269 - พันธมิตร?
269 - พันธมิตร?
เอี้ยนลี่เฉียงไม่คิดว่าจู่ๆจะต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบากเช่นนี้ เมื่อเขาพบเป้าหมายที่เขากำลังมองหาแต่กลับเป็นไปได้ยากที่จะลงมือสังหาร
เขากัดฟันแน่นในพุ่มไม้ขณะเฝ้าดูโกลดี้ซึ่งติดอยู่ในกรงและชายชราชาตูที่แปลกประหลาด เขารีบวิเคราะห์สถานการณ์ต่อหน้าและพยายามตัดสินใจว่าเขาควรจะโจมตีหรือไม่
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเขาต้องหาวิธีเอาตัวรอดให้ได้หลังจากที่เขาสังหารชายชราคนนั้นไปแล้ว
เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงลังเล จู่ๆก็เกิดสิ่งผิดปกติขึ้นใกล้ๆ...
เสียงครวญครางดังกึกก้องในอากาศ ทันใดนั้นลูกศรสองลูกก็พุ่งออกมาจากพุ่มไม้ตรงไปยังใบหน้าของชายชาตูผู้เฒ่าจากระยะสองร้อยวา
เมื่อลูกธนูทั้งสองกำลังจะเจาะรูที่ศีรษะของชายชาตูผู้เฒ่า...
ปัง!
จู่ๆ ก็มีเปลวเพลิงประหลาดปรากฏขึ้นรอบๆชายชราชาตู ปกป้องเขาราวกับเปลือกไข่ ทันทีที่ลูกศรทั้งสองชนกับเปลวเพลิง พวกมันก็ติดไฟทันทีและถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน...
เอี้ยนลี่เฉียงตะลึงกับลูกธนูที่จู่ๆก็พุ่งออกมาจากพุ่มไม้ไกลๆ และเปลวไฟลึกลับก็ปรากฏขึ้นรอบๆชายชราชาตู
ด้วยการฝึกฝนของเอี้ยนลี่เฉียงที่อยู่ในระดับสวรรค์ชั้นสามในศิลปะการยิงธนู เอี้ยนลี่เฉียงสามารถบอกได้เพียงแค่ฟังด้วยหูของเขาว่าลูกศรหนึ่งถูกยิงออกมาจากคันธนูทรงพลังห้าต้าน
ในขณะที่อีกอันหนึ่งถูกยิงจากธนูสามต้าน อย่างไรก็ตามลูกศรมฤตยูทั้งสองนี้ถูกไฟขวางไว้รอบๆชายชราเมื่อพวกมันกำลังจะไปถึงตัวเขา
ทุกอย่างดูมีเวทมนตร์และความลึกลับเกินไปในสายตาของเอี้ยนลี่เฉียง เขาไม่คิดว่าจะมีใครสามารถปิดกั้นลูกธนูด้วยวิธีนี้มาก่อน
เปลวเพลิงปกป้องชายชราชาตูราวกับโล่เรืองแสง มันห่อหุ้มชายชราอย่างสมบูรณ์ เปลวไฟที่ริบหรี่ทำให้เกิดแสงสีแดงบนหญ้าแห้งที่อยู่รอบตัวเขา
เอี้ยนลี่เฉียงซึ่งซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆตกใจอย่างสุดจะพรรณนา หากนี่คือการฝึกฝนของชายชราชาตูแสดงว่าเขาน่ากลัวมาก
ก่อนที่เอี้ยนลี่เฉียงจะฟื้นจากอาการตกใจ กลุ่มทหารชาตูที่อยู่รอบๆชายชราก็ดึงอาวุธของพวกเขาและกระโจนเข้าใส่พุ่มไม้ที่ลูกศรเหล่านั้นบินออกมาด้วยความบ้าคลั่ง
นักรบชาตูที่มีรูปร่างสูงใหญ่สวมชุดสีแดงเข้มเป็นผู้นำในการบุกทะลวงเข้าไป เขาวิ่งเหมือนม้าป่าหลังจากเดินออกไปได้ประมาณสิบวา เขาดึงดาบยาวที่ห้อยอยู่ที่เอวแล้วทะยานเข้าสู่พุ่มไม้.
แรงสั่นสะเทือนเบาๆของสายธนูดังขึ้นอีกครั้งในอากาศ
มันฟังดูเหมือนมาจากคันธนูห้าต้านที่ทรงพลัง เอี้ยนลี่เฉียงตกตะลึงเล็กน้อย
หลังจากนั้นไม่นาน…
ลูกธนูคมก็พุ่งออกมาจากพุ่มไม้เข้าหาใบหน้าของนักรบชาตูคนนั้น
แต่นั่นก็ไม่ได้หยุดนักรบชาตูจากการรุกไล่ เมื่อลูกธนูใกล้จะถึงหน้าเขา เขาก็ใช้ปลอกแขนที่ทำมาจากเหล็กป้องกันลูกธนูพวกนั้น
แคร็ก…!
ลูกธนูถูกปัดออกไปด้านข้าง! ลูกธนูฉีกแขนเสื้อของนักรบชาตูเผยให้เห็นเกราะเหล็กแวววาวสองอันที่อยู่ใต้ท่อนแขนของเขา
ลูกธนูนั้นเพียงแค่กระแทกนักรบชาตูที่กำลังพุ่งไปข้างหน้าให้ถอยหลังหนึ่งก้าว หลังจากนั้นไม่นานนักรบชาตูยังคงพุ่งไปข้างหน้า
ขณะวิ่ง นักรบชาตูดึงบางสิ่งจากด้านหลังเขา มันเป็นเคียวคู่หนึ่งซึ่งดูเหมือนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวสองดวงปรากฏขึ้นในมือของเขา จากนั้นพวกมันก็บินออกจากมือของเขา กลายเป็นประกายเย็นเยือกสองอัน
ทันทีที่พุ่มไม้กระจัดกระจาย ร่างสองร่างก็กระโดดขึ้นจากตำแหน่งที่ลูกศรบินออกมาก่อนหน้านี้ พวกเขาหลบเลี่ยงแสงวาบเย็นเยียบ
เมื่อร่างหนึ่งกระโดดขึ้น เขาได้ชักธนูอยู่ในมือของเขาอีกครั้ง เมื่อเกิดการสั่นของสายธนู ลูกศรก็แทงทะลุคอของชายชาตูที่พุ่งเข้าหาเขา เลือดไหลลงมาสาดกระเซ็นบนทุ่งหญ้าแห้ง
...... ......
เอี้ยนลี่เฉียงซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ เขาตกตะลึงเมื่อเห็นคนสองคนโผล่ขึ้นมาในระยะไกล
ทั้งคู่ประกอบด้วยชายและหญิง ชายคนนั้นดูไม่คุ้นเคยกับเอี้ยนลี่เฉียง อย่างไรก็ตามเขาได้เห็นผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง
นางคือสาวใช้ที่ลอบลงมือทำร้ายเย่เทียนเฉิงในงานเลี้ยงของซุนปินเฉิน ฝีมือของนางไม่ธรรมดาเพราะนางสามารถลอบลงมือทำร้ายเทพสงครามคนหนึ่งให้ได้รับบาดเจ็บได้
ก่อนหน้านี้นางสวมชุดสาวใช้มีใบหน้างดงาม ดังนั้นเอี้ยนลี่เฉียงจึงรู้สึกประทับใจในตัวของนางเป็นอย่างมาก ปัจจุบันนางแต่งกายด้วยเสื้อผ้าของผู้พเนจร ความงามของนางยิ่งน่าประทับใจมากกว่าเดิม
เอี้ยนลี่เฉียงถึงกับถามเหลียงอี้เจี๋ยเกี่ยวกับตัวตนของผู้หญิงคนนั้น และเขาก็บอกว่านางมาจากนิกายปราชญ์
เห็นได้ชัดว่านางได้รับคำสั่งให้มาที่แคว้นกานเพื่อช่วยซุนปิงเฉินโค่นเย่เทียนเฉิงลงจากตำแหน่ง
อย่างไรก็ตามเอี้ยนลี่เฉียงไม่พบผู้หญิงคนนั้นอีกหลังจากเหตุการณ์นั้น วันนี้เขาไม่คิดว่าจะได้เจอนางอีกครั้งที่นี่
จนถึงตอนนี้เอี้ยนลี่เฉียงยังไม่รู้จักชื่อของนางด้วยซ้ำ
“ศิษย์น้องคนที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่เจ้า เครื่องรางของชายชราคนนั้นสามารถใช้ได้ครั้งเดียวข้าจะไปเด็ดหัวเขามาเดี๋ยวนี้…!” ชายคนนั้นมีสีหน้าบูดบึ้ง เขาทะยานออกจากพุ่มไม้และบุกทะลวงเข้าหาชายชราชาวชาตู
นักรบชาตูอีกคนต้องการหยุดชายคนนั้น แต่หญิงสาวตะโกนเสียงดัง
นางเคลื่อนที่อย่างพริ้วไหว พร้อมกับโจมตีทหารชายชาตูทุกคนที่อยู่รอบๆบริเวณเพื่อถ่วงเวลาให้กับศิษย์พี่ของนางทำภารกิจให้สำเร็จ
ดาบแวววาวของหญิงสาวร่วงหล่นลงมาราวกับสายฟ้า ขณะที่นางโบยบินไปรอบๆอย่างสง่างามราวกับต้นหลิวในสายลม
นักรบชาตูก็พบว่าพวกเขาไม่อาจไล่ตามความเร็วของนางทัน แต่เขาก็ไม่แสดงอาการอ่อนแอเช่นกัน ด้วยเสียงคำราม เขาเริ่มกวัดแกว่งอาวุธที่ดูเหมือนเคียวพุ่งเข้าหาหญิงสาวราวกับพายุ
การต่อสู้ที่เข้มข้นก็เกิดขึ้นทันที
ในเวลาเพียงชั่วพริบตา เสียงของอาวุธที่ปะทะกันอย่างไม่ลดละก็ดังขึ้นจากจุดที่ทั้งสองกำลังต่อสู้กัน หญ้าแห้งที่อยู่รอบตัวพวกเขาถูกเฉือนด้วยอาวุธและกระจัดกระจายไปทุกทิศทุกทางราวกับลูกธนู …
ชายชาตูอีกคนหนึ่งในชุดสีเทาวิ่งออกมาจากข้างสนาม เขายกดาบในมือขึ้นและแทงเข้าใส่หญิงสาวจากทางด้านหลัง
เสียงอาวุธกระทบกันหยุดลง ร่างของหญิงสาวแกว่งไปทางซ้ายและขวาเหมือนต้นหลิวที่แกว่งไปมาในสายลม ดาบส่องแสงวาบไปทั่วและศีรษะที่ถูกตัดขาดของทหารองครักษ์ชาตูก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้า
การตายขององครักษ์ชาตูคนนั้นไม่ได้ข่มขู่องครักษ์คนอื่นๆ พวกเขามีสีหน้าโหดร้ายยังคงมุ่งมั่นโจมตีหญิงสาวอย่างไม่ลดละ
ในขณะเดียวกันอารมณ์ของพวกเขายิ่งทวีความโกรธแค้นมากขึ้นไปอีก
"ฆ่า…!"
ทหารคนอื่นๆล้วนชักอาวุธของตัวเองออกมาแล้วโจมตีใส่หญิงสาวอย่างไม่หยุดหย่อน
ท่ามกลางเสียงอาวุธปะทะกัน ศีรษะของชายชาตูอีกคนถูกตัดลงมา ร่างกายที่ไร้ศีรษะของเขานอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น
...
เอี้ยนลี่เฉียงอดไม่ได้ที่จะหลั่งเหงื่อเย็นๆไปทั่วแผ่นหลังเมื่อเห็นชายชาตูจำนวนมากวิ่งเข้าหาหญิงสาว
ในตอนแรกเขาคิดจะยิงธนูเพื่อช่วยเหลือนาง ทว่าไม่นานนักเขาก็พบว่าผู้หญิงคนนั้นมีทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม เขาหยุดกังวลเมื่อเห็นว่าแม้จะถูกล้อมอยู่แต่สถานการณ์ของนางยังคงได้เปรียบ
ในอีกด้านหนึ่งชายหนุ่มที่เป็นศิษย์พี่คนนั้นเคลื่อนไหวราวกับพายุ เขาบดขยี้ศัตรูทุกทิศทาง ในชั่วพริบตาเขาก็สังหารคนไปมากมายก่อนจะเผชิญหน้ากับชายชราคนนั้นตัวต่อตัว