ตอนที่แล้ว266 - ผู้ทรงคุณธรรม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป268 - อาณาจักรแยกตนเองขั้นกลาง

267 - จัดการความภาคภูมิใจแห่งสวรรค์


267 - จัดการความภาคภูมิใจแห่งสวรรค์

กระต่ายน้อยกรีดร้องเสียงแหลมอย่าว่าแต่เด็กรุ่นเยาว์เลย แม้แต่คนรุ่นอาวุโสก็ยังขมวดคิ้ว สีหน้าของพวกเขาไม่ค่อยดีนักเมื่อมองไปที่จินยี่

“เด็กน้อยมักจะเลือดร้อน แน่นอนว่านี่เป็นสิ่งที่ดี” คนของ ตระกูลหวังเดินออกมา

เขาพยายามทำให้สถานการณ์ของจินยีคลี่คลายโดยกล่าวว่า“พี่จินแค่รู้สึกกังวลนิดหน่อยคำพูดของเขาจึงดูหนักไปบ้าง แต่สิ่งสำคัญคือเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของผู้อาวุโสเมิ่ง การสูญเสียสิ่งมีชีวิตสูงสุดนั้นยิ่งใหญ่เกินไปพวกเขาเป็นกำลังสำคัญในการปกป้องเมืองของเรา”

เมื่อตระกูลหวังพูดเช่นนี้จะมีกี่คนที่เชื่อพวกเขา? เป็นเพราะหลายคนรู้ว่าพวกเขาเป็นศัตรูกับฮวงและเมิ่งเทียนเจิ้งเสมอมา

“ถูกต้องพี่จินมีเจตนาที่ดีเขาเป็นห่วงอาการของผู้อาวุโสเมิ่งซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมคำพูดของเขาจึงรุนแรงไปบ้าง” ผู้ติดตามคนหนึ่งของตระกูลจินรีบกล่าวสำทับ

ในขณะเดียวกันตระกูลจินมีชายวัยกลางคนที่มีดวงตาแหลมคมเหมือนสายฟ้าเขามองสือฮ่าวและพูดขึ้นว่า“เจ้าหนูเจ้าใจเย็นจริงๆ คนที่นี่เริ่มมีความเข้าใจผิดบางอย่าง ถ้าเจ้าอธิบายตัวเองก่อนหน้านี้สักหน่อยมันคงไม่จบลงแบบนี้ เป็นไปได้ไหมว่าเจ้ารู้สึกว่าตัวเองมีความชอบไม่น้อยจึงดูหมิ่นพวกเรา”

เมื่อเขาได้ยินคำเหล่านี้สือฮ่าวก็ไม่นิ่งเฉยอีกต่อไป เขามองผู้คนจากตระกูลจินอย่างเย็นชาและพูดว่า“พวกเจ้าก็แค่คนไร้ยางอาย มีความจำเป็นอะไรที่ข้าต้องอธิบายให้พวกเจ้าฟัง พวกเจ้าสำคัญตัวเองผิดไปแล้ว!”

“บังอาจ! เจ้าคิดว่าเพียงเพราะเจ้าทำความชอบเล็กน้อยก็กล้าที่จะดูถูกพวกข้าเช่นนี้หรือ!” จินคุนชายวัยกลางคนตะคอกสวน

เขาก็เป็นผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในอาณาจักรปลดปล่อยตนเองเช่นกัน

จากด้านข้างใบหน้าของจินยี่มืดคล้ำไปทันทีเขากล่าวว่า“เจ้าหนูไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ไหนไม่ว่าเจ้าจะมีความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่แบบไหน พวกเราก็เป็นผู้อาวุโสเจ้าต้องให้ความเคารพ”

เห็นได้ชัดว่าผู้เชี่ยวชาญจากสองตระกูลแสดงตัวออกมาเพื่อหาเรื่องสือฮ่าวเป็นการเฉพาะ

สือฮ่าวมีความมั่นใจมากว่าผู้ที่หักหลังเมืองจักรพรรดิและลอบทำร้ายเขาน่าจะเป็นคนจากตระกูลจิน เพียงแต่ว่าเขายังไม่มีหลักฐานเท่านั้น

“คุณค่าของคนมักจะเกี่ยวข้องกับการกระทำของตัวเอง วันนี้หากใครไม่ต้องการรักษาหน้าไว้ข้าก็ยินดีที่จะฉีกมันทิ้ง” สือฮ่าวกล่าวด้วยเสียงเย็นชา

ทุกคนตกตะลึงแม้แต่เฉาอวี่เวิ่งและคนอื่นๆก็ไม่เคยคิดว่าสือฮ่าวจะใจกล้าถึงขนาดนี้

นี่เป็นถึงผู้ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรปลดปล่อยตนเองแต่ตอนนี้เขาไม่ได้แสดงท่าทีจะรอมชอมแม้แต่น้อย!

ในขณะเดียวกันก็มีคนบินออกไปส่งข่าวเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว

“สิ่งต่างๆดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่!” เฉาอวี่เซิ่งเดินเข้ามา เขาดึงแขนเสื้อของสือฮ่าวส่งเสียงอย่างลับๆและพูดว่า “ตะเกียงวิญญาณที่อยู่ด้านนอกวังยักษ์ของผู้อาวุโสใหญ่ได้หรี่แสงลงมากแล้ว! ข้าเชื่อว่าสาเหตุที่ตระกูลจินกล้ามาหาเรื่องเจ้าก็เพราะเหตุนี้!”

จิตใจของสือฮ่าวหนาวเหน็บลง สิ่งที่เรียกว่าตะเกียงวิญญาณบ่งบอกถึงสภาพปัจจุบันของผู้อาวุโสใหญ่

อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นไม่นานเขาก็สงบลงอีกครั้ง เป็นเพราะก่อนที่จะจากไปผู้อาวุโสใหญ่ได้บอกเขาอย่างชัดเจนว่าสบายดีในทางกลับกันผู้อาวุโสใหญ่กำลังจะทำการนิพพานอีกครั้ง!

ผู้ยิ่งใหญ่ของตระกูลจินที่ถูกสือฮ่าวต่อว่าเขาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวต้องการที่จะลงมือทันที แต่ในตอนนั้นจินซานก็พูดขัดขึ้น

“ฮวงเจ้าล้ำเส้นเกินไปแล้ว เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้กำลังพูดอยู่กับใคร” การปรากฏตัวของจินซานนั้นทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ

สือฮ่าวหันกลับมามองอัจฉริยะจากตระกูลจิน ผู้ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีพรสวรรค์ที่ดีที่สุดซึ่งไม่มีใครเทียบได้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

เขาตอบอย่างเย็นชาว่า“แล้วเจ้ารู้ตัวไหมว่ากำลังพูดอยู่กับใคร!” บรรยากาศตึงเครียดขึ้นทันที

เป็นเพราะฮวงไม่ไว้หน้าตระกูลจินแม้แต่น้อย

“เจ้าหนูเจ้าล้ำเส้นเกินไปแล้ว! เจ้ากล้าไม่แสดงความเคารพต่อหน้าผู้อาวุโสหรือ” ในเวลานี้ผู้ติดตามสองสามคนในตระกูลจินก็ตะโกนออกมา

สำหรับจินซานพวกเขาจะไม่ยอมให้ใครมาดูหมิ่นได้ เขาเป็นที่รู้จักในฐานะของคนที่มีพรสวรรค์ยิ่งใหญ่ที่สุดในตระกูลจิน ในโลกนี้จะมีใครกล้าดูถูกเขา?

อย่างไรก็ตามตอนนี้ฮวงมองไปที่เขาด้วยความดูถูกอย่างชัดเจนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ

“บังอาจ!”

เมื่อคำนี้ดังขึ้นสถานที่แห่งนี้ก็เต็มไปด้วยความตึงเครียดในทันทีบรรยากาศเริ่มหนักหน่วงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อราวกับว่ามีพายุกำลังก่อตัว

“แม้แต่คนอย่างเจ้าก็ยังกล้าพูดคำนี้กับข้า” สือฮ่าวสงบนิ่งมาก แต่น้ำเสียงของเขาก็เต็มไปด้วยอำนาจอย่างที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ เขายืนอยู่ตรงนั้นมองไปที่จินซานอย่างไม่แยแส

“กล้าทำให้ผู้อาวุโสของข้าอับอาย เจ้าต่างหากที่ทำตัวบังอาจ!” จินซานกล่าวด้วยเสียงเย็นชา ในเวลาเดียวกันรอยยิ้มเยาะเย้ยก็ปรากฏขึ้นที่มุมริมฝีปากของเขา

เขาเดินไปข้างหน้าด้วยฝีเท้าหนักแน่นทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน ความรู้สึกหนักอึ้งที่ทำให้หลายคนรู้สึกตื่นตระหนกจากภายใน

ทุกคนรู้สึกได้ถึงพลังที่ไม่มีใครเทียบได้ของจินซาน หากเกิดการต่อสู้กันก็ไม่ทราบว่าผู้ใดจะแข็งแกร่งกว่า

“เจ้าเป็นใครถึงกล้ามาทำเสียงดังต่อหน้าข้า” สือฮ่าวกล่าวพร้อมกับแสดงสีหน้ารังเกียจ เขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับจินซานเลยแม้แต่น้อย

"บังอาจ!"

คราวนี้จินซานโกรธมากมันยังคงเป็นคำนี้ แต่ความหมายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

คราวนี้สือฮ่าวแสดงความดูหมิ่นออกมาอย่างชัดเจนแต่เป็นตัวเขาไม่ใช่ผู้อาวุโสของตระกูล

"เกิดอะไรขึ้น? เป็นไปได้ไหมที่จินซานทะลวงขั้นบ่มเพาะแล้ว?” ใครบางคนพูดด้วยเสียงสั่นสะท้านตกใจสุดขีด

นี่ไม่เหมือนกับรัศมีพลังของผู้ฝึกฝนอาณาจักรแห่งความว่างเปล่ามันมีพลังมากเกินไป

ในเวลาเดียวกันหลายๆคนจากตระกูลจินก็เผยรอยยิ้มสดใส แม้แต่จินยี่และจินคุนผู้บ่มเพาะอาณาจักรปลดปล่อยตนเองทั้งสองก็ไม่มีข้อยกเว้น

พวกเขารู้ดีว่าความสามารถของจินซานนั้นยอดเยี่ยมมากและก้าวไปอีกขั้นที่สำคัญอย่างแท้จริง ในวัยของเขาไม่มีใครในเด็กรุ่นหลังสามารถเป็นคู่ต่อกรได้?

นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาไม่กังวลเลยถ้าจินซานจะใช้โอกาสนี้เพื่อเอาชนะฮวง สิ่งนี้จะสร้างความปั่นป่วนอย่างมากและทำให้พวกเขามีความสุข

ในความเป็นจริงหลังจากที่ฮวงรอดกลับมาอย่างปลอดภัย คนตระกูลจินก็มีความคิดพวกนี้วนเวียนอยู่ในสมองตลอดเวลา

เป็นเพราะพวกเขาต้องการที่จะสร้างจินซานให้กลายเป็นผู้นำของเด็กรุ่นหลัง แต่ฮวงกลับมีพลังแข็งแกร่งจนไม่มีผู้ใดสามารถต่อกรได้

ในขณะเดียวกันนี่เป็นโอกาสครั้งสำคัญในขณะที่ฮวงอยู่ในจุดสูงสุดของเขา หากจินซานสามารถปราบปรามเขาได้ อันดับหนึ่งในหมู่เด็กรุ่นหลังจะกลายเป็นของจินซานทันที

พวกเขาวางแผนนี้มานานแล้วโดยเตรียมให้จินซานปะทะกับฮวงต่อหน้าสาธารณชน

อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นในตอนนี้ ด้วยบรรยากาศที่ตึงเครียดเกินไปดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกว่าควรปล่อย จินซานให้ลงมือในทันที

“คิดจะใช้คำว่าบังอาจกับข้าเจ้ายังไม่คู่ควร!” ในเวลานี้สือฮ่าวปลดปล่อยไอสังหารออกมา

ยิ่งไปกว่านั้นเขาขยับแขนเสื้อสะบัดออกไปด้านหน้า ความแข็งแกร่งของมันสามารถแยกสวรรค์และปฐพีให้ปรากฏรอยแตกขึ้นมาได้ สิ่งนี้ทำให้ใบหน้าของทุกคนในบริเวณเปลี่ยนไปในทันที!

จินซานที่กำลังพุ่งไปข้างหน้าด้วยความประมาทเล็กน้อยจึงถูกแขนเสื้อข้างนั้นของสือฮ่าวกระแทกเกือบล้มลงกับพื้น

เขาต่อต้านแรงกระแทกนั้นจนถอยหลังไปหลายสิบก้าว ที่ด้านหน้าของเขาปรากฏรอยเท้าลึกหยั่งลงไปในพื้นดิน

หวังซีรีบเดินเข้ามาพยุงเขา นางตกตะลึงอย่างมากดวงตาที่งดงามของนางมองไปที่จินซานจากนั้นก็มองไปที่ฮวง ซึ่งยืนอยู่อย่างสงบแต่เต็มไปด้วยความองอาจกล้าหาญราวกับเทพสงคราม

ทุกคนที่อยู่ในบริเวณล้วนแตกตื่นตกใจ จินซานแข็งแกร่งแค่ไหน? แต่เขากลับไม่สามารถต่อต้านการสะบัดแขนเสื้อเพียงครั้งเดียวของฮวง!

คนของตระกูลจินรู้สึกว่าหัวใจของพวกเขาเต้นระรัวสายตาของพวกเขาจ้องไปที่สือฮ่าวราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

สำหรับคนของตระกูลหวังและผู้ฝึกฝนจากตระกูลอื่นๆในฝั่งของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความตกใจเช่นเดียวกัน!

เปง!

จินซานสลัดหวังซีออกไป เขาทรงตัวด้วยตนเองก่อนที่สายตาจะจ้องมองไปที่สือฮ่าว

ทันใดนั้นร่างกายเขาก็ปะทุขึ้นด้วยแสงสีทองพร้อมกับสวมชุดเกราะเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้แตกหักกับสือฮ่าว

“ตามที่คาดไว้นี่คือระดับบ่มเพาะอาณาจักรแยกตนเอง!” ใครบางคนกล่าวด้วยความตกใจ

ตอนนี้จินซานเพิ่งเผยให้เห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขา

อาณาจักรแยกตนเองในวัยของเขาแม้ว่าจะไม่ใช่คนแรก แต่ก็เคยเกิดขึ้นในสมัยโบราณเท่านั้น ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรปลดปล่อยตนเองที่อายุน้อยขนาดนี้เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนตกตะลึงแล้ว

“ฮวงข้าอยากจะสู้กับเจ้ามานานแล้ว ไม่ว่าวันไหนก็คงไม่ดีเท่าวันนี้เจ้าเห็นด้วยหรือไม่!” จินซานตะโกน

ตอนนี้ร่างกายของเขาปลดปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์แม้แต่เส้นผมก็ยังมีประกายแวววาว รัศมีพลังของเขาลึกล้ำจนทุกคนลืมไปว่าเขาเป็นเพียงเด็กรุ่นหลังคนหนึ่งเท่านั้น

ตอนนี้เขาท้าทายฮวงอย่างเป็นทางการ!

เขาเต็มไปด้วยความมั่นใจอยู่เสมอเขามาถึงอาณาจักรแยกตนเองนานแล้ว หากจัดการเด็กน้อยอาณาจักรแห่งความว่างเปล่าเพียงคนเดียวนับว่าเหลือเฟือ แต่เขาก็ถูกผู้อาวุโสในตระกูลสั่งห้ามไว้ไม่ให้ลงมือ

ตอนนี้ไม่มีใครขัดขวางเขาได้อีก

หลายคนมองไปที่สือฮ่าวอย่างกังวลใจ เช่นฉางกงเอี๋ยนและคนอื่นๆก่อนหน้านี้พวกเขาเคยได้ยินสือฮ่าวพูดถึงประสบการณ์ที่ด้านนอกเมืองจักรพรรดิมาบ้าง

พวกเขารู้ว่าสือฮ่าวสังหารคนไปแม่น้อย แต่ก็ได้ยินแค่เรื่องที่เขาสังหารเด็กรุ่นใหม่รวมถึงปราบปรามผู้เชี่ยวชาญสายเลือด ราชสีห์ผู้กล้าเท่านั้น

ยังไม่เคยได้ยินว่าเขาสังหารอัจฉริยะในอาณาจักรแยกตนเองมาก่อน

นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้สหายของเขาเต็มไปด้วยความกังวลใจและต้องการหยุดการต่อสู้ครั้งนี้

อย่างไรก็ตามสือฮ่าวเต็มไปด้วยความสงบนิ่ง เขาไม่เห็นจินซานอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด