ตอนที่แล้วเล่มที่ 1 ตอนที่ 25: ผู้สังหารบอสอัจฉริยะคนแรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่มที่ 1 ตอนที่ 27: การแข่งขัน

เล่มที่ 1 ตอนที่ 26: เดินทางไกล


เล่มที่ 1 ตอนที่ 26: เดินทางไกล

“พระเจ้า ! ทำไมมันไกลขนาดนี้ ? !” มู่หรงเสี่ยวเทียนเห็นระยะทางจากหมู่บ้านโนวิซ 110 จากเครื่องหมายที่เขาทำเอาไว้บนหน้าต่างของแผนที่ และตอนนี้ใบหน้าของเขาก็ซีดลงเป็นอย่างมาก เพราะเขาอยู่ห่างจากหมู่บ้านราว ๆ 100 กิโลเมตร ก่อนหน้านี้เขามีจิตใจที่อิ่มเอิบ แต่ทว่าตอนนี้เขากลับหงุดหงิดเป็นอย่างมาก เมื่อดูที่นาฬิกามันก็ปาเข้าไปเป็นตี 3 ของอีกวันแล้ว ตอนนี้เขาจะทำอย่างไรดี ? เพราะไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องวิ่งกลับไปอยู่ดี

เมื่อมองไปที่เจ้าหมาป่าตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมแขน เขาก็ครุ่นคิดอยู่สักพัก “เจ้าตัวเล็ก แกเข้าไปอยู่ในแหวนแห่งความโกลาหลก่อนนะ พวกเรากำลังอยู่ในสถานการณ์เร่งด่วนและฉันเองก็ไม่สะดวกที่จะอุ้มแกแบบนี้” มู่หรงเสี่ยวเทียนกำลังจะใส่มันเข้าไปในแหวนแห่งความโกลาหล แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวเล็กนั้นจะไม่ค่อยเข้าใจมู่หรงเสี่ยวเทียนมากนัก มันกัดเบา ๆ ไปที่แขนของเขาราวกับว่าปฏิเสธที่จะเข้าไป จากนั้นมันก็ร้องออกมาอย่างไม่พอใจ

“นี่ขนาดยังเด็กอยู่ ก็เริ่มสร้างปัญหาได้แล้วหรือ ! เฮ้อ” มู่หรงเสี่ยวเทียนลูบหัวเจ้าตัวเล็กอย่างหดหู่และพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “ถ้าหากว่าไม่ยอมเข้าไป งั้นก็วิ่งไปด้วยกันซะเลย” เขายิ้มออกมาอย่างขมขื่นและเอาคะแนนในสเตตัสทั้งหมด 24 หน่วยที่เพิ่งได้รับจากการอัพเลเวลลงไปที่ความว่องไวจนหมด จากนั้นเขาก็วิ่งไปในทิศทางของหมู่บ้านโนวิซทันที

เดสตินี่นั้นแตกต่างจากเกมรุ่นเก่าอย่างสิ้นเชิง มันไม่มีการใช้ไอเทมบางอย่างหรือว่าใช้สกิลเทเลพอร์ตเพื่อกลับเมือง ยกเว้นเสียแต่ว่าจะใช้ประตูมิติระหว่างเมืองที่ตั้งในจุดต่าง ๆ ของเมืองหลักเท่านั้น

แต่เมื่อถึงเลเวลที่ 10 แล้ว แน่นอนว่าสามารถเลือกที่จะไปไหนก็ได้ด้วยตัวเองและสามารถเปลี่ยนอาชีพได้ หากว่าเปลี่ยนเป็นอัศวินก็จะสามารถใช้ม้าเป็นพาหนะและขี่มันไปได้ทุกที่ หากเลือกอาชีพซัมมอนเนอร์ก็จะมีสกิลเอาไว้เรียกสัตว์เลี้ยงที่บินได้ออกมาแล้วขี่มัน

การจำแนกอาชีพของเกมส์เดสตินี่ได้ตั้งค่าระบบไว้ดีเป็นอย่างมาก มันจะไม่มีอาชีพใดที่มีความสามารถเหนือกว่าอาชีพอื่น ซัมมอนเนอร์สามารถยืมพลังของสัตว์เลี้ยงได้ แต่เขาไม่สามารถเรียนรู้สกิลจากหนังสือได้ หากต้องการสกิลเสริม จะได้รับแค่ตอนที่เลื่อนระดับขึ้นไปอีกขั้น และสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเองเท่านั้น

นักเวทย์สามารถสร้างการโจมตีด้วยเวทมนตร์ที่หลากหลาย แต่ทว่ากลับมีร่างกายบอบบางและอ่อนแอ อัศวินมีความแข็งแกร่งทางกายภาพสูงและได้เปรียบด้านพาหนะ แต่สกิลส่วนใหญ่ก็จะเป็นสกิลเอาไว้ใช้ในระยะประชิด ซึ่งมันเหมาะสำหรับการต่อสู้กลุ่มใหญ่เท่านั้น อย่างเช่นทำสงคราม ส่วนนักสู้จะเหมาะสมกับการต่อสู้แบบพีเคหรือท้าดวลตัวต่อตัวมากที่สุด ระยะการโจมตีของพวกเขาทั้งหมดล้วนแต่เป็นระยะใกล้ แต่ความรวดเร็วของพวกเขานั้นกลับแย่กว่าอาชีพอื่น ๆ

สำหรับเดสตินี่แล้ว ผู้เล่นสามารถเลือกอาชีพได้อย่างหลากหลาย เพราะมันมีความสมดุลอยู่ในนั้น

มู่หรงเสี่ยวเทียนได้เลื่อนระดับขึ้นไปถึงเลเวลที่ 4 เป็นเพราะทักษะแพนธ่อมดริฟของตัวเขาเอง มันจึงทำให้เขาเปลืองมานาเป็นอย่างมาก ดังนั้นค่าสเตตัส 4 คะแนนทั้งหมดเขาจึงอัพไปที่ความฉลาด และด้วยความบ้าคลั่งในตอนนี้ เขาจึงใช้คะแนนทั้งหมดอัพไปที่ความว่องไว เมื่อควบคู่ไปกับการใช้แฟนธ่อมดริฟ เขาก็วิ่งมาถึงประมาณครึ่งทางแล้ว (เพราะการสร้างทักษะขึ้นมาเองอย่างทักษะแฟนธ่อมดริฟ จึงทำให้มู่หรงเสี่ยวเทียนได้เลื่อนระดับเป็นเลเวล 4 คะแนนที่ได้มาตอนนั้นทั้งหมดเขาได้ใช้มันอัพไปที่ความฉลาด ตอนที่หนีราชาหมาป่าโลหิต และตอนนี้เขาได้เลื่อนระดับขึ้นมาที่เลเวล 10 จากการฆ่าบอสอัจฉริยะ คะแนนสเตตัสทั้งหมดที่ได้มา เขาจึงเอาไปอัพความว่องไวและเมื่อใช้งานควบคู่ไปกับทักษะแฟนธ่อมดริฟจึงทำให้ตอนนี้เขาวิ่งมาได้ครึ่งทางแล้ว)

โชคยังดีที่เขาไม่ได้พบเข้ากับมอนเตอร์เลเวลสูง ๆ ในระหว่างทาง แต่ว่ามู่หรงเสี่ยวเทียนก็ไม่ได้กลัวหรือชะลอความเร็วลงเลยแม้แต่น้อย

โลกคือเพื่อน ดวงดาวคือสหาย และสายลมก็พัดพาให้เขาวิ่งไป ตอนนี้ทั่วร่างกายของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อราวกับว่าเขาเอาน้ำสาดตัวเอง แต่เจ้าหมาป่าตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมแขนของเขากลับหลับไปอย่างสงบนิ่งโดยมีนิ้วมือของมู่หรงเสี่ยวเทียนคาอยู่ที่ปากของมัน

“ฉันเหนื่อยจะตายอยู่ละ แต่แกกลับหลับสบายซะงั้น” มู่หรงเสี่ยวเทียนมองดูราชาหมาป่าตัวน้อยอย่างหงุดหงิด จากนั้นเขาก็มองท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสว่างทีละนิด ๆ “พวกนั้นน่าจะออนไลน์กันแล้ว” เขาคิดขณะที่กำลังวิ่งอยู่

เขาได้เปิดหน้าต่างช่องการสื่อสารขึ้นมาและโทรหาหยางซ่งว่า “แม่น้ำสีเหลืองเรียกแม่น้ำแยงซี แม่น้ำสีเหลืองเรียกแม่น้ำแยงซี ได้ยินแล้วตอบด้วย ได้ยินแล้วตอบด้วย !”

เขาเรียกหาไปสามสี่ครั้งแต่ก็ยังไม่มีข้อความใด ๆ ส่งกลับมา หรือว่าพวกเขายังไม่ออนไลน์ ? มู่หรงเสี่ยวเทียนรู้สึกงุนงงเล็กน้อย เพราะหยางซ่งมักจะตรงต่อเวลาเสมอ แต่ทำไมวันนี้เขามาสาย หรือว่าเจ้าเด็กคนนี้จะใช้สมองแสนเจ้าเล่ห์ของเขามัวแต่เย้าแหย่เปียวซืออยู่รึเปล่านะ ? มู่หรงเสี่ยวเทียนยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แท้ที่จริงเขาอยากเป็นคนอารมณ์ขัน แต่ใครจะไปรู้ว่าโลกนี้สำหรับเขามันน่าเบื่อแค่ไหน !

มู่หรงเสี่ยวเทียนเปลี่ยนไปโทรหาวู่เฟิง “กัปตันจาง อยู่ไหม ?” เสียงนั้นเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

“ฮ่าฮ่าฮ่า พระเจ้า ลมอะไรหอบพี่ให้มาออนไลน์เช้าขนาดนี้ ? !” เสียงหัวเราะของวู่เฟิงดังออกมาจากช่องสื่อสาร

“ฉันอารมณ์ไม่ดี ตอนนี้เหนื่อยแทบจะตายแล้ว !” มู่หรงเสี่ยวเทียนหัวเราะอย่างขมขื่นและฝืนยิ้มออกมา

“ฉันได้ยินมาว่าตัวละครของพี่ดังกระฉ่อนแล้ว ตอนนี้พี่เป็นผู้เล่นคนแรกที่เข้าสู่เลเวล 10 ที่สำคัญพี่กำลังจะเปลี่ยนอาชีพอีกด้วยใช่มั้ย ? ยินดีด้วยนะ !”

“ฉันยังไปไม่ถึงเมืองต้าเฉิงเลย นับประสาอะไรกับการเปลี่ยนอาชีพ” มู่หรงเสี่ยวเทียนตอบด้วยน้ำเสียงโกรธ

“แล้วพี่ทำอะไรอยู่ ?” วู่เฟิงสงสัยเล็กน้อย

“ออกกำลังกายตอนเช้ามั้ง !” มู่หรงเสี่ยวเทียนตอบอย่างประชดประชันออกไป ขณะที่เขาปาดเหงื่อที่ไหลลงมาออกจากใบหน้าของเขาไปด้วย “ตอนนี้ฉันกำลังประสบกับปัญหาการเดินทางที่แสนจะยาวไกลถึง 25,000 ล้านปีแสง เพื่อไปยังดวงดาวพลูโต”

“หา ? !” วู่เฟิงรู้สึกงุนงงเล็กน้อย

“นายนี่เข้าใจอะไรยากจริง ๆ” มู่หรงเสี่ยวเทียนจิ้มไปที่หัวของราชาหมาป่าตัวน้อยอีกครั้งให้ตื่นขึ้นมาและพูดอย่างหดหู่ใจว่า “ฉันถูกเจ้ากวางงี่เง่าเอามาทิ้งไว้ที่เมืองหลี่  และตอนนี้ก็อยู่ห่างจากหมู่บ้านโนวิซ 110 ตั้งเกือบร้อยกิโลเมตร ตอนนี้ฉันกำลังวิ่งกลับทางเดิมและใช้ถนนหมายเลข 11”

“ฮ่าฮ่า” วู่เฟิงหัวเราะออกมาอย่างสะใจ “กลายเป็นว่าพี่เองเหรอที่นำกองทัพหมาป่ามาโจมตีผู้เล่นเมื่อวานนี้ ? ฉันก็กำลังคิดอยู่ว่า นอกจากพี่แล้วก็คงไม่มีใครในหมู่บ้านโนวิซ 110 ที่จะมีความสามารถทำเรื่องใหญ่โตแบบนี้”

“นายหมายความว่าอะไร ไอ้ที่ว่าฉันนำกองทัพหมาป่าเข้ามา ?” มู่หรงเสี่ยวเทียนถามถึงปัญหาอย่างจริงจัง “เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าพวกมันตามล่าฉันมา !”

วู่เฟิงที่ดูเหมือนจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษในวันนี้เขายิ้มและตอบกลับว่า “โอเค ๆ ฉันไม่อยากคุยเรื่องนี้แล้ว ไม่ว่าพี่จะพาหมาป่ามาหรือว่ามันไล่ตามพี่มาหรืออะไรก็ตาม ตอนนี้พี่กลายเป็นคนดังอันดับหนึ่งของเกมเดสตินี่ไปแล้ว ว่าแต่ตอนนี้พี่คงไม่ได้เดินทางไกลถึง 25,000 พันล้านปีแสงจริง ๆ ใช่ไหม ?”

มู่หรงเสี่ยวเทียนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “ฉันละยอมแกจริง ๆ อย่าทำให้ฉันอายจะได้ไหมเนี่ย เอาล่ะตอนนี้ฉันกำลังวิ่งอยู่และในมือก็รู้สึกหนักมาก ไปบอกหยางซ่งทีว่าให้เขาเข้ามาให้เร็วที่สุด ให้เขาไปซื้ออาหารสัตว์แรกเกิดในเมืองต้าเฉิง (เมืองฟีนิกซ์) ให้ที ฉันจะเอามาให้สัตว์เลี้ยง แล้วมาเจอกันที่ประตูมิติในหมู่บ้านโนวิซ 110  ไม่เกิน 1 ชั่วโมง ฉันจะไปถึงที่นั่น”

“สัตว์เลี้ยงหรือ ? สัตว์เลี้ยงประเภทไหนกัน ? เลเวลของมันสูงมากไหม ?” น้ำเสียงประหลาดใจดังออกมาจากช่องสื่อสาร

“เอาน่า เดี๋ยวก็รู้เองเมื่อไปถึงที่นั่น” มู่หรงเสี่ยวเทียนยิ้มออกมา จากนั้นเขาก็ปิดช่องสื่อสารและวิ่งต่อ

To be continued…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด