ตอนที่แล้ว[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 119 คืนนี้ต้องหนีให้ได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 121 ย่องออกมาพร้อมความระทึก

[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 120 ผ่าทางตัน!


ตอนที่ 120 ผ่าทางตัน!

ใกล้กับหมู่บ้านหนานหยวนไลฟ์

ฉินหยู่ต่อโทรศัพท์ได้แล้วเขารีบถามว่า “ลุงหลี่ ฉันยังติดต่อคนนั้นไม่ได้ มีอะไรผิดปกติหรือเปล่าครับ?”

“ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าสถานการณ์เฉพาะที่นั่นเป็นยังไง และฉันไม่ได้เจอเขาโดยตรงเหมือนกัน” ผู้กำกับหลี่สูบบุหรี่และตอบอย่างกังวล “เอาล่ะ พวกนายต้องหาที่ซ่อนตัวก่อนและรอเขาติดต่อมา เพื่อนที่ฉันติดต่อให้จะไม่ลูกเล่นกับฉันแน่ ถึงแม้เขาจะออกไปไม่ได้แต่ก็ต้องโทรกลับได้แน่นอน”

“ครับ” แม้ว่าฉินหยู่จะร้อนใจจนนั่งไม่ติดแล้ว แต่เขาไม่สามารถบังคับให้ผู้กำกับหลี่ทำอะไรได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงพยักหน้าและเตือนสติเรื่องสถานะของพวกเขา “แต่เราอยู่ข้างนอก และเราอยู่ใกล้กับที่เรายิงกันเมื่อกี้มาก คงอยู่แถวนี้ได้ไม่นาน จนกว่าจะเขาจะติดต่อมา”

“ฉันเข้าใจ”

“เอาล่ะ เรารอกันก่อนแล้วกันครับ”

ทั้งคู่วางสายไปอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก

หย่งตงก้าวลงมาจากในรถ หน้าตาเคร่งเครียด ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “ฉันจะไปได้เมื่อไหร่?”

“มีบางอย่างผิดปกติกับขนส่งของเรา” ฉินหยู่หันกลับมาตอบ “กำลังรอสายเขาอยู่”

“ฉิบหายเอ๊ย!” หย่งตงหันไปด่าสาปแช่งและคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว “พวกนายวางแผนสู้กับมันซะดิบดี แต่ดันไม่ได้คิดหาทางหนีทีไล่ให้เรียบร้อย พวกนายกำลังเล่นอะไรอยู่! ฉันบอกไปแล้วว่า เจ้าอ้วนฉิงมันมีอำนาจมากในท้องถิ่น ถ้าออกไปคืนนี้ไม่ได้ ก็ไม่ได้ออกไปในอนาคต!”

เมื่อแมวแก่ได้ยินอย่างนี้ เขาก็ระเบิดทันทีด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างมาก “คุณโทษใคร? คุณรู้ไหมว่าคุณอยู่ในสถานะอะไรในตอนนี้?”

หย่งตงมองดูแมวแก่อย่างเย็นชา เขากำหมัดแน่นแล้วพูดต่อ “เจ้าหนู ให้ฉันบอกนายว่า…”

“พอได้แล้ว!”

ฉินหยู่ขัดจังหวะทั้งสองอย่างไม่อดทน และหันไปพูดกับหย่งตง “ให้ฉันบอกคุณตรงๆ นะ เราไม่จำเป็นต้องให้คุณบอกเราว่าจะออกไปยังไง คุณเข้าใจไหม?”

หย่งตงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและหันหลังเดินกลับขึ้นไปในรถพร้อมกับเพื่อนทั้งสองคนของเขา

ฉินหยู่ แมวแก่ และลุงหม่ายังพูดคุยกันอยู่ที่ริมถนน

“ติดต่อคนที่ส่งเรากลับไม่ได้ เราจะทำยังไงกันดี?” แมวแก่ถาม

ลุงหม่าคิดอยู่ครู่ใหญ่แล้วจึงพูดขึ้นมาว่า “ที่แน่ๆ เราจะอยู่แถวนี้ได้ไม่นาน และรถของพวกเรามันใหญ่เกินไป แม้ในที่สลัวก็ยังมองเห็นได้จาก 800 เมตรเลยทีเดียว”

“ใช่” ฉินหยู่พยักหน้าเห็นด้วย “และที่สำคัญที่สุดคือตอนนี้เราไม่แน่ใจว่าแล้วว่าใครจะพาเราออกไป และมาเมื่อไหร่?”

ผู้เฒ่าหม่าเผชิญคลื่นลมแรงและมรสุมชีวิตมายาวนาน ตอนนี้เขาจึงไม่ตื่นตระหนกเกินไป เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วสั่ง “รถพวกเราจะทิ้งไว้แถวนี้ เราอยู่ห่างจากหมู่บ้านหนานหยวนไลฟ์เพียงเล็กน้อย ถ้าอีกฝ่ายไม่ตอบกลับภายในสามชั่วโมงเราจะเข้าไปในเมือง”

“ถ้าเราเข้าไปในเมือง นั่นไม่ใช่วิ่งเข้าไปหาความตายเหรอ?” แมวแก่ถามเบาๆ “หยวนหัวล้มเหลวในการจัดการเรื่องนี้ เจ้าอ้วนฉิงไม่ได้ลูกชายคนเล็กของเขากลับไป และเสียงปืนดังขึ้นเป็นเวลานาน ตอนนี้ในเขตเมืองก็ต้องเข้มงวดขึ้นมาก ตราบใดที่เรากลับไป เราก็จะกลับออกมาลำบากมากแน่ๆ แถมไม่มีที่ซ่อนตัวด้วย”

“ฉันเห็นด้วยกับแผนของลุงหม่า เราต้องกลับเข้าเมือง” ฉินหยู่พ่นควันบุหรี่ไฟฟ้าแล้วเงยหน้าขึ้นพูด “ไม่อย่างนั้นเราจะซ่อนตัวในที่ทุรกันดารแบบนี้ตอนฟ้าสว่างได้ยังไง”

“แต่เราจะกลับไปที่ไหนในเมืองได้ล่ะ? พวกเรามีกันหลายคนอยู่นะ”

“กลับไปที่แคมป์ฝึกทหารเก่า” ผู้เฒ่าหม่าพูดอย่างสงบ “ไม่มีใครคิดว่าเราจะกลับไปที่นั่น รวมทั้งเฒ่าหลี่และจ่าที่จัดหาให้เราด้วย”

แมวแก่อึ้งไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“แผนนี้น่าจะได้ผล” ฉินหยู่พยักหน้า

“ทิ้งรถซะ!” ผู้เฒ่าหม่าตะโกนสั่งทุกคน “อย่าเผา ผลักมันลงไปในลานหิมะแล้วกลบมันไว้”

หลังพูดจบ ทั้งสามก็หันหลังกลับและวิ่งไปที่รถทันที

……

สำนักงานใหญ่บริษัทหลงซิ่งเภสัชกรรม

หยวนหัวรีบเข้ามาในอาคารด้วยท่าทางอับอายขายหน้ามุ่งตรงไปที่ลิฟต์

“คุณหยวน รอสักครู่ครับ” พนักงานหนุ่มล่ำสันที่แผนกต้อนรับลุกขึ้นเดินเข้ามาหาทันที เขายื่นมือออกไปเพื่อหยุดหยวนหัวพร้อมบอก “คุณฉิงไม่อยู่ที่นี่”

“แค่เรียกเขามาหาฉัน แล้วให้ฉันพูดสักสองสามคำแค่นั้น” หยวนหัวคว้าแขนพนักงานหนุ่มล่ำสัน “ช่วยฉันหน่อย น้องชาย”

“ขออภัยคุณหยวน ฉันติดต่อกับคุณฉิงไม่ได้ตอนนี้” ชายหนุ่มส่ายหัว

“ถ้าอย่างนั้นช่วยฉันตามหาลูกชายคนที่สองของคุณฉิง ฉิงจื่อหลิน”

“เขาก็ไม่อยู่เหมือนกันครับ”

“ปีเตอร์อยู่ไหน?”

“...!” ชายหนุ่มยิ้ม จ้องมองหยวนหัวแล้วตอบว่า “คุณหยวน คุณฉิงอยากให้คุณกลับไปที่ซงเจียงก่อน”

หยวนหัวตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“หมายความว่าไง อยากฆ่าลาเมื่อขนของเสร็จงั้นเหรอ?” ทันใดนั้นเสียงชายหัวโล้นก็ตะโกนมาจากด้านหลังหยวนหัว “เราทำพลาดเพียงครั้งเดียว ประโยชน์ที่เคยทำให้คุณเป็นร้อยครั้งไร้ค่าเลยเหรอ? คุณลืมไปแล้วเหรอไง ว่าใครแม่งช่วยเปิดตลาดซงเจียงให้หลงซิ่ง หา?”

พนักงานหนุ่มมองไปที่ชายหัวโล้นแต่ยังคงยิ้มและตอบอย่างสุภาพ “ท่านครับ ฉันไม่เข้าใจที่ท่านพูด ฉันอธิบายได้แค่สิ่งที่คุณฉิงบอกฉันไว้เท่านั้น”

หยวนหัวกัดฟัน ยกมือขึ้นเป็นสัญญาณหยุดชายหัวโล้นแล้วตอบว่า “ฉันขอโทษนะน้องชาย”

“ไม่เป็นไรครับ”

ไม่กี่นาทีต่อมา บนขั้นบันไดทางเข้าหลักของอาคารหลงซิ่ง ชายหัวโล้นก็กัดฟันพูดว่า “พี่หยวน เจ้าอ้วนฉิงต้องการจะเตะคุณออกไปชัดๆ”

“นายไปจอดรถให้เรียบร้อยซะ คืนนี้ฉันจะไม่ไปไหน จะรอเขาอยู่ที่นี่” หยวนหัวสั่งด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“ฉันจะรอกับพี่ที่นี่ด้วย”

“ไม่จำเป็น ฉันต้องรอเขาอยู่ที่นี่” หยวนหัวโบกมือ

ในเวลาเดียวกัน

ที่ลานหน้าตึกกองทหารรักษาการณ์ระดับสูง พี่เบิ้มฉิงเดินออกจากห้องด้วยรอยยิ้ม และจับมือกับชายวัยกลางคนที่เดินออกมาส่งเข้าหน้าตึกแล้วพูดว่า “ฉันขอโทษด้วยที่ต้องรบกวนคุณเล็กน้อย”

“ไม่ต้องห่วง ฉันจะจัดการให้ทันที”

“ตกลง” พี่เบิ้มฉิงตบไหล่อีกฝ่ายเบาๆ แล้วตอบว่า “อากาศมันหนาว อย่าปล่อยให้มันรอดไปได้”

……

เป็นเวลาประมาณตีสองแล้ว อุณหภูมิภายนอกลดลงจนยากที่คนธรรมดาจะอยู่ข้างนอกบ้านได้

หย่งตงขดตัวอยู่ในเสื้อผ้าและนั่งยองๆ ในเนินหิมะ เขาเงยหน้าขึ้นมองฉินหยู่และพูดอย่างสั่นเทา “ฉัน...ฉันมีคำแนะนำอีกอย่างหนึ่งให้นาย”

“อะไร?” ฉินหยู่หันกลับมาถาม

“หากเขาไม่ติดต่อมาแน่ๆ เราจะฝ่าฟันคืนนี้ไปเอง” หย่งตงพูดด้วยใบหน้าซีดเซียว “ไปทางรั้วเหล็กแล้วผ่านเขตรังสีนิวเคลียร์”

“คุณบ้าไปแล้วเหรอ?” แมวแก่ขมวดคิ้วและพูดต่อ “ถ้าคุณกล้าตัดผ่านรั้วเหล็กเข้าไปแล้วหน่วยลาดตระเวนมาเจอเข้า คุณจะถูกยิงตายทันที ที่แย่อีกอย่างคือไม่มีอะไรจะกินด้วย มันจะต่างกันตรงไหนระหว่างการเข้าไปในเขตรังสีนิวเคลียร์กับการฆ่าตัวตาย?!”

“ยังมีโอกาสรอดหากเราไปทางนั้น” หย่งตงยืนกรานครั้งแล้วครั้งเล่า “แต่คืนนี้ถ้าเราออกไปจากที่นี่ไม่ได้ เราจะต้องตายอย่างสิ้นหวังในเฟิ่งเป่ยแน่ๆ”

ทุกคนเงียบกริบ เพราะรู้สึกเหมือนกับว่าหย่งตงนั้นเข้าใจสถานการณ์มากกว่าใคร

“พวกนายไม่เข้าใจอำนาจของพี่เบิ้มฉิงที่นี่เลย” หย่งตงพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เขาแค่เอ่ยปากสักคำเท่านั้นคนในกองทหารรักษาการณ์กับกรมตำรวจก็จะต้องเห็นแก่หน้าเขาทันที และเมืองหลวงจะถูกลาดตระเวนตรวจตราอย่างเข้มงวด คุณจะไม่สามารถหลบหนีออกไปข้างนอกได้ หมายความว่าคุณแค่รอความตายอย่างเดียว”

เมื่อกวนฉีได้ยินเช่นนี้ เขาก็มองดูฉินหยู่ด้วยสายตาตื่นตระหนกแล้วถามว่า “หัวหน้าทีม นายคิดว่าเราควรทำยังไงดี?”

“ฉันอยากจะกินข้าวในเฟิ่งเป่ยแล้วให้มันจับฉันยิงให้ตายรู้แล้วรู้รอดไป ดีกว่าไปลุยผ่านรังสีนิวเคลียร์”

แมวแก่กัดฟันประชดอย่างไม่สบอารมณ์ “แม่ง มันมากเกินไปแล้ว”

“ฉันเสนอให้อยู่ต่อ” ผู้เฒ่าหม่าสะท้อนความคิดออกมาด้วยเสียงต่ำ

“ถ้าคุณอยู่ คุณจะต้องตาย” หย่งตงเน้นย้ำด้วยเสียงคำรามสั่นไปด้วยความหนาว

“คุณเดินออกไปนี่ไม่ตายหรอกหรือ?”

“……!”

“กริ๊งง”

ทันใดนั้น โทรศัพท์ก็ดังขึ้น ฉินหยู่ตะโกนตวาดใส่ทุกคน

“หยุดเถียงกัน! มีสายเข้า”

……………………………………………………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด