ตอนที่แล้วWS บทที่ 156 ก่อร่างสร้างใหม่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWS บทที่ 158 ดวงตาแห่งความมืด

WS บทที่ 157 ความสามารถของปีศาจแพนโดร่า


ปี๊บ ทำการวิเคราะห์เสร็จสิ้น ได้ผลลัพธ์ 13,891รูปแบบ

 

เมอร์ลินได้มองดูรูปแบบคาถาที่เดอะเมทริกซ์ทำการวิเคราะห์ออกมา เขาได้เลือกอันที่มีความเข้ากันได้ ความเสถียรและพลังตามลำดับ

ในที่สุดเมอร์ลินก็เลือกโครงสร้างคาถาที่มีความเข้ากันได้ถึง 76% ความเสถียรของมันติดอยู่ในสามสิบอันดับแรกของโครงสร้างเวทมนต์ทั้งหมด ถือว่ายังพอใช้ได้

ในขั้นตอนต่อไปคือการจำลองคาถาลงไปในจิตใต้สำนึกซึ่งเป็นขั้นตอยที่สำคัญที่สุด ก่อนหน้านี้ที่เมอร์ลินล้มเหลวก็เพราะว่าพลังจิตของเขาไม่เพียงพอ

แต่ในครั้งนี้ เขามีพลังจิตถึงระดับสองแล้วและอีกอย่างเขาได้ทำสมาธิอย่างต่อเนื่องทำให้พลังจิตของเขาเพิ่มมากขึ้นกว่าตอนที่เขาสร้างคาถาเพลิงพิโรธ

“ฟู่” เมอร์ลินสูดหายใจเข้าลึก ๆ และทำให้จิตใจสงบลง จากนั้นเขาได้เริ่มต้นในการจำลองโครงสร้างเวทมนต์คาถารูปปั้นผู้พิทักษ์

...

“ฮิวเซียสแน่ใจจริง ๆ ใช่มั้ยว่าป้อมอเวจีเจอคนจากออสมูจริงๆ” พ่อมดลีโอที่สวมหมวกทรงกลมสูงสีดำถามด้วยน้ำเสียงสงบ

ตอนนี้พ่อมดลีโอ พ่อมดฮิวเซียสและนักเวทย์ระดับหกขึ้นไปจากดินแดนมนต์ดำได้รวมตัวกัน พวกเขากำลังซ่อนตัวอยู่ในป่าขณะมองดูปราสาทโบราณที่อยู่เบื้องหน้าพวกเขา

พ่อมดฮิวเซียสหรี่ตาเล็กน้อย เขากำลังจ้องมองไปทางปราสาทและตอบเบา ๆ ว่า “ข้าได้ทราบข่าวมาจากหอคอยอเวจีมาว่า พวกออสมูได้แบ่งกองกำลังเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งอยู่ในปราสาทแห่งนี้ ส่วนมันจะเป็นเรื่องจิรงหรือไม่นั่นเราต้องรอให้หอคอยอเจวีมาถึงและถามพวกเขา”

*ฟิ้ววว*

ทันทีที่เขาพูดจบ เกิดลมกรรโชกแรงพัดเข้ามาในป่า จากนั้นป่าได้มืดมิดไร้แสงทันที

“ฮิฮิ นานแล้วนะฮิวเซียสที่เราไม่ได้เจอกัน”

เสียงอันแหบแห้งได้ดังขึ้นมาจาป่าอันมืดมิด ทันใดนั้นก็มีนักเวทย์ชุดดำจำนวนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา

พวกนักเวทย์จากดินแดนมนต์ดำต่างตกใจ พวกเขาไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวใด ๆ เลย ราวกับว่าพวกนักเวทย์จากหอคอยอเวจีปรากฏตัวขึ้นจากอากาศ

อย่างไรก็ตามพ่อมดฮิวเซียสได้คาดการณ์ไว้แล้ว เขาเหลือบมองกลุ่มนักเวทย์ที่อยู่เบื้องหน้าและยิ้มออกมา

“ใช่แล้ว พ่อมดกริซโล ครั้งสุดท้ายที่เราพบกันก็คือเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน”

ตอนนี้เหล่านักเวทย์ของหอคอยอเวจีได้มาถึงที่แล้วโดยการนำของพ่อมดกริซโล นักเวทย์ระดับเจ็ด

“มีคนของออสมูอยู่ที่นั่นหรือเปล่า” พ่อมดลีโอถามด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา

พ่อมดกริซโลเหลือบมองมาที่ลีโอด้วยสายตาที่ซับซ้อนและพูดว่า “ท่านคือพ่อมดลีโอสินะ ท่านได้พัฒนาดวงตาแห่งความมืดได้อย่างสมบูรณ์ แม้แต่นักเวทย์ที่เชี่ยวชาญเวทมนต์แห่งความมืดของหอคอยอเจวียังไม่สามารถทำได้อย่างท่านเลย ถ้าหากไม่เกิดการปะทะกับพวกออสมูล่ะก็ ข้าคงไม่มีโอกาสได้เห็นพลังของดวงตาแห่งความมืดในตำนาน”

พ่อมดกริซโลเป็นนักเวทย์จากหอคอยมนต์ดำซึ่งเป็นองค์กรที่เชี่ยวชาญคาถาธาตุมืดอย่างไรก็ตามไม่มีใครสามารถพัฒนาดวงตาแห่งความมืดได้เลยดังนั้นกริซโลจึงสนใจดวงตาแห่งความมืดของพ่อมดลีโออย่างมาก

ดวงตาแนวตั้งสีโลหิตได้ส่องแสงจาง ๆ ขณะมองดูกริซโล ลีโอตอบกลับไปอย่างเย็นชาว่า “รอจนกว่าข้าจะฆ่าพวกออสมู ถึงตอนนั้นพ่อมดกริซโลคงจะได้เห็นด้วยตาตัวเอง” ดูเหมือนลีโอจะไม่ค่อยเกรงกลัวกริซโลซึ่งเป็นนักเวทย์ระดับเจ็ดเท่าไหร่นัก

“หยุดนอกเรื่องได้แล้วกริซโล ตอนนี้เรามีเรื่องพวกออสมูให้จัดการ ท่านคงไม่มีทางปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ใช่มั้ย” ฮิวเซียสกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ฮึ่ม!! พวกออสมู!” เมื่อกล่าวถึงออสมู สีหน้าของกริซโลเต็มไปด้วยความเครียดแค้น

“พวกเราได้รับข้อมูลที่น่าเชื่อถือมาว่า ออสมูได้แบ่งกองกำลังเป็นสองส่วนซึ่งหนึ่งในนั้นอยู่ตรงปราสาทเบื้องหน้าของพวกเรา โดยพวกเราป้อมอเวจีกับดินแดนมนต์ดำจะจัดการกลุ่มนี้ก่อน ส่วนกลุ่มที่เหลือจะเป็นหน้าที่ของเมืองแห่งอัคคีกับแคว้นแห่งธุลี” กริซโลกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“งั้นก็ไปฆ่าพวกมันกันเลย” ใบหน้าของพ่อมดลีโอเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง

ในขณะเดียวกันพ่อมดฮิวเซียสที่อยู่ด้านหลังของพ่อมดลีโอ เขาได้ส่ายหัวเบา ๆ และพึมพำว่า “ข้าหวังว่าสิ่งที่นี้จะลดทอนความเกลียดชังในใจของท่านได้นะ...”

แสงอาทิตย์ค่อย ๆ ทอดตัวลง ความมืดเข้ามาแทนที่ ปราสาทเงียบสงบไม่มียามออกมาลาดตระเวนถายนอก ที่นี่ดูเปลี่ยวมากราวกับปราสาทร่างเลย

*ปัง*

เกิดเสียงดังขึ้นตรงประตูเหล็กที่ขึ้นสนิม มันถูกลูกไฟกระแทกใส่ ประตูได้เปิดออก พ่อมดลีโอเดินไปข้างหน้า ดวงตาแนวตั้งของเขาเปิดกว้างพ้อมกับแสงสีแดงที่ส่องประกายในความมืดมิด ช่างเป็นภาพที่น่ากลัวอย่างมาก

ลีโอตรงไปที่ปราสาทโดยไม่สนใจรอบข้าง เขาเงยหน้าขึ้นจากนั้นพลังธาตุลมได้ก่อตัวรอบตัวเขา จากนั้นมันได้พาเขาบินขึ้นไปยังชั้นบนปราสาท

โดยปกติคาถาธาตุลมที่มีความสามารถในการบิน มันจะต้องเป็นคาถาระดับสี่ขึ้นไป พ่อมดลีโอเป็นนักเวทสี่ธาตุมีความธาตุไฟ ลม ดินและมืด

โดยคาถาธาตุมืดของเขามีพลังที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่เขาจะเชี่ยวชาญคาถาธาตุมืดและสามารถพัฒนาดวงตาแห่งความมืดได้โดยที่นักเวทย์จากหอคอยอเวจีไม่สามารถทำได้

เมื่อพ่อมดลีโอนำเข้าไปแล้ว พวกนัเวทย์จากดินแดนมนต์ดำและหออเวจีได้บินตามเขาไป

ส่วนนักเวทย์ที่ไม่มีคาถาธาตุลม พวกเขาอาศัยอุปกรณ์เวทมนต์บินตามพวกเขาไป

เหล่านักเวทย์ที่ตามหลังพ่อมดลีโอ พวกเขามีสีหน้าที่ตึงเครียดเนื่องจากพวกออสมูเป็นนักเวทย์อัจฉริยะเกือบทุกคน ดังนั้นการต่อสู้กับพวกออสมูไม่ง่ายอย่างแน่นอน

*หวู่ม!!*

ทันใดนั้น แสงสีดำได้ยิงตรงไปที่พ่อมดลีโอแบบไร้เสียง

ดวงตาสีแดงบนหน้าผากของลีโอได้ส่องแดงออกมา ขณะเดียวกันเขาได้โบกมือร่ายคาถาธาตุดินออกมา ทำให้การโจมตีจากแสงสีดำไม่มีผลอะไรกับเขาเลย

“วังวนแห่งความมืด”

เสียงดังคมชันมาจากข้างในปราสาท นักเวทย์ด้านในได้เสกคาถาออกมา กระแสน้ำขนาดใหญ่ที่กำลังสาดเข้ามาหมายที่จะกลืนกินพ่อมดลีโอ

วังวนแห่งความมืดเป็น คาถาระดับสาม มันมีพลังโจมตีที่น่าเหลือเชื่อ ว่ากันว่ามันสามารถดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างได้

“จงทำลาย ดวงตาแห่งความมืด”

พ่อมดลีโอปลดปล่อยพลังของเขาออกมาอย่างไร้อารมณ์ แสงสีแดงเลือดได้พุ่งจากดวงตาแห่งความืด ในช่วงพริบตากระแสน้ำวนขนาดมหึมาได้สลายหายไปในพริบตา ค่ำคืนอันสงบสุขกลับมาอีกครั้ง

แม้ว่าภายในปราสาทจะมืดสนิทแต่ด้วยพลังจิตเขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เขาสัมผัสได้ถึงนักเวทย์สงคน คนหนึ่งเป็นนักเวทย์ระดับสาม ส่วนอีกคนเป็นนักเวทย์ระดับสี่

“หื้ม ดวงใจแห่งความมืด เจ้าคืออัจฉริยะของหอคอยอเวจี รามาสสินะ” พ่อมดลีโอถามด้วยน้ำเสียงอันสงบ เขาพอจะรู้มาว่าทางหอคอยอวเจีก็สูญเสียครั้งใหญ่เช่นเดียวกัน อัจฉริยะที่มีดวงใจแห่งความมืดได้ถูกล่อลวงเข้าร่วมกับออสมู

ทั้งดวงใจแห่งความมืดกับดวงตาแห่งความมืดต่างเป็นอุปกรณ์เวทมนต์อันทรงพลังและแปลกประหลาด พวกมันเกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุของคาถาธาตุมืดในตำนาน พวกมันไม่ใช่คาถาแต่เป็นพลังที่น่าสะพรึงที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกอุปกรณ์เวทมนต์ทั่ว ๆ ไป

พลังดังกล่าวเรียกว่าพลังปีศาจแพนโดร่า มันมีความสามารถของปีศาจและไม่ได้เป็นของมนุษย์

ในปราสาท นักเวทย์ระดับสามกับกำลังรวบรวมพลังเวทย์อยู่ เขาคือรามาส ส่วนนักเวทย์อีกคนเป็นนักเวทย์ระดับสี่

แม้ว่าพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับพ่อมดระดับหกแต่เขาไม่ได้แสดงความกลัวออกมาเลยแม้แต่น้อย

“ถูกต้อง!! ฉันเองรามาสที่ฉันเข้าร่วมกับออสมูก็เพื่อตามหาความแข็งแกร่ง นักเวทย์ธรรมดาอย่างท่านคงไม่เข้าใจถึงความทะเยอทะยานของฉันหรอก”

“ใช่แล้ว พวกเราทุกคนล้วนเป็นอัจฉริยะ รามาสเมื่อคุณกลับไปที่ฐานของออสมูของพวกเรา คุณจะแข็งแกร่งพอ ๆ กับฉัน พวกนักเวทย์ระดับหก มันจะมีพลังเทียบเคียงกับพวกเราได้ยังไง”

*หวู่ม!!*

พลังจิตของลีโอที่ปิดซ่อนไว้ได้เปิดเผยออกมาทันที เขาหันไปถามรามาสด้วยเสียงต่ำว่า “เจ้าเป็นพวกออสมูงั้นเหรอ?”

“ถูกต้อง ฉันมาจากออสมูและอยู่ที่นั่นมาสามปีแล้ว ฉันอยู่ที่นั่นมานานจึงรู้ว่าทุกคนที่นั่นแข็งแกร่งแต่ไหน นักเวทย์ธรรมดาอย่างท่านไม่มีทางเข้าใจว่าอัจฉริยะที่แท้จริง รามาสดูเขาสิ นักเวทย์ระดับหกคนนั้นช่างอ่อนแอจริง ๆ!”

จากนั้นความผันผวนที่รุนแรงได้ปรากฏรอบตัวนักเวทย์ระดับสี่ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ร่ายคาถาใด ๆ แต่ทำให้คนที่อยู่รอบข้างรู้สึกกดดันอย่างรุนแรง

มีข่าวลือว่าเหล่านักเวทย์ของออสมู มีพลังที่แข็งแกร่งสามารถต่อสู้โดยไม่คำนึงระดับ แม้แต่นักเวทย์ระดับสี่ก็สามารถสู้กับนักเวทย์ธรรมดาระดับไหนก็ได้

“นั่นสินะ พวกนักเวทย์อัจฉริยะจากออสมู ถ้าอย่างนั้น...ก็ตายซะ” เสียงของพ่อมดลีโอฟังดูสงบมาก ในขณะเดียวกันเขาได้เปล่งออร่าที่เยือกเย็นออกมา

“จงหายไป ดวงตาแห่งความมืด!!”

ดวงตาแห่งความมืดยิงแสงสีแดงออกไปทันที ลำแสงยิงตรงไปใส่นักเวทย์ระดับสี่กับรามาสเข้าเต็ม ๆ

นักเวทย์ระดับจ้องมองเบื้องหน้าด้วยสายตาที่ไม่เหลือเชื่อ

หลังจากนั้นไม่นาน เหล่านักเวทย์จากดินแดนมนต์ดำและหอคอยอเวจีได้มาถึงที่ที่พ่อมดลีโออยู่ เมื่อพวกเขามาถึงพวกเขาพบเพียงศพสองศพที่นอนกองอยู่บนพื้นเท่านั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด