางด้วยทุกวิธี ทำลายสายสัมพันธ์ทางจิตใจ หรือจะให้ข้าเป็นคนลงมือช่วยเจ้าเอง!”

ซูเหยียนร่างสั่นสะท้าน หันไปมองหรานอวิ่นถิ่งด้วยสายตาหวาดหวั่นอย่างสุดแสน ดวงตาคู่งามพลันปรากฏเค้าความวิงวอน พึมพำกล่าวออกมาว่า: “ท่านอาจารย์……”

mynovel.co หรือ www.thai-novel.com เท่านั้นที่มีตอนใหม่ๆครับ

ทำลายสายสัมพันธ์ของตัวเอง ก็เหมือนกับการให้นางตัดขาดสิ้นจากหยางไค นับแต่นี้เป็นต้นไปก็จะเป็นได้แค่เพียงคนแปลกหน้าเท่านั้น

หากให้อาจารย์ช่วยเหลือ ผลสุดท้ายก็คงจะมีแต่——หยางไคถูกฆ่าเท่านั้น!

ไม่ว่าจะเป็นทางเลือกใดก็มิใช่สิ่งที่ซูเหยียนจะสามารถแบกรับไว้ได้ นั่นยังยากลำบากเสียยิ่งกว่าให้นางไปตายเสียอีก

“นอกเสียจากที่แห่งนี้ ก็ไม่มีทางเลือกที่สามอีกแล้ว!ข้าจะให้เวลาเจ้าใคร่ครวญสักหลายวัน เจ้าเองก็ค่อยให้คำตอบแก่ข้าอีกคราเถอะ!”

ดวงตาคู่งามของซูเหยียนพลันมืดมิดสนิทลง ราวกับถูกเมฆดำเข้าบดบัง จนไม่อาจที่จะมองเห็นแสงที่อยู่เบื้องหน้าได้ นางเองก็ทำได้แต่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

รอจนกระทั่งได้สติกลับคืนมา หรานอวิ่นถิ่งก็ได้จากไปแล้ว ชิงหย่าก็ไม่ได้อยู่แล้ว จะมีก็แต่เพียงศิษย์พี่น้องร่วมสำนักสองนางที่อยู่ทางด้านหน้าประตู ที่กำลังหันไปมองหัวเราะเยาะนางอย่างมีความสุขบนความทุกข์ระทมของนาง

รอยยิ้มนั้นได้ทำให้นางรู้สึกบาดตาได้ถึงเพียงนี้เชียว!

สามสิบกว่าปีมานี้ นับเป็นครั้งแรกนับที่บังเกิดความคิดที่จะทำลายโซ่ตรวนที่พันธนาการตัวเอง จนเกิดเป็นความคิดที่จะหลบหนีออกไปจากสถานที่แห่งนี้

ไม่อาจที่จะไม่ยอมรับว่า หรานอวิ่นถิ่งถือว่าดีต่อซูเหยียนเป็นอย่างยิ่ง นับตั้งแต่ที่นางได้พาตนเองมาถึงหุบเขาหฤทัยเยือกเย็น ก็คอยอบรมสั่งสอนทุกอย่างด้วยความเต็มใจ แม้กระทั่งทรัพยากรในหุบเขาที่ดีที่สุดก็ยังสามารถมอบให้จนนางพอใจได้ ก็เพียงเพื่อที่จะสร้างให้ซูเหยียนสามารถมีการบ่มเพาะพลังขอบเขตที่ดีมากขึ้น

กระนั้น ในเวลาเดียวกับการที่ให้การอบรมสั่งสอนโดยที่ไม่ปกปิดอะไรเลยแม้แต่น้อย หรานอวิ่นถิ่งก็ได้ผูกโซ่ตรวนไว้กับซูเหยียนเอาไว้

นางเองได้บังเกิดความคาดหวังต่อซูเหยียนเป็นอย่างยิ่ง นางเองก็ได้มอบภาระหนักเกินไปแก่ซูเหยียน จนบอกได้ว่า นางได้เอาความหวังของตัวเองทั้งหมดทั้งมวลมอบให้แก่ซูเหยียนได้สานต่อ

อนาคตของหุบเขาหฤทัยเยือกเย็น ความเร้นลับของขอบเขตกำเนิดราชัน ซูเหยียนก็หาได้เคยได้ยินได้ฟังจากหรานอวิ่นถิ่งที่ถกถึงเรื่องเหล่านี้เพียงแค่ครั้งเดียวไม่

ก่อนหน้านี้นางยังไม่คิดได้เก็บมาใส่ใจอะไร แต่ท่านอาจารย์มีคำกำชับว่า หากนางทำตาม ถึงแม้จะไม่ได้มีหรานอวิ่นถิ่งอีกแล้วก็ตาม นางและชิงหย่าเชียนเฮ่าทั้งสามไม่แน่ว่าอาจจะยังอยู่กับการช่วงชิงบนดาวชุยเว่ย มีอย่างที่ไหนที่จะสามารถมีชีวิตได้อย่างไร้ซึ่งความกังวลเช่นนี้ได้

แต่ว่าบัดนี้ ซูเหยียนกลับรู้สึกถึงความเหนื่อยล้าแล้ว

การปรากฏตัวและการมาถึงของหยางไค ได้ทำให้นางยังคงมีคู่รักที่พึ่งพาได้ นางกลับไม่คิดที่จะไปสืบทอดเจตนารมณ์อนาคตของหุบเขาหฤทัยเยือกเย็น นางเพียงต้องการที่จะอยู่ร่วมกับหยางไค เคียงคู่เดินทางอยู่ในใต้หล้า ท่องขุนเขาลำเนาไพร

นางยังหาได้เคยความทะเยอทะยานและความปรารถนาเช่นนั้นไม่ นางเพียงแค่ต้องการความเรียบง่าย

นอกประตู ศิษย์พี่ศิษย์น้องสองคนนั้นยังคงลอบนินทาอย่างไม่ซ่อนเร้นกันอยู่ เจ้าเอ่ยข้ากล่าวคนละประโยค ราวกับอยู่ในอารมณ์ที่ไม่เลวเลยทีเดียว

ซูเหยียนก็ได้ค่อยๆ ที่จะรู้สึกหนาวเหน็บขึ้นภายในจิตใจ นางกลับหาได้มีอะไรจะกล่าว เพียงแต่นั่งไขว่ห้างโดยที่ไม่ปริปากกล่าวแม้สักคำ สะบัดมือปิดบานประตูเรือนน้ำแข็งลง

……

บริเวณหอสูงนอกเกาะ หยางไคได้ตามหาศิษย์สตรีหุบเขาหฤทัยเยือกเย็นที่คอยดูแลตัวเอง

หญิงสาวผู้นี้นับได้ว่าเป็นศิษย์จากเกาะชั้นนอกเช่นเดียวกัน มีการบ่มเพาะอยู่แต่เพียงราชันเซียนขั้นที่หนึ่งเท่านั้น ดูไปแล้วยังอยู่แค่วัยยี่สิบสี่ห้าปี มีรูปลักษณ์ที่ถึงแม้จะไม่ได้งดงามอะไรมากนัก แต่ก็ยังนับว่างดงามอยู่พอควร แผ่ซ่านบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกสบายออกมา

ศิษย์ของเกาะสุดขั่วเยือกเย็น ต่างก็บ่มเพาะเคล็ดวิชาสายน้ำแข็ง ดังนั้นบนร่างของนางก็ยังคงมีกลิ่นอายความเย็นอย่างจางๆ อยู่ขุมหนึ่ง

“แม่นาง เจ้ารู้สึกกับชิงหย่าด้วยงั้นหรือ?” หยางไคเหม่อมองไปที่นางและเอ่ยถาม

“ศิษย์พี่ชิงหย่างั้นหรือ? ข้ากลับรู้จักดี!” นางพยักหน้าและตอบกลับ จากนั้นก็ยิ้มน้อยๆ แล้วกล่าว : “พวกเราอยู่ในที่พำนักไม่ไกลกันนัก ดังนั้นมักจะพบปะกันอยู่เป็นประจำ ศิษย์พี่ท่านนี้ก็รู้จักกับศิษย์พี่ชิงหย่าด้วยงั้นหรือ?”

“อือ เจ้าสามารถพาข้าไปพบนางได้หรือไม่?”

“ท่านจะไปพบกับศิษย์พี่ชิงหย่างั้นหรือ?” หญิงสาวตะลึง ขมวดคิ้วชนกัน ทอสีหน้าลังเลอยู่บ้าง : “เกรงว่าเรื่องนี้คงจะทำมิได้”

“เพราะอะไร?”

“ท่านผู้อาวุโสได้กำชับเอาไว้แล้ว บอกว่าศิษย์พี่ท่านทำได้แต่เพียงพักผ่อนอยู่ในที่แห่งนี้ หากไม่มีคำสั่งของผู้อาวุโส ก็ไม่สามารถไปไหนตามแต่ต้องการได้ ศิษย์พี่ท่านเองก็น่าจะทราบ ศิษย์ของหุบเขาหฤทัยเยือกเย็นพวกเราล้วนแต่เป็นศิษย์สตรี ตามประวัติศาสตร์หาได้เคยมีบุรุษเพศเข้าย่างกรายเข้าไปมาก่อนไม่ หากท่านเดินไปไหนต่อไหนอาจจะทำให้พบเห็นสิ่งที่มิควรเห็นเอาได้……”

กล่าวไปกล่าวมา หญิงสาวนางนี้ก็พลันใบหน้าแดงก่ำขึ้นมา

“เป็นเช่นนี้……เช่นนั้นก็ช่างเถอะ” หยางไคยิ้มแย้มออกมา แต่กลับหาได้มีความตั้งใจที่มุ่งมั่นไม่ จากนั้นก็ได้สนทนากับหญิงสาวนางนี้อีกหลายประโยค นี่จึงค่อยได้หันกายกลับไปยังภายในหอพัก

เมื่อพบว่าหยางไคไม่ได้แข็งขืนทำให้ผู้คนลำบากใจ ศิษย์สตรีผู้นั้นก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผ่อนคลาย ในใจกลับรู้สึกว่าคนผู้นี้คุยง่ายเลยทีเดียว

เมื่อได้กลับมายังภายในหอพัก หยางไคที่ทอสีหน้านิ่งเฉย ดูไม่ออกว่ายินดีเดือดดาล แต่ภายในใจก็บังเกิดความอึดอัดขึ้นมาบ้างแล้ว

ตนเองใช่กำลังถูกกักบริเวณอยู่อย่างงั้นหรือ?

อีกทั้ง นับตั้งแต่ที่จ้าวหุบเขาปิงหลงและผู้อาวุโสสูงสุดหรานอวิ่นถิ่งแห่งหุบเขาหฤทัยเยือกเย็นได้มาเยี่ยมเยียน ก็ล่วงเลยมาสามวันได้แล้ว ในสามวันมานี้ กลับหาได้เคยมีคนมาสนใจตนเองไม่ อีกทั้งแม้แต่ชิงหย่าก็ยังไม่ได้เผยโฉมออกมา

นี่ได้ทำให้หยางไคเกิดความสงสัยอยู่บ้าง

คนอื่นหากไม่มาหาก็ยังแล้วไป เหตุใดชิงหย่าถึงไม่อาจมาได้กัน? นางที่ทราบถึงเหตุผลที่ตนเองเดินทางมาเยือนหุบเขาหฤทัยเยือกเย็นในครั้งนี้ แต่จนถึงบัดนี้กลับยังถูกกักตัวไว้อยู่ภายในหอนอกเกาะ ไม่อาจจากไปได้แม้เพียงครึ่งก้าว ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงว่าจะหันไปมองซูเหยียนกันแล้ว

ในสามวันมานี้ ซูเหยียนเองก็หาได้ทำการเชื่อมโยงติดต่อผ่านจิตวิญญาณกับตนเองไม่

หยางไคยิ่งคิดยิ่งรู้สึกไม่ดี จึงทำได้แต่เพียงปล่อยความคิดไปอย่างเงียบๆ ตรวจพบว่าศิษย์สตรีผู้นั้นยังคงเฝ้าดูแลอยู่ที่นอกหอที่พัก

พลังมิติได้ปรากฏข้างกายหยางไคโดยที่สั่นไหวไม่ยอมหยุด ชั่วขณะต่อมา หยางไคก็ได้หายลับไปจากจุดเดิมดุจดั่งภูตพราย

หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น หากคิดที่จะลอบหลบหนีออกไปเกรงว่าคงจะไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นนี้แล้ว แต่หากเป็นหยางไคที่บ่มเพาะพลังมิติมากลับเป็นเรื่องที่ง่ายดายเป็นอย่างยิ่ง

ในขณะที่ศิษย์สตรีผู้นั้นไม่ทันสังเกต เขาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นในจุดที่ลับตาคนห่างไกลไปกว่าสามลี้ได้แล้ว

เงยหน้าขึ้นไปบนยอดเขาน้ำแข็งที่ห่างออกไปสิบกว่าลี้ ร่างหยางไคสั่นวูบ พร้อมกับพุ่งเข้าไปใกล้ยังที่แห่งนั้น

เมื่อครู่ในเวลาที่สนทนากัน หยางไคก็ได้สอบถามที่ตั้งของหมู่ถ้ำที่พำนักของสตรีผู้นั้นได้โดยที่นางไม่ทันรู้ตัว จนพอที่จะสามารถระบุที่ตั้งได้อยู่พอสมควร

ในเมื่อนางบอกว่าที่พำนักของนางอยู่ไม่หากไปจากชิงหย่า เช่นนั้นที่พำนักของชิงหย่าก็สมควรที่จะอยู่บนยอดเขาจึงแห่งนั้นจึงจะถูก

เพียงแต่ไม่ทราบว่าอยู่ในที่แห่งใด

แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเกินความสามารถอยู่ดี หยางไคก็ได้มาถึงตีนยอดเขาแล้ว ทางหนึ่งซ่อนเร้นเก็บงำพลังสภาวะของตัวเองทางหนึ่งก็ได้เงยหน้ามองไปยังทางด้านบน

บนยอดเขาน้ำแข็งนี้ได้มีการขุดเจาะจนเกิดเป็นถ้ำที่พักอาศัยกันอยู่หลายร้อยแห่ง ดูไปแล้วต่างก็มีคนพักอาศัยกันแล้ว หยางไคเองก็ลอบรู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่บ้าง

เมื่อได้ปลดปล่อยจิตสำนึกเข้าตรวจสอบ ที่ด้านนอกของถ้ำที่พำนักที่แห่งล้วนแต่มีการระวังป้องกันเอาไว้ ถึงแม้หยางไคจะมีจิตสำนึกที่แข็งแกร่ง จนสามารถที่จะทลายการป้องกันถ้ำพำนักของศิษย์นอกเกาะได้โดยที่ไม่มีปัญหา แต่หากทำเช่นนี้ขึ้นมาจริง ก็มีแต่จะชักนำความยุ่งยากเข้ามาได้

เขาทำได้แต่เพียงตรวจสอบพลางขมวดคิ้วขึ้น เฝ้ารอคอยอยู่อย่างเงียบเชียบ

ในช่วงเวลาที่ยังหาเบาะแสอะไรไม่ได้ ทันใดนั้นก็ได้มีศิษย์หุบเขาหฤทัยเยือกเย็นกลุ่มหนึ่งประมาณสี่ห้าคนเดินมาจนถึงใต้ยอดเขาน้ำแข็งแล้ว

ทั้งหลายคนนั้นได้มีผู้นำอยู่คนหนึ่ง ซึ่งมีขอบเขตหวนคืนขั้นที่หนึ่ง ส่วนคนอื่นล้วนแต่มีการบ่มเพาะในระดับขอบเขตราชันเซียนกันเท่านั้น

ถึงแม้การบ่มเพาะจะไม่ถือว่าสูงเป็นอย่างมาก แต่หยางไคก็รู้สึกว่าสตรีหลายนางนี้ทุกคนล้วนแต่มีสภาวะโหดเหี้ยมและไม่โหดเหี้ยมกันประปราย สิ่งนี้ได้ทำให้เขาพบเห็นจนต้องขมวดคิ้วขึ้นมา

.

.

.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด