ตอนที่แล้ว[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 144 ร้านค้าเล็กกับหลายแง่มุมของชีวิต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 บทที่ 146 ผู้อำนวยการเหวินนักบริหารตัวยง

[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 145 เงาย้อนแสงด้านหลังหนุ่มน้อย


ตอนที่ 145 เงาย้อนแสงด้านหลังหนุ่มน้อย

ความโกรธของเซียงเซียงนั้นไม่สมเหตุผล เมื่อเฒ่าจางทุบตีแม่ของเธออีกครั้ง เธอก็ลืมผลที่ตามมาทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้น เพราะแค่อยากจะทุบตีเจ้าคนน่ารังเกียจให้ตายด้วยขวดในมือเท่านั้น

แต่ไม่ว่าเฒ่าจางจะแย่แค่ไหน เขาก็ยังเป็นผู้ใหญ่ และเขากินและดื่มข้างนอกตลอดทั้งปี เล่นของมีคมกับคนอื่น ดังนั้นเขาจึงมีประสบการณ์ในการต่อสู้บนท้องถนนเต็มรูปแบบ เมื่อเขาเห็นเซียงเซียงวิ่งเข้าแทง เขาก็ถอยกลับไปสองก้าวทันที แล้วเหวี่ยงขาเตะ

“พัวะ!”

เซียงเซียงเสียท่าล้มลงไปกองกับพื้น ในขณะที่เสี้ยวขวดแก้วบาดขาขวาเฒ่าจางเลือดไหลออกมา

“ยัยหนู!” พี่ฮัวร้องออกมาและพยายามดิ้นรนให้หลุดออกจากเฒ่าจาง และก้มลงเพื่อดึงเซียงเซียง

“อีเด็กเวร! กล้าดียังไงถึงแทงข้า แกรู้ไหมว่าข้าเป็นใคร ข้าเป็นพ่อที่ดุร้ายของแกไงล่ะ!” เฒ่าจางโมโหมากจนยกขาขึ้นจะกระทืบใส่เด็กหญิง “นังลูกหมาป่า ข้าจะกระทืบแกให้เละ แกจะได้ขายไม่ออกเมื่อโตขึ้น!”

“โครม!”

พี่ฮัวเอาตัวเองรับลูกเตะแทนลูกสาวเธอพร้อมสาปแช่งด้วยแววตาแห่งความโกรธเกรี้ยว “แกมันสัตว์ร้าย ทุบตีเด็กได้ลงคอ”

“เอาเงินมาให้ข้า!” เฒ่าจางทรุดนั่งบนพี่ฮัวแล้วต่อยเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า “แกจะจ่ายข้าไหม?!”

“ฉันไม่มีเงิน แกไปค้นเอาเองก็ได้ เจอเท่าไหร่ก็เอาไปเลย” พี่ฮัวยอมแพ้แล้วกอดลูกสาวพลางร้องห้าม “อย่าตีเธอ หยุดตีเธอซะ”

เหล่าจางอ้าปากสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่และคว้าตัวพี่ฮัวขึ้นมาจ้องเขม็งอย่างเงียบงันไปสักครู่ เขาก็พูดว่า “แกไม่มีเงินเลยละสิ? งั้นข้าจะหาใครสักคนปล่อยให้ยัยเด็กนี่ออกไปข้างนอกกับเขาหนึ่งคืน แกสามารถแลกมันได้อย่างน้อยสามพัน แกให้ฉันสองพันแล้วเราจบเรื่องทุกอย่างกัน”

“ไม่มีทาง!”

“ทำไมแกแกล้งโง่ล่ะ หา? เมื่อมันโตขึ้นมันจะทำอะไรได้นอกจากทำอย่างที่แกทำ? ข้าจะหาคนที่ยอมจ่ายแพงเพื่อมัน เฒ่าจางบีบคอพี่ฮัว”แกอย่าบังคับข้า ได้ยินไหม?”

“แกฝันไปเถอะ! ข้ามศพฉันไปก่อน” พี่ฮัวปกป้องเซียงเซียง “ไม่มีใครแตะต้องยัยหนูของฉันได้!”

“ทำไมแกถึงโง่ขนาดนี้!” เฒ่าจางเกาคออย่างไม่สบอารมณ์แล้วดึงพี่ฮัวด้วยมือขวา “ข้าจะบอกแกอีกครั้ง…”

“ปล่อยพวกเขา”

ในขณะนี้ฟันเหยินร่างผอมเดินออกจากห้องด้านหลัง และตะโกนมาที่เฒ่าจางอย่างนิ่งเฉย

เฒ่าจางหันกลับมาเมื่อเขาได้ยินเสียง “แกว่าไงนะ?”

“ฉันบอกให้คุณปล่อยพวกเขา”

แม้ว่าฟันเหยินจะเตี้ยกว่าผู้ใหญ่ แต่เขาก็ยังยืนอยู่ ในขณะที่เฒ่าจางคุกเข่าอยู่ ดังนั้นเขาจึงมองลงไปและพูด

“ไอ้เหี้ยเอ้ย!” เฒ่าจางผลักฟันเหยินออกไปแล้วหันไปตะคอกใส่พี่ฮัว “ข้าบอกแล้วไงว่า…”

ทันทีที่บรรยากาศของความเย็นชาปรากฏขึ้นในห้อง ฟันเหยินถือมีดทำครัวที่มีสันหนาอยู่ในมือขวา เขายกขึ้นแล้วสับมันลงโดยไม่กะพริบตา

“ฉับ!”

เฒ่าจางไม่ทันระวัง มีดทำครัวฟันเข้าที่แก้มอย่างแรง เขาปิดหน้าทันทีพร้อมแหกปากร้องตะโกน “อ๊ากก! ไอ้สัตว์ แกสับหน้าฉัน!”

“ฉับ!”

ฟันเหยินโจมตีอย่างโหดเหี้ยมเลือดเย็นมาก มีดฟันลงไปอีกทีที่ข้อมือของเฒ่าจางอย่างแรง

“โอ้ย! ไอ้สารเลว! ไอ้สารเลว! ไอ้เด็กใจเหี้ยม!” เฒ่าจางแหกปากร้องพร้อมกระโดดหลบขึ้นจากพื้นอย่างร้อนรน แล้วพุ่งก้าวไปข้างหน้าและคว้าข้อมือที่ถือมีดของฟันเหยิน

ฟันเหยินจ้องตาไปที่คู่ต่อสู้ แล้วถอยหลังสามก้าวอย่างรวดเร็ว เงื้อมีดขึ้นอย่างเร็วและตวัดแขนของเขาไปที่ท้องของเฒ่าจางอีกครั้ง

“ฉับ!”

มีดทำครัวสะบัดผ่านเสื้อที่ปกคลุมท้องของเหล่าจางก็ฉีกขาด และเนื้อบนท้องฉีกเป็นทาง เลือดสาดกระเซ็นออกมา

ฟันเหยินก้าวไปด้านซ้ายของเฒ่าจางอย่างว่องไว ยกแขนขึ้นแล้วโจมตีอย่างแรงอีกรอบ

“ฉับ!”

“ฉับ!”

“...!”

ในเวลาเพียงสองสามวินาที เฒ่าจางถูกฟันอย่างน้อยสี่ห้าครั้งที่แขนซ้าย ซี่โครง และแก้ม แต่เขาก็ยังก้าวไปข้างหน้าอย่างไร้ความกลัวเกรง ฟันเหยินถอยไปสองสามก้าวทันที ยกมีดขึ้น จ้องมองที่ดวงตาของเขาแล้วตะโกน “เข้ามา เข้ามาเลย ไอ้สารเลว!”

เฒ่าจางกัดฟันและไม่กล้าบุกสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะเขาไม่มีความกล้าขนาดนั้น ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายเป็นเด็กหนุ่มที่เจ้าเล่ห์มาก

เมื่อฟันเหยินเห็นความลังเลของเฒ่าจาง เขาก็ยกมีดขึ้นแล้วโจมตีอีกครั้ง

เฒ่าจางพยายามคว้ามีดสองครั้งแต่ล้มเหลว หลังจากที่เขาถูกฟันที่แขนหลายครั้ง ในที่สุดเขาก็ทำได้เพียงหันหลังกลับวิ่งหนีออกไป

ฟันเหยินวิ่งไล่ตามเขาไป และฟันเข้าที่หลังของเขาสามสี่ครั้ง

“โครม!”

เฒ่าจางผู้เมาโซเซเลือดโทรมกาย เปิดประตูร้านมือกุมหัวรีบเดินลงบันไดแล้ววิ่งหนีไป

ฟันเหยินไล่เขาออกจากร้านพลางเหนื่อยหอบ เขาชูคอตะโกนไล่หลัง “ไอ้คนระยำ ถ้าแกกล้ากลับมาอีก ฉันจะฆ่าแก”

เฒ่าจางหันกลับมาและสาปแช่งด้วยความโกรธ “ไอ้เด็กเหี้ย อย่าเพิ่งไปไหนล่ะ รออยู่นั่นล่ะ!”

“แกจะทำยังไงถ้าไม่ถอยไป แกเป็นมังกรหรือนกฟีนิกซ์กันแน่?” แม้ว่าฟันเหยินยังเด็ก แต่เขาก็ดูถูกอีกฝ่ายโดยสิ้นเชิงและตะโกนไล่หลังไปอีก “ฉันจะรอแกอยู่ที่นี่ ดูซิว่าแกจะทำอะไรได้!”

หลังจากพูดจบ ฟันเหยินก็หันเดินกลับเข้าไปในร้าน ดูเลือดบนพื้นแล้วพูดว่า “คุณป้า เซียงเซียง คุณสองคนโอเคไหม?”

เซียงเซียงล้มลงกับพื้น นึกถึงช่วงเวลาที่เด็กชายหยิบมีดออกมาเมื่อครู่นี้ ดวงตาของเธอเห็นเงาย้อนแสงของร่างผอมเพรียวของเขาอีกครั้ง และเกิดรอยประทับในใจของเธอโดยไม่รู้ตัว

“มันหนีไปแล้วเหรอ?” สติสัมปชัญญะพี่ฮัวกลับมาแล้วรีบลุกขึ้นยืนถามทันที

“หนีไปแล้ว” ฟันเหยินพยักหน้า

“ปิดประตู! ปิดก่อน อีกเดี๋ยวมันจะกลับมาอีกแน่” พี่ฮัวรีบบอกทุกคน

ฟันเหยินไล่ฟันเฒ่าจางและแสดงความกร่างในช่วงที่เขาได้เปรียบที่สุดในการต่อสู้ “มันเป็นแค่คนเลวคนหนึ่ง ฉันจะทำอะไรถ้ามันกลับมา? ฉันจะฆ่ามัน กลัวมันทำไม?”

เมื่อพี่ฮัวเห็นฟันเหยินขับไล่เฒ่าจางออกไป เธอรู้สึกว่าเด็กคนนี้ดูน่าเชื่อถือมากกว่าผู้ใหญ่ที่ขี่หลังเสืออยู่เสียอีก แต่บัดนี้หลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูด ในใจพี่ฮัวก็เข้าใจว่า เด็กก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ

“ฟังฉัน ปิดประตูก่อน แล้วไปซ่อนที่บ้านเสี่ยวเสีย” พี่ฮัวสั่งอย่างจริงจัง

พี่สาวใหญ่ในบ้านกลัวจริงๆ ว่าเฒ่าจางจะพาพวกมาแก้แค้น ดังนั้นพวกเขาจึงเก็บกวาดร้านอย่างลวกๆ แล้วหยิบเสื้อคลุม ล็อกประตู แล้ววิ่งหนีไปพร้อมกับเด็กสองคนอย่างรวดเร็ว

แต่สิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็คือ เฒ่าจางซึ่งมีนิสัยสกปรกมาก ไม่ได้ต้องการแก้แค้นโดยพวกอันธพาลแต่กลับแจ้งตำรวจแทน

ในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง กำลังตำรวจหลายนายจากกองกำกับการเฮ่ยเจียก็มาถึง รีบเข้าไปในบ้านของเสี่ยวเสีย ชี้ไปที่ฟันเหยินแล้วถามว่า “นี่คือคนที่ฟันคุณหรือเปล่า?”

ฟันเหยินกะพริบตา เอียงคอแล้วตอบว่า “ฉันป้องกันตัว”

“มา ไปด้วยกันก่อน” เจ้าหน้าที่ตำรวจคว้าคอเสื้อของฟันเหยินดึงเขาลุกขึ้นแล้วพูดกับทุกคน “เก็บของแล้วไปกองกำกับการ!”

……

ภายในบริเวณบ้านเช่าหมายเลข 88

ฉินหยู่หัวเราะและหยอกหลินเนี่ยนเหล่ย “น้องสาว เธออ้วนท้วนขึ้นนี่นา”

“อย่าหยาบคายสิ” หลินเนี่ยนเหล่ย หดตัวคอขาวของเธอด้วยความหนาวเย็นและกระทืบเท้า “แม่จ๋า ผนังบ้านมีรูโหว่...ฉันนอนหลับใหลทั้งคืนตื่นมาเช้าวันใหม่ ขนตาฉันถูกปกคลุมไปด้วยน้ำค้างแข็งและเกือบจะกลายเป็นไอติม…”

“บ้านหลังนี้ของคุณยังขาดผู้ชาย” ฉินหยู่ตอบเปรยๆ อย่างมีนัย

หลินเนี่ยนเหล่ยหันมาชำเลืองมองที่ฉินหยู่ “บอกฉันสิ คุณซื้อผ้าพันคอให้ใคร?”

ฉินหยู่อึ้งไป แต่แล้ว โทรศัพท์ในกระเป๋าของเขาก็ดังขึ้น

“รอเดี๋ยว” ฉินหยู่โบกมือขณะรับโทรศัพท์ “หวัดดี ไวอากร้า เป็นไงบ้าง?”

“ลูกชายของนายถูกจับ” จูเหว่ยกล่าวอย่างรวบรัด

“เขาเล่นพิเรนทร์เหรอ?” ฉินหยู่อึ้งไปชั่วครู่

……………………………………………………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด