ตอนที่แล้วตอนที่ 216 ประตูเคลื่อนย้ายเริ่มทำงาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 218 ศพและอสูรเผ่าหนูทั้งสาม

ตอนที่ 217 ระเบิดคริสตัลวิวัฒนาการและการหายไป


ตอนที่ 217 ระเบิดคริสตัลวิวัฒนาการและการหายไป

ณ เวลาเดียวกันเหนือหลุมลึกขึ้นไปบนท้องฟ้า เต็มไปด้วยพายุพลังงานจากการต่อสู้ของระบบและเมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการที่ต่อสู้เพื่อปกป้องไนเรลอยู่

ใบไม้รอยสักมากกว่า 90% แตกสลายหายไปแล้ว ไนเรลร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดนั้นไม่ต่างจากการที่โดนดึงคริสตัลวิวัฒนาการออกจากหน้าผาก ยิ่งระดับความสามารถของใบไม้สูงแค่ไหนมันก็ยิ่งเจ็บมากเท่านั้น

แต่มันก็คุ้มค่า เพราะมันช่วยให้เขารอดตายมาจนถึงตอนนี้

ในจังหวะที่สิ้นหวังที่สุดก็มีลำแสงพุ่งออกมาจากหลุมด้านล่างของเขา กระแทกเข้ากับร่างของไนเรลอย่างรุนแรง ตัวของเขากำลังจะหายไป แต่ที่น่าแปลกคือเมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการกับส่งความรู้สึกตื่นเต้นมา เหมือนกับว่าเมล็ดพันธุ์วิวัฒนาการรอช่วงเวลานี้มานานมากแล้ว

“สิ่งทดลองหลักกำลังจะหลบหนี เริ่มการติดตามและทำลาย” ระบบไม่ยอมให้ไนเรลหนีไปในเสี้ยววินาทีนี้มันหยุดการโจมตีที่ไร้ประโยชน์ และพุ่งเข้าหาตัวของไนเรลซึ่งไม่มีใครรู้ได้ว่าระบบต้องการจะทำอะไรอีกครั้ง

แต่ในตอนที่มันเลิกโจมตีไนเรลก็เปิดโอกาสให้ลูน่าเข้ามาขัดขวางได้

ลูน่าไม่ได้เข้าไปหาไนเรล แต่กลับเสียสละตัวเองเข้าไปขวางระหว่างไนเรลกับระบบ เธอเริ่มเผาไหม้คริสตัลวิวัฒนาการของตนเอง มันไม่ต่างจากการฆ่าตัวตายเลยแม้แต่น้อย

คริสตัลวิวัฒนาการปลดปล่อยพลังงานออกมาสุดกำลัง ระดับของลูน่าเพิ่มขึ้นมาระดับสีทอง ขั้นกลางมันยังเพิ่มขึ้นอีก แต่ไม่สามารถข้ามไปขั้นสูงได้แต่นั่นก็เพียงพอแล้ว

“ไม่! ลูกจะทำอะไร? ปล่อยฉันออกไป!” ไนเรลร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อเห็นสิ่งที่ลูน่าทำ เขาพยายามจะออกไป แต่เมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตกลับไม่ยอมปล่อยเข้าออกมา

ไนเรลกำลังจะหายเจ้าไปในแสง ลูน่าหันมามองพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาปากของเธอขยับช้า ๆ มากในมุมมองของไนเรล แม้จะไม่มีเสียง แต่เขากลับสามารถเข้าใจความหมายของมันได้

“พ่อต้องอยู่ต่อ...”

คริสตัลวิวัฒนาการของลูน่าระเบิดออกพร้อมกับเสียงดัง

บึม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

แรงระเบิดรุนแรงอย่างมากทำลายพื้นที่บนท้องฟ้ากว้างนับพันกิโลเมตร แม้แต่เมฆพลังงานที่ปิดกันชั้นเหนือเมฆไม้ก็แตกกระจายเกิดเป็นช่องโหว่ แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของการระเบิด

“ไม่!!!!!!!” ไนเรลร้องด้วยความเจ็บปวด

แต่แล้วระบบมันกลับไม่สลายไปมันพุ่งผ่านพลังงานระเบิดของลูน่าตรงเข้าหาไนเรล

“พลังงานไม่เพียงพอต่อการโจมตี เปิดใช้มาตรการ 0707 ปิดผนึกตัวทดลองหลัก” พลังงานของระบบเข้าไปที่หน้าอกของไนเรล

“อ๊ากกกกกกก!!!!” ไนเรลร้องออกมาหลังจากระบบพูดอะไรแปลก ๆ ซึ่งนั้นเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาได้ทำก่อนที่เขาจะสลบและหายไปในลำแสงของประตูเคลื่อนย้าย

ซึ่งตั้งแต่ที่ลำแสงของประตูเคลื่อนย้ายพุ่งขึ้นมาจนถึงไนเรลหายไปมันเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาที

............

หลังไนเรลหายไปก็มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ลูน่าในสภาพไม่ได้สติกำลังร่วงหล่นลงจากท้องฟ้าตอนนี้เธอไม่มีคริสตัลวิวัฒนาการที่หน้าผากอีกแล้ว เธอได้สูญเสียระดับพลังงานทั้งหมดไปแต่นั่นกลับไม่สามารถพรากชีวิตของเธอไปได้

แม้การระเบิดคริสตัลวิวัฒนาการจะไม่สามารถพากชีวิตเธอไปได้ แต่ด้วยตอนนี้เธอสูญเสียความสามารถไปแล้ว ทั้งยังหมดสติตกลงจากที่สูงนับหมื่น ๆ เมตรด้วยร่างกายที่ไม่ต่างจากคนธรรมดาเธอต้องตายอย่างแน่นอน

ในช่วงเวลานั้นเองก็มีหญิงสาวคนหนึ่งกระโดดขึ้นไปรับเธอกลางอากาศ ซึ่งไม่ใช่ใครอื่น ๆ แต่เป็นสเตล่า ในตอนแรกที่เธอออกมาจากแท่นบูชาหิน แต่พอเดินตามกลุ่มคนที่เห็นกลับต้องประหลาดใจเพราะคนพวกนั้นหายไป เธอรู้สึกว่าที่ด้านล่างอันตรายจึงถอยออกมาซ่อนตัวอยู่ที่ด้านบนพื้นดิน

และพอเธอเห็นลูน่าก็จำได้ว่าคือคนที่ช่วยชีวิตเธอไว้ ตอนแรกเธอไม่คิดจะช่วย แต่พอเห็นลูน่าบาดเจ็บสาหัสเธอกลับรู้สึกแปลก ๆ สุดท้ายก็ตัดสินใจออกจากที่ซ่อนและเข้ามาช่วยเธอ

สเตล่ารับตัวของลูน่าไว้

“เจ้าช่วยชีวิตข้าไว้ ข้าต้องตอบแทน” สเตล่ากอดตัวของลูน่าที่ไม่ได้สติไว้แน่นก่อนที่ทั้งคู่จะหายไปในลำแสงของประตู...

ณ จุดที่ไนเรล ลูน่าและสเตล่าหายไปพลังงที่แตกกระจายของระบบค่อย ๆ รวมตัวกันมันคือระบบที่ยังไม่ตาย ระบบรอยนิ่งอยู่มันรู้ว่าตัวมันที่นี่ไม่สามารถข้ามประตูเข้าไปได้เพราะคือหนึ่งในข้อจำกัดของระบบ

แต่ทุกอย่างย่อมมีทางเสมอ ชายขอบผืนป่าร่างของชายชราที่มีรอยแผลไหม้ปรากฏตัวขึ้น ระบบไม่รอช้าลอยเข้าไปหาชายชราก่อนที่จะผสานเข้าไปในตัวของชายคนนั้นและตรงเข้าไปในลำแสงของประตูเคลื่อนย้าย ก่อนที่ลำแสงทุกอย่างจะหายไป

พร้อมกันนั้นกุญแจทั้ง 6 ดอกที่ใช้เปิดประตูก็หายไปด้วย มันถูกส่งไปยังจุดหมายปลายทางของประตูเคลื่อนย้าย

จักรพรรดิซอมบี้เฝ้ามองทุกอย่างอยู่ปากหลุม มันพึมพำออกมา “ฮ่า ๆ ข้าส่งกุญแจให้เจ้าแล้ว หวังว่าเจ้าจะได้รับมัน ข้ากำลังรอการมาถึงของตัวเองอยู่ หวังว่าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง”

จักรพรรดิซอมบี้บินหายไปในเส้นขอบฟ้าอย่างรีบร้อน เพราะอาการบาดเจ็บของมันจึงต้องกลับไปที่จักรวรรดิทองคำของตนเอง

วันเวลาผ่านไปแล้วสามวัน...

มันยังคงมีร่องรอยของการต่อสู้ในป่าของทวีปฟาบีออสให้เห็นอยู่บ้าง มีซอมบี้ที่ยังหลงฝูงให้เห็นอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะโดนสัตว์กลายพันธุ์จัดการฆ่า

ทุกอย่างหายไปจนหมด คนในหลุมลึกซอมบี้ ทหารจีนาส หายไปในประตูเคลื่อนย้ายที่ไม่รู้ว่าไปโผล่ที่ไหน ตอนนี้ผืนป่ากลับเป็นเงียบสงบ

แต่ยังมีอีกคนหนึ่งที่เฝ้าคอยอยู่ มันคือเอิร์ลดาโก้ที่หลบซ่อนอยู่มาสามวันแล้ว ตอนนี้มันหลงไปในหลุมลึกยังจุดที่มีวงจรมากมาย

ที่นี่ไม่มีใครอยู่เลย แม้แต่ซากศพก็โดนเคลื่อนย้ายไปด้วย

“หลังจากที่มันปิดผนึกมานาน หลังจากประตูถูกเปิดพลังงานที่สะสมอยู่จะถูกปดปล่อย เส้นทางที่พาไปสู้สถานที่นั้นก็จะสามารถเข้าไปได้” เอิร์ลดาโก้ยิ้มออกมาและพูดกับตัวเองต่อว่า “แต่น่าเสียดายถ้าฉันสามารถได้กุญแจมามากกว่านี้จะดีมาก”

เอิร์ลดาโก้เดินไปยังใจกลางจากนั้นก็เฝ้ามองอยู่สักพักก่อนที่จะเดินไปยังจุดหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ไม่กี่สิบปี หลังจากเปิดเข้าไปด้านในก็มีกลุ่มคนที่เข้ามาหาเอิร์ลดาโก้ทันที

“พวกเจ้าจัดการได้ไหม”

“ตอนนี้พลังงานที่กลั่นเส้นทางไว้ถูกเปิดออกแล้ว แต่ยังต้องใช้กุญแจดอกที่ 7 และ 8 ในการเปิดประตูหลัก”

“ฮ่า ๆ ดีมาก หลังจากข้าได้เข้าไปได้ จีนาสของเราจะกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง เราจะปกครองมนุษย์ทุกคน พวกประเทศอื่น ๆ จะต้องหมอบแทบเท้าชาวจีนาส”

เอิร์ลดาโก้เดินผ่านห้องด้านในเข้าไปเรื่อย ๆ สถานที่นี้มันเป็นห้องทดลองที่เก่ามาก ดูเหมือนไม่ได้ใช้มานาน แต่อุปกรณ์หลายอย่างนั้นทันสมัยอย่างมากจนน่าแปลกใจ ซึ่งนี่เป็นผลมาจากการศึกษาเทคโนลีชั้นสูงจากพลังงานที่พวกเขาพบเจอ

คนทั้งหมดมาหยุดอยู่ที่กำแพงด้านหน้า มันมีช่องใส่กุญแจสองดอก

เอิร์ลดาโก้ไม่รอช้าทั้งสองมือหยิบกุญแจออกมาใส่เข้าไปพร้อมกัน กึก ๆ หลังจากกุญแจลงไปในล๊อกแล้วมันก็ถอยหลังออกมากุญแจจมหายไปจากนั้นกำแพงก็ค่อย ๆ สลายหายไป เผยให้เห็นทางเดินเข้าไปได้ใน

“ยินดีต้อนรับเข้าสู่ยานขนส่งอวกาศ 7675842”

.....

ห่างออกไปไกล กองกำลังมนุษย์ 30 คนกำลังออกเดินทางลงใต้เพื่ออกจากทวีปฟาบีออลาดตระเวนให้รวดเร็วที่สุด พวกเขาคือคนของสมาพันธ์นักที่ถูกทิ้งไว้ หลังจากที่เกิดลำแสงพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า พวกเขาพยายามติดต่อคน ๆ ที่ลงไปในหลุมแต่กลับไม่สามารถติดต่อใครได้ เมื่อเข้าไปสำรวจก็ไม่พบใครอยู่เลย

หมอแฮรี่ที่อยู่ในกลุ่มรู้ว่าตอนนี้สถานการณ์นั้นวิกฤตจึงรีบเดินทางกลับไปที่สมาพันธ์นักล่าให้เร็วที่สุด แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลา

ทั้งกลุ่มเดินทางด้วยความเร่งรีบสองสัปดาห์ต่อพวกเขาก็รู้ว่าการทำแบบนี้มันอันตรายเพราะในป่าของทวีปฟาบีออสนั้นเต็มไปด้วยสัตว์กลายพันธุ์ที่พร้อมจะไล่ล่าพวกเขา ซึ่งกลุ่มของพวกเขาสูญเสียคนไปถึง 5 คน

ยังดีที่ชุดสูท M4 ของพวกเขาสามารถใช้งานได้ด้วยเทคโนโลยีที่เอวาและนิเรียให้ไว้ ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่เอวาให้นำกลับไปที่สมาพันธ์นักล่าให้ได้ มันยังมีข้อมูลอื่น ๆ อยู่อีกที่ได้มาจากการที่เมสันขโมยมาจากพวกจีนาส

6 เดือนหลังจากการเดินทางที่ยาวนานในที่สุดแฮรี่และนักโบราณคดีจอห์นพร้อมกับคนอีก 5 คนรวมเป็น 7 คนที่มาถึงชายแดนมิสทาลและไทกีล่า ซึ่งสภาพของพวกเขานั้นบาดเจ็บสาหัสและใกล้หมดแรงเต็มทีแล้ว

การตายของคนในกลุ่มมากที่สุดเกิดขึ้นในช่วงที่ทั้งกลุ่มผ่านมิสทาลที่นั่นไม่ต่างจากนรกบนดิน โดนซอมบี้ไล่ฆ่าในทุกลมหายใจ

“ในที่สุดพวกเราก็กลับมาได้” จอห์นกล่าวออกมา

ในตอนนั้นเองหมอแฮรี่ก็เรียกชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นสมาชิกอีกคน “อย่าพึ่งหลับ เราถึงชายแดนไทกีล่าแล้ว อย่าพึ่งตายตรงนี้”

หมอแฮรี่พยายามยื้อชีวิตของชายคนนั้นอย่างสุดความสามารถ แต่มันสายไปแล้ว

ชายคนนั้นตายไปพร้อมกับรอยหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่กลับมาเหยียบแผ่นดินเกิดของตัวเอง

“หมอพอเถอะ มันบอกกับผมไว้ว่าถ้าตายอยากจะตายที่บ้านเกิดตอนนี้มันคงตายตาหลับแล้ว” หนึ่งในเพื่อนของชายคนนั้นเข้ามาห้ามหมอไว้

แฮรี่รู้ว่ามันไร้ประโยชน์ชายคนนี้ตายไปแล้วจริง ๆ

“ไม่ พวกนายคือคนของสมาพันธ์นักล่า เราจะเอาร่างของเขากลับไปที่สมาพันธ์ด้วย” แฮรี่บอกกับพวกเขา

ทุกคนเช็ดน้ำตา ที่ผ่านมาจาก 30 คนรอดมาแค่ 7 คนพวกเขามองดูเพื่อนที่ตาย บ้างเสียสละ ให้คนอื่นหนีออกมาได้ แม้จะไม่สามารถพาร่างทุกคนกลับไปที่สมาพันธ์นักล่าได้ แต่พวกเขาจะพาความทรงจำที่มีคนเหล่านี้กลับไปเหล่าให้คนที่สมาพันธ์นักล่าได้รับรู้ และทุกคนจะจดจำพวกเขาตลอดไป

“นั้นใคร พวกนายกลุ่มคนที่หายไปพร้อมกับท่านไนเรล” หนึ่งในหน่วยลาดตระเวนของกองกำลังพยัคฆ์เจอกลับพวกเขา

...........

สมาพันธ์นักล่า เมืองหลวงไทกีล่า ภายในห้องของประชุมทุกคนต่างโต้เถียงกันถึงเรื่องข่าวการหายตัวไปของคนระดับสูงของสมาพันธ์นักล่า ซึ่งทุกคนถือได้ว่าเป็นกระดูกสันหลังของสมาพันธ์

“ทุกคนหายตัวไป แม้แต่ท่านไนเรล เราควรจะแต่งตั้งประธานสมาพันธ์คนใหม่ขึ้นมา”

“หมายความว่ายังไง หรือคุณคิดจะเสนอชื่อตัวเองขึ้นมาเป็นประธาน เรื่องนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ อีกอย่างพวกเขาแค่หายตัวไปเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าตาย”

“พูดแบบนั้นก็ไม่ถูก นี่ก็ตั้ง 7 เดือนมาแล้ว ตอนนี้เราควรที่จะมีผู้นำที่รวมอำนาจไว้ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดเหตุวิกฤตขึ้นมามันยากที่จะตัดสินใจอะไรได้ หรือต้องมานั่งประชุมแบบนี้”

เหล่ารัฐมนตรีที่เคยทิ้งตำแหน่งไปและเข้าร่วมกับสมาพันธ์นักล่าต่างพากันออกเสียงไปในแนวทางต่าง ๆ แต่เมื่อมองดี ๆ พวกเขากำลังเล่นเกมอำนาจกันอยู่

“พอได้แล้ว” เสียงของไคโรดังขึ้น ทุกคนต่างเงียบปากทันที ตอนนี้ไคโรคือพ่อของไนเรลและมีอำนาจมากที่สุดในสมาพันธ์นักล่าในตอนนี้ อีกอย่างเขายังได้รับการสนับสนุนจากตาเดียวซึ่งก็ขึ้นมาเป็นระดับสีม่วงขั้นต้นเมื่อเดือนก่อนจากแก่นพลังงานที่ไนเรลทิ้งไว้ให้

ต้องบอกว่าแม้อนาคตจะเปลี่ยนแต่บางสิ่งยังเกิดขึ้นเหมือนเดิม ตาเดียวได้ยกระดับพลังจนมถึงระดับสีม่วงแล้วเช่นกัน เป็นมนุษย์ชั้นสูงชั้นแนวหน้าของมนุษย์อย่างแท้จริง

ไคโรมองไปที่ทุกคนและพูดต่อว่า “ไนเรลยังไม่ตายและเขาต้องกลับมาอย่างแน่นอน”

“คุณรู้ได้ยังไง แม้คุณจะเป็นรักษาการประธาน แต่แบบนี้มันไม่เรียกว่าเป็นการคาดเดาไปหน่วยเหรอ” หนึ่งในรัฐมนตรีที่เคยดูแลเมืองย่อยที่เข้าร่วมกับสมาพันธ์นักล่าไม่นานกล่าวขึ้นมา

“หืม คุณพยายามจะบอกว่าลูกทั้งสองของฉันตายไปแล้ว” ไคโรมองด้วยสายตาที่เย็นชา บรรยากาศในห้องน่าอึดอัดขึ้นมาทันที

คนอื่น ๆ ก็รับรู้ได้เช่นกัน

เคล้ง!

ไคโรโยนบางอย่างออกมา

หลายคนสงสัยว่ามันคืออะไรและเกี่ยวข้องยังไงกับไนเรล

“มันคือเข็มทิศชีพ ซึ่งเคยเป็นสิ่งที่ใช้ตามหาตัวของไนเรลโดยพวกยักษ์เถื่อน หลังจากที่ไนเรลได้มันมาก็เก็บไว้ในสมาพันธ์นักล่ามีไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ ถ้าเข็มทิศยังไม่พังหมายความว่าไนเรลยังมีชีวิตอยู่ แม้มันจะใช้ค้นหาไนเรลไม่ได้ แต่ก็บอกได้ว่าไนเรลยังไม่ตาย บางที่พวกเขาอาจจะอยู่ไกลมาก ๆ” ไคโรอธิบาย

ทุกคนต่างเงียบกับคำพูดของไคโร พวกเขารู้ดีว่าสมาพันธ์นักล่าถูกสร้างขึ้นมาจากไนเรล แม้ไนเรลจะหายตัวไป แต่ก็ใช่คนระดับพวกเขาจะเข้ามากุมอำนาจได้ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญไม่ใช่หน้าตา เงินทอง หรือเชื้อสายอะไรทั้งนั้น แต่มันคือมนุษย์ชั้นสูงที่ทรงพลัง และทุกคนอยู่ฝ่ายไนเรล

พวกเขารู้เรื่องนี้ดี แต่ที่มานั่งเถียงกันก็เพราะต้องการแค่เพียงให้ฐานะของตัวเองในสมาพันธ์สูงขึ้นก็เท่านั้น

“วันนี้พอแค่นี้ก่อน” ไคโรจบการประชุมเพราะบรรยากาศตอนนี้มันน่าอึดอัดเกินไป ทุกคนต่างพากันแย่งย้ายออกไปจากห้องประชุม

“ทุกคนไปอยู่ที่ไหนกัน” ไคโรมองไปที่เข็มทิศชีพที่อยู่บนโต๊ะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด