ตอนที่แล้วบทที่ 37: รู้สึกราวกับว่าสูญเสียไปหลายร้อยล้าน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 39: เส้นทางแห่งศิลปะการต่อสู้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเดิน

บทที่ 38: เพิ่มโควต้าการสอบหลักสูตรศิลปะการต่อสู้


บทที่ 38: เพิ่มโควต้าการสอบหลักสูตรศิลปะการต่อสู้

หวังเต็งมองไปที่แถบค่าคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นมาที่ด้านล่าง ค่าคุณสมบัติเปล่า: 60

เขาลูบคางของเขา ในขณะนี้เขาอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาควรใช้ค่าคุณสมบัติเปล่านี้ยังไงดี?

เขามองหน้าต่างค่าคุณสมบัติจากบนลงล่าง

เรามาลองกันทีละคน

หวังเต็งเริ่มต้นด้วยการเพิ่มค่าคุณสมบัติเปล่าลงในค่าความรู้แจ้งที่มีอยู่ 83 คะแนน จากนั้นมันก็กลายเป็น 83.1!

อัตราส่วน 10:1

หวังเต็งพยักหน้ากับตัวเอง

เขาเพิ่มค่าคุณสมบัติเปล่าบางส่วนให้กับค่าพลังวิญญาณ ในทำนองเดียวกัน คาคุณสมบัติค่าพลังวิญญาณของเขาก็เพิ่มขึ้นมาอีก 0.1

นี่ก็มีอัตราส่วน 10:1 ด้วย

จากนั้นเขาก็เพิ่มค่าคุณสมบัติเปล่าบางส่วนให้กับพรสวรรค์ไฟและน้ำแข็งของเขา และทั้งสองก็เพิ่มขึ้นหนึ่งจุด

อัตราส่วน 1:1

เมื่อเขาไปถึงสายตาแห่งจิตวิญญาณ เขาก็คิดว่าอัตราส่วนนั้นก็น่าจะเท่ากันเ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่หวังเต็งเพิ่มค่าคุณสมบัติเปล่า 1 คะแนนลงไปที่มัน เขาก็พบว่ามันเพิ่ขึ้นมาแค่ 0.1 เท่านั้น ซึ่งนั่นก็หมายความว่ามันมีอัตราส่วน 10: 1

สายตาแห่งจิตวิญญาณเป็นพรสวรรค์ขั้นสูงอย่างงั้นหรอ? หวังเต็งอดไม่ได้ที่จะคิดแบบนี้

เขาทำการทดลองต่อไป จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าพลังที่อยู่ด้านล่างลงมาและคัมภีร์ทักษะพลังฟอร์สทั้งหมดรวมถึงเทคนิคการต่อสู้นั้นล้วนมีอัตราส่วนเป็น 1:1

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่สามารถเพิ่มค่าคุณสมบัติเปล่าให้กับค่าพลังการต่อสู้โดยรวมของเขาได้

“ดูเหมือนว่าฉันจะต้องเพิ่มค่าคุณสมบัติอื่นๆเพื่อเพิ่มพลังการต่อสู้โดยรวมของฉันสินะ”  หวังเต็งครุ่นคิด

หลังจากทดลองเสร็จสิ้น เขาก็ใช้ค่าคุณสมบัติเปล่าไปทั้งหมด 11 คะแนนและเหลืออยู่ 49 คะแนน

หวังเต็งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาเพิ่มพลังฟอร์สธาตุไฟ 20 คะแนนและใช้อีก 29 แต้มที่เหลือไปกับทักษะดาบเพลิงคิริน

ความเชี่ยวชาญดีกว่าการรู้ทุกอย่างเพียงเล็กน้อย

เขามีค่าคุณสมบัติเปล่าจำนวนจำกัด ดังนั้นเขาจึงสามารถอัพเกรดค่าคุณสมบัติของเขาได้อย่างจำกัด

ความรู้แจ้ง: 83.1

ค่าพลังวิญญาณ: 12.2

พรสวรรค์: พรสวรรค์ไฟขั้นเริ่มต้น (11/300) พรสวรรค์น้ำแข็งขั้นเริ่มต้น (13/300), สายตาแห่งจิตวิญญาณ (ขั้นเริ่มต้น 1.1/10)

พลังฟอร์ส: ไฟ 62/100  (นักสู้ระดับทหารหนึ่งดาว)

น้ำแข็ง 5/100 (นักสู้ระดับทหารหนึ่งดาว)

คัมภีร์: คัมภีร์เพลิงแดง (รากฐาน 2/100), คัมภีร์เหมันต์เร้นลับ (รากฐาน 2/100)

เทคนิคการต่อสู้: เทคนิคการต่อสู้ขั้นพื้นฐาน (กษะหมัดขั้นผู้เชี่ยวชาญ ทักษะดาบขั้นผู้เชี่ยวชาญ ทักษะมีดขั้นผู้เชี่ยวชาญ ฟุตเวิร์คขั้นผู้เชี่ยวชาญ) ทักษะปืน (ผู้สัมฤทธิ์) ทักษะดาบเพลิงคิริน (พื้นฐาน 40/100), หมัดปีศาจเหมันต์ (พื้นฐาน 9/100)

ความรู้: วิชาพื้นฐาน (คะแนนเต็ม)

พลังการต่อสู้โดยรวม: 191

ค่าคุณสมบัติเปล่า: 0

เขามองไปที่การเปลี่ยนแปลงในหน้าต่างค่าคุณสมบัติของเขาและพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

“ค่าคุณสมบัติเปล่านั้นเป็นสิ่งที่ดี ฉันหวังว่าฉันจะได้รับมันมามากกว่านี้!” หวังเต็งอุทานในใจของเขา

อย่างไรก็ตาม เขาก็รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับค่าคุณสมบัติเปล่ามาเป็นจำนวนมาก อีกายักษ์นั้นมีพลังมหาศาล และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ค่าคุณสมบัติดรอปออกมามากมาย

พูดได้เลยว่าเขาได้มันมาเพราะโชคช่วย!

ถ้านักสู้ลึกลับคนนั้นไม่ปรากฏตัว เขาก็คงจะตายไปแล้ว และเขาก็คงจะไม่มีโอกาสได้รับค่าคุณสมบัติเหล่านี้

และสิ่งนั้นมันก็ทำให้เขาคิดได้ เขาไม่สามารถรอให้โชคช่วยเขาได้อย่าเงดียว!

หวังเต็งส่ายหัวและปรับความคิดของเขา

ในช่วงบ่าย

คาบเรียนแรกในตอนบ่ายเป็นของฟ่าน เว่ยหมิง ครูใหญ่ของพวกเขา

เขาเดินเข้าไปในห้องเรียนและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “นักเรียน อีกสองสัปดาห์ก็จะถึงเวลาสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว พวกเธอจะต้องใช้เวลาของพวกเธออย่างชาญฉลาด อย่างไรก็ตาม อย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอด้วยล่ะ ปรับตารางเวลาของพวกเธอและอย่าป่วย เมื่อพวกเธอกลับถึงบ้าน พวกเธอก็อย่าลืมขอให้พ่อแม่ทำอาหารอร่อยๆให้ด้วยล่ะ”

“นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิก็เพิ่งออกแถลงการณ์มา พวกเขาบอกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในการสอบหลักสูตรศิลปะการต่อสู้”

นักเรียนทุกคนมองมาที่เขา

หวังเต็งเองก็เริ่มสนใจมากขึ้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้

จะมีการเปลี่ยนแปลงการสอบเข้ามหาวิทยาลัยทุกๆปี และเขาก็สงสัยว่าการเปลี่ยนแปลงในปีนี้จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด

นอกจากนี้มันก็ยังเกี่ยวข้องกับการสอบหลักสูตรศิลปะการต่อสู้

ฟ่านเว่ยหมิงเปิดปากของเขาภายใต้สายตาที่ทุกคนรอคอย “  การลงทะเบียนเรียนเข้าสอบหลักสูตรศิลปะการต่อสู้ในปีนี้จะมีการขยายขอบเขตมากขึ้น ศิษย์นักสู้ขั้นกลางจะสามารถเข้าร่วมการสอบหลักสูตรศิลปะการต่อสู้ได้”

“ขยายขอบเขตการลงทะเบียน!”

“จริงหรอ?”

“ศิษย์นักสู้ขั้นกลางจะสามารถมีส่วนร่วมได้ด้วยอย่างงั้นหรอ? นี่หมายความว่าฉันเองก็มีโอกาสได้เข้าเรียนหลักสูตรศิลปะการต่อสู้อย่างงั้นหรอ?”

นักเรียนหลายคนรู้สึกตื่นเต้น โดยเฉพาะผู้ที่มาถึงระดับศิษย์นักสู้ขั้นกลางแล้ว พวกเขาแทบจะลุกกขึ้นเต้นด้วยความปิติยินดี

ศิษย์นักสู้ขั้นเริ่มต้นเองก็เริ่มรู้สึกมีความหวังเพิ่มมากขึ้น

มันมีศิษย์นักสู้ขั้นสูงเพียงห้าคนในโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม มันก็มีศิษย์นักสู้ขั้นเริ่มต้นและขั้นกลางหลายคนมากที่นี่

และนี่ก็เป็นข่าวดีสำหรับเหล่าศิษย์นักสู้ขั้นกลาง

การสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้นเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต

หากพวกเขาเข้าร่วมหลักสูตรศิลปะการต่อสู้ได้ พวกเขาก็จะสามารถใช้ทรัพยากรได้มากขึ้น และสิ่งนี้ก็จะทำให้พวกเขามีโอกาสสูงที่จะได้เป็นนักสู้ในอนาคต

ในอดีต หลายคนไม่สามารถเป็นศิษย์นักสู้ขั้นสูงได้ก่อนที่จะอายุครบ 20 ปี ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถเข้าสอบหลักสูตรศิลปะการต่อสู้และไม่สามารถเป็นนักสู้ได้

อย่างไรก็ตาม ปีนี้หลักสูตรศิลปะการต่อสู้ก็ได้ประกาศเพิ่มโควตา และในที่สุดโอกาสของพวกเขาก็มาถึง

อย่างงี้พวกเขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร!

“เอาล่ะ ตั้งสติ รอฉันพูดให้จบก่อน” ฟ่านเว่ยหมิงปรบมือ

นักเรียนค่อยๆเงียบ พวกเขามองไปที่ฟ่านเว่ยหมิง

ฟ่านเว่ยหมิงกล่าวว่า “ถ้ามีใครต้องการสมัครหลักสูตรศิลปะการต่อสู้ พวกเธอก็อย่าลืมมาลงทะเบียนกับฉันที่ห้องทำงานของฉันภายในสัปดาห์นี้ด้วยล่ะ เพราะสำนักคณบดีนั้นต้องรวบรวมจำนวนผู้สมัครส่งให้กระทรวงศึกษาธิการ”

“พวกเธอจะได้รับบัตรประจำตัวสำหรับการสอบเมื่อพวกเธอลงทะเบียนแล้วเท่านั้น หากไม่มีบัตรประจำตัวนี้ พวกเธอก็จะไม่สามารถเข้าสอบหลักสูตรศิลปะการต่อสู้ได้ โปรดจำไว้ให้ดีล่ะ”

เขาหยุดครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ

“อย่างไรก็ตาม มันก็มีสิ่งหนึ่งที่พวกเธอจะต้องแจ้งให้พ่อแม่ของคุณทราบอย่างชัดเจน  มันจะมีการประเมินการต่อสู้จริงและนั่นก็เป็นการทดสอบที่มีความเสี่ยง”

“อินเทอร์เน็ตได้รับการพัฒนามาอย่างดี ดังนั้นพวกเธอทุกคนก็คงจะรู้แล้วว่ามันมีความเสี่ยงอะไรบ้างในการสอบหลักสูตรศิลปะการต่อสู้ อย่างไรก็ตาม พวกเธอก็อาจจะไม่รู้ว่าความเสี่ยงที่ฉันพูดถึงนั้นหมายถึงอะไร”

“ให้ฉันบอกพวกเธอก็แล้วกัน ความเสี่ยงที่ว่านั้่นก็คือความเสี่ยงในการเสียชีวิต พูดกันตามตรง อัตราการเสียชีวิตในการสอบเข้าหลักสูตรนี้นั้นไม่ใช่ศูนย์ ดังนั้นโปรดเข้าใจไว้ด้วยว่าหากคุณตาย นั่นก็หมายถึงตายจริงๆ”

“ด้วยเหตุนั้นเอง ถ้าพวกเธอไม่มั่นใจ งั้นก็จงอย่าเอาชีวิตไปทิ้งที่นั่น จงรอเอาปีหน้าแล้วค่อยไปสอบใหม่ก็ได้”

“โอเค ฉันก็พูดไปหมดแล้ว เอาเล่ะ เตรียมหนังสือเรียนของพวกเธอให้พร้อม เรากำลังจะเริ่มคาบเรียนของเราแล้ว”

ฟ่านเว่ยหมิงให้เวลานักเรียนครุ่นคิดหลังจากที่เขาพูดจบ

ตามที่คาดไว้ นักเรียนทุกคนล้วนเริ่มพูดคุยกัน

“มีอัตราการตาย? ฉันนึกว่ามันมีแค่การบาดเจ็บสาหัสซะอีก”

“ฉันเคยถามลุงของฉันมาก่อน แต่เขาก็บอกว่ามันไม่มีการเสียชีวิตเกิดขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา หรือว่าเขาจะโกหกฉันอย่างงั้นหรอ?”

“อาจจะไม่ แม้ว่ามันจะไม่มีผู้เสียชีวิตเลยในช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่งั้นปีก่อนๆ ล่ะ?”

“ฉันควรกลับไปค้นข้อมูลดีๆแล้วล่ะ หากมันมีอัตราการเสียชีวิตจริงๆ งั้นฉันก็จะต้องพิจารณาให้รอบคอบ”

นักเรียนบางคนขมวดคิ้ว ความสุขเมื่อครู่นี้หายไปปอย่างหมดจด

“อ่า… ถ้าฉันต้องการเข้าร่วมในการสอบหลักสูตรศิลปะการต่อสู้ ฉันก็จะต้องเริ่มอ่าน 'การสอบศิลปะการต่อสู้ห้าปี เอกสารจำลองสามปี' แต่มันก็เหลือเวลาอีกสองสัปดาห์เท่านั้น ฉันไม่มีเวลาเพียงพอ!” จู่ๆก็มีคนตะโกนขึ้นมา

“โอ้ใช่ ฉันยังไม่ได้เริ่มอ่าน 'การสอบศิลปะการต่อสู้ห้าปี เอกสารจำลองสามปี' เลย อย่างงี้ฉันจะไปสอบยังไงดีล่ะเนี่ย”

“พวกเขากำลังทำให้เรื่องมันยากขึ้นสำหรับเรา ทำไมพวกเขาถึงไม่แจ้งเราก่อนนะ...”

หัวข้อถูกนำไปในทิศทางอื่น ก่อนหน้านี้พวกเขายังคงกังวลเกี่ยวกับอัตราการเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้พวกเขาทั้งหมดก็ต้องมาตกตะลึงกับ 'การสอบศิลปะการต่อสู้ห้าปี เอกสารจำลองสามปี'

หวังเต็งส่ายหัว มันเป็นเพียงการเพิ่มที่นั่ง ซึ่งมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา ด้วยความสามารถในปัจจุบันของเขา มันก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย....

“หืม?” หวังเต็งหันหัวของเขาทันที เขาสังเกตเห็นว่าอารมณ์ของหลินซัวหานดูแปลกๆเล็กน้อย

ดวงตาของเธอเป็นประกาย อย่างไรก็ตาม มันก็ยังคงมีความลังเลและความกลัวบนใบหน้าของเธอ

“หัวหน้าห้องหลิน เธอเป็นศิษย์นักสู้ขั้นกลางใช่ไหม?”

หวังเต็งคิดถึงความเป็นไปได้ เขาอดไม่ได้ที่จะถามเธอว่า “เธอก็คิดที่จะสมัครหลักสูตรศิลปะการต่อสู้ด้วยอย่างงั้นหรอ?”

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด