ตอนที่แล้วตอนที่ 389 - 390: จินเข่อซินท้าทายกู้หนิง, ฉันทนไม่ไหวแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 393 -394: กู้หนิงฆ่าซูอันย่า?, ชกจินเข่อซิน

ตอนที่ 391 -392: เปิดเผยตัวตน, ซูอันย่าตกอยู่ในอันตราย


ตอนที่ 391 เปิดเผยตัวตน

 

อันที่จริงฉินฮ่าวเจิ้งต้องการที่จะช่วยกู้หนิงตั้งแต่แรก แต่เขาไม่แน่ใจว่าควรบอกความจริงเรื่องกู้หนิงดีหรือไม่ ถึงแม้ว่าตัวเขาจะเชื่อกู้หนิง แต่คนอื่นอาจไม่เชื่อถ้าไม่มีหลักฐาน

ได้ยินดังนั้น ทุกคนที่ไม่ทราบเรื่องนี้ล้วนตะลึง ของโบราณราคาอย่างน้อยห้าล้านหยวน? เด็กสาวคนนี้รวยงั้นหรือ? ทุกคนได้แต่คิดในใจ

"ฉันเจอหนูกู้อยู่ที่ถนนขายของเก่าและเธอเลือกจานมูลค่า 1.5 ล้านหยวน เธอจะจนได้ยังไง!" กู้ชางเจียงเองก็เอ่ยปากว่าเขาคิดแบบเดียวกับฉินฮ่าวเจิ้ง พวกเขาสองคนล้วนอยู่ข้างกู้หนิง

ทุกคนต่างประหลาดใจ มองไปที่กู้หนิง

แม้ว่าฉินฮ่าวเจิ้งและกู้ชางเจียงจะยืนอยู่ข้างกู้หนิง ก็ยังมีบางคนที่ไม่เชื่อ

ก่อนที่คุณนายฮ่าวจะอ้าปากพูด กู้หนิงก็ชิงพูดขึ้นว่า

"ดูเหมือนว่าฉันคงต้องบอกพวกคุณแล้วว่าทำไมฉันถึงมีเงิน" เธอจ้องจินเข่อซินและเอ่ยเสียงหนักแน่น "จินเข่อซิน เธออยากรู้จักครอบครัวฉันงั้นเหรอ? ฉันจะบอกเธอให้ หยกบิวตี้เป็นแบรนด์ของฉันเอง"

" อะไรนะ?" ได้ยินเช่นนั้น จินเข่อซินก็ตื่นตระหนก ไม่เชื่อหูตัวเอง "เป็นไปไม่ได้"

จินเข่อซินไม่เชื่อว่ากู้หนิงเป็นเจ้าของหยกบิวตี้

ซูอันย่าและแขกคนอื่นๆต่างตกตะลึง

"แบรนด์อะไรนะ?" มีคนไม่เชื่อหูตัวเอง ถามออกมาด้วยความสงสัย

"กู้หนิง เธอหมายความว่าเธอเป็นเจ้าของตัวจริงของหยกบิวตี้งั้นเหรอ? " ซูอันย่าถามด้วยความไม่แน่ใจ

"อะไรนะ? เจ้าของหยกบิวตี้ตัวจริง?" ทุกคนตะลึง

"ใช่ค่ะ" กู้หนิงตอบ

แขกที่อยู่รอบๆกู้หนิงอดที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆด้วยความตื่นตะลึงไม่ได้ หยกบิวตี้ไม่ใช่ร้านขนาดใหญ่ แต่หยกของพวกเขาล้วนคุณภาพดี ดังนั้นจึงมีมูลค่ากว่าพันล้านหยวนซึ่งเพียงพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนตกใจ

"จริงหรือ? เธอยังเด็กอยู่เลน เป็นไปได้ยังไงที่จะเป็นเจ้าของหยกบิวตี้! มูลค่าทรัพย์สินหยกยิวตี้ตั้งพันล้านหยวนเชียวนะ!"

"ใครจะรู้ล่ะ แต่ฉันไม่เชื่อหรอก"

"ฉันเหมือนกัน"

ได้ยินสิ่งที่พวกเขาสงสัย อ้ายกวงเหยาก็ก้าวเท้าออกมาและยิ้มให้กู้หนิง "ประธานกู้ครับ ผมว่าคุณคงปิดบังตัวตนตัวเองต่อไปไม่ได้แล้วล่ะครับ" จากน้ำเสียงของอ้ายกวงเหยาเห็นได้ชัดว่าเข้ารู้อยู่แล้วว่ากู้หนิงเป็นเจ้าของหยกบิวตี้ และพวกเขาก็ใกล้ชิดสนิทสนมกัน

เมื่ออ้ายกวงเหยาปรากฏตัว ทุกคนก็เริ่มเชื่อว่ากู้หนิงคือเจ้าของหยกบิวตี้ อ้ายกวงเหยาเป็นนักธุรกิจที่ได้รับความเคารพนับถือ ผู้คนไว้ใจเขา

"อะไรนะ? เธอเป็นเจ้าของหยกบิวตี้จริงๆรึ?"

"ไม่น่าเชื่อ!"

ทุกคนตะลึงไม่คิดว่าเด็กอายุสิบแปดจะเป็นเจ้าของร้านหยกบิวตี้

"ฮ่า ฮ่า ฉันบอกประธานอ้ายให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับเองค่ะ ไม่คิดว่าจะมีเรื่องไม่น่าพึงใจแบบนี้เกิดขึ้น เก็บเป็นความลับต่อไปก็ไม่ใช่เรื่องฉลาดเท่าไหร่ ชื่อเสียงของฉันคงถูกทำลายจนหมด" กู้หนิงเอ่ยพลางถอนหายใจ

ได้ยินคำพูดของกู้หนิง ทุกคนก็หันไปมองจินเข่อซินด้วยความไม่ชอบใจ เพราะเธอเป็นต้นตอของการซุบซินนินทา

" ไม่ ไม่ เป็นไปไม่ได้!" จินเข่อซินยังคงไม่เชื่อ

"เธอเป็นเจ้าของตัวจริงของหยกบิวตี้หรือนี่ ช่างเป็นเด็กสาวที่เก่งอะไรอย่างนี้!" หยวนจื่อซ่งกล่าวด้วยความชื่นชม

"ใช่ น่าตกใจจริงๆ" ซูเจิ้นห่าวเอ่ย

"พระเจ้า! กู้หนิง เธอสุดยอดไปเลย!" ซูอันย่าเชื่อกู้หนิงเต็มร้อย

"กู้หนิง เธอปิดบังมาตัังนานเลยนะ!" อ้ายเฉียนตาโตด้วยความตะลึง

"ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณแม่ของหนูถึงใช้หยกจากร้านหยกบิวตี้เป็นรางวัลสำหรับงานประจำปีของร้านซาลอน" คุณนายฮ่าวเอ่ยด้วยความแปลกใจ

ได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็รับรู้ว่าครอบครัวของกู้หนิงมีธุรกิจร้านซาลอนด้วย อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขาไม่ได้ตกใจแล้วหลังจากที่ทราบว่ากู้หนิงเป็นเจ้าของร้านหยกบิวตี้ ไม่ว่าร้านซาลอนจะใหญ่แค่ไหนแต่ก็คงเทียบร้านขายเครื่องประดับไม่ได้

"ใช่ค่ะ ไม่อย่างนั้นหนูก็คงไม่ใช้เครื่องประดับราคาแพงมาเป็นของรางวัลสำหรับงานเล็กๆหรอก" กู้หนิงเอ่ย

หลังจากนั้นทุกคนก็เข้ามาจับมือทักทายกู้หนิง

หยกบิวตี้เป็นแบรนด์น้องใหม่แต่ได้รับความนิยมภายในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งพิสูจน์ถึงความสามารถที่โดดเด่นของกู้หนิง นอกจากนี้พวกเขายังชื่นชมที่ผู้ก่อตั้งมีอายุเพียงสิบแปดปี ในอนาคตเด็กคนนี้ต้องประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น

ทุกคนประทับใจกู้หนิงหลังจากที่รู้ว่าเธอเป็นเจ้าของร้านหยกบิวตี้ ถ้าพวกเขารู้ว่าเธอยังมีบริษัทอื่นๆอีก พวกเขาคงยิ่งตกใจมากกว่านี้

แม้ว่ามูลค่าทรัพย์สินของบริษัทของกู้หนิงจะมีมูลค่าเพียงพันล้านหยวนในขณะนี้ แต่ที่จริงแล้วเธอมีความมั่งคั่งมากกว่านั้นมาก เพราะเธอมีวัตถุดิบหยกที่ไม่ได้เจียระไนจำนวนมากซึ่งมีมูลค่ามหาศาลเช่นกัน

ถึงกระนั้นหยกบิวตี้ก็รวยพอที่จะติดบริษัทอันดับที่หกที่ร่ำรวยที่สุดในเมือง F อย่างไรก็ตามหยกบิวตี้ตั้งอยู่ในเมือง G ดังนั้นจึงไม่สามารถจัดอันดับให้อยู่ในรายชื่อที่ร่ำรวยที่สุดในเมือง F ได้ แต่ผู้คนยังคงเคารพกู้หนิง

อย่างไรก็ตามกู้หนิงไม่สนใจเรื่องนั้นเลย เป้าหมายของเธอคือเมืองหลวง เธอกำลังจะสร้างอาณาจักรธุรกิจของเธอและเริ่มต้นแก้แค้นที่นั่น

ตัวตนที่แท้จริงของกู้หนิงถูกเปิดเผย หญิงสาวร่ำรวยหลายคนจึงถามเธอว่าจะเปิดสาขาในเมือง F หรือไม่ เพื่อที่พวกเธอจะได้ไม่ต้องบินไปยังเมือง G กู้หนิงจะเปิดสาขาในเมือง F แน่นอน แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะเธอยุ่งอยู่กับธุรกิจของเธอในเมืองหลวงอยู่ อย่างไรก็ตาม เธอกำลังจะตั้งสาขาในเมือง F ในปีนี้

ตอนที่ 392 ซูอันย่าตกอยู่ในอันตราย

เมื่อเห็นกู้หนิงยังทำตัวสบายตอนที่สนทนากับนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เธอไม่มีความเคอะเขินใดใดซึ่งทำให้แขกในงานประทับใจ เธอดูไม่เหมือนเด็กสาววัยรุ่นเลยสักนิด

เพื่อนของกู้หนิงภูมิใจในตัวเธอและมองจินเข่อซินราวกับตัวเชื้อโรค ฉู่เพ่ยหานเอ่ยว่า "เป็นยังไงล่ะ? ตอนนี้รู้สึกยังไง? อย่าคิดว่าเธอจะตอแหลใส่พวกเราได้ เธอน่ะเทียบบอสของพวกเราไม่ได้เลยสักกะผีก ถ้าไม่เห็นแก่บอส ฉันคงจะต่อยเธอคว่ำไปแล้ว"

หลังจากนั้น พวกเขาก็ไม่สนใจจินเข่อซินอีก ส่วนแขกเหรื่อคนอื่นๆก็พากันอยู่ให้ห่างจากเธอ จินเข่อซินรู้สึกอับอายจนอยากจะซ่อนตัว,

โดยเฉพาะซูเจิ้นห่าวที่ไม่พอใจจินเข่อซิน แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาตำหนิเธอ

จินจิงเว่ยก็อับอายไม่แพ้ลูกสาว เขามองเธอด้วยสายตาคมกล้าและอยากจะตบหน้าสั่งสอน "ทำไมยังอยู่อีก? ยังขายหน้าไม่พอใช่ไหม? กลับห้องไปเดี๋ยวนี้!"

จินเข่อซินไม่คิดว่าตัวเองผิด เธอโกรธกู้หนิงและเพื่อนของกู้หนิง แต่กระนั้นก็ไม่กล้าพูดอะไร ดังนั้นเธอจึงกลับไปที่ห้องแต่โดยดี

งานเลี้ยงดำเนินต่อไป กู้หนิงกลายเป็นจุดสนใจแทนซูอันย่า

"ฉันคิดมาตลอดว่าบอสของเรานั้นสุดยอดมากกว่าที่เราคิด" ฮ่าวหรันเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"ฉันก็คิดเหมือนกัน แม้ว่ามันจะไม่น่าเชื่อ ฉันก็รู้สึกแบบเดียวกับนาย" ฉินซีหุนเอ่ย

"ทำไมพวกเราไม่ถามเธอล่ะ?" ฉู่เพ่ยหานเอ่ย

"พวกเราถามได้ แต่ถ้าบอสไม่อยากบอก เราก็จะไม่บังคับ เพราะเธอย่อมมีเหตุผลของตัวเอง" มู่เค่อเอ่ย

ทุกคนเห็นด้วย แม้ว่าพวกเขาจะสงสัย พวกเขาก็จะไม่บังคับกู้หนิงให้บอกทุกอย่าง

กู้หนิงคุยกับคนนั้นทีคนนี้ทีอยู่นาน เมื่อเห็นเธออยู่คนเดียวแล้ว พวกฮ่าวหรันก็เดินเข้าไปหาเธอ "บอส เธอมีบริษัทอื่นอีกนอกจากหยกบิวตี้ใช่ไหม?

"ใช่ แต่ฉันไม่สามารถบอกพวกนายได้ในตอนนี้ พวกนายจะรู้เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม" กู้หนิงตอบ

ในเมื่อกู้หนิงไม่เต็มใจจะบอกพวกเขาในตอนนี้ พวกเขาก็ไม่เซ้าซี้เธอ

"อ้อ อันย่า เธอมีพี่ชายด้วยเหรอ?" อยู่ๆฮ่าวหรันก็ถามเรื่องอื่น

พูดถึงพี่ชาย ซูอันย่าก็ทำหน้าเซ็ง "เขาไม่อยู่ รีบร้อนจากไปเมื่อไม่กี่วันก่อน เขาเรียนการเงินแต่บ้าโบราณคดีวิทยา ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อ เขาคงเรียนโบราณคดี​ไปแล้ว แต่ถึงยังไงเขาก็ยังเลือกโบราณคดี​เป็นวิชาเลือก และใช้เวลาส่วนใหญ่กับเพื่อนเอกโบราณคดี​ อาจารย์ของเขาโทรมาบอกว่าเจอสุสานโบราณสักอย่างนี่แหละ เขาก็เลยรีบไปไม่ลังเลเลย"

"ที่ไหนหรอ?" กู้หนิงสนใจ

ซูอันย่านิ่งคิดชั่วครู่ก่อนเอ่ยว่า "ฉันคิดว่าเป็นหมู่บ้านเล็กๆในเมือง B แต่สถานที่ยังไม่แน่ชัด  มีคนเก็บของเก่าได้แถวๆแม่น้ำ พวกเขาจึงเชื่อว่ามีสุสานโบราณแถวนั้น พวกของโบราณอาจถูกนักขุดสุสานทิ้งเอาไว้"

ทันใดนั้นกู้หนิงก็มีความคิดในใจ เธอตัดสินใจจะไปเยือนเมือง B ตอนนี้เธอมีร้านขายของเก่าแล้ว เธอต้องการของเก่ามาวางขายในร้าน อย่างไรก็ตามก่อนที่เธอจะไปเมือง B เธอต้องไปที่เมือง G ก่อน เทศกาลฤดูใบไม้ผลิใกล้สิ้นสุดแล้ว หน่วยงานราชการจะกลับมาเปิดทำการวันพรุ่งนี้ เธอจำเป็นต้องจัดการเรื่องซื้อกิจการของหงหยุนกรุ๊ปให้เรียบร้อย

สองทุ่ม แขกก็เริ่มทยอยกลับ แต่กู้หนิงยังอยู่ เมื่องานเลี้ยงใกล้เลิก แขกทุกคนก็กลับเกือบหมดแล้ว แต่กู้หนิงยังไม่กลับเพราะเธอเป็นห่วงซูเจิ้นห่าวที่โดนพลังงานหยินตามภาพนิมิตของเธอ  ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะยังดูสบายดี เธอก็ยังไม่สบายใจ

"รอนี่เดี๋ยวนะ ฉันมีอะไรบางอย่างจะให้พวกเธอ" ซูอันย่าเอ่ยและหมุนตัวเดินขึ้นไปข้างบน

ซูอันย่าได้เตรียมของขวัญให้กู้หนิงและเพื่อนคนอื่นๆ ของขวัญไม่ใช่ของขวัญราคาแพงแต่มันมาจากน้ำใจของเธอ

เมื่อเห็นซูอันย่าเดินขึ้นบันไดไป จินจิงเว่ยก็ตื่นตระหนก เขาล้วงโทรศัพท์​มือถือ​ออกมาโทรหาจินเข่อซินทันที

ซูอันย่าเดินขึ้นมาชั้นสอง เธอสังเกตเห็นประตูห้องทำงานของพ่อเธอเปิดอยู่ เธอรู้สึกแปลกๆจึงเดินเข้าไปดู

โทรศัพท์​ของจินเข่อซินสั่นตอนที่ซูอันย่าเดินเข้าไป เธอเห็นจินเข่อซินค้นหาเอกสารอยู่ที่โต๊ะทำงานของพ่อเธอ ซูอันย่าตกใจและโกรธ "จินเข่อซิน เธอกำลังทำอะไร?" ซูอันย่าวิ่งเข้าไปหาจินเข่อซิน

ถูกจับได้คาหนังคาเขา จินเข่อซินก็หน้าถอดสี เธอไม่คิดว่าซูอันย่าจะเดินมาเจอ เพื่อที่จะหยุดซูอันย่า จินเข่อซินคว้าที่เขี่ยบุหรี่ที่โต๊ะฟาดศรีษะซูอันย่าเต็มแรง

ซูอันย่านึกไม่ถึงว่าจินเข่อซินจะกล้าทำร้ายเธอ เธอจึงไม่ทันระวังตัว ถูกตีที่ศรีษะอย่างแรง

"อ๊ากกก!" เสียงร้องเจ็บปวดของซูอันย่า

ที่ห้องโถงชั้นล่างยังคงเปิดเพลง และคนที่ยังอยู่มัวแต่สนทนากันอยู่ ไม่มีใครได้ยินเสียงกรีดร้องนอกจากกู้หนิง กู้หนิงจำเสียงซูอันย่าได้ และรีบขึ้นบันไดไปชั้นสองโดยไม่รอช้า

ในขณะเดียวกันเธอก็ใช้ตาทิพย์ส่องดูว่าเกิดอะไรขึ้น

บนชั้นสอง จินเข่อซินรีบหนีออกจากห้องทำงานด้วยความตื่นตระหนกในขณะที่ซูอันย่านอนจมกองเลือดบนพื้น

กู้หนิงวิ่งเร็วขึ้น นี่เองที่เป็นสาเหตุว่าทำไมเธอถึงรู้สึกไม่ใคร่สบายใจนักในคืนนี้

จินเข่อซินไม่รับโทรศัพท์​และกู้หนิงก็เดินขึ้นบันไดไป จินจิงเว่ยเริ่มประสาทเสีย เขากลัวว่าซูอันย่ากับกู้หนิงจะรู้การจัดฉากของเขา แต่เขาไม่ได้เดินตามไปหยุดกู้หนิง เดี๋ยวจะยิ่งดึงดูดความสนใจ ดังนั้นเขาจึงรออยู่ในห้องโถงด้วยความกระวนกระวายใจ

"บอสไปไหนน่ะ?" ฮ่าวหรันถามด้วยความสงสัย

"พวกเราควรตามไปไหม?" ฉู่เพ่ยหานถาม

"นี่เป็นบ้านของอันย่า พวกเราไม่ควรเดินไปเดินมา ฉันคิดว่าบอสคงไปหาอันย่า พวกเรารออยู่ที่นี่แหละ" มู่เค่อเอ่ย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด