ตอนที่แล้วเล่ม 1 ตอนที่ 14: คำสาปแห่งฟาดิลิค (ตอน 2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 1 ตอนที่ 16: สัญญาที่ยังติดค้างตลอด 10 ปี  (ตอน 1)

เล่ม 1 ตอนที่ 15: ไร้ยางอาย


เล่มที่ 1 ตอนที่ 15: ไร้ยางอาย

“อย่ากังวลเลยพ่อหนุ่ม การให้ที่ยิ่งใหญ่ย่อมได้รับผลตอบแทนกลับไปเท่า ๆ กัน” ชายชราขุดแร่ตบไหล่มู่หรงเสี่ยวเทียนเบา ๆ พร้อมกับยิ้มและพูดว่า “ลุงยืนอยู่ที่นี่ทำงานมาตลอดหลายสิบปีไม่มีวันพัก เจ้าก็น่าจะให้ลุงได้นั่งพักหายใจบ้าง !”

มู่หรงเสี่ยวเทียนพยักหน้า เขาเห็นก้อนหินขนาดใหญ่จึงใช้แขนเสื้อปัดฝุ่นลงไป จากนั้นก็ดึงแขนชายชราขุดแร่ให้นั่งลงไปบนก้อนหินที่จัดเตรียมไว้ให้

ตะเกียงน้ำมันบนผนังของเหมืองยังคงเปล่งแสงสีเหลืองจาง ๆ และเปลวไฟที่ริบหรี่ท่ามกลางหินที่สลับซับซ้อนสะท้อนให้เห็นถึงใบหน้าที่ซีดจางของชายชราขุดแร่ มีเพียงเสียงลมหายใจเท่านั้นที่ดังออกมาในตอนนี้

ชายชราหยิบของสองสิ่งขึ้นมาและส่งมอบให้มู่หรงเสี่ยวเทียน “อะ นี่ รับเอาไว้ มันเป็นสิ่งที่เจ้าสมควรจะได้นะพ่อหนุ่ม” หลังจากหยุดสักพัก ชายชราก็พูดขึ้นมาว่า “พ่อหนุ่ม ของสิ่งนี้เจ้าจะต้องรอจนกว่าเลเวล 60 ถึงจะใช้งานมันได้”

มู่หรงเสี่ยวเทียนนั่งบนก้อนหินขนาดใหญ่ฝั่งตรงกันข้ามกับชายชราด้วยท่าทางที่ผ่อนคลาย เขาพยักหน้าและหยิบของที่ชายชรายื่นให้มาอย่างรวดเร็ว เขาตรวจสอบดูมันอย่างละเอียดถี่ถ้วน หนึ่งในนั้นมันเป็นเพียงแหวนธรรมดาที่ดูเก่าและชำรุด และอีกอันก็มีลักษณะคล้ายกับกุญแจซึ่งมีอักขระสองตัวแกะสลักติดอยู่ด้านหลังของมัน

หลังจากที่มองดูของสองสิ่งนั้นอย่างถี่ถ้วน ข้อมูลของมันก็ปรากฏขึ้นมาทันทีต่อหน้าของมู่หรงเสี่ยวเทียน มันคือแหวนแห่งความโกลาหล มันสามารถใส่สิ่งของลงไปได้ถึง 300 ช่อง ส่วนน้ำหนักนั้นก็ไม่จำกัด แต่ทว่ามันไม่สามารถใส่เสื้อผ้าและอุปกรณ์ลงไปได้

ส่วนกุญแจนั้นก็คือกุญแจก่อนยุคประวัติศาสตร์ มันสามารถใช้เปิดประตูมิติเพื่อไปยังโลกที่สาบสูญได้ มันเป็นไอเทมสำหรับภารกิจลับนี้

อารมณ์ที่เต็มไปด้วยความหวังของมู่หรงเสี่ยวเทียนจางหายไปทันที เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวัง ของเหล่านี้นอกจากจะช่วยให้เขาขนของได้มากกว่าเดิมแล้ว มันก็ไม่มีค่าอะไรเลยแม้แต่น้อย !

“ลุง นี่ลุงเอาของพวกนี้มาให้ผมเพียงแค่ตอบแทนส่ง ๆ ไปใช่ไหม ? ทำไมมันเก่าและโทรมแบบนี้ ?” มู่หรงเสี่ยวเทียนตบมือของเขา จากนั้นก็จ้องมองไปที่ชายชราด้วยใบหน้าอันขมขื่น

ชายชราขุดแร่เม้มปากเล็กน้อยและพูดว่า “มันมีบางอย่างอยู่ในแหวนแห่งความโกลาหล”

“โอว ?” มู่หรงเสี่ยวเทียนตกใจและรีบสวมมันไปที่นิ้วกลางข้างซ้ายอย่างรวดเร็ว

จอบเวคิน เพิ่มความเร็วในการขุด 5 หน่วยด้วยทักษะการหลอมขั้นสูงของช่างตีเหล็ก เทคนิคสกิลในการขุดเหมืองนั้นเพิ่มขึ้นอีก 1 หน่วย

เมื่อเห็นไอเทมชิ้นสุดท้ายแล้ว มู่หรงเสี่ยวเทียนก็ลุกขึ้นยืนอย่างไม่รู้ตัว จากนั้นเขาก็ตะโกนใส่หน้าชายชราขุดเหมืองด้วยความไม่พอใจ “ลุงนี่มันขี้เหนียวจริง ๆ จอบเวคินนั้นไม่มีค่าอะไรกับผม  นี่ยังไม่รวมกุญแจเก่าแก่ที่สนิมเขรอะอีกอันนะ กว่าจะได้ใช้ก็ต้องรอจนกว่าเลเวล 60 และถึงแม้ว่าจะเปิดใช้มันได้ ก็ต้องไปรออีกทีว่าภารกิจมันจะสำเร็จไหม !” มู่หรงเสี่ยวเทียนหักนิ้วและเดินวนไปมารอบ ๆ ชายชรา

เขาหันหลังกลับมาและพูดต่อว่า “ยังมีแหวนแห่งความโกลาหลอีก มันก็แค่กระเป๋ามิติที่ใส่ของได้เยอะกว่าเดิมก็เท่านั้น” มู่หรงเสี่ยวเทียนโบกมือและมองไปบนฟ้า (แต่ทว่าเขาก็ได้พบกับผนังถ้ำเท่านั้น) เขาแสดงสีหน้าร้องทุกข์ออกมา “พระเจ้า ผมช่วยชีวิตลุงแท้ ๆ แต่ลุงกลับให้แหวนกับกุญแจเก่า ๆ กลับมาเพื่อไล่ให้ผมไปพ้น ๆ”

“พอได้แล้ว !” ชายชรากระโดดลงจากก้อนหินนั้นด้วยความโกรธ เสียงของเขาดังก้องทะลุไปจนถึงแก้วหูของมู่หรงเสี่ยวเทียนราวกับว่าเป็นเข็มที่ทิ่มแทงเข้าไป หน้าเขาแดงก่ำด้วยความโกรธ ใบหน้าดูบูดเบี้ยว เขาดูชั่วร้ายเป็นอย่างมากภายใต้แสงของตะเกียงน้ำมันที่สาดส่องเข้ามา “ข้าก็อยู่ของข้าแบบนี้มานานแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นคนหน้าด้านแบบเจ้า”

“หึ ! ! ดี ดีมาก แบบนี้จะต้องให้คนทั้งโลกรับรู้ว่านี่คือการตอบแทนให้แก่ผู้ที่ช่วยชีวิต” มู่หรงเสี่ยวเทียนจ้องไปที่ชายชราอย่างเย็นชา เขากล่าวออกมาสั้น ๆ “พูดมา จะให้หรือไม่ให้ ?”

ชายชราจ้องมองไปที่มู่หรงเสี่ยวเทียนอย่างดุเดือด สีหน้าของเขาเปลี่ยนจากความโกรธกลายเป็นความละอายใจแต่ก็แฝงไปด้วยความหงุดหงิด สุดท้ายเขาก็ส่ายหัวไปมาอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนที่จะค่อย ๆ นั่งลงไปบนก้อนหินก้อนนั้นดังเดิม

“นี่ลุงหมายความว่ายังไง ?” มู่หรงเสี่ยวเทียนแสดงน้ำเสียงที่ก้าวร้าวออกมา

“พูดตามตรง ลุงก็อยากจะให้เจ้ามากกว่านี้ แต่ว่าตอนนี้ลุงไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว” ชายชราจ้องมองไปที่มู่หรงเสี่ยวเทียนอย่างดูถูกและสูดหายใจเข้าไปอย่างเย็นชา

“หา ? !” มู่หรงเสี่ยวเทียนยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย เขาเดินช้า ๆ เข้าไปหาชายชราพร้อมกับก้มตัวลงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พ่นคำพูดสองสามคำจนทำให้ชายชราถึงกับผงะ “ก็ไอ้ก้อนหินสีเลือดนั่นยังไงล่ะ”

“ไอ้หนุ่ม !” ชายชรายืนขึ้นอีกครั้ง มือของเขาสั่นและชี้ไปที่หน้าของมู่หรงเสี่ยวเทียน “ไอ้หนุ่ม อย่าฝันกลางวันไปหน่อยเลย คุณค่าของไอเทมชิ้นไม่ใช่สิ่งที่เด็กแบบเจ้าจะจินตนาการถึงได้”

“หือ ? หินที่ไร้ค่าแบบนี้มีค่ามากกว่าชีวิตของลุงอีกหรือ ?” มู่หรงเสี่ยวเทียนดึงมือของอีกฝ่ายที่กำลังจะจิ้มจมูกของตนออกพร้อมกับพยายามบั่นทอนจิตใจชายชราอย่างไร้ความปราณี “ชายชรากับหินเน่า ๆ ของเขา โธ่ เป็นเพราะหินสีเลือดนี่ไม่ใช่หรือที่ทำให้ลุงต้องติดแหงกอยู่ในนี้มานานหลายสิบปี แค่นี้ลุงยังไม่พออีกหรือ ? ตอนนี้ลุงเองก็แก่ตัวลงไปมากแล้ว ลุงจะสนใจอะไรอีก ? มันจะไม่ดีกว่าหรือที่จะกลับบ้านไปและใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างมีความสุข ?”

ความมั่นใจทั้งหมดของชายชราพังทลายลงไปเพียงเพราะคำพูดเหยียดหยามของมู่หรงเสี่ยวเทียน เขายืนนิ่งเงียบในที่แห่งนั้น ความทะเยอทะยานทั้งหมดจางหายไปในทันที

“เวลานั้นช่างโหดร้าย” เสียงของชายชราเศร้าเพราะขณะนี้เขาก็อายุมากขึ้นจริง ๆ

ดอกไม้ที่เบ่งบานและร่วงหล่น เวลาแรมปีนั้นก็เหมือนกับกระแสน้ำที่สุดท้ายก็ไหลไปรวมกันในท้องทะเล เมื่อมองย้อนกลับไป มันก็เป็นเพียงความฝันเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว !

มู่หรงเสี่ยวเทียนเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นใจและจับมือของชายชรา สายตาที่หนักแน่นแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ “ลุง ผมรู้ว่าลุงต้องการจะเป็นช่างตีเหล็กที่ยิ่งใหญ่ในโลกแห่งนี้ ผมสัญญากับลุงว่าผมจะต้องไปถึงวันนั้นให้ได้ หลังจากนั้นพวกเราจะเปิดร้านตีเหล็กด้วยกัน ผมจะตามหาวัสดุที่ดีมาให้ลุงสร้างอาวุธ และร้านเหล็กของพวกเราจะมีชื่อเสียงดังกระฉ่อนไปทั่วโลกให้ได้”

มู่หรงเสี่ยวเทียนบีบแขนของชายชราแน่น จากนั้นก็พูดอีกครั้ง “ผมจะดูแลหินสีเลือดนี่เอง ลุงก็รู้ความจริงของโลกใบนี้เป็นอย่างดี ถ้ามีใครบางคนขโมยมันไป มันก็จะกลายเป็นของคนอื่นทันที ลุงเป็นเพียงช่างตีเหล็ก แต่ผมนั้นไม่ใช่ ผมเป็นนักรบและผมมีความสามารถในการป้องกันตัวเอง”

เมื่อเห็นว่าเขาใกล้จะได้รับของมา เขาก็เลยขายฝันให้อีกฝ่ายได้ฟังเพื่อโน้มน้าวจิตใจ เห็นได้ชัดว่ามู่หรงเสี่ยวเทียนต้องการจะเอาสิ่งนั้นจากอีกฝ่ายมากแค่ไหน และเขาก็พยายามที่จะพูดวาดฝันต่าง ๆ นานา

มู่หรงเสี่ยวเทียนไม่ต้องการจะคิดไปไกลถึงเรื่องใช้กำลัง เพราะเขาก็ยังเป็นเพียงแค่ผู้เล่นเลเวล 0 หากว่าตายไปยังไงก็ไม่เป็นไร เพียงกลับไปจุดเกิดเท่านั้น แต่กลับกันหากชายชราขุดแร่ที่เป็น NPC ตาย ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ชายชราตกตะลึงกับคำพูดของมู่หรงเสี่ยวเทียน จากนั้นเขาก็พยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า และแล้วแสงสว่างแห่งความหวังก็ปรากฏขึ้นมาในดวงตาที่เศร้าโศกของเขา เขาหยิบชุดอุปกรณ์เก่า ๆ ออกจากแขนเสื้อด้วยตัวที่สั่นเทา เขาค่อย ๆ เปิดมันและหยิบหินสีแดงราวกับเลือดและกลมเหมือนดวงตาออกมาวางบนฝ่ามือ

ทันใดนั้นเอง แสงสีแดงก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือของชายชรา แสงของมันได้ส่องประกายไปทั่วทั้งบริเวณนั้น

มู่หรงเสี่ยวเทียนจ้องไปที่หินสีเลือดด้วยความตะลึง น้ำลายของเขาไหลออกมาที่มุมปากอย่างไม่รู้ตัว ดวงตาทั้งลูกเต็มไปด้วยแสงสว่างอันเจิดจ้า เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกพึงพอใจอย่างลับ ๆ “บ้าจริง ถ้าหากว่าเราไม่หลอกลุง ลุงจะเต็มใจให้ของแบบนี้กับเราไหมนะ ? ฮ่าฮ่า”

To be continued…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด