ตอนที่แล้วEp.13
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.15

Ep.14


Ep.14

“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้มีคนพูดว่าซอมบี้บุก แต่พวกมันจะเข้ามาได้ยังไง?” สีหน้าของซูเฉินแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย เริ่มปั่นความคิดอย่างรวดเร็ว

เพราะตามหลักแล้ว กำแพงฐานของสถานชุมชนเทียนหนานทั้งสูงและหนา ซอมบี้ธรรมดาไม่มีวันบุกทะลวงเข้ามาได้อย่างแน่นอน … เป็นไปได้ไหมว่าพวกที่บุกเข้ามาเป็นซอมบี้ระดับสูง?

ซอมบี้ก็เหมือนมนุษย์ พวกมันมีลำดับชั้น ยิ่งเลเวลสูงเท่าไหร่ นอกจากจะทรงพลังแล้ว ก็ยิ่งมีสติปัญญา

หากสถานชุมชนเทียนหนานถูกตีแตกจริงๆ ซูเฉินคิดว่าซอมบี้ที่บุกเข้ามาคงเป็นพวกระดับสูง

“ซูเฉิน … ซูเฉินนายอยู่ไหม?” แต่ในขณะนั้นเอง หญิงสาวหน้าตาดี มองไกลๆก็ยังเด่นสะดุดตา จู่ๆก็ร้องเรียกเขา วิ่งเข้ามาด้วยความตื่นตระหนกลนลาน

“ตันหลิน ทำไมเธอถึงมาที่นี่” ดวงตาของซูเฉินเปล่งประกาย

ตันหลินคือหนึ่งในผู้หญิงที่สวยที่สุดในสถานชุมชนเทียนหนาน เธอมีคนรักคนหลงมากมาย แต่กลับไม่สนใจใครเลย ที่เธอโปรดปรานรักใคร่มีแค่ซูเฉิน

หลังจากสานสัมพันธ์กันอย่างค่อยเป็นค่อยไปตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เขากับตันหลินก็เข้ากันได้ดี ความรู้สึกที่ทั้งสองมีแน่นแฟ้นอบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ

ตันหลินได้กลายเป็นคนที่ซูเฉินห่วงใยมากที่สุดในโลกหายนะ

“ซูเฉิน แย่แล้วล่ะ สถานชุมชนล่มสลายแล้ว! มีซอมบี้อยู่ทั่วทุกแห่งเลย พวกเราต้องรีบหนี!” ตันหลินอธิบายรวบรัดหอบหายใจหนักหน่วง

“รีบไป!” ซูเฉินไม่มีเวลาเอ่ยถาม ผุดลุกขึ้นดึงตันหลินวิ่งออกไป

ช่วงเวลานี้ เสียงการต่อสู้ดุเดือดแล้วดังขึ้นเรื่อยๆแล้ว มีแนวโน้มเป็นไปได้สูงว่าจะดึงดูดซอมบี้มหาศาลเข้ามาในสถานชุมชน นั่นหมายความว่ายิ่งเขาล่าช้า อันตรายก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

แต่คาดไม่ถึงเลย ว่าระหว่างพวกเขากำลังวิ่งไปยังประตูลานบ้าน เขาและเธอกลับถูกใครบางคนขวางทางเอาไว้

“ซูเฉิน บอกที่อยู่ของลูกชายฉันมาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแก!”

คนที่มาจะเป็นใครไปได้อีก หากไม่ใช่เฉินไห่หยาง ตอนนี้เขาจ้องซูเฉินด้วยท่าทีดุร้าย กุมขวานยักษ์ไว้ในมือ

“รองผู้นำ ตอนนี้พวกซอมบี้กระจายตัวไปทุกแห่ง พวกเรารีบหนีก่อนเถอะ” ตันหลินกล่าวร้อนรน

เธอไม่รู้ว่าทำไมเฉินไห่หยางถึงมาเค้นถามซูเฉินเอาตอนนี้ ปัจจุบันสถานการณ์กำลังตกอยู่ในห้วงวิกฤติ เธอไม่มีเวลามาคิดวิเคราะห์ แค่อยากออกไปให้เร็วที่สุด

“ถ้าไม่อยากตาย ก็ไสหัวไปให้พ้น!” ใบหน้าของซูเฉินหม่นทะมึน เขาคร้านเกินกว่าจะอธิบายให้อีกฝ่ายฟัง

สถานชุมชนเทียนหนานล่มสลาย แต่เฉินไห่หยางในฐานะรองผู้นำกลับไม่ออกไปฆ่าซอมบี้ ดันมาสร้างปัญหาให้แก่เขา

ซูเฉินรู้สึกไม่สบอารมณ์เอามากๆ หากเฉินไห่หยางยืนกรานจะขวางทาง เขาก็ไม่รังเกียจที่จะสังหารอีกฝ่าย

“ก็สวยสิ! ฉันอยากจะรู้เหมือนกัน ว่าแกจะมีสักกี่ชีวิต!”

เฉินไห่หยางโกรธจัด ขวานยักษ์ในมือถูกง้างสูง ดวงตาสะท้อนถึงความโหดร้าย

ทันทีที่ประโยคนี้จบลง ขวานยักษ์ในมือเขาก็ฟันฉับไปยังซูเฉินแล้ว

“กรี๊ดดด!” ตันหลินกรีดร้อง ใบหน้าเธอซีดเผือดด้วยความตกใจกลัว

ซูเฉินตั้งท่าเตรียมรับมือเฉินไห่หยางมาตั้งแต่ต้น เขาขยับเท้าไปข้างหน้าเล็กน้อย มือข้างหนึ่งผลักตันหลินถอยออกไป

ได้ยินเพียงเสียงตึง!

ขวานยักษ์สับลงอย่างไร้ปราณี แต่มันกลับฟันโดนแค่อากาศเท่านั้น คมขวานกระแทกพื้นสร้างรอยแยกขนาดใหญ่เป็นทางยาว

“นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?” ดวงตาของเฉินไห่หยางกระตุก

ซูเฉินสามารถหลบการโจมตีในฉับพลันของเขาได้ นี่มันเกินความคาดหมายของเขานัก

“แส่หาที่ตาย!”

ดวงตาของซูเฉินสะท้อนประกายเย็นยะเยือก ยกมือขึ้นและปล่อยใบมีดสายลมออกไป

“นี่มันเวทมนต์ … ปรมาจารย์มนตรา..?”ตันหลินดวงตาเบิกกว้าง สีหน้าการแสดงออกของเธอดูงุนงงเล็กน้อย

เธอสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าใบมีดสายลมที่ซูเฉินปลดปล่อยออกมานั้นเป็นการโจมตีด้วยเวทมนต์ของปรมาจารย์มนตรา

แต่เธอกับซูเฉินอยู่ด้วยกันมาหนึ่งปีแล้ว กลับไม่เคยเห็นซูเฉินใช้เวทมนต์เลย ทั้งยังไม่เคยได้ยินเขาเปิดเผยตัวตนว่าเป็นปรมาจารย์มนตรา

“เวทมนต์!” เฉินไห่หยางก็ตกใจเช่นกัน รีบดึงขวานยักษ์ขึ้นมาบังหน้าอกเขา

บังเกิดเสียงดังปัง! ใบมีดสายลมเฉือนลงบนขวานยักษ์ คมกล้าของทั้งสองเสียดสีจนเกิดประกายไฟ เฉินไห่หยางถูกกระแทกถอยไปสองสามก้าว

แม้ว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่หัวใจอดตื่นตระหนกไม่ได้

ปรากฏว่าซูเฉินเป็นปรมาจารย์มนตรา เรื่องนี้เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน

ขณะเดียวกัน ซูเฉินฉวยจังหวะนี้พุ่งประชิดเฉินไห่หยาง เขาสามารถบุกมาถึงเบื้องหน้าศัตรู ฟาดฟันคมมีดออกไปในแนวนอน

“ได้ไงกัน!?” หัวใจของเฉินไห่หยางกระตุกวูบอีกครั้ง ความเร็วของซูเฉินว่องไวเกินไป มันไม่ด้อยไปกว่าตัวเขาเลย

เป็นไปได้ไหมว่าซูเฉินเองก็เป็นผู้วิวัฒนาการเช่นกัน?

ในใจของเฉินไห่หยางเต็มไปด้วยความสับสน แต่เขาไม่มีเวลาคิดวิเคราะห์มัน กระชับขวานยักษ์ขึ้นมาขวางทางคมมีด

เคร้ง!

มีดกับขวานปะทะกันอย่างหนักหน่วง บังเกิดเสียงดังสั่นไหว

เฉินไห่หยางรับรู้ได้ถึงพลังมหาศาลที่ไหลผ่านอาวุธ ทนไม่ไหวต้องถอยไปหลายก้าวติดต่อกัน ตั้งสติได้ร้องตะโกนว่า “ผู้วิวัฒนาการ … ที่แท้แกก็เป็นผู้วิวัฒนาการด้วย!”

เมื่อมนุษย์กลายเป็นผู้วิวัฒนาการ การเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นที่สุดคือความเร็วที่พุ่งสูงขึ้น พละกำลังเพิ่มพูนอย่างไม่น่าเชื่อ

และซูเฉินก็มีทั้งสองอย่างที่กล่าวมา เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้วิวัฒนาการ

“ผู้วิวัฒนาการ …” ตันหลินงึมงำ

ในเวลาเดียวกัน ซูเฉินก็ถูกแรงปะทะถอยมาสองก้าว หลังจากกลับมารักษาสมดุลได้ เขาก็เอื้อมมือออกไป

ลูกไฟขนาดเท่ากำปั้นปะทุขึ้น พุ่งเข้าหาเฉินไห่หยางก่อนเป็นอันดับแรก ตามมาติดๆด้วยเส้นแสงสีเขียวที่พุ่งเล็งไปยังข้อเท้าเขา

“ลูกไฟ …” สีหน้าของเฉินไห่หยางแปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

หากว่ากันตามปกติแล้ว ปรมาจารย์มนตรามักสามารถเรียนรู้วิธีการโจมตีด้วยเวทมนต์เพียงธาตุเดียวเท่านั้น มันหายากมากที่จะมีปรมาจารย์มนตราที่สามารถใช้ได้สองธาตุอย่างซูเฉิน

และเมื่อลองย้อนคิดไปว่า ซูเฉินยังเป็นผู้วิวัฒนาการเช่นกัน ความกลัวของเฉินไห่หยางยิ่งมายิ่งพุ่งถึงขีดสุด เขาขว้างขวานในมือ ตัดสินใจหันหลังหลบหนีไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด