ตอนที่แล้ว269 - ไปเล่นเป็นเพื่อนเขาหน่อย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป271 - ร่วมกันค้นคว้า

270 - แท่นบูชาบรรพบุรุษ


1581 - แท่นบูชาบรรพบุรุษ

ที่ทางเข้าแท่นบูชาบรรพบุรุษมีกำแพงแตกที่มีภาพสลักหินโบราณตั้งตระหง่านอยู่ทุกแห่ง รวมทั้งซากจากยุคเซียนโบราณครั้งสุดท้ายถูกฝังอยู่ที่นี่มากมาย

แท่นบูชาบรรพบุรุษตั้งอยู่ที่ใจกลางของเมืองจักรพรรดิ์ซึ่งเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เก่าแก่ที่สุด ว่ากันว่าผู้สูงสุดของเมืองจักรพรรดิล้วนอยู่ที่นี่กันทั้งสิ้น

คนเหล่านี้ล้วนมีอายุมากกว่าเมิ่งเทียนเจิ้ง เซียนอมตะหวังและ จินไท่จุนเสียอีก

สือฮ่าวและคนอื่นๆเดินลงมาจากเส้นทางสีทอง

หมอกจางๆปกคลุมทุกสิ่งจากระยะไกล สถานที่แห่งนี้อยู่ในซากปรักหักพัง แต่ก็ยังคงหลงเหลือกลิ่นอายที่ลึกซึ้งราวกับเป็นประวัติศาสตร์ที่ยังมีชีวิตอยู่

แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะรกร้างแต่วันนี้ก็ค่อนข้างคึกคักเพราะมีผู้แข็งแกร่งมากมายนั่งอยู่บนพื้น

พวกเขาไม่ได้เข้าไปในแท่นบูชาบรรพบุรุษแต่นั่งอยู่บริเวณด้านนอกบนโขดหินยักษ์หรือซากปรักหักพังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานที่นี่

พวกเขาล้วนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงจากตระกูลต่างๆจำนวนมาก สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ได้รับข่าวแล้วว่าฮวงนำหีบไม้กลับมา

เรื่องนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับทุกคนจนพวกเขามารวมตัวกันอยู่ที่นี่ หากไม่ใช่ว่ามีผู้สูงสุดให้การปกป้องพวกเขาคงจะออกไปค้นหาสือฮ่าวแล้ว

ที่ด้านในของแท่นบูชาบรรพบุรุษมีชายชรานั่งอยู่ในนั้นหลายคนโดยไม่ขยับเขยื้อน แม้ว่ารัศมีพลังของพวกเขาจะถูกยับยั้งไว้พวกเขาจึงดูคล้ายกับก้อนหินแกะสลัก แต่ก็ยังให้ความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์จนผู้คนอยากจะคุกเข่าลง

ไม่ต้องบอกก็ทราบได้ว่าพวกเขาคือผู้สูงสุดที่คอยดูแลแท่นบูชาบรรพบุรุษ ตอนนี้พวกเขาตื่นขึ้นมาเพราะความสนใจในหีบไม้ใบนี้

จินไท่จุนเซียนอมตะหวังมาถึงแล้วเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครเทียบได้ในเมืองจักรพรรดิ์แห่งนี้

“รอที่นี่สักหน่อยข้าจะนำหีบไม้เข้าไปในพระราชวังโบราณ” หญิงวัยกลางคนยิ้มอย่างอ่อนโยนและพูดกับสือฮ่าวเตรียมที่จะรับหีบไม้ไป

“ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะส่งเส้นทางสีทองออกไปรับข้าเพื่อให้มายืนอยู่ที่นี่” สือฮ่าวกล่าว เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเลมุ่งตรงไปยังแท่นบูชาบรรพบุรุษ

“หญิงชราคนนี้คือใคร? เป็นคนของตระกูลจินอีกแล้ว! พวกเขาพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าต้องการหยุดสือฮ่าวจากการเข้าสู่แท่นบูชาบรรพบุรุษ พวกเขาประสงค์สิ่งใดกันแน่?” เฉาอวี่เซิ่งเย้ยหยันอย่างเย็นชา

บุคคลที่ทรงพลังที่สุดของเก้าสวรรค์รวมตัวกันที่นี่ ทั้งหมดเป็นผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลต่างๆ การที่สือฮ่าวสามารถมาที่นี่ได้หมายความว่าเขามีผลงานการรบมากมาย ตระกูลทั้งหมดต้องยกย่องความสำเร็จของเขา

มีใครบางคนที่ต้องการจะหยุดเขาในขั้นตอนสุดท้าย ไม่ปรารถนาให้เขาฉายแสงมากเกินไป

แน่นอนว่าตอนนี้หญิงวัยกลางคนนั้นเต็มไปด้วยความสุภาพอ่อนน้อมและดูจริงใจ แต่จริงๆแล้วความปรารถนาของนางเป็นที่ทราบได้

ตอนนี้ผู้สูงสุดของตระกูลต่างๆล้วนจ้องมองมาที่สือฮ่าวที่กำลังขี่สิงโตสีทองรูปร่างสูงตระหง่านและมีรัศมีองอาจกล้าหาญ

คนจำนวนมากที่ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองไปที่หีบไม้ในมือของเขา!

“นี่คือฮวง? นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้พบกับเขา อย่างที่คาดไว้เขาเป็นเด็กที่องอาจกล้าหาญจริงๆ!”

“เราเพิ่งได้รับรายงานว่าเขามาถึงขั้นกลางของอาณาจักรแยกตนเองแล้ว นี่เป็นเรื่องที่นึกไม่ถึงจริงๆเขาทำลายสถิติของยุคเซียนโบราณลงไปจนได้!”

ผู้คนมากมายอุทานด้วยความชื่นชม พวกเขาทั้งหมดมีความประทับใจที่ดีต่อสือฮ่าว

ในสายตาของพวกเขาสือฮ่าวมีความกล้าหาญที่จะต่อสู้กับกองทัพอันยิ่งใหญ่ของอีกฝ่าย และยังสามารถแย่งชิงหีบไม้นี้กลับมา นับได้ว่าเป็นการแย่งเนื้อออกมาจากปากเสือชัดๆ!

นี่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เด็กน้อยคนหนึ่งถึงกับสามารถมีชีวิตจากการล้อมสังหารของผู้ยิ่งใหญ่ต่างมิติมากมาย?

เด็กหนุ่มคนนี้โดดเด่นเกินไป เขาต่อสู้ในเขตแดนรกร้างเพียงลำพังมีข่าวลือว่าเขาได้สังหารผู้เชี่ยวชาญชาวต่างมิติไปไม่น้อยทั้งยังไม่มีผู้ฝึกฝนรุ่นหลังคนใดของพวกเขาที่จะกล้าต่อต้าน

ความสำเร็จอันรุ่งโรจน์นี้ช่วยเพิ่มศักดิ์ศรีให้กลับเมืองจักรพรรดิเป็นอย่างมาก เมื่อทุกคนทราบข่าวการต่อสู้ของฮวงพวกเขาล้วนเต็มไปด้วยความสดชื่น

เป็นเพราะโดยปกติแล้วการทำสงครามกับศัตรูต่างมิติมักจะเป็นพวกเขาพ่ายแพ้ เมื่อมีกรณีที่แตกต่างกันนี้ปรากฏขึ้นมันทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุขมาก

ศัตรูต่างมิติถูกสังหารคนแล้วคนเล่าจนพวกเขาเต็มไปด้วยความมึนงง นับได้ว่าฮวงได้ระบายความคับแค้นของผู้คนในเมืองจักรพรรดิให้สลายไปบ้าง

สือฮ่าวทักทายทุกคนด้วยความเคารพ จากนั้นจึงมอบหีบไม้ให้กับผู้อาวุโสคนหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายรูปปั้น

"นั่งลงก่อน!"

ร่างที่เหมือนรูปปั้นพูดเชิญให้สือฮ่าวเข้าไปนั่งในห้องโถงของพระราชวัง

นี่อาจถือได้ว่าเป็นความรุ่งโรจน์ประเภทหนึ่ง ฮวงได้รับการปฏิบัติอย่างดีจากสิ่งมีชีวิตสูงสุดในขณะที่คนอื่นๆไม่มีสิทธิ์เข้าใกล้สถานที่นั้น

สือฮ่าวไม่รู้สึกกังวลใดๆเพียงมองหาเก้าอี้ว่างแห่งหนึ่งและหย่อนกายนั่งลง เขารู้สึกถึงแรงกดดันอย่างมากมายที่นี่แม้ว่าสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดจะยับยั้งรัศมีพลังของพวกเขาไว้แต่สายตาของใครบางคนก็เกือบจะทำให้เลือดในกายของสือฮ่าวถูกแช่แข็ง

ไม่ต้องบอกก็ทราบได้ว่าคนที่ทำเช่นนี้ย่อมเป็นจินไท่จุนอย่างแน่นอน แม้ว่าสือฮ่าวจะเป็นศัตรูกับตระกูลหวังแต่เซียนอมตะหวังย่อมไม่มีทางลดตัวลงมาทำเรื่องใจแคบแบบนี้

การจ้องมองของคนอื่นนั้นสงบสุขไม่ปล่อยความกดดันใดๆ มีเพียงนางเท่านั้นที่ใช้สายตากดดันเขา แน่นอนว่านางไม่ได้ดำเนินการอย่างโจ่งแจ้งมากนักเพียงทำให้เขาหายใจได้ไม่สะดวกเท่านั้น

เซียนอมตะหวังก็มาด้วย รูปร่างหน้าตาของเขายังเด็กมากดูเหมือนเด็กหนุ่มอายุเพียงสิบหกหรือสิบเจ็ดปีอ่อนเยาว์อย่างน่าเหลือเชื่อ

เขานั่งอยู่ตรงนั้นอย่างสงบโดยไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา

“อาจารย์ของข้าต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อตรวจสอบ” ไม่ไกลมีคนทำลายความเงียบขึ้นมา

สิ่งนี้กระตุ้นให้เกิดการสนทนาที่เร่าร้อนทันที หลายคนเลิกซ่อนตัวอยู่ในหมอกแห่งความโกลาหลและเผยตัวออกมา

คนที่พูดขึ้นมานี้คือผู้อาวุโสที่มีขาเพียงข้างเดียว เขานั่งอยู่บนก้อนหินสีน้ำเงินขนาดใหญ่ข้างๆเขามีไก่ตัวใหญ่หัวโล้นซึ่งเป็นสัตว์ขี่ของเขา

คนคนนี้เคยปรากฏตัวในเมืองจักรพรรดิมาก่อนแล้ว!

ในตอนนั้นเหตุผลที่เขามาที่เมืองจักรพรรดิ์ก็เพราะว่าเขาได้ยินมาว่ามีแผนที่ที่ถูกเขียนบนแผ่นหนังของสัตว์ร้ายโบราณ ซึ่งชี้ให้เห็นสถานที่ตั้งของหีบไม้ใบนี้

และตอนนี้สือฮ่าวได้เปิดหลุมฝังศพนั้นและนำหีบไม้กลับมาทำให้ราชันพื้นที่ปิดผนึกส่งทูตออกมาอีกครั้ง

ยิ่งไปกว่านั้นผู้อาวุโสขาเดียวได้นำข้อมูลที่น่าตกใจมาด้วยในครั้งนี้ โดยกล่าวว่าหีบไม้ใบนี้ซุกซ่อนความลับที่จะทำให้คนผู้หนึ่งสามารถกลายเป็นราชาอมตะได้!

นี่เป็นข่าวที่น่าตกใจอย่างไม่ต้องสงสัยแม้แต่สิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครเทียบได้ในแท่นบูชาบรรพบุรุษก็ยังเกิดความแตกตื่น ตอนนี้ผู้สูงสุดจากทั่วทุกมุมของเก้าสวรรค์ล้วนมาปรากฏกายที่นี่!

ชายชราขาเดียวกล่าวว่านี่ถือเป็นการแสดงความจริงใจที่ผู้สูงสุดจากเมืองจักรพรรดิ์อนุญาตให้เขาเข้าร่วมศึกษาหีบไม้ใบนี้

เขาแจ้งให้ผู้บ่มเพาะของเมืองจักรพรรดิทราบว่าพื้นที่ปิดผนึกจะไม่แย่งชิงมันอย่างแน่นอน แต่ต้องการยืมไปศึกษาชั่วระยะเวลาหนึ่งหลังจากที่ผู้คนในเมืองจักรพรรดิร่วมกันศึกษาแล้ว

นั่นคือสาเหตุที่สถานการณ์ปัจจุบันซับซ้อนมาก!

ถ้าหีบไม้นี่มันสำคัญขนาดนั้น พวกเขาจะอนุญาตให้คนนอกยืมไปได้ยังไง?

“สหายเต๋าทุกท่านโปรดร่วมกันศึกษาก่อน” ทูตของดินแดนปิดผนึกกล่าวออกมา

จินไท่จุนลืมตาขึ้นมองไปยังใจกลางห้องโถง หีบไม้ตกมาอยู่ในมือของนางทันที นางเป็นคนแรกที่เคลื่อนไหวและเริ่มตรวจสอบมัน

ในบางครั้งดวงตาของนางจะมองไปทางสือฮ่าวเพื่อทำการข่มขู่

“โปรดเล่าประสบการณ์ทั้งหมดของเจ้าให้พวกเราฟังหลังจากหีบไม้ใบนี้ปรากฏขึ้น” จินไท่จุนกล่าวอย่างใจเย็น

สือฮ่าวไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อนาง อย่างไรก็ตามในตอนนี้เขาจำเป็นต้องพูดออกมาเพราะเขาหวังว่าคนที่นี่จะสามารถไขความลับของหีบไม้นี้ได้เพื่อทำให้เมืองจักรพรรดิ์มีพลังมากขึ้น

จินไทจุนหลับตาลงไม่พูดอะไรเป็นเวลานาน หีบไม้ยังคงอยู่ในมือของนางเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วยามเพื่อตรวจสอบมันอย่างระมัดระวัง

ทุกคนทราบว่านางกำลังออกแรงค้นหาด้วยเจตจำนงของเทพเจ้าพยายามเปิดหีบไม้อย่างสุดกำลัง แต่มันก็ไร้ผลไม่มีสิ่งใดสามารถทำได้

ในที่สุดนางก็วางหีบไม้ลง

จากนั้นผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆก็มีโอกาสลองบ้าง อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ก็เหมือนกันพวกเขาไม่สามารถทำอะไรกับหีบไม้นี้ได้

เมื่อถึงตาของเซียนอมตะหวังเขาใช้ง้าวขนาดเล็กฟาดฟันมันลงไปตรงๆที่หีบไม้!

“สหายเต๋าโปรดคิดใหม่ให้ดี!” มีเสียงเตือนดังขึ้นมาเพราะกลัวว่าเขาอาจทำลายหีบไม้โดยไม่ได้ตั้งใจ

อย่างไรก็ตามเมื่อง้าวสงครามถูกตัดลงมากลับไม่สามารถสร้างแม้แต่รอยขีดข่วนให้กับหีบไม้ได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด