ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 2 การปรากฏขึ้นของช่องว่างระหว่างมิติ  

บทที่ 1 ลิ่มสลัก


ณ เมือง Z หญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่บนเตียงภายในห้องทดลองชั้นใต้ดินที่เย็นยะเยือก ผมของเธอถูกโกน หลอดฉีดยาและหลอดทดลองทั้งหลายถูกฉีดเข้าไปทั่วร่างกายของเธอ สองหลอดที่ขนาดใหญ่เท่ากับแขนคนถูกฉีดเข้าไปที่ศีรษะของเธอเช่นเดียวกัน รอยฟกช้ำสีม่วงปรากฏอยู่ทั่วเรือนร่างของเธอ  

สำหรับฉินอีแล้ว ห้องทดลองสีขาวบริสุทธิ์นี้คือที่ที่สกปรกที่สุดในโลกเลย เธออยากจะตายไปให้รู้แล้วรู้รอด  

“กริ๊ก” ประตูถูกเปิดออก หญิงสาวภายใต้เสื้อกาวน์สีขาวเดินเขามาอย่างเชื่องช้า ตามมาด้วยชายอีกคนในชุดกาวน์สีขาวแบบตะวันออก  

“ฉันมีข่าวดีจะมาบอกพี่ด้วยล่ะ” ฉินเจียวเจียวมองไปที่ใบหน้าชาไร้ความรู้สึกของฉินอี เธอสะบัดผมบนอกออกแล้วพูดต่อ “พ่อกำลังจะได้เป็นผู้ปกครองอำนาจเผด็จการแห่งเขตกู้ภัย Z แล้วนะ บอกเลยว่าทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณผลงานความเสียสละของพี่เลยล่ะ”  

 ฉินเจียวเจียวยิ้มให้กับฉินอีที่นอนเพิกเฉย  “เอ้อ จริงด้วย เจิ้งจ้งกับฉันกำลังจะแต่งงานกันแล้วนะ แต่ฉันเกรงว่าคงจะเชิญพี่ไปร่วมงานฉลองไม่ได้น่ะสิ คงไม่ลืมหรอกนะว่าพ่อกับเจิ้งจ้งน่ะเกลียดพี่ขนาดไหน”  

 นัยน์ตาของฉินอีเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ขณะที่เธอได้แต่ดิ้นรนและโอดครวญจากความปวดร้าว  

สายตาของฉินเจียวเจียวที่มองไปนั้นช่างดูนุ่มนวล “ไอ้หยา พี่พยายามจะพูดอะไรรึเปล่าน่ะ โอ๊ะ ฉันลืมไปน่ะว่าพี่พูดไม่ได้”  

ฉินอียังคงดิ้นต่อไป ขณะที่ดวงตาของเธอฉาบไปด้วยสีแดงจากความโกรธที่ไหลท่วมท้น  

ได้เห็นฉินอีในสภาพที่น่าอับอายเช่นนี้ ฉินเจียวเจียวก็หัวเราะเสียงดัง  “ฉินอี ถ้าเกิดว่าพี่เป็นถึงผู้ใช้พลังคู่สายฟ้า-น้ำแข็งแล้ว แต่สุดท้ายพ่อก็ยังทอดทิ้งพี่อยู่ดี เจิ้งจ้งก็ไม่ต้องการพี่เลยแม้แต่นิดเดียว ฉันก็จะได้เป็นคุณหนูตัวจริงแห่งตระกูลฉินสักที ขณะที่พี่คงเป็นได้แค่หายนะ”  นัยน์ตาของฉินเจียวเจียวเปี่ยมไปด้วยความบ้าคลั่งขึ้นมาอย่างฉับพลัน แม้แต่ใบหน้าอันสวยงามของเธอก็เปลี่ยนเป็นวิปริตไปจนดูน่าเกลียด   “วันนี้ฉันจะดึงเอาแกนความสามารถออกมาจากสมองพี่ให้ได้  แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ พลังของพี่จะกลายมาเป็นของฉันในไม่ช้า”  

จากนั้นฉินเจียวเจียวก็ชี้ไปยังหมอหลิน  เขาเดินทอดน่องไปยังด้านข้างของฉินอี เผยให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งนั้น  เขาหยิบมีดผ่าตัดขึ้นมาและกรีดลงบนตัวฉินอีทีละนิด ๆ  ราวกับกำลังชื่นชมผลงานศิลปะชิ้นเอก  

พอฉินอีรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด ภายในใจของเธอก็เต็มไปด้วยความจงเกลียดจงชังที่มีต่อฉินเจียวเจียว เจิ้งจ้ง และทุกคนที่โกหกเธออย่างแท้จริง แต่ทั้งหมดที่ว่ามานั้น เธอเกลียดตัวเองที่สุดที่โง่แบบนี้  

‘หึ ถ้าฉันสามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้ ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้รอดไปได้แม้แต่คนเดียวเลย’  

ขณะที่เธอได้ยินเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของฉินเจียวเจียว ฉินอีก็รู้สึกว่าตอนนี้สติของเธอนั้นค่อย ๆ  เลือนรางลงไปทุกที เธอเป็นอิสระแล้ว  

“ใครอนุญาติให้แกมาที่นี่ หลงทางเหรอไง”  

“ตระกูลฉินของเราไม่ต้อนรับแก ออกไปเดี๋ยวนี้”  

“แกมันเศษสวะ ทำไมถึงเกิดมาเป็นผู้หญิง” “ทำไมแกถึงห้ามไม่ให้เขามาเจอฉัน ห๊ะ”  

“เฮ้ พวกเราจะไม่เล่นกับเธออีกต่อไปแล้ว ยัยลูกนอกกฎหมาย แม่ของเธอเป็นนางจิ้งจอก เธอก็เป็นยัยลูกจิ้งจอก  

ฉินอีเหงื่อออกตั้งแต่หัวจรดเท้า ‘ไม่ ไม่ ฉันไม่ใช่นะ ฉันไม่ใช่ ทำไมไม่มีใครต้องการฉันเลยล่ะ’  

ฉินอีลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างฉับพลัน ดวงตาเบิกกว้างพลางหอบหายใจ เธอตกใจเมื่อเห็นห้องที่คุ้นเคยปรากฏอยู่ตรงหน้า  เธอรีบหันไปที่หัวเตียง เพียงเพื่อเช็คดูปฏิทินว่าใช่วันที่ 1 กรกฎาคม 2012 หรือไม่ เธอได้กลับชาติมาเกิดใหม่แล้วจริง ๆ  การถือกำเนิดใหม่ที่นำพาเธอมายังครึ่งเดือนก่อนวันโลกาวินาศจะมาถึง  

ทันใดนั้นเธอก็เริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งกลายเป็นเสียงร้องไห้ในเวลาต่อมา น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลออกมาจากดวงตา ราวกับระบายความคับข้องใจทั้งหมดในชีวิตของเธอ หลังจากร้องไห้จนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ฉินอีก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้ดวงตาของเธอไม่มีน้ำตาหลงเหลืออยู่แล้ว มีเพียงรอยยิ้มอันร้ายกาจที่ยังคงอยู่บนใบหน้าของเธอ มุมปากฉินอีกระตุกเมื่อร่างกายของเธอเปล่งออร่าอันเย็นยะเยือกออกมา ราวกับว่าเธอเป็นปีศาจที่คลานออกมาจากก้นเหวนรก  

“ตระกูลฉิน ตระกูลเจิ้ง หมอหลิน พวกแกทั้งหมดเตรียมตัวพร้อมกันรึยัง ฉัน ฉินอีกลับมาแล้ว”  

ฉินอีลุกขึ้นมาอาบน้ำ เมื่อเสร็จแล้ว เธอก็มองเข้าไปในกระจก เห็นเด็กสาวผอมบาง อ่อนแอ และขาดสารอาหารที่ไว้ผมหน้าม้ายาวปิดบังใบหน้าของเธอไว้ครึ่งหนึ่งแล้วยิ้มเยาะเย้ย เธอปัดผมหน้าม้าขึ้น เผยให้เห็นใบหน้าสีแทนอ่อน ๆ ที่ละเอียดอ่อนและสวยงาม  

เหนือสิ่งอื่นใดนั้น ฉินเจียวเจียวเกลียดที่ฉินอีมีรูปร่างหน้าตาสวยกว่าตัวเอง ฉินอียังหวนนึกถึงช่วงเวลาในอดีตตอนที่เธออายุ 10 ขวบได้อย่างชัดเจน ตอนที่ฉินเจียวเจียวอยู่ในสภาพอ่อนแอ น้ำตานองหน้า และกล่าวโทษเธอราวกับว่าเธอเป็นคนผิด “พี่ ทุกคนต่างก็บอกว่าพี่สวยกว่าฉัน เจียวเจียวไม่มีความสุขเลย”  

ณเวลานั้น ฉินอีให้ความสำคัญกับน้องสาวของเธออย่างแท้จริง เธอไว้ผมหน้าม้ายาวปิดบังใบหน้าของเธอเพื่อให้น้องสาวมีความสุข เธอทำแบบนั้นนานถึง 6 ปี  

ในช่วงวัยเด็กของเธอ ด้วยความที่ไม่มีพ่อ เธอจึงต้องอาศัยอยู่กับยายและแม่ของเธอ แม่ของเธอนั้นเกลียดเธอ ทั้งดุด่าและทุบตีเธออยู่เสมอ มีเพียงแต่ยายเท่านั้นที่คอยปกป้องเธอ ยายเปรียบเสมือนแสงสว่างเล็ก ๆ  แสงเดียวของฉินอี  

ตอนที่เธออายุได้ 5 ขวบ แม่ของเธอพาเธอไปยังบ้านที่สวยงามอย่างเหลือเชื่อหลังหนึ่ง ภายในบ้านมีคุณลุงที่เย็นชาสุดขั้ว คุณป้าที่มีรอยยิ้มน่ากลัว เด็กชายสองคนที่จ้องมาหาเธอด้วยความโกรธเกรี้ยว และเด็กหญิงตัวน้อยน่ารัก  

แม่ของเธอบอกเธอว่าพวกเขาคือพ่อ พวกพี่ชาย และน้องสาวของเธอ เธอทักทายพวกเขาอย่างมีความสุข ความรู้สึกเมื่อรู้ว่ามีพ่อนั้นมันดีอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เธอกลับได้รับความรังเกียจและการด่าทอเป็นการตอบแทน  

เธอและแม่ของเธอพักอยู่ในบ้านที่สวยงามอีกหลังหนึ่ง แต่ผู้ชายที่เธอเรียกว่าพ่อกลับไม่เคยมาเยี่ยมเธอเลย แม่ของเธอเริ่มเฆี่ยนตีและดุด่าเธอรุนแรงมากยิ่งขึ้น พอเธออายุได้ 10 ขวบ คุณยายและแม่ของเธอก็จากโลกนี้ไปตาม ๆ  กัน ทิ้งให้ชายผู้นั้นไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากต้องพาเธอกลับบ้านไปด้วย นั่นทำให้เธอมีความสุขอย่างที่สุด แต่เธอก็ไม่ได้รับสิ่งอื่นใดนอกจากความเฉยเมยและไม่ใส่ใจ  

มีเพียงแต่ฉินเจียวเจียวเท่านั้นที่สนใจเธอ ความเป็นมิตรนี้ทำให้ฉินอีรักและเอ็นดูน้องสาวที่แสนดีของเธออย่างรวดเร็ว เธอไว้ใจน้องและยอมปกปิดใบหน้าของตัวเองเพื่อน้อง เมื่อพวกเด็กผู้ชายรังแกเจียวเจียว ฉินอีจะเป็นคนแรกที่เข้ามาปกป้องน้องเสมอ และเพื่อปกปิดความแข็งแกร่งของเธอ เธอเต็มใจอยู่ในอันดับสุดท้ายและออกจากตระกูลฉินโดยสมัครใจ  

ความสามารถในการใช้น้ำของเธอตื่นขึ้นเมื่อโลกาวินาศมาถึง ถึงอย่างไรก็ตาม เธอพยายามปกป้องตระกูลฉินอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว เธอคิดว่าพ่อและครอบครัวของเธอค่อย ๆ  ยอมรับเธออย่างช้า ๆ  แต่เมื่อพวกเขาปลุกความสามารถของตนเองได้ ก็กลับแยกตัวออกไปอย่างรวดเร็ว เธอคิดว่าตัวเองนั้นทำได้ไม่มากพอ จึงพยายามฆ่าซอมบี้ให้มากขึ้นราวกับว่าชีวิตของเธอขึ้นอยู่กับมัน และนั่นเปลี่ยนผ่านความสามารถในการใช้น้ำของเธอให้กลายเป็นน้ำแข็ง  

หลังจากมาถึงเขตกู้ภัยแห่งเมือง Z เธอก็รับภารกิจประจำวันเพื่อผลประโยชน์ของตระกูลฉิน เพื่อให้พวกเขาได้กินดีอยู่ดี  หนึ่งในภารกิจเหล่านั้นปลุกพลังสายฟ้าของเธอให้ตื่นขึ้น เมื่อรู้ว่าพ่อของเธอตั้งใจจะยึดอำนาจ เธอจึงทำงานหนักขึ้นเพื่อขยายอิทธิพลของพวกเขา ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างก็ยินดีที่จะติดตามเธอซึ่งเป็นผู้ใช้พลังคู่ แต่เธอก็พาพวกเขาทั้งหมดไปหาพ่อของเธอ  

หลังจากนั้น หมอหลินที่มาจากเกียวโตก็ขอศึกษาผู้ใช้ที่มีความสามารถปลุกพลังครั้งแรกทั้งหมด ด้วยความเชื่อใจที่มีต่อน้องสาว เธอจึงเสนอตัวเองให้หมอหลินทดลอง หลังจากนั้น เธอก็ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ทุกวี่ทุกวัน พร้อมกับการมาเยี่ยมเยียนของน้องสาวแสนดีของเธอในแต่ละวัน เหตุการณ์นี้ทำลายความฝันอันยาวนานกว่า 20 ปีของเธออย่างสิ้นเชิง  

“พี่คงคิดว่าฉันรักพี่จริง ๆ  ล่ะสิ แต่ฉันแค่ล้อเล่นกับพี่เท่านั้นแหละ”  

“พี่มันลูกนอกกฎหมาย คิดว่าพ่อจะยอมรับได้งั้นเหรอ ฝันไปเถอะ”  

“พ่อแค่ใช้พี่เป็นใบเบิกทางให้ตระกูลฉินของเรา แล้วพ่อก็เป็นคนต้นคิดส่งพี่ให้หมอหลินด้วย”  

“ฮ่าฮ่า รู้ไหมว่าทำไมพ่อ พวกคุณครู แล้วก็เพื่อนร่วมห้องต่างก็พากันเกลียดพี่” “มันเป็นเพราะว่าฉันเล่าเรื่องเกี่ยวกับพี่ให้พวกเขาฟังอยู่เสมอไงล่ะ ฉันเป็นคนทำลายชื่อเสียงของพี่เองแหละ”

"พี่มันคนไร้ค่าน่าสงสาร ฉันต่างหากคุณหนูที่แท้จริงของตระกูลฉิน ส่วนแกมันก็เป็นได้แค่หายนะ ทุกอย่างที่แกได้รับไป ฉันตั้งใจมอบมันให้กับแก”  

เมื่อหวนนึกถึงอดีต เจตนารมณ์อันเย็นเยียบในดวงตาของฉินอีก็ขยายลึกลง ‘หึ คนไร้ค่าน่าสงสาร มาดูกันว่าใครกันแน่ที่เป็นคนไร้ค่าน่าสงสารบนโลกนี้’  

ระหว่างที่ฉินอีหยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาเช็ดผมให้แห้งอยู่นั้น เธอก็เจอเข้ากับพืชมีพิษสีดำแลดูน่าหลงใหลที่มีขนาดเท่ากับกำปั้นของทารก เธอเอื้อมมือออกไปสัมผัสมันโดยอัตโนมัติ ‘ดอกไม้ดอกนี้ปรากฎขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ มันไม่ได้อยู่กับฉันเมื่อภพชาติที่แล้วสักหน่อย’  

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด