ตอนที่แล้ว278 - บีบบังคับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป280 - ต่อรอง

279 - เงื่อนไข


1590 - เงื่อนไข

“เราเปลี่ยนเงื่อนไขได้หรือไม่? หีบไม้ไม่สามารถส่งมอบได้อย่างแน่นอน” จินไท่จุนพูด

คำพูดเหล่านี้ทำให้เหล่าสหายของสือฮ่าวเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว สิ่งนี้ชัดเจนมากว่าหีบไม้ไม่สามารถส่งมอบ แต่ฮวงสามารถส่งมอบไปได้?

“สหายเต๋า…” ผู้สูงสุดคนหนึ่งกล่าวตักเตือนจินไท่จุน

“สหายเต๋าข้ารู้ดีว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับ แต่หากเราสามารถยืดระยะเวลาการโจมตีของศัตรูออกไปบางทีอาจมีสิ่งเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นก็ได้!” จินไท่จุนกล่าว

“เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร!” ผู้สูงสุดอีกคนกล่าวขึ้นด้วยความแปลกใจ

ในอาณาจักรบ่มเพาะของพวกเขาย่อมเต็มไปด้วยความสงบไม่แสดงสีหน้าออกมา แต่ครั้งนี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาตกตะลึง

เป็นเพราะข่าวของจินไท่จุนนั้นน่าตกใจเกินไป มันสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ของเมืองจักรพรรดิได้? ตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้ว่าเมืองจักรพรรดิกำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันเลวร้าย?

การที่จักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญจะข้ามสวรรค์อเวจีมาเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น เมื่อพวกเขามาถึงใครจะหยุดพวกเขาได้?

ตอนนี้จินไทจุนบอกว่าบางทีสถานการณ์อาจพลิกกลับ

สิ่งนี้ทำให้ใบหน้าของทุกคนบนกำแพงเมืองเปลี่ยนไปอย่างมาก ในหัวใจของพวกเขามีความกระวนกระวายและเต็มไปด้วยความคาดหวัง

“ขอคำชี้แนะ!” ผู้สูงสุดคนหนึ่งกล่าวออกมา หากเรื่องนี้สามารถทำให้สถานการณ์ของเมืองจักรพรรดิเปลี่ยนแปลงได้เขาก็พร้อมที่จะพิจารณา

“ตราบใดที่เราอดทนต่อไปได้สักสองสามร้อยปีอันตรายจากเก้าสวรรค์สิบพิภพก็จะสลายหายไปอย่างแน่นอน ตอนนี้สิ่งที่เราต้องการคือเวลา!” จินไทจุนกล่าว

“อะไรที่ทำให้เจ้าคิดแบบนั้น” ผู้สูงสุดจากแท่นบูชาบรรพบุรุษถามด้วยความแปลกใจ

เป็นเพราะสิ่งนี้จะส่งผลกระทบมากเกินไป หากพวกเขาสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ได้ทุกคนก็สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไป และเมืองจักรพรรดิก็จะยังคงอยู่ นี่คือสิ่งที่หลายคนอยากเห็น

“มีกลุ่มบุคคลที่ทรงพลังสามารถต่อต้านพวกเขาได้!” จินไทจุนกล่าว

"พวกเขาเป็นใคร? พวกเขาอยู่ที่ไหน? ยังมีคนประเภทนี้เหลืออยู่อีกหรือ” ผู้สูงสุดอีกคนถามด้วยความร้อนใจ

ใบหน้าของเขาเหี่ยวย่นเส้นผมขาวโพลนไปทั้งศีรษะ ตอนนี้แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็ยังสะท้าน

“พวกเขาเป็นคนจากพื้นที่ปิดผนึกหรือ? พวกเขากำลังจะออกมา?” หลายคนคิดถึงพื้นที่ปิดผนึกในเก้าสวรรค์ทันที

จินไทจุนส่ายหัว รอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นบนมุมปากของนาง

“พวกท่านลืมไปแล้วเหรอ? ก่อนหน้านี้มีสิ่งมีชีวิตกลุ่มหนึ่งที่บังคับกองทัพใหญ่จากต่างมิติให้ถอนตัวออกไปจากเก้าสวรรค์ สิบพิภพ!”

“มันคือ…พวกเขา!” หลายคนเข้าใจแล้วพวกเขาก็ตกตะลึงอย่างไม่น่าเชื่อ

เป็นเพราะแม้จะผ่านมาหลายปีแล้วพวกเขาก็ยังคงค้นหาร่องรอยของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้และต้องการเชิญให้พวกเขาออกมาปกป้องชายแดนรกร้างและเก้าสวรรค์สิบพิภพ

น่าเสียดายที่หลังจากหลายปีผ่านไปพวกเขาก็ไม่เคยพบร่องรอยของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เลย

บางคนสงสัยว่าพวกเขาอาจไม่ได้อยู่มิติแห่งนี้แต่เป็นที่อื่น!

“เจ้าพบพวกเขาได้อย่างไร” มีคนถามออกมา

ตอนนี้แม้แต่เฉาอวี่เซิ่งและคนอื่นๆก็ยังตั้งใจฟังอย่างระมัดระวัง เพราะว่าเรื่องนี้ส่งผลกระทบมากเกินไป

โดยเฉพาะตู๋กูหยวน เขาเป็นลูกหลานของผู้พิทักษ์โบราณ เขาสงสัยว่าสิ่งมีชีวิตที่จินไท่จุนกล่าวถึงอาจเป็นบรรพบุรุษของเขา

“ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยปรากฏตัวในโลกนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ ข้าได้ติดตามร่องรอยของพวกเขามานานหลายปีแล้ว หลังจากการค้นหาไม่รู้จบก็มีเบาะแสบางอย่าง” จินไท่จุนกล่าว

“เจ้าได้เชิญพวกเขามายังเมืองจักรพรรดิหรือไม่”

“อย่างน้อยในอีกหลายร้อยปีพวกเขาถึงจะข้ามมาได้” จินไท่จุนกล่าวอย่างใจเย็น

"ทำไม?" มีคนถามด้วยความสับสน

สถานการณ์กำลังเลวร้าย นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการที่สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นจะลงมือไม่ใช่หรือ? หากพวกเขาลงมือช้ากว่านี้อาจบางทีสิ่งมีชีวิตในเก้าสวรรค์คงตายไปหมดแล้ว

“เป็นเพราะสถานที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่ไม่ได้อยู่ในโลกใบนี้!” จินไท่จุนเปิดเผยข้อมูลที่ทำให้โลกสะเทือน

สถานที่แห่งนั้นไกลเกินกว่าจะข้ามมา

ทุกคนตะลึงงัน มันอยู่ไกลแค่ไหนถึงต้องใช้เวลาหลายร้อยปีกว่าจะมาถึง

“แล้วเจ้าไปเจอพวกเขาที่ไหน? ข้าไม่เชื่อว่าลูกหลานของเจ้าจะสามารถไปถึงสถานที่แห่งนั้นได้?” อาจารย์ของฉีหงกล่าวขึ้น

เขาเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเป็นธรรมดาที่เขาจะรู้เรื่องของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น

หลังจากที่พวกเขาขับไล่ศัตรูต่างมิติกลับไปแล้วพวกเขาก็ถอนตัวออกจากเก้าสวรรค์สิบพิภพ

เขาได้ตรวจสอบเรื่องนี้มาอย่างยาวนาน ถึงจะรู้สถานที่อยู่อาศัยของพวกเขาแต่เขาก็ไม่สามารถไปถึงที่นั่นได้

เมื่อเขาได้ยินว่าจินไท่จุนมีเบาะแสสำคัญเขาจึงเกิดความเคลือบแคลงสงสัยขึ้นมา

“ข้าได้พบกับลูกหลานของพวกเขาและได้ปรึกษาเรื่องนี้กันแล้ว นั่นคือเหตุผลที่เราต้องการเวลา” จินไท่จุนกล่าว

จากนั้นริมฝีปากของนางก็ขยับแต่ไม่มีเสียงออกมา นางสนทนากับสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดเท่านั้น

คนอื่นๆตกใจกันหมด นางไปพบพวกเขาจริงๆหรือ? หากนี่คือเรื่องจริงเก้าสวรรค์สิบพิภพก็มีความหวังแล้ว?

หลายคนดวงตาเป็นประกายพวกเขาอยากให้ถึงวันนั้นโดยเร็ว อย่างไรก็ตามมีความลับบางอย่างที่สามารถถูกล่วงรู้ในระดับผู้สูงสุดเท่านั้น

ใต้กำแพงเมืองจักรพรรดิสิ่งมีชีวิตจากต่างมิติพากันโห่ร้องเสียงดัง พวกเขาไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนกำแพงเมือง แต่พวกเขาก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ

“เจ้าเลือกทางไหนหมดเวลาแล้ว?”

“หีบไม้ส่งมอบไม่ได้อย่างแน่นอน” จินไท่จุนพูด เป็นเพราะหีบใบนี้มีความลับที่ยิ่งใหญ่ ไม่เช่นนั้นศัตรูจะไม่ยกกองทัพขนาดใหญ่มาถึงหน้าเมืองจักรพรรดิ์แห่งนี้

หากนางส่งมอบมันออกไปแน่นอนว่าย่อมกลายเป็นศัตรูของทุกคนในเมืองจักรพรรดิ

“หมายความว่าฮวงสามารถมอบให้เราได้”

ผู้สูงสุดภายในรถม้าสีดำกล่าวออกมา

คำพูดนี้ทำให้ใบหน้าของผู้คนบนกำแพงเมืองจักรพรรดิ์บิดเบี้ยว เรื่องนี้เป็นความอัปยศอดสูอย่างแท้จริง

“เราเป็นคนตรงไปตรงมาเสมอ จะพูดในสิ่งที่เราต้องการพูด เนื่องจากหีบไม้ไม่สามารถมอบออกมาได้แต่ฮวงสามารถมอบให้พวกเราได้ใช่หรือไม่?” ใครบางคนคำรามด้วยเสียงหัวเราะ

"บังอาจ!" บนกำแพงเมืองผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรปลดปล่อยตนเองบางคนตะโกนออกมาอย่างโกรธแค้น

ศัตรูต่างมิติกำลังเย้ยหยันและพยายามกดดันให้มอบฮวงออกไปทำให้พวกเขารู้สึกอัปยศอดสูอย่างยิ่ง

“หุบปากให้หมด!” ทันใดนั้นจินไท่จุนก็พูดขึ้นไม่ใช่กับสิ่งมีชีวิตต่างมิติ แต่เป็นการตำหนิผู้ฝึกฝนจากเมืองจักรพรรดิเอง

สิ่งนี้ทำให้ผู้คนมากมายเกิดความไม่พอใจ นางทำเช่นนี้แสดงว่าต้องการจะมอบฮวงออกไปให้ศัตรูจริงๆ? แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่านางได้ติดต่อกับกองกำลังลึกลับ แต่การส่งมอบฮวงออกไปเช่นนี้เป็นเรื่องยากที่คนจะยอมรับได้

“ผู้อาวุโสความตั้งใจของท่านคืออะไรกันแน่?…” มีคนถามอย่างไม่พอใจ

“ตอนนี้เราต้องการเวลา ตราบใดที่เราผ่านช่วงเวลานี้ไปได้กำลังเสริมจะมาถึง เมื่อถึงเวลานั้นจะไม่มีอะไรไม่ต้องกลัวอีกแล้ว!” จินไท่จุนกล่าวด้วยเสียงเคร่งเครียด

“นี่เป็นเรื่องยากมากสำหรับเราที่จะยอมรับ จะให้มอบคนของเราไปให้กับศัตรูเรื่องนี้ข้ายอมไม่ได้!” นักรบผู้ยิ่งใหญ่ที่นั่งอยู่บนสัตว์อสูรกลืนสวรรค์ตะโกนออกมา

“พวกเราก็ไม่ยอมรับ!” ผู้ยิ่งใหญ่ชราหลายคนก็แสดงตนออกมาด้วยเช่นกัน

“ไม่ใช่ว่าข้าต้องการทำเช่นนั้นแต่ข้าคำนึงถึงสถานการณ์ใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าทำก็เพื่อความสงบสุขของเก้าสวรรค์ การเสียสละเพียงเล็กน้อยจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” จินไท่จุนกล่าวอย่างเย็นชา

ทุกคนมองไปที่ฮวงพวกเขาเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจและโกรธแค้น นี่เป็นเรื่องที่น่าอับอายเกินไปพวกเขาไม่อาจยอมรับสิ่งนี้ได้

“สหายเต๋า…เรื่องนี้ทำไม่ได้อย่างเด็ดขาด” อาจารย์ของฉีหงกล่าวออกมา

1591 - ต่อรอง

หากพวกเขามอบให้สือฮ่าวให้ศัตรูจริงๆจะทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพพวกเขาสูญเสียไป

เด็กหนุ่มผู้นี้เพิ่งสร้างผลงานอันยิ่งใหญ่ให้กับเมืองจักรพรรดิหากเขาถูกผู้คนในเมืองจักรพรรดิขายทิ้ง แล้วต่อไปในภายหน้าจะมีใครยินยอมสู้ตายกับศัตรู

ผู้คนมากมายไม่อาจยอมรับเรื่องนี้แม้แต่สิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดก็ด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นในสายตาของพวกเขาการยกทัพมาครั้งนี้ของศัตรูก็เพื่อหวังหีบไม้ใบนี้ต่างหาก ในเมื่อพวกเขาตั้งใจที่จะไม่มอบมันให้กับศัตรูอยู่แล้วแล้วเหตุไฉนถึงจะต้องมอบตัวฮวงออกไป

อย่างไรก็ตามใครจะคาดคิดว่าคนที่อยู่ในรถศึกสีดำจะกล่าวในสิ่งที่พวกเขาจินตนาการไม่ถึง

“เราคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว หากพวกเจ้ามอบฮวงออกมา เราสามารถมอบช่วงเวลาแห่งความสงบสุขให้กับพวกเจ้าได้บ้าง”

ฮวงสำคัญถึงขนาดนี้เลยหรือ? ถึงขนาดว่าสิ่งมีชีวิตจากต่างมิติให้ความสำคัญกับเขาเทียบเท่ากับหีบไม้ใบนั้น

หลายคนรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ ศัตรูจะยอมให้ความรู้สึกเข้าครอบงำเหตุผลจริงๆหรือไม่น่าจะเป็นไปได้?

“เราจะได้สันติภาพกี่ปี?” หญิงชราข้างจินไท่จุนถาม

"สิบปี. เขาเป็นเพียงเด็กน้อยคนหนึ่งจะมีค่ามากมายเท่าใดกัน? เราเพียงต้องการนำเขามาเซ่นสรวงให้กับผู้ที่ตายไปแล้วเท่านั้น” มีคนตอบกลับมา

“น้อยเกินไป!” หญิงชราข้างๆจินไท่จุนกล่าว จากนั้นนางก็พูดว่า“ห้าร้อยปี!”

“ฮ่าฮ่า…” ด้านล่างกลุ่มคนคำรามด้วยเสียงหัวเราะบางคนแสดงสีหน้าดูถูก “ แค่เจ้าหนูคนหนึ่งพวกเจ้าถึงกับคิดจะแลกกับสันติภาพห้าร้อยปี นี่เป็นเรื่องที่น่าตลกจริงๆ?

ด้านล่างกองทัพใหญ่สีดำเข้มทอดยาวสุดสายตา สิ่งมีชีวิตจำนวนมากยังคงเคร่งเครียดไม่พูดอะไร มีเพียงผู้ที่มีสถานะสูงส่งเท่านั้นที่สามารถหัวเราะได้

ในขณะเดียวกันสิ่งนี้ยังพิสูจน์ให้เห็นถึงความเข้มงวดในการดูแลกองทัพของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี

บนกำแพงเมืองผู้คนมากมายต่างรู้สึกยินดีกับการปฏิเสธครั้งนี้

แน่นอนว่ามีบางคนที่เต็มไปด้วยความเสียใจ พวกเขาไม่สามารถแลกกับเส้นตายที่น่าพอใจกับชีวิตของฮวง?

“เราให้ได้ไม่กี่ปีเท่านั้น”

ผู้สูงสุดของตระกูลจักรพรรดิภายในรถศึกสีดำกล่าวออกมา

“ห้าร้อยปี” จินไท่จุนกล่าว

“เจ้ามีเจตนาอะไร? เจ้าคิดจะส่งสือฮ่าวออกไปจริงๆ? ทำไมเจ้าถึงไม่ส่งจินซานทายาทของเจ้าออกไปแทน? เจ้ายิ่งแก่ยิ่งไร้ยางอาย!” กระต่ายหยกจันทราระเบิดความโกรธออกมา

“ผู้อาวุโสท่านทำแบบนี้ไม่ได้” ชิงยี่ก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจ

“ใครเป็นคนมอบอำนาจให้เจ้าสั่งการที่นี่” เฉาอวี่เซิ่งร่ำร้อง

เป็นเพราะพวกเขาเล็งเห็นว่าหากสถานการณ์ดำเนินเช่นนี้ต่อไปย่อมมีการแลกเปลี่ยนเกิดขึ้นจริงๆ

มีบางอย่างอยู่เบื้องหลังสิ่งนี้! นั่นคือสาเหตุที่การแสดงออกของ เฉาอวี่เวิ่งเปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า เขานึกย้อนไปถึงคำพูดเหล่านั้นที่อาจารย์ของเขาเคยกล่าวออกมา

“พวกเจ้าทุกคนกล้ากล่าวดูหมิ่นข้าหรือ” จินไท่จุนกล่าวอย่างเย็นชา

ทันใดนั้นมีผู้สูงสุดคนหนึ่งเดินมาขวางทางของจินไท่จุนเพื่อไม่ให้ทำร้ายคนรุ่นหลังเหล่านี้

จินไท่จุนไม่ได้ดึงดันที่จะลงมืออีกต่อไป แต่พูดอย่างใจเย็นว่า “ถ้าเป็นลูกหลานของข้าเช่นจินซานหากชีวิตเขาสามารถแลกกับความสงบสุขของเมืองจักรพรรดิ์ได้ห้าร้อยปี แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงสิบปีข้าก็ไม่ลังเลเลย!”

“จินไท่จุนพูดได้ดี!”

“จินไท่จุนเป็นคนเสียสละเพื่อเมืองจักรพรรดิ ช่างเป็นการกระทำที่น่าชื่นชมจริงๆ!”

...

มีหลายคนพยายามยกย่องนาง

สิ่งนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากมีคนในเมืองจักรพรรดิ์มากเกินไปความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลจึงค่อนข้างซับซ้อน

มีคนมากมายที่ติดตามตระกูลจินและตระกูลหวัง และก็มีคนไม่น้อยที่ต้องการสันติภาพให้เกิดภายในเมืองแห่งนี้

“จินซานมานี่ ถ้าศัตรูต่างมิติต้องการตัวเจ้าเพื่อแลกกับสันติสุขของเมืองจักรพรรดิ์เจ้าจะยอมหรือไม่?!” จินไท่จุนถาม

“หากพวกเขาเสนอมาเช่นนั้นข้าจะยอมเดินทางไปด้วยตนเองแม้จะแลกมาด้วยเวลาเพียงสิบปีก็ตาม!” จินซานกล่าว

ผู้คนมากมายแสดงสีหน้าแปลกๆเมื่อเห็นพวกเขาแสดงละครออกมา แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยมองไปที่สือฮ่าว

“มารดาเจ้าเถอะ! จินซานสามารถเปรียบเทียบกับสือฮ่าวได้หรือ? แม้จะมีจินซานถึงร้อยคนก็ไม่สามารถแลกเปลี่ยนกับสือฮ่าวได้ พวกเจ้าพูดเหมือนทั้งสองคนอยู่ในระดับเดียวกัน!” เฉาอวี่เซิ่งเย้ยหยันออกมา

คำพูดเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้จินซานรู้สึกอับอายแม้แต่บุคคลระดับสูงของตระกูลจินก็พลอยรู้สึกอัปยศไปด้วย ใบหน้าของจินไท่จุนมืดคล้ำลงทันที

“พูดได้ดี!” มดเขาสวรรค์ตะโกนออกมาพร้อมกับปรบมือ

ฮ่อง!

ดวงตาของจินไท่จุนหมุนวนไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์สีทองพร้อมกับปลดปล่อยออกมาหมายจะสั่งสอนเฉาอวี่เวิ่ง

ผู้สูงสุดคนหนึ่งรีบขัดขวางพร้อมกับกล่าวว่า “นี่เป็นศิษย์เพียงคนเดียวของนักพรตผู้นั้น” เขาไม่ได้เอ่ยชื่อออกมาแต่ใบหน้าของผู้สูงสุดทุกคนเปลี่ยนไปในทันที

คำว่านักพรตคนนั้นมีอำนาจข่มขู่ที่รุนแรงมากจินไท่จุนได้แต่ชักมือกลับอย่างไม่เต็มใจ

สือฮ่าวไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่ต้นจนจบเพียงแค่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองจ้องไปที่ขอบฟ้าเพียงลำพังร่างของเขาโดดเดี่ยวเล็กน้อย

ทันใดนั้นที่ด้านล่างของเมืองจักรพรรดิ์ก็มีเสียงดังออกมาจากรถศึกสีดำ

“ตกลงห้าร้อยปีข้าเห็นด้วย”

ผู้คนบนกำแพงเมืองเต็มไปด้วยความตกตะลึง เขาตกลงจริงหรือ? เพียงแค่เด็กคนหนึ่งพวกเขาถึงกลับให้ความสำคัญถึงขนาดนี้?”

“ ที่ข้ายอมรับข้อตกลงนี้ก็เพราะข้ายกย่องเด็กผู้นี้อย่างแท้จริง เขาสังหารผู้คนจากฝั่งของข้าไปมากมายนับไม่ถ้วน

ในจำนวนนี้มีพรุ่งนี้ยิ่งใหญ่อาณาจักรปลดปล่อยตนเองเกือบสามร้อยคน? ถึงแม้เขาจะเป็นศัตรู แต่ก็เป็นศัตรูที่คู่ควรแก่การยกย่อง”

ผู้สูงสุดของตระกูลจักรพรรดิกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่มันสั่นสะท้านจิตใจของผู้คนในเมืองจักรพรรดิจนใบหน้าเปลี่ยนไป

“ เด็กน้อยเจ้าอย่าหวาดกลัวไปเลย จักรพรรดิของพวกเราชื่นชมในตัวของเจ้าอย่างยิ่ง

หากเจ้ายอมสวามิภักดิ์ด้วยความจริงใจองค์จักรพรรดิ์ได้ตรัสไว้ว่าจะส่งเสริมให้เจ้าเป็นราชาอมตะภายในเวลาหนึ่งพันปี”

ภายในรถศึกสีดำนั้นผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

“เป็นความจริงหรือ?” มีบางคนบนกำแพงเมืองที่อดไม่ได้ที่จะถามออกไป

“ เขาเป็นเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์มากที่สุดเท่าที่เราเคยพบมา ความสำเร็จของเขายิ่งใหญ่มากกว่าทายาทของตระกูลจักรพรรดิเสียอีก

องค์จักรพรรดิของเราได้กล่าวไว้ว่าถ้าเขายอมสวามิภักดิ์ด้วยจริงใจ เราจะอนุญาตให้เขาก่อตั้งตระกูลราชาขึ้นในพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาล

เพียงคนคนเดียวก็สามารถก่อตั้งตระกูลราชาซึ่งไม่จำเป็นต้องแสดงความเคารพต่อตระกูลจักรพรรดิ!” ผู้สูงสุดจากตระกูลจักรพรรดิกล่าวออกมาจากรถศึก

ทุกคนรู้สึกหวั่นไหว ไม่ทราบว่าสิ่งที่เขาพูดจะเป็นความจริงหรือไม่หรือเป็นเพียงแค่การสร้างความร้าวฉานให้เกิดในเมืองจักรพรรดิเท่านั้น?

ทุกคนมองไปที่สือฮ่าวทันทีรอให้เขาแสดงความคิดเห็น ว่าเขาจะตัดสินใจแบบไหน?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด