ตอนที่แล้วบทที่ 414
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 416

บทที่ 415


ย่างเข้าวันที่เจ็ด ขบวนเกวียนของเนี่ยฟงมองเห็นเมืองขนาดใหญ่ด้านหน้า ขบวนเกวียนลากหลายสิบคันจอดอยู่ด้านหน้าของเมืองส่วนใหญ่แล้วเป็นกลุ่มพ่อค้าเร่ หน้าทางเข้ามีป้ายหินสลักขนาดใหญ่เขียนคำว่าเสียงสาน น่าแปลกที่เมืองแห่งนี้หาได้มีกำลังทหารคอยดูแลแต่จะกลุ่มคนสวมชุดสีฟ้าขลิบเทาคอยดูแลแทน กลุ่มของเนี่ยฟงทั้งหมดลงมาจากเกวียนลาก ผู้คนส่วนใหญ่ที่รอเข้าเมืองต่างหันมาจ้องมองเตียวมู่ถังที่กำลังเป็นข่าวใหญ่ในช่วงเวลานี้ ไม่ถึงสิบลมหายใจมีกลุ่มผู้ดูแลเมืองนับสิบคนก้าวเท้าเข้ามา

“คารวะคุณชายเตียวมู่ถัง เชิญกลุ่มของพวกท่านเข้ามาในเมืองได้เลยขอรับ”

ด้วยความแปลกใจเตียวมู่ถังจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“เกิดสิ่งใดขึ้นที่นี่ แล้วพวกข้ามิต้องรอต่อแถวเข้าเมืองรึ”

“พวกท่านทั้งหมดไม่ต้องตกใจ นายท่านเหลียงเสี่ยวหูมีคำสั่งแจ้งมาว่าหากพบเจอกลุ่มของพวกท่านให้ดูแลต้อนรับอย่างดีเพื่อเป็นการของคุณสำหรับการกำจัดลัทธิสวรรค์ขอรับ”

“ข้าสอบถามได้หรือว่า ท่านเหลียงเสี่ยวหูคือผู้ใด”

“นายท่านเหลียงเสี่ยวหูคือผู้ดูแลเมืองแห่งนี้และเป็นเจ้าของร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเสียงสานขอรับ”

แน่นอนว่ากลุ่มของเตียวมู่ถังได้รับการดูแลอย่างดี อีกทั้งยังสามารถเข้าไปในเมืองได้โดยไม่ต้องรอต่อแถว สร้างความขุ่นเคืองให้แก่บรรดาผู้คนที่รอต่อแถวไม่น้อย แน่นอนว่าเตียวมู่ถังสังเกตเห็นสายตาที่พวกเข้าจ้องมองด้วยเช่นกัน

“ข้าขอขอบคุณพวกท่านเป็นอย่างมาก แต่ทว่าหากพวกข้าเข้าไปในเมืองตอนนี้อาจจะสร้างความขุ่นเคืองแก่บรรดาผู้คนที่นี่ไม่น้อย เป็นไปได้หรือไม่ที่พวกข้าจะรอเข้าเมืองเช่นผู้อื่น หากเมื่อใดพวกข้าเข้าไปในเมืองแล้วจะเข้าไปเยี่ยมคารวะต่อท่านเหลียงเสี่ยวหูเพื่อเป็นการขอบคุณ”

สิ้นเสียงกล่าวของเตียวมู่ถังทำให้กลุ่มคนด้านหน้ารู้สึกแปลกใจไม่น้อยรวมไปถึงผู้คนที่รอต่อแถวอยู่

“หากพวกท่านต้องการเช่นนั้นข้าก็หาได้ขัดขวางขอรับ”

ไม่นานกลุ่มคนทั้งหมดก็เดินเข้าไปในเมือง ย่างเข้ายามเซินเกือบชั่วยามกลุ่มของเตียวมู่ถังก็ถึงเวลาเข้าไปในเมือง สองข้างทางมีบรรดาพ่อค้ามาตั้งแผงขายของหลากหลายชนิด เสื้อผ้าแพร อาวุธต่าง ๆ รวมไปถึงสมุนไพรและเม็ดยา ผู้คนด้านในเมืองต่างเดินกันขวักไขว่เลือกซื้อสินค้าต่าง ๆ ไม่ถึงสิบลมหายใจมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเดินก้าวเดินเข้ามาหาเตียวมู่ถังอีกครั้ง

“ขอต้อนรับพวกท่านอีกครั้ง พวกข้าได้จัดเตรียมโรงเตี๊ยมสำหรับที่พักของพวกท่านแล้วขอรับ เชิญ”

เตียวมู่ถังทำได้เพียงพยักหน้าตอบรับนำคนทั้งหมดเดินตามกลุ่มคนด้านหน้าไป ไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็เดินมาถึงโรงเตี๊ยมขนาดใหญ่ที่มีชื่อเดียวกับเมือง โรงเตี๊ยมแห่งนี้มีทั้งหมดสามชั้น สองชั้นแรกเป็นที่สำหรับดื่มกิน ส่วนชั้นที่สามเป็นในส่วนของห้องพัก ด้านในมีผู้คนมากมายนั่งดื่มกินเสียงดังไม่น้อย ตรงกลางมีกลุ่มหญิงสาวนับสิบคนกำลังร่ายรำพร้อมกับเสียงดนตรีจากขิมและขลุ่ย ทั้งหมดถูกพาขึ้นไปบริเวณชั้นสอง อาหารมากมายถูกจัดเตรียมเอาไว้บนโต๊ะอย่างมากมาย มีชายชราผู้หนึ่งรูปร่างอ้วนสวมชุดสีแดงยืนอยู่ เมื่อเห็นกลุ่มของเตียวมู่ถังเดินขึ้นมาถึงชั้นสองเขาก็รีบก้าวเดินเข้ามาต้อนรับ

“ข้ามีนามว่าเหลียงซุนจ้านเป็นคนดูแลโรงเตี๊ยมแห่งนี้ ตัวข้าดีใจยิ่งนักที่ได้พบเจอพวกท่านที่นี่ ชื่อเสียงของพวกท่านโด่งดังไม่น้อย”

เหลียงซุนจ้านหรี่ตาจ้องมองชายหนุ่มสวมชุดสีเทาผู้หนึ่งในกลุ่มของเตียวมู่ถัง

“ตัวข้าไม่คิดเลยว่าในกลุ่มของพวกท่านจะมียอดฝีมืออายุน้อยเช่นนี้”

เตียวมู่ถังยกยิ้มแน่นอนว่าเขารับรู้ว่าเหลียวซุนจ้านหมายถึงผู้ใด

“นั้นคือน้องเล็กของกลุ่มมังกรฟ้าขอรับ”

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเอ่ยวาจาดังแว่วมาจากทางซ้ายมือ

“เหอะ เพียงแค่กลุ่มนักฆ่ากระจอก ๆ กลุ่มหนึ่งที่สร้างชื่อได้ไม่นาน เหตุใดท่านเหลียงซุนจ้านถึงได้ให้ค่ากับคนพวกนี้มากนัก”

เมื่อหันไปมองพบเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์สวมชุดสีเทาขลิบขาวนับสิบคนนั่งดื่มกินอยู่ เตียวมู่ถังถึงกับขมวดคิ้ว

“ต้องขออภัยหากว่ากลุ่มมังกรฟ้าของพวกข้าสร้างความขุ่นเคืองให้แก่พวกท่านสำนักไทปิงมือปราบแห่งเมืองจาง”

“อย่าอวดดีให้มากนักเตียวมู่ถัง”

“สำนักไทปิงมือปราบผู้ผดุงความยุติธรรม แต่ทว่าไม่มีความสามารถมากพอที่จะจัดการกับกลุ่มโจรหานซุน ปล่อยให้ชาวบ้านจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนมานานนับหลายปี หากข้าเป็นคนของสำนักไทปิงคงไม่มีหน้าออกมาพบปะผู้คน”

“สามหาว!! มันผู้ใดเอ่ยวาจาเช่นนี้ออกมา”

ซินหยางแสยะยิ้มก้าวเดินออกมา

“นึกว่าใครที่ไหนที่แท้สวะหัวขโมยกระจอกซินหยางนี้เอง เจ้าทำงามหน้าเอาไว้ไม่น้อยในแคว้นจาง ดี! พบเจอเจ้าที่นี่ข้าเล่ากุนเปียวจะได้สะสางเรื่องในอดีต”

สิ้นเสียงกล่าวของเล่ากุนเปียวชายฉกรรจ์ทั้งหมดต่างลุกขึ้นยืนจ้องมองมาทางซินหยางและเตียวมู่ถังอย่างไม่วางตา

“พวกท่านรับรู้ดีว่าไม่ควรมีเรื่องในโรงเตี๊ยมเสียงสานของข้า โปรดระงับอารมณ์ของพวกท่านด้วยขอรับ ผู้คนส่วนใหญ่เข้ามาที่นี่เพื่อทานอาหารและชื่นชมหญิงงาม เป็นไปได้หรือไม่พวกท่านทั้งสองกลุ่มจะวางมือ”

เตียวมู่ถังรีบก้มคารวะ

“ข้าเตียวมู่ถังต้องขออภัยแก่ท่านเหลียงซุนจ้าวขอรับ”

แน่นอนว่าซินหยางเมื่อได้ยินเช่นนั้นเขารีบก้มคารวะเช่นนั้น

“ข้าน้อยซินหยางต้องขออภัยด้วยเช่นกันขอรับ”

สิ้นเสียงกล่าวซินหยางหรี่ตามองไปที่กลุ่มของสำนักไทปิง

“เอาเถอะ พวกท่านคงหิวกันแล้ว เชิญทานอาหารเถอะหากปล่อยทิ้งเอาไว้นานพวกมันจะเย็นเสียก่อน ข้าคงไม่รบกวนพวกท่านแล้วหากต้องการสิ่งใดสามารถเรียกหาข้าได้”

เหลียงซุนจ้าวสะบัดมือขวานำป้ายไม้ออกมาเจ็ดแผ่นยื่นให้แก่เตียวมู่ถัง

“นั้นเป็นป้ายห้องพักสำหรับพวกท่าน”

“ขอบคุณท่านเหลียงซุนจ้าวมากขอรับที่เป็นธุระให้”

“หามิได้ ข้าคงไม่รบกวนพวกท่านแล้ว”

หลังจากเหลียงซุนจ้าวก้าวเดินลงไป กลุ่มของเตียวมู่ถังก็เริ่มทานอาหารโดยมีกลุ่มของสำนักไทปิงจ้องมองอย่างไม่วางตา ในระหว่างนั้นเองเนี่ยฟงก็เอ่ยถามซินหยางด้วยความสงสัย

“พี่ชายหยางท่านเคยมีปัญหากับคนพวกนั้นรึขอรับ”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า อย่าใส่ใจเลยคุณชาย ท่านก็รู้ว่าพี่หยางของท่านเป็นหัวขโมยแน่นอนว่าสำนักมือปราบอย่างสำนักไทปิงย่อมต้องการตัวเขา”

“พี่หยางขโมยสิ่งใดรึขอรับ”

“เอ่อคุณชายอย่าไปฟังเจ้าคังมากขอรับ ข้าเพียงแค่ขโมยสร้อยไข่มุกของภรรยาเจ้าสำนักไทปิงมาเชยชมเพียงเท่านั้น อีกอย่างตัวข้าได้นำมันไปคืนแล้ว”

“เหตุใดพี่หยางไม่บอกกล่าวต่อคุณชายว่าท่านขโมยดื่มสุราในโรงบ่มจนหมด”

สิ้นเสียงกล่าวของเก่อคังพวกเตียวมู่ถังต่างหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น

“ใครจะไปอดใจไหวสุรานารีแดงที่หนักบ่มหลายสิบปี หากคุณชายได้ลิ้มลองรับรองว่าตัวท่านเองจะติดใจ หากมีโอกาสเข้าแคว้นจางเมื่อไหร่ข้าจะนำมันมาให้คุณชายดื่ม”

แน่นอนว่าสิ่งที่ซินหยางกล่าวกลุ่มของสำนักไทปิงเองก็ได้ยินเช่นกัน คนพวกนั้นกำหมัดในมือแน่นด้วยความโกรธแค้นเพราะสิ่งที่ซินหยางกระทำเมื่อหลายปีก่อนทำให้ชื่อเสียงของสำนักไทปิงเสียหายไม่น้อย เป็นถึงสำนักมือปราบแต่ทว่าถูกซินหยางแอบเข้าไปขโมยดื่มสุราจนหมดรวมไปถึงสามารถบุกเข้าไปขโมยสร้อยไข่มุกถึงห้องนอนถึงสองครั้ง ในระหว่างนั้นเองเล่ากุนเปียวก็แอบแผ่ลมปราณออกมาตรวจสอบกลุ่มของเตียวมู่ถัง แน่นอนว่าเนี่ยฟงรับอยู่แล้วจึงแผ่ลมปราณออกไปต้านรับ เกือบสองเค่อทั้งหมดก็ทานอาหารจนอิ่มเนี่ยฟงจึงเอ่ยวาจาออกมา

“ข้าอยากจะออกไปซื้อสมุนไพรบางอย่าง พี่ชายหยางรบกวนออกไปกับข้าได้หรือไม่”

“แน่นอน แน่นอน”

เนี่ยฟงหันไปมองเตียวมู่ถัง

“เช่นนั้นพวกท่านพักผ่อนอยู่ที่นี่เถอะ ข้าจะนำพี่ชายหยางออกไปออกกำลังกายหลังทานอาหารเสียหน่อย”

แน่นอนว่าสิ่งที่เนี่ยฟงกล่าวทั้งหมดล้วนแล้วแต่เข้าใจความหมายว่าคือสิ่งใด

“เช่นนั้นข้าขอไปด้วย ข้าเองก็อยากออกกำลังเช่นกัน เดินทางมาหลายวันข้ารู้สึกร่างกายติดขัดไปหมด”

เตียวมู่ถังยกยิ้มยื่นแผ่นป้ายห้องพักให้แก่เนี่ยฟง ซินหยางและเก่อคัง

“เช่นนั้นพวกเราไปกันเถอะ”

ทันทีที่ทั้งสามเดินออกไปจากโรงเตี๊ยมได้ไม่นาน กลุ่มของสำนักไทปิงก็รีบออกไปจากโรงเตี๊ยมเช่นกัน เตียวมู่ถังและคนที่เหลือต่างส่ายศีรษะไปมา

“หวังว่าคุณชายจะไม่สังหารพวกมัน ไม่เช่นนั้นหากเราเข้าไปในแคว้นจางคงได้มีปัญหาเพิ่มอีกแน่”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ช่วยไม่ได้มู่ถังคนพวกนั้นกระทำตัวเอง”

เป็นต้วนไห่ที่เอ่ยวาจาออกมา ทันใดนั้นเองเตียวมู่ถังก็รู้สึกถึงจิตสังหารแผ่ออกมา

“ข้าคิดว่าคงไม่มีเพียงพวกสำนักไทปิงแล้วละที่อยากมีปัญหากับเรา พวกเจ้ารีบเข้าห้องพักฝึกฝนพลังปราณเถอะ เมื่อใดที่เราออกจากเมืองคงต้องมีการปะทะนองเลือดกันอีกแน่นอน”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด