ตอนที่แล้วChapter 8: ระบบบอกว่าเป็นคนดี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 10: ตู้เย็น

Chapter 9: เหมือนเขามาอยู่ที่นี่เองเลย


เมื่อเดินมาถึงอพาร์ทเม้นท์หลังนั้น หานเฟยก็เคาะประตูเบา ๆ ไม่ช้าก็มีคนในกองถ่ายคนหนึ่งมาหาเขา “ผู้กำกับเจียงอี้บอกให้ผมมาทดสอบบท แต่ว่าตอนนี้ผมกำลังมีปัญหา ผมอาจจะไม่สามารถ...”

แต่ก่อนที่หานเฟยจะทันพูดจบ เขาก็ถูกคนในกองถ่ายคนนั้นลากเข้าไปในอพาร์ทเม้นท์ “ในที่สุดนายก็มา นายไม่รู้หรอกว่าพวกเรากำลังเจอกับอะไร ผู้กำกับเจียงหายใจรดต้นคอทุกคน เขาด่านักแสดงหน้าใหม่ทุกคนว่าไม่สามารถแสดงอารมณ์แบบที่เขาต้องการ เขาไล่ออกไปหลายคนแล้วด้วยซ้ำ”

“แต่ว่าผมก็ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ และผมยังมีเรื่องสำคัญต้องทำคืนนี้...”

“ผู้กำกับเจียง! นักแสดงคนใหม่มาแล้ว!” สมาชิกกองถ่ายยัดบทละครเข้าไปในมือหานเฟย “ปกติแล้วพวกเราจะมีห้องทดสอบบทแยกไป แต่ว่าพวกเรากำลังขาดเงินนิดหน่อยดังนั้นอย่าใส่ใจมากเลยนะ รีบไปตรงนั้น ผู้กำกับเจียงรอนายอยู่นานแล้ว” หานเฟยที่ถือบทเอาไว้แล้วถูกผลักเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง นักแสดงหกคนอายุไล่เลี่ยกับเขายืนอยู่ริมกำแพง ไม่มีใครกล้าพูดอะไรสักคำ

“พวกนายเรียกมันว่าการแสดงงั้นเรอะ? พวกนายเคารพในอาชีพอยู่จริง ๆ ใช่ไหม? ขายขี้หน้า!” ที่กลางห้อง ชายวัยกลางคนคนหนึ่งชี้นิ้วใส่เหล่านักแสดงอย่างขุ่นเคือง พูดด้วยน้ำเสียงไม่ดี นักแสดงสาวคนหนึ่งน้ำตาจะไหลแล้ว

“เธอคิดว่าน้ำตาจะช่วยให้เธอแสดงดีขึ้นงั้นเหรอ? ทำไมไม่ใช่เลือดปลอมบนเสื้อผ้าของเธอล่ะ? แล้วยังหน้ากับมือของเธออีก? เธอคิดว่าฆาตกรจะคิดถึงการถ่ายรูปสวย ๆ ของเธอตอนที่ไล่ตามเธออยู่หรือไง? ให้ฉันบอกเธอตอนนี้เลยนะ ถ้าเธอกลัวสกปรก กลัวเหนื่อย ก็อย่ามาเป็นนักแสดง! ฉันไม่สนใจว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้เพราะสปอนเซอร์ ถ้าเธอเข้ามาในกองถ่ายของฉันแล้ว เธอก็ต้องทำให้ได้ตามมาตรฐานของฉัน” ผู้กำกับเจียงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาเคยเป็นครูสอนอยู่ที่สถาบันโทรทัศน์และสื่อภาพยนตร์เมืองซินลู่ หานเฟยเคยเรียนกับเขามาก่อน หลังจากสั่งสอนอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดผู้กำกับเจียงก็หันมาทางหานเฟย “ฉันได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นกับนายแล้ว ฉันมีตัวละครหนึ่งที่อยากให้นายลองดู”

หานเฟยมองไปในห้องแล้วก็รู้ว่าการปฏิเสธออกไปตรง ๆ นั้นเป็นเรื่องไม่ฉลาดจึงได้แต่พึมพำอย่างนอบน้อม “แต่ว่าผู้กำกับเจียงครับ ผมไม่เคยเล่นหนังสยองขวัญมาก่อน”

“เป็นอำนาจของผู้ชมที่จะแบ่งหมวดหมู่นักแสดง แต่ว่าเป็นหน้าที่ของนักแสดงมืออาชีพในการทลายหมวดหมู่ที่ถูกจัดไว้นั่นออกมา เข้าใจไหม? นายเป็นนักแสดงมืออาชีพหรือเปล่า?” ผู้กำกับเจียงเดินมาหาหานเฟยพร้อมกับบทละคร “บทละครของเรานั้นอ้างอิงตามคดีที่เกิดขึ้นจริงเมื่อหลายปีก่อน คดีจิ๊กซอว์มนุษย์ จนถึงตอนนี้ ฆาตกรก็ยังลอยนวล เพื่อให้เข้าถึงตัวละคร ฉันแนะนำให้พวกนายไปอ่านข่าวตอนนั้นซะ จะได้เข้าใจตัวละครได้ดีขึ้น”

“เอิ่ม ผู้กำกับเจียงครับ แล้วจะให้ผมแสดงเป็นใคร?”

“ตำรวจเปิดเผยสู่สาธารณะอย่างเป็นทางการว่ามีเหยื่อทั้งหมดเจ็ดราย แต่ว่าอันที่จริงแล้ว มีเหยื่อทั้งหมดแปดราย เพราะว่าฆาตกรใช้ชิ้นส่วนจากเหยื่อทั้งเจ็ดรายก่อนหน้ามาประกอบเป็นศพที่แปด นายจะเล่นเป็นเหยื่อรายที่สอง เว่ยโหยวฝู” ผู้กำกับเจียงพูดอย่างรวดเร็วขณะพลิกบทละครไปมา “ฉันจะสรุปส่วนของนายให้ฟัง เว่ยโหยวฝูเป็นพนักงานกินเงินเดือนธรรมดาทั่วไป คืนหนึ่งเขากลับบ้านดึกเพราะทำโอทีต่อกันหลายชั่วโมง เขากลับมาพบว่าภรรยาของเขาหายตัวไป เขาส่งข้อความหาภรรยาหลายครั้งและฝ่ายหลังตอบกลับมาว่าเธอกลับไปอยู่ที่บ้านแม่ชั่วคราว เขาเหนื่อยเกินกว่าจะคิดอะไรมากนักและเดินเข้าไปในห้องนอน เรื่องน่าตกใจอยู่ตรงนี้ ภรรยาของเขาไม่ได้กลับไปบ้านแม่เพราะว่าเธอตายแล้ว ฆาตกรซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำ กำลังตัดเธอออกเป็นชิ้น ๆ ข้อความที่ส่งถึงเว่ยโหยวฝูเป็นฆาตกรส่งมา”

“ผู้กำกับเจียง เว่ยโหยวฝูมีบุคลิกแบบไหนครับ?”

“อย่าเพิ่งขัดฉัน ส่วนที่ยากที่สุดของบทของนายเป็นส่วนด้านหลังนี่ ตอนที่เว่ยโหยวฝูกำลังจะหลับ เขาได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออก ศีรษะของภรรยาของเขาถูกใครบางคนวางเอาไว้ที่หน้าประตู ความกลัวของเขาพุ่งขึ้นทันที ความหวาดกลัวกลืนกินเขา! ฆาตกรเดินออกมาจากห้องน้ำและเขากลายเป็นเหยื่อคนที่สองในคืนนั้น” ผู้กำกับเจียงวงรอบจุดสำคัญสองสามจุดในบท “ทางการไม่เคยอนุญาตให้เราถ่ายทำภาพน่ากลัวอย่างการแยกชิ้นส่วนดังนั้นนายจะต้องใช้สีหน้าของตัวเองทำให้ผู้ชมรู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวสุดขีด นายต้องดึงเอาความกลัวจากก้นบึ้งของนายออกมาทำให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกแบบเดียวกัน! นายทำได้ไหม?”

“ผมจะพยายามถึงจะไม่เคยเล่นบทแบบนี้มาก่อนก็ตาม” ความฝันของหานเฟยคือการเป็นนักแสดงตลก เขาไม่รู้เลยว่าเขาจะมาจบลงที่การนั่งอ่านบทในหนังสยองขวัญ

“เอาละ! พวกเราจะเข้าฉากทันทีที่นายทำอารมณ์ได้” ผู้กำกับเจียงโบกมือเรียกตากล้องให้ขึ้นไปที่ชั้นสอง “เดิมทีพวกเราต้องการใช้สถานที่เกิดเหตุเดิมเป็นฉากเพื่อความสมจริงแต่ว่าติดต่อเจ้าของบ้านไม่ได้ ดังนั้นจึงมาถ่ายที่นี่” ในฉากติดม่านหนาหนัก แสงน้อย ฉากดูสมจริง

“เอาละ ทุกคน เข้าประจำที่ได้แล้ว! ขยับหน่อย! ในเมื่อตัวเอกไม่อยู่ ผู้ดูแลฉากชั้นสอง นายสวมหน้ากากแล้วเล่นบทฆาตกรที่กำลังทำงานอยู่ในห้องน้ำตอนนี้ จำเอาไว้ว่าคำนวณเวลาโยนหัวคนออกมาให้ดี จากนั้นนายก็กระโจนออกมาจากในห้องน้ำ” ห้านาทีให้หลัง ทุกคนเตรียมพร้อม ห้องเงียบลง

เมื่อมีผู้กำกับเจียงชี้แนะ หานเฟยก็ค่อย ๆ เข้าสู่บทบาท นอนอยู่บนเตียงมืดสลัว ร่างกายของเขาค่อย ๆ ถูกความมืดกลืนกิน หานเฟยหลับตาลง เขาไม่จำเป็นต้องแสดงอะไรในเมื่อความทรงจำน่าสยดสยองจากเมื่อคืนยังสดใหม่อยู่ในใจเขา... ความเย็นที่วาบไปตามสันหลังและความสิ้นหวังที่สลัดไม่ออก

แอ็ด... เสียงหอบหายใจเบา ๆ ดังแผ่วในห้องเงียบ หานเฟยลืมตาพร่ามัวขึ้น ดวงตาของเขากลอกไปมาก่อนที่จะไปหยุดที่ประตูห้องน้ำ ม่านตาที่ไหวไปมาของเขาในที่สุดก็เพ่งไปยังลูกบิดประตู มันเหมือนกับเขาซ้อมฉากนี้มาหลายครั้ง ก่อนที่หานเฟยจะตื่นเต็มตา ลูกบิดประตูห้องน้ำก็เริ่มขยับด้วยตัวมันเอง บางทีอาจจะเป็นแสงสะท้อน แต่ว่ากล้องจับภาพประตูห้องน้ำที่เปิดออกเป็นช่องเล็ก ๆ ไว้ได้

ความมืดด้านหลังช่องเล็ก ๆ นั่นดูเหมือนจะซ่อนโลกหลังความตายเอาไว้

ตอนที่นิ้วทั้งห้าเอื้อมออกมาจากจากช่องว่าง ความน่ากลัวที่หานเฟยจดจำได้ก็ราวกับจะถูกปลุกขึ้นมา! ม่านตาของเขาหรี่ลง หัวใจเต้นเร็วขึ้น เขารู้สึกถึงความเย็นสายหนึ่งไล้ผ่านใบหน้า เลือดสูบฉีดไปตามร่างกาย ระดับอะดรีนาลินเพิ่มสูงขึ้น ใบหน้าของหานเฟยซีดเผือด และร่างกายของเขาก็เข้าสู่กระบวนการป้องกันตัวเอง จิตใจหวาดกลัวของเขาสะท้อนปฏิกริยาทางกาย ศีรษะของภรรยาของเขากลิ้งออกมาจากช่องว่างเล็ก ๆ นั่น ใบหน้าคุ้นเคยเอียงไปมาอยู่บนพื้นห้องน้ำ เธอดูเหมือนกำลังยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นช่างหนาวเหน็บ เหมือนเธอกำลังถามว่าเขาจะไปอยู่กับเธอด้วยไหม

ความหวาดกลัวที่หานเฟยสะกดเอาไว้หลุดออกมาเมื่อประตูห้องน้ำถูกผลักเปิดและมีดชุ่มเลือดปรากฏแก่สายตาของเขา! ฆาตกรกำลังพุ่งมาหาเขาแล้ว!

ความมืดอันคุ้นเคยพร้อมกับความหวาดกลัวที่คุ้นเคย ความสิ้นหวังจากการหลบหนีล้มเหลวเมื่อครั้งก่อนทำให้เขาตัวแข็งอยู่กับที่!

ภาพใบหน้าซีดเผือดของมนุษย์ซ่อนอยู่ในเงาจากโคมไฟหัวเตียงซ้อนทับกับฆาตกรในชีวิตชีวิต เสี้ยววินาทีนี้ หานเฟยบอกไม่ได้แล้วว่าอะไรจริง อะไรเท็จ ความตายอันแท้จริงที่ระบบข่มขู่เอาไว้เปลี่ยนใบหน้าของเขาให้เต็มไปด้วยความหวาดกลัว!

ความรู้สึกในดวงตาของหานเฟยนั้นไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำได้ กระทั่งผู้ดูแลฉากชั้นสองที่แสดงเป็นฆาตกรก็ยังต้องหยุดตัวเองแล้วหันกลับไปมองข้างหลังอย่างตื่นตัว

“คัท!” ผู้กำกับเจียงที่ถือบทละครเอาไว้พุ่งเข้ามา เขาคำรามอย่างโมโหใส่ผู้ดูแลฉากชั้นสอง “นายหันกลับไปทำไม? นายเป็นฆาตกร! ทำไมถึงชะงักหันไปมองข้างหลังตัวเองฮะ?”

“ผมขอโทษครับพี่เจียง” ผู้ดูแลฉากชั้นสองถอดหน้ากากออกใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น ๆ “ตอนที่ผมเห็นสีหน้าของหานเฟยเมื่อกี้นี้ ผมคิดจริง ๆ นะว่ามีอะไรอยู่ข้างหลังผมผมถึงได้หันกลับไปตามสัญชาตญาณ”

“นายนั่นแหละที่เป็นไอ้ฆาตกรนั่น ทำไมถึงตกใจกลัวง่ายขนาดนี้ฮะ? นายทำให้ซีนดี ๆ เสียหมดแล้ว!” ผู้กำกับเจียงวิ่งกลับไปในห้องนอนและพยุงหานเฟยขึ้นจากเตียงด้วยตัวเอง “หานเฟย การแสดงของนายพัฒนาไปมาก! นายเกิดมาเพื่อเป็นนักแสดงละครสยองขวัญ! พรสวรรค์ของนายไม่ควรเสียเปล่า!”

“การแสดงของผมดีขนาดนั้นเลยเหรอครับ?” ตอนนี้หานเฟยสงบลงแล้ว สีหน้าของเขากลับเป็นปกติ

“ใช่! มันเหมือนกับนายเคยอยู่ที่นั่นมาก่อน และเคยเจอกับสิ่งที่เว่ยโหยวฝูเจอด้วยตัวนายเอง!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด