ตอนที่แล้ว218 - เตรียมการ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป220 - กลายเป็นผู้ติดตาม

219 - แต่งงาน


219 - แต่งงาน

ความมหัศจรรย์ของชะตากรรมของบุคคลนั้นยากที่จะอธิบายเป็นคำพูดได้

เมื่อไม่กี่เดือนก่อนในตอนที่เอี้ยนลี่เฉียงมาที่ตระกูลหลู่ เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มไร้เงิน อย่างไรก็ตามในเวลาเพียงครึ่งปีเอี้ยนลี่เฉียงคว้าอันดับหนึ่งในการทดสอบศิลปะการต่อสู้ของมณฑลชิงไห่

จากนั้นเขาก็ได้รับข้อเสนอจากซุนปิงเฉินซึ่งมาตรวจการเมืองผิงซีโดยไม่คาดคิด มันคงไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าเอี้ยนลี่เฉียงเป็นนกนางแอ่นที่บินไปบนกิ่งไม้และกลายเป็นหงส์ไฟไปในที่สุด

ตระกูลที่มีอิทธิพลเช่นตระกูลลู่จะสามารถเข้าใจถึงความสำคัญของเอี้ยนลี่เฉียงที่มีโอกาสได้รับใช้ซุนปิงเฉินดีกว่าสามัญชนทั่วไปมาก

นับตั้งแต่ตะกูลลู่ถูกก่อตั้งขึ้นก็ยังไม่เคยมีใครในตระกูลของพวกเขาเคยรับใช้บุคคลสำคัญเช่นซุนปิงเฉิน หาดตระกูลตระกูลหวังสามารถรับใช้บุคคลสำคัญเช่นนี้พวกเขาจะไม่ถูกทำลายอย่างแน่นอน

“แล้วเจ้าคิดอย่างไรลี่เฉียง เจ้าพร้อมที่จะรับใช้ท่านซุนหรือไม่”

เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงบอกเฉียนซูเกี่ยวกับซุนปิงเฉินเสร็จแล้ว ผู้เฒ่าลู่และลู่เปียนก็แลกเปลี่ยนสายตากัน ทั้งสองมองเห็นความประหลาดใจในสายตาของกันและกัน

“จุดประสงค์ของการกลับบ้านครั้งนี้คือเพื่อหารือเรื่องนี้กับท่านพ่อ ดูเหมือนว่าพ่อของข้าจะสนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ข้ายังต้องการติดตามท่านซุนเพื่อรับประสบการณ์มากขึ้น และขยายขอบเขตวิสัยทัศน์ของข้าให้กว้างไกลขึ้นด้วย!” เอี้ยนลี่เฉียงตอบอย่างนอบน้อม

คำตอบของเอี้ยนลี่เฉียงถือได้ว่าเป็นความจริงบางส่วน อย่างน้อยก็ดูน่าเชื่อบนพื้นผิว

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่แท้จริงที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเอี้ยนลี่เฉียงที่จะติดตามซุนปิงเฉิน ยังคงเป็นความหายนะที่ทั้งเขาและพ่อของเขาเคยประสบมาก่อน

ในสายตาของผู้ว่าการแคว้น ชีวิตของพวกเขาไม่มีความสำคัญเท่ากับมดด้วยซ้ำ ด้วยการพลิกมือของเขา หรือแม้แต่กระดิกนิ้ว เขาก็สามารถบดขยี้ตระกูลเอี้ยนได้อย่างง่ายดาย

เย่เทียนเฉิงจัดการเรื่องนี้ได้อย่างไร? คำตอบสามารถสรุปได้เป็นสองคำ อำนาจและอิทธิพล!

เอี้ยนลี่เฉียงเข้าใจถึงความน่าเกรงขามของอำนาจและอิทธิพลอย่างแท้จริง หลังจากที่เขามีประสบการณ์และเข้าใจพวกมันผ่านความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานของเขา

ในบรรดาทุกคนที่อาศัยอยู่ในโลกนี้ นอกจากผู้เชี่ยวชาญพิเศษและนักพรตที่ซ่อนตัวอยู่ในป่า จะมีสักกี่คนที่สามารถหลบหนีอิทธิพลของอำนาจได้?

ถ้าไม่มีใครสามารถหนีจากสิ่งเหล่านั้นได้ จะดีกว่าไหมที่จะโอบกอดพวกมันไว้? อย่างน้อยก็น่าจะได้ผลมากกว่าด้วยวิธีการรับมือแบบอยู่เฉยๆ

นอกเหนือจากความรู้สึกถึงวิกฤตแล้ว ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เอี้ยนลี่เฉียงตัดสินใจเช่นนั้น เนื่องจากพระเจ้าได้ให้โอกาสเขาอีกครั้งในการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ เขาจึงควรใช้ชีวิตที่น่าตื่นเต้นมากขึ้นและสำรวจโลกทั้งใบให้หมด

พระเจ้ามอบศิลาสวรรค์ให้เขาและอนุญาตให้เขาได้รับคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น ทั้งหมดก็น่าจะเป็นเพราะว่าต้องการอำนวยความสะดวกให้เขานอนเล่นเฉยๆในโลกแห่งนี้หรือไม่?

ไม่! เอี้ยนลี่เฉียงปฏิเสธที่จะเชื่ออย่างนั้น เขารู้สึกว่าต้องมีเหตุผลเสมอที่พระเจ้าจะมอบบางสิ่งให้เรา... แม้จะไม่มีซุนปิงเฉิน เอี้ยนลี่เฉียงก็วางแผนที่จะเดินทางไปรอบๆและสำรวจโลกสักวันหนึ่งอยู่ดี

ด้วยข้อเสนอของซุนปิงเฉิน เขาอาจจะขึ้นเรือของผู้ตรวจการใหญ่ได้อย่างสะดวกสบาย

“นี่เป็นโอกาสและพรของลี่เฉียง แน่นอนตระกูลลู่รู้สึกมีความสุขที่เจ้ามีอนาคตสดใสข้างหน้า!” หลู่เปียนยิ้มเขาเหลือบมองที่นายผู้เฒ่าลู่

“ถ้าหลี่เฉียงจะทำงานให้ท่านซุน เจ้าก็อาจจะต้องไปกับเขาด้วย ดังนั้นพวกเราจึงยากที่จะได้พบกันอีกข้ารู้สึกเศร้าใจเล็กน้อยเมื่อคิดถึงเรื่องนี้…”

ลู่เปียนถอนหายใจในตอนท้าย

เอี้ยนลี่เฉียงฉลาดพอที่จะเข้าใจสิ่งที่ลู่เปียนพูดเป็นนัย โดยพื้นฐานแล้วตระกูลลู่แม้ว่าพวกเขาจะสนับสนุนการตัดสินใจของเขา แต่พวกเขาก็ต้องมีความชัดเจนในบางสิ่งในเวลาเช่นนี้

ไม่ว่าสิ่งต่างๆจะเป็นไปด้วยดีหรือไม่ พวกเขาก็ต้องการข้อสรุปในตอนนี้ มิฉะนั้ สิ่งต่างๆจะยุ่งยากหรือจะล่าช้าในอนาคต นี่เป็นเหตุผลที่แน่นอนเบื้องหลังการมาเยี่ยมตระกูลลู่ของเอี้ยนลี่เฉียง

“ข้าเข้าใจสิ่งที่ท่านพูด พี่หก การมาเยี่ยมตระกูลลู่ครั้งนี้คือการได้พูดคุยกับท่านและนายผู้เฒ่าลู่เพื่อถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ในใจของข้า!” เอี้ยนลี่เฉียงมองไปที่นายผู้เฒ่าลู่และลู่เปียนอย่างจริงจัง

“คุณหนูเก้ามาจากตระกูลที่มีชื่อเสียงและเป็นลูกสาวที่รักของนายผู้เฒ่าลู่อีกด้วย นางเป็นหญิงงามที่มีความเฉลียวฉลาดและมีบุคลิกที่โดดเด่น แม้ว่าเราจะใช้เวลาอยู่ร่วมกันไม่นานแต่ข้าก็รู้สึกมีความประทับใจในตัวนางจริงๆ

ข้าขอขอบคุณในความเมตตาของนายผู้เฒ่าและพี่หกจริงๆที่ไม่ได้รังเกียจในตัวตนของข้า สำหรับข้าแล้วถ้าคุณหนูเก้ายินดีข้าก็อยากจะแต่งงานกับนางและให้นางติดตามข้าไปพร้อมกัน!”

นายผู้เฒ่าลู่และลู่เปียนจะบ่นอะไรกับลูกเขยผู้ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้อีก? เอี้ยนลี่เฉียงได้พูดทุกอย่างตามที่พวกเขาต้องการแล้ว ไม่เพียงเท่านั้นเขายังทำอย่างสุภาพอีกด้วย

เมื่อได้ยินเช่นนั้น คิ้วยาวของนายผู้เฒ่าลู่ก็เลิกขึ้นทันที เขายืดหลังของเขาและสั่งลู่เปียนด้วยท่าทางเคร่งขรึม

“เปียนเอ๋อ ท่าทีของลี่เฉียงทำให้ชัดเจนแล้ว ไปเรียกเป่ยซินมา!”

ลู่เปียนลุกขึ้นและจากไปทันทีโดยปล่อยให้เอี้ยนลี่เฉียง เฉียนซูและนายผู้เฒ่าลู่รออยู่ที่ห้องนั่งเล่น

ลู่เปียนกลับมาในสิบนาทีต่อมา แต่ไม่มีลู่เป่ยซินตามมาด้วย

จากสีหน้าของลู่เปียนดูเหมือนว่าเขาจะอึดอัดและเขินอายเล็กน้อย และเขาอธิบายสถานการณ์ได้ก็ต่อเมื่อเห็นว่านายผู้เฒ่าลู่กำลังจะทุบหัวของเขา

“อืม น้องเก้า… น้องเก้าบอกว่านางกลัวว่า… ลี่เฉียงและนางอาจจะไม่ใช่คู่ของกันและกันดังนั้นนางจึงไม่ต้องการมาที่นี่…”

เอี้ยนลี่เฉียงหัวเราะคิกคักเมื่อเขานึกถึงลู่เป่ยซิน จากความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับลู่เป่ยซินเขาค่อนข้างแน่ใจว่านางจะไม่พูดคำที่มีคารมคมคายเช่นนี้

สิ่งเดียวที่นางจะพูดก็คือ - 'ข้ายอมตายดีกว่าแต่งงานกับเขา!' ลู่เปียนได้แต่ 'ใช้คำพูดสวยงาม' เพื่อหลีกเลี่ยงความลำบากใจเพิ่มเติม แต่เขาเจตนาในคำพูดนั้นชัดแจ้งอยู่แล้ว

นายผู้เฒ่าลู่จะไม่เข้าใจอารมณ์ของลูกสาวที่เขารักได้อย่างไร? ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่สามารถบังคับนางได้ แม้ว่าเขาจะชื่นชอบเอี้ยนลี่เฉียงแต่ทุกอย่างก็ไร้ประโยชน์หากลูกสาวของเขาไม่เต็มใจ

ถ้าเขาบังคับลู่เป่ยซินจริงๆเขาไม่แน่ใจว่านางจะทำอะไรอีก หลังจากฟังคำพูดของลู่เปียนนายผู้เฒ่าหลู่ก็ถอนหายใจในขณะที่เขาบอกเอี้ยนลี่เฉียงว่า

“เป่ยซิน ถูกข้าตามใจตั้งแต่เธอยังเด็ก การที่ไม่อาจได้แต่งงานกับเจ้านั่นถือเป็นโชคร้ายของนาง แม้ว่าข้าจะไม่สามารถรับเจ้าเป็นลูกเขยได้แต่ก็ขอรับเจ้าเป็นหลานชายได้หรือไม่”

เอี้ยนลี่เฉียงยืนขึ้นและคุกเข่าลงกราบด้วยความเคารพพร้อมกับกล่าวว่า

“กราบพบท่านลุง!”

...

เมื่อเอี้ยนลี่เฉียงและเฉียนซูออกมาจากตระกูลลู่ท้องฟ้าก็มืดแล้วและพวกเขาก็ทานอาหารเย็นกันที่นั่น

การตอบสนองของลู่เป่ยซินอยู่ในความคาดหวังของเขาเป็นอย่างดี และด้วยเหตุนี้เอี้ยนลี่เฉียงจึงไม่รู้สึกผิดหวังจริงๆ

การที่เขามาที่ตระกูลลู่ในครั้งนี้ก็เพราะว่าเขาไม่ต้องการเป็นคนเนรคุณ หากว่าเขาได้ดิบได้ดีแล้วจะสลัดลืมผู้มีพระคุณไปได้อย่างไร นั่นไม่เข้ากับธรรมเนียมของโลกนี้

เฉียนซูผู้ซึ่งขี่ม้าแรดของเขารอจนกว่าพวกเขาจะออกจากตระกูลลู่จากนั้นเขาก็ถามเอี้ยนลี่เฉียงด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า

“ลี่เฉียง เจ้ารู้ว่าคุณหนูลู่จะปฏิเสธเจ้าตั้งแต่แรก?”

“ลุงเฉียน คุณหนูลู่เป็นลูกสาวสุดที่รักของนายผู้เฒ่าลู่ ดังนั้นตั้งแต่เกิดมานางก็มีความคิดเป็นของตัวเองและไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่มีใครห้ามปรามนางได้

และที่สำคัญเมื่อไม่กี่วันก่อนในตอนที่ข้าและนางไปที่เมืองผิงซี ก็เกิดความขุ่นเคืองระหว่างเราเล็กน้อย ดังนั้นจึงรับรองได้ว่าไม่มีทางที่นางจะแต่งงานกับข้าแน่นอน…” เอี้ยนลี่เฉียงส่ายหัว

“น่าเสียดายจริงๆ!” เฉียนซูก็ถอนหายใจเช่นกัน “ทุกคนคิดว่าเจ้าและคุณหนูลู่ค่อนข้างเหมาะสมกัน ไม่กี่ปีข้างหน้าหากเจ้าได้รับการสนับสนุนจากตระกูลลู่อนาคตของเจ้าก็จะสดใสเป็นอย่างมาก !”

“ก็ของแบบนี้บังคับไม่ได้”

“เจ้าพูดถูก แต่อย่าห่วงเลยข้าเชื่อมั่นในตัวเจ้า ในอนาคตยังมีโอกาสมากมายให้เจ้าคอยคว้า!”

...

เอี้ยนลี่เฉียงพักอยู่ที่เมืองหวงหลงหนึ่งวัน จากนั้นจึงออกเดินทางไปยังเมืองผิงซีในวันรุ่งขึ้น

หลังจากที่เขาเปลี่ยนชุดใหม่แล้ว เขาก็เดินไปที่คฤหาสน์ใกล้กับสวนพลัมที่ซุนปิงเฉินอาศัยอยู่อีกครั้งเพื่อแสดงเจตจำนงขอติดตามผู้ตรวจการใหญ่ของแผ่นดินไปทุกที่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด