ตอนที่แล้วเล่มที่ 1 : บทที่ 2 – คำเชิญจากนาฬิกาพก (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่มที่ 1 : บทที่ 4 – ทิวโทเรียล (2)

เล่มที่ 1 : บทที่ 3 – ทิวโทเรียล (1)


SLR : บทที่ 3  - ทิวโทเรียล (1)

หากคุณต้องการเป็นพระเจ้า จงพิชิตหอคอยให้จงได้!

* * * * *

[คุณมาถึงชั้นที่ศูนย์ แล้ว ห้องโถงทิวโทเรียล]

ฟึ้บ!

ยอนอูหยีตาเนื่องจากแสงจ้าที่สาดส่องเข้ามาตรงหน้า การมองเห็นของเขาพล่ามัวอย่างรุนแรง ทำให้เขารู้สึกเวียนหัวราวกับอยู่บนเครื่องบินในระดับเพกดานบินที่สูงมาก

[ลักษณะนิสัย เลือดเย็น จะช่วยให้สภาพร่างกายของคุณกลับมาสู่สภาวะปกติเร็วขึ้น]

เขารู้สึกมีบางอย่างบิดไปมาอยู่ภายในร่างกาย ทำให้อาการบ้านหมุนเริ่มคงที่มากขึ้นและในที่สุดก็หาย ยอนอูสามารถมองสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ได้ง่ายขึ้น เขาพบว่าเขาอยู่บนทางเดินที่ตรงยาวไปข้างหน้า กำแพงสร้างขึ้นจากหิน เพดานทำมาจากหินที่สามารถให้แสงทะลุผ่านได้ แต่แสงที่ผ่านมาก็ยังไม่มากพอที่จะทำให้เขามองเห็นทางเดินเกินระยะสองเมตร และที่เกินกว่าระยะนั้นไปก็มืดสนิท

“ฉันพร้อมแล้ว” ยอนอูกำหมัดแน่น เขาได้เห็นภาพเดียวกับที่เห็นมาแล้วในไดอารี่

หอคอยทำหน้าที่เป็นทั้งประตูและเป็นบททดสอบเพื่อประเมิณผู้ที่เข้ามาเพื่อจุดประสงค์การเป็นพระเจ้า ใช่ว่าทุกคนที่เข้ามาในหอคอยจะผ่านการทดสอบ เช่นนั้นผู้ที่เข้ามาจึงต้องพิสูจน์ว่าพวกเขาคู่ควร สถานที่ทิวโทเรียลเป็นที่ซึงผู้เล่นจะได้รับการทดสอบมักถูกเรียกว่า “ชั้นที่ศูนย์”

“คนที่ทำร้ายจองอูเคยผ่านสถานที่แห่งนี้มาแล้ว” ยอนอูหลับตาลงเพื่อนึกย้อนถึงภาพในไดอารี่และรูปถ่ายใบหน้าของผู้ที่หักหลังน้องชายเขาและผลักเขาเข้าหาความตาย อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้รู้สึกกระวนกระวายใจและทำจิตใจให้สงบที่สุด “อดทนรออีกหน่อยเถอะ แล้วฉันจะไปที่นั่นให้ได้”

เพื่อเข้าสู่หอคอย เข้าจำเป็นต้องผ่านทิวโทเรียลไปด้วยคะแนนที่สูง และไม่ใช่ว่าใครก็สามารถทำคะแนนสูงได้ “คะแนนต้องสูงมากจนติดอันดับต้น ๆ” แน่นอนว่านั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

หอคอยเชื่อมต่อกับมิติ จักรวาล และโลกจำนวนมาก เฉพาะผู้ที่มีความสามารถมากที่สุดจะได้เข้าร่วมในฐานะผู้เล่น ยอนอูได้รับการพิจารณาว่าเป็นผู้เข้าร่วมที่แข็งแกร่งในหมู่กลุ่มผู้มาจากดาวโลก แต่จักรวาลนั้นกว้างใหญ่ไพศาล และที่แห่งนี้ยังมีผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆ อีกมากมายเช่นกัน ยอนอูมีจุดอ่อนเยอะเมื่อเทียบกับผู้เล่นคนอื่น ๆ เนื่องจากเขาเน้นเฉพาะความสามารถทางกายภาพและทักษะตามสัญชาตญาณเท่านั้น เขาอาจเสียชีวิตลงหลังจากเข้าทดสอบในทิวโทเรียลเพียงแค่ไม่กี่ก้าว

“อย่างน้อยทิวโทเรียลก็ยังเป็นที่ที่ช่วยให้ฉันได้รับการคัดเลือก” น้องชายของเขามีร่างกายที่อ่อนแอมากก่อนที่จะมายังหอคอย แต่ในที่สุดเขาก็ยังผ่านไปได้และแรงค์ยังสูงถึงลำดับที่หกโดยใช้เวลาน้อยที่สุดอีกด้วย

ทิวโทเรียลไม่ได้ทดสอบเพียงแค่ความสามารถทางกายภาพเท่านั้น ทั้งนี้ยังมีด้านอื่น ๆ อีกที่ประเมิณร่วมด้วย เช่น ความสามรถของผู้เล่น การตัดสินใจ ความคล่องแคล่ว ความมีไหวพริบ และความเด็ดขาด ประเด็นเหล่านี้จะได้รับการสรุปรวมและแปลงเป็นคะแนนให้แก่ผู้เล่นนั้น ๆ แน่นอนว่าย่อมมีผู้เสียชีวิตระหว่างการทดสอบเสมอ ผู้เข้าร่วมหลายคนมักมากับความมั่นใจที่มากเกินไปในด้านความสามารถที่ไม่มีนัยสำคัญเลย และรีบเข้าไปในทิวโทเรียลอย่างประมาทเลินเล่อจนถึงแก่ความตายในที่สุด

โชคดีที่ยอนอูตระหนักถึงอันตรายของสถานที่แห่งนี้ รวมทั้งคุณค่าของมันด้วย “เศษส่วนที่เหลืออาจจะอยู่ที่ไหนก็ได้ ต้องรวบรวมให้ได้มากที่สุดกระบวนการสืบทอดตำแหน่งจะได้สิ้นสุดสักที” หน้าต่างสถานะของยอนอูปรากฏขึ้นมา “ร่างกายมังกรยังไม่สมบูรณ์ (5%)” และความสำเร็จของน้องชายเขาที่สร้างมาก็ยังส่งผ่านไปถึงเขายังไม่ทั้งหมด ยอนอูตั้งใจที่จะปรับแต่งร่างกายให้ได้มากที่สุดเพื่อที่จะเปลี่ยนคำว่า “ยังไม่สมบูรณ์” เป็นคำว่า “สมบูรณ์”

“ตอนนี้จะต้องมุ่งเน้นไปกับการทำให้ร่างกายสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่ทำได้” หลังจากลำดับความคิด ยอนอูหยิบหน้ากากสีขาวออกมาจากกระเป๋าและสวมมัน เขาจะต้องเจอผู้คนอีกมาก ดังนั้นเขาจึงปิดบังใบหน้าก่อนจะเริ่มเดินไปตามทางอย่างช้า ๆ

* * * * *

เขาไม่รู้เลยว่าเดินมานานแค่ไหนแล้วตั้งแต่เห็นแสงสีน้ำเงินวาบขึ้นมาในอากาศ “โอ้โย โอ้โย โอ้โย! มีแขกในเวลาแบบนี้ด้วยเหรอ? ข้าเกือบพลาดแล้วปล่อยเจ้าผ่านไป” ประตูมิติเปิดออก และก็มีบางคนหล่นลงมาจากประตูนั่น

ทันใดนั้น ยอนอูก็ถอยหลังตามสัญชาตญาณและตั้งท่าพร้อมต่อสู้ ถือกริชสองเล่มมาไขว้ไว้ตรงหน้า รูปร่างของบุคลนิรนามนี้แปลกประหลาด ตัวสั้น ความสูงไม่เกินเอวเขา ผิวหนังทั้งหยาบโลนและเป็นตะปุ่มตะป่ำ ตาเขและมีเขี้ยวเงายาวโผล่ออกมาจากริมฝีปากที่หนาเตอะ

เพียงแค่มองสิ่งมีชีวิตตัวนี้ก็ทำให้เขารู้สึกขยะแขยง มันคือปีศาจที่ถูกเรียกว่าก็อบลิน แต่ท่าทางของมันดูต่างไปจากที่เขาเคยเห็นในไดอารี่ ไม่เหมือนกับก็อบลินสติปัญญาต่ำที่รู้จักกันทั่วไป ก็อบลินที่อยู่ตรงหน้าเขาสวมแว่นตาข้างเดียวและสวมทักซิโดหรู ดูสุภาพทำให้มันดูสง่า

“ถึงภายนอกของฉันจะดูสบาย ๆ แต่ท่าทีของเจ้ามันทำร้ายความรู้สึกข้าเกินไปหน่อยนะ ทำไมไม่ลดกริชลงก่อนล่ะ?” ก็อบลินยิ้มด้วยความจริงใจและขยิบตาตรงกันข้ามกับคำพูดของมันเมื่อครู่ ตอนนั้นเอง ยอนอูก็รู้ว่าก็อบลินนั้นคือใคร มันคือในผู้พิทักษ์ชั้นที่ศูนย์ที่คอยจัดการและดูแลในแต่ละชั้น และทดสอบในหอคอย “ยินดีต้อนรับ ข้าคือผู้พิทักษ์ชั้นที่ศูนย์ ยิปเวลค์ คงเป็นเพราะโชคชะตาที่ทำให้เราได้พบกัน ทำไมไม่ปรบมือให้ข้าสักครั้งหน่อยล่ะ? โอ้โย โอ้โย โอ้โย”

ยอนอูลดกริชลง ผู้พิทักษ์เป็นส่วนหนึ่งของหอคอย และรับผิดชอบนำผู้เล่นไปสู่บททดสอบต่าง ๆ จึงไม่จำเป็นต้องระแวงมัน

“โฮ้ เจ้าไว้ใจข้าแล้วเหรอ?”

“ถึงมันจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่การเก็บคำแนะนำของผู้พิทักษ์ไว้ใช้มันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรนี่”

“ให้ตายสิ ขอเดาว่าเจ้าคงรู้จักพวกเรามาบ้างแล้วสินะ เจ้าสวมหน้ากาก คงเขินอายสินะ ช่างมันเถอะ ตอนนี้ก็คุยกันง่ายขึ้นแล้ว” ยิปเวลค์เริ่มอธิบายพร้อมแซมมุกตลก “ทิวโทเรียลแบ่งออกเป็นเจ็ดเขตด้วยกัน จากอักษร เอ ถึง เอฟ แต่ละเขตจะมีสภาพแวดล้อมที่ต่างกันรวมถึงความท้าทายด้วย คะแนนที่เจ้าจะได้รับนั้นขึ้นอยู่กับว่าเจ้ารับมือกับความท้าทายได้ดีแค่ไหนภายใต้เวลาที่จำกัด เมื่อสิ้นสุดทิวโทเรียล คะแนนทั้งหมดของเจ้าจะถูกนำมารวมกันและประกาศให้ทราบ”

ยอนอูพอทราบกฏมาคร่าว ๆ แล้วจากไดอารี่ แต่เพื่อไม่ให้เป็นที่น่าสงสัยและเพื่อยืนยันข้อมูลของเขา เขาจึงถามออกไป “ฉันต้องผ่านทั้งหมดเจ็ดเขตเลยไหม?”

“ไม่จำเป็น เจ้าจำเป็นต้องพิสูจน์ว่าแม้คุณสมบัติขั้นต่ำสุดที่จะผ่านทิวโทเรียลไปได้เจ้าก็ยังคู่ควรและทำมันได้ หากเจ้าคิดว่าคะแนนของเจ้าสงพอแล้ว จะเลือกหยุดก็ย่อมได้ แน่นอนว่ายิ่งผ่านการทดสอบมากเท่าไร คะแนนที่ได้ก็ย่อมสูงตาม”

“คะแนนสูงแล้วดียังไง?”

“ผู้เล่นจะได้รับรางวัลตามคะแนนที่ทำได้ มันควรจะเป็นแรงจูงใจให้ผู้เล่นทำคะแนนได้สูง ๆ นี่ว่าไหม? หอคอยและผู้พิทักษ์เรารอบคอบในเรื่องนี้มาก โอ้โย โอ้โย โอ้โย”

“แล้วนานแค่ไหนกว่าทิวโทเรียลจะจบ”

“มีเวลาให้ทั้งหมดสามสิบวัน เจ้าจะจัดสรรเวลาที่ใช้ในแต่ละเขตยังไงก็แล้วแต่เจ้า” ยิปเวลค์ยิ้มพลางขยับขาแว่น “รอบนี้เริ่มไปเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน ฉะนั้น เจ้าจะเหลือเวลาทั้งสิ้นสามสัปดาห์ มัวทำอะไรอยู่ล่ะ? จะรอให้ถึงรอบหน้าหรือยังไง?” ดูจากภายนอก หนึ่งสัปดาห์ดูเหมือนจะไม่นาน แต่ในช่วงเวลาของทิวเรียลมันได้หายไปหนึ่งในสี่ของเวลาทั้งหมดแล้ว “ผู้ที่มาก่อนเขาใช้เวลานี้นำเจ้าไปไกลแล้ว บางทีผู้ที่มาทีหลังอาจจะไล่ตามคนพวกนั้นไม่ทันก็ได้นะ”

ยิ่งคะแนนสูง รางวัลที่ได้ก็ย่อมดีกว่า และโอกาสในการผ่านทิวโทเรียลก็สูงด้วยเช่นกัน เนื่องจากยอนอูวางแผนไว้ว่าต้องผ่านการทดสอบให้ได้มากที่สุด นี่จึงเป็นการเริ่มต้นที่เสียเปรียบมาก ถึงอย่างนั้น บนใบหน้าของเขาก็ยังมีรอยยิ้มปรากฏ “ยังไงซะ นั่นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ฉันคิดไว้แล้ว”

ยิปเวลค์ไม่ได้รู้สึกอะไรกับท่าทีของเขาแต่อย่างใดและอธิบายต่อ “ถึงแม้ว่าที่นี่จะเรียกว่าทิวโทเรียล แต่มันก็ยังยากอยู่ดี เรามักแนะนำให้ผู้เล่นสร้างปาร์ตี้สามถึงห้าคนเพื่อผ่านในแต่ละเขต ทั้งนี้โอกาสสำเร็จอย่างง่ายดายก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน”

“หมายความว่าถ้าฉันผ่านแต่ละเขตได้ด้วยตัวเอง ฉันก็จะได้คะแนนสูงกว่า ถูกไหม?”

“ใช่ แต่หลายหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว”

“ถ้าเกิดผู้เล่นเดี่ยวไล่ตามปาร์ตี้ที่นำอยู่ทันล่ะ จะได้รับอะไรเพิ่มไหม?”

ดวงตาของยิปเวลค์เป็นประกายเมื่อเขารู้ว่ายอนอูกำลังคิดอะไร รอยยิ้มของเขากว้างขึ้นกว่าเดิม เผยให้เห็นคมเขี้ยวชัดเจนมากขึ้น “หอคอยนั้นเติบโตตามความสำเร็จของผู้เล่น คะแนนจะถูกปรับตามความสำเร็จของผู้เล่นคนนั้น ๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอก”

“เข้าใจแล้ว” ตอนนี้เขาได้รับการยืนยันทุกอย่างแล้ว ยอนอูจึงเริ่มยืดเส้นยืดสายเล็กน้อย แกร่ก ‘ไม่ว่ายังไงก็ตาม ฉันจะต้องฆ่าหมอนั่นให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ แผนทั้งหมดก็จะพัง’ ยอนอูนึกถึงส่วนสำคัญที่สุดที่ถูกซ่อนอยู่ซึ่งอาจได้รับมันแค่ในทิวโทเรียลเท่านั้น หมอนั่นจะปรากฏตัวแค่ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น การฆ่าเขาจะช่วยให้กระบวนการสืบทอดตำแหน่งง่ายขึ้น กรอบ แกร่ก กล้ามเนื้อของเขาเริ่มตึง เลือดไหลเวียนได้เร็วขึ้น และสมองโล่งโปร่ง

ยิปเวลค์ถอยหลังไปหนึ่งก้าว เขาสังเกตเห็นว่ายอนอูแทบไม่พร้อมที่จะรับฟังคำแนะนำใด ๆ เพิ่มเติมแล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีผู้เล่นทึ่คล้ายกับเขาอยู่สามคน และพวกเขาจะต้องเผชิญกับหนึ่งในสองความเป็นไปได้นี้ มุทะลุไปข้างหน้าอย่างมั่นใจเพื่อล้มเหลวหรือทำอะไรตามใจตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นยิปเวลค์ก็คิดว่ามันคงน่าสนุกดีที่จะได้ดูอะไรแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะไม่ห้ามยอนอู “เชิญตามสบาย”

แป๊ะ! ยิปเวลค์ดีดนิ้วเบา ๆ และแผงหน้าต่างบานหนึ่งก็ปรากฏ

[เริ่มต้นการทดสอบชั้นที่ศูนย์]

[บดทดสอบ: คุณ ผู้เข้าร่วมที่ต้องการเป็นพระเจ้า จงพิสูจ์ตัวเองว่าคู่ควรด้วยการพิชิตหอคอย คุณจะต้องผ่านทั้งหมด 7 ประตู 7 ความท้าทายภายในเวลาที่กำหนด]

[เงื่อนไข: เก็บคะแนนให้ได้สูงที่สุดภายในเวลาที่กำหนด]

“บดทดสอบเริ่มขึ้น ณ บัดนี้” ยิปเวลค์กล่าวลาด้วยท่าทางที่สง่างามพร้อมหายตัวไปราวกับสายลม และเครื่องจับเวลาก็ปรากฏแทนที่เขา

[549:37:88_96]

[549:37:88_95]

.....

“เหลือเวลายี่สิบสองวันกับอีกยี่สิบเอ็ดชั่วโมงเหรอ?” ยอนอูกำกริชแน่นและห้าวไปข้าวหน้า “ลุยกันเลย” ข้อความหนึ่งปรากฏขึ้นขณะที่เขากำลังข้ามเส้นแบ่งเขตจากเขตเอ

[คุณได้เข้ามายังเขตเอ]

[ทำลายหรือปิดการทำงานของกับดักทั้งหมดในเขตเอ]

ข้างหน้ามีทางตรงอีกเส้นหนึ่ง และรู้สึกเหมือนความมืดกำลังกวักมือเรียก ยอนอูก้าวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง และตื่นตัวอยู่ตลอด แต่ผ่านไประยะหนึ่งก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ราวกับที่นี่ว่างเปล่า คนทั่วไปอาจรู้สึกผ่อนคลาย แต่ยิ่งยอนอูเดินไปไกลเท่าไรความกังวลก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ยิปเวลค์บอกเอาไว้ว่าถ้าจับกลุ่มเล็ก ๆ จะทำให้ผ่านง่ายขึ้น และหากคำแนะนำนี้ถูกต้อง เช่นนั้นเขาก็ไม่ควรประมาทความอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เพราะอันตรายมักจะปรากฏโดยไม่ทันตั้งตัว กวาดล้างทุกสิ่งอย่างราวกับพายุ

เฉกเช่นตอนนี้

ฟึ้บ! มีลูกธนูดอกหนึ่งวิ่งฝ่าความมืดมา และยอนอูก็หลบไปด้านข้างตามสัญชาตญาณ ลูกธนูพุ่งผ่านแขนซ้ายของเขาไป คงไว้ซึ่งความเจ็บปวดที่แผดเผา เสื้อผ้าของเขาฉีกขาดและเลือดกระเซ็น

พรึ้บ “ลูกธนูเหล็ก!” เขาเรียกสติกลับมา จ้องเขม็งไปยังลูกธนูก้านโลหะที่ปักลึกเข้าไปในกำแพง แขนของเขาคงจะขาดหากโดนเข้าอย่างจัง หากโดนเข้าที่ศีรษะหรือหน้าท้องเขาคงเสียชีวิตทันที

ในไดอารี่ได้เตือนเอาไว้แล้วเกี่ยวกับกับดักมากมายในเขตเอ แต่ถึงอย่างนั้น เวลาที่เปลี่ยนไป ตำแหน่งของกับดักก็เปลี่ยนตามด้วย และกับดักจะสุ่มเปิดใช้งาน ดังนั้นด้วยประสบการณ์ของน้องชายเขาจึงช่วยอะไรในส่วนนี้ไม่ได้มากนัก ทั้งหมดที่เขาทำได้คือมีสติและหาทางไปให้เจอ

พรึ้บ! พรึ้บ! พรึ้บ!

ลูกธนูเหล็กพุ่งตรงเข้ามาหาเขามากขึ้น ทั้งหมดล้วนมาจากทิศต่าง ๆ ตามหาแหล่งที่มาได้ยากมาก ยอนอูนั่งยองและม้วนตัวไปข้างหน้าพร้อมจับกระเป๋าเป้ มันทั้งหนาและเต็มไปด้วยเสื้อผ้าและอุปกรณ์ ดังนั้นเขาจึงใช้มันเพื่อเป็นโล่ป้องกัน เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงเอามันมาด้วยตั้งแต่แรก

ปั้ก! ปั้ก! ปั้ก!

ลูกธนูเหล็กสามดอกปักเข้าที่กระเป๋าอย่างแรงจนรู้สึกราวกับแขนของเขาจะหลุดออกมาทุกครั้งที่ลูกธนูพุ่งเข้าใส่ สองดอกสามารถเจาะทะลุกระเป๋าเป้ได้ ปลายแหลมโผล่ออกมาราวกับอยากให้เห็นใบหน้าที่เขินอายของมัน

เขาพยายามยืดตัวและแนบติดกับกำแพงเนื่องจากไม่รู้ว่าการโจมตีมาจากทิศทางไหน เขาจึงต้องพลางตัวเท่าที่ทำได้ เป็นสิ่งที่เขาเรียนรู้มาอย่างหนัก

หับดักที่ถูกติดตั้งไว้มีทั้งที่อยู่ด้านหลังและด้านล่างตัวเขา ฉึก! ก่อนที่เขาจะได้ทันตั้งตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ลูกธนูดอกหนึ่งก็พุ่งเสียบเข้าที่ต้นขาซ้ายของเขา “โอ๊ย!” ยอนอูรู้สึเหมือนกับมีพลุระเบิดอยู่ตรงหน้า เขาขบฟันแน่นและพยายามหันกลับแม้จะเจ็บปวดมากก็ตาม

ปั้ก! ปั้ก! ปั้ก!

ลูกธนูพุ่งทะลุผ่านกระเป๋าเขาอีกครั้ง ครั้งนี้มันทะลุและปักเข้าที่ไหล่ แขน และสีข้างซ้ายของเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด