ตอนที่แล้วตอนที่ 24 ประเมินราคาและใบหน้าที่ขาวซีดของวิลเลียม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 26 คู่ซ้อม(อ่านฟรี 24-07-2021)

ตอนที่ 25 เกี่ยวก้อยสัญญา(อ่านฟรี 21-07-2021)


ตอนที่ 25 เกี่ยวก้อยสัญญา

เมื่อแพ้ก็ต้องจ่าย วิลเลียมเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกไปจากร้านต้นไม้เงินทันทีโดยไม่หันกลับมาสนทนากับอะไรพวกเขาอีก

ทุกคนต่างมองดาบเดซี่ในมือกายด้วยความโลภ แต่ก็ไม่มีใครโง่พอที่จะเข้าไปแย่งชิง นครดารามีกฎหมายโดยเฉพาะพวกเขาที่อยู่ในสถาบันศาสตร์นักรบยิ่งต้องยึดถือเกียรติและความถูกต้อง

กายจับดาบเดซี่ในมือแน่นขึ้นและพยายามแอบมันให้พ้นสายตาคนพวกนี้ เขาจะรู้ว่าคนพวกนี้ไม่กล้าขโมยดาบในมือของเขา แต่กายรู้สึกกลัวเล็กน้อย กลัวว่าถ้าตนเดินอยู่ในซอยเปลี่ยว ๆ อาจมีใครมาทุบหัวเขาและขโมยดาบก็ได้

‘ฉันต้องระวังตัว กลับไปที่สถาบันศาสตร์นักรบก่อนดีกว่า ที่นั่นปลอดภัยแน่นอน คงไม่มีใครกล้าปล้นในสถาบันศาสตร์นักรบหรอกนะ’

เมื่อไม่มีเรื่องสนุกอะไรอีกคนอื่น ๆ ก็ทยอยกลับกันไปหมดแล้ว เหลือแค่กายและมีอาสองคนที่ยังอยู่ในร้าน พร้อมกับลูกค้าอีกสองสามคนที่เข้ามาใหม่กำลังเลือกดูสินค้าในร้านซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านไป

“เรากลับกันเถอะ ข้ากลัวว่าถ้าช้ากว่านี้อาจจะมีโจรมาดักปล้นดาบของข้าได้” กายพูดกับมีอา

มีอาพยักหน้าอย่างเข้าใจ เมื่อเห็นท่าทีของกายเปลี่ยนไปเพราะมูลค่าของดาบเธอก็ยิ้มออกมา อันที่จริงแล้วเธอก็ไม่คิดว่าดาบในมือกายจะเป็นดาบระดับ 5 ที่ผนึกจิตวิญญาณได้เช่นกัน

กายกำลังจะออกจากร้านอยู่ ๆ เจ้าของร้านก็เข้ามาขวางกายไว้

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร ถึงมาขวางพวกเรา” กายระวังตัวขึ้นมาในทันที

“เปล่า ๆ พวกเจ้าอย่าพึ่งเข้าใจผิด ข้าไม่ได้จะขวางทางแต่เพียงแค่อยากจะถามเกี่ยวกับดาบเล่มนั้น” แอชเชอร์พูดออกมาด้วยความจริงใจ

“ถาม?”

“ใช่ ดาบเล่มนั้นเจ้ายินดีจะขายหรือไม่ ข้าให้ราคาหนึ่งพันห้าร้อยเลย...ไม่สิ! หนึ่งพันแปดร้อยเหรียญทองเลยเป็นยังไง”

กายหรี่ตามองด้วยความไม่ไว้ใจ ‘เจ้าของร้านถึงกับซื้อมากกว่าที่ราคาประเมินถึง 300 เหรียญทอง เขาคิดจะทำอะไรกันแน่’

เจ้าของร้านเห็นว่ากายเงียบไปก็คิดว่ากายอาจจะเข้าใจอะไรผิดจึงรีบพูดออกมาว่า “คือเจ้าก็รู้ใช่ไหมว่าร้านของข้าเป็นร้านขายอาวุธ ถ้าได้ดาบเล่มนี้มาตั้งโชว์อยู่ในร้านก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะงั้นเจ้าขายให้ร้านข้าได้หรือไม่”

“ไม่ขาย”

แต่ยังไม่ทันที่กายจะได้พูดอะไร มีอาที่อยู่ข้างก็รีบพูดตัดบท เธอจับมือกายวิ่งออกมาจากร้านทันทีโดยไม่ให้โอกาสแอชเชอร์ได้พูดอะไรอีก

“เดี๋ยวก่อนสิ.....”

กายโดนมีอาลากออกมาจากร้านต้นไม้เงินด้วยความรีบร้อนจนเกือบจะล้มลง ทั้งสองคนวิ่งออกมาไกลมากจนไม่เห็นร้านต้นไม้เงินในสายตาอีก

“แฮก ๆ เฮ้...เจ้าทำอะไร?” กายถามด้วยความงงกับท่าทีของมีอาเป็นอย่างมาก

มีอาพึ่งรู้ตัวว่าตอนนี้ตนเองจับมือกายอยู่ก็รีบปล่อยมือกายพร้อมกับใบหน้าที่แดงราวกับลูกพีช แต่เธอก็หันกลับมาพูดกับเข้าด้วยสีหน้าที่จริงจังทำเอากลายตั้งตัวไม่ทัน

“เดวินข้าต้องการเจรจากับเจ้า” มีอากล่าวออกมาด้วยความจริงจัง

“หา..เจรจา? เรื่องอะไร?”

‘หรือว่าเธอต้องการส่วนแบ่งจากการพนันเมื่อสักครู่’ กายคิดในใจตัวเองได้ดังนั้นก็กล่าวกลับไปด้วยความเจ็บปวด “แน่นอน แต่ข้าต้องใช้เงิน เจ้าเอาไป 10% ข้า 90% ไม่สิ เจ้าเอาไป 5% ตกลงหรือไม่”

“หมายความว่าไง?” มีอาทำหน้างง ๆ

“ก็ส่วนแบ่งที่ได้จากการพนัน เจ้าไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้เหรอ”

“เปล่านี่” มีอาส่ายหัวด้วยใบหน้านิ่ง ๆ

...กายเห็นดังนั้นก็รู้สึกโล่งใจทันที ‘โชคดีว่าเธอไม่ได้ต้องการส่วนแบ่ง ถ้างั้นเธอต้องการเจรจาเรื่องอะไร’

“ว่าแต่เจ้าต้องการอะไรถ้าไม่ใช่เรื่องเงินพนัน”

“ข้าต้องการสิ่งนั้น” มีอาชี้ไปที่ดาบเดซี่ในมือของกาย

“อ้อ ได้..เฮ้ย! ไม่สิ! เดี๋ยวเจ้าหมายความว่ายังไง” กายดึงดาบมาชิดตัวทันที ‘อย่าบอกว่าเธอช่วยฉันแล้วคิดว่าฉันจะยกดาบที่มีมูลค่านับพันท้องให้หรอกนะ’

“เจ้าทำท่าแบบนี้คืออะไรข้าไม่ได้จะขโมยดาบเจ้าสักหน่อย แต่ข้าต้องการจะซื้อดาบเล่มนี้ต่อจากเจ้าต่างหาก” มีอาพูดด้วยความไม่พอใจกับท่าทีที่กายมองเธอราวกับกำลังขโมยดาบของเขา

“ไม่ขาย” กายพูดจบและเดินต่อไปทันที เขารู้สึกขอบคุณเธอ แต่ตอนนี้ดาบเล่มนี้สำคัญกับเขามาก เพราะเขาต้องใช้มันในแดนสงคราม

“เดี๋ยวสิเจ้าไม่ลองคิดดูหน่อยหรือ” มีอาวิ่งตามกายไป เธอพยายามตื้อขอซื้อดาบกับเขา

ทั้งสองเดินมาถึงประตูทางเข้าสถาบันศาสตร์นักรบ มีอายังคงขอซื้อดาบต่อจากกายอยู่ ซึ่งกายก็ยังตอบเสียงแข็งเช่นเดิม

“ไม่ขาย ยังไงก็ไม่ขาย”

“ก็ได้ แต่ข้ามีอีกคำถาม อาจารย์ช่างโลหะคนไหนเป็นผู้ที่ตีดาบเล่มนี้ขึ้นมา” มีอาถามพร้อมกับคิดในใจตัวเองว่า ‘อย่างน้อยถ้ารู้ว่าดาบเล่มนี้เป็นฝีมือของอาจารย์ช่างโลหะไหน ข้าอาจจะขอให้เขาตีอีกเล่มขึ้นมาก็ได้’

มีอารู้สึกชอบดาบสีขาวบริสุทธิ์เล่มนี้มากจริง ๆ

กายได้ยินแบบนั้นก็ลังเลที่จะบอกดีหรือไม่ว่าเขาเป็นผู้สร้างมันขึ้นมาเอง แต่สุดท้ายเขาก็ยอมบอกเพราะมีอาเอาแต่จ้องมองหน้าเขาแบบนี้ ถ้าเกิดไม่ยอมบอกเธอคงไม่ปล่อยเขาไปง่าย ๆ อย่างแน่นอน

“ก็ได้...ฉันเป็นคนตีดาบเล่มนี้เอง” กายตอบออกไปด้วยความภาคภูมิใจ

แต่กลับกลายเป็นว่ามีอาแสดงท่าทีไม่พอใจ พร้อมกับกล่าวว่า “เดวิน ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่เห็นต้องโกหกกันเลยนิ”

“เออ ข้าตีดาบเล่มนี้เองจริง ๆ” กายพูดเพื่อยืนยันว่าเขาเป็นคนตีดาบเล่มนี้จริง ๆ

“เจ้า ไม่ได้โกหกใช่ไหม”

“แน่นอนสาบานด้วยเกียรติของนักรบ”

“แต่เจ้าพึ่งจะเป็นแค่ช่างโลหะฝึกหัดไม่ใช่หรือ”

“อะแฮ่ม! อย่าไปบอกใครละ อันที่จริงแล้วข้าเป็นช่างโลหะอัจฉริยะในรอบ 1000 ปี” กายทำหน้าเข้มขึงเพื่อให้คำพูดน่าเชื่อถือ

“เออ...” มีอาไม่รู้จะพูดกับความหลงตัวเองของกายยังไง แต่เธอก็ต้องยอมรับอยู่เรื่องหนึ่งว่ากายนั้นมีความสามารถที่ไม่ธรรมดา ‘ในเวลาไม่ถึงเดือน ชายคนนี้สามารถสร้างดาบระดับ 5ได้ พวกเขาเรียนอะไรกันในโรงตีเหล็กไร้เวลาหลังปราสาทกัน การสอนในโรงตีเหล็กไร้เวลาต้องสุดยอดอย่างแน่นอน น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถเข้าไปได้ ถ้าไม่ใช่ช่างโลหะ’

ถ้ากายได้ยินความคิดของมีอาเขาคงจะรีบบอกเธอว่า ‘หนีไป ที่นั่นมันคือโรงงานนรก’

“ก็ได้ ข้าจะยอมเชื่อเจ้า ดังนั้นเจ้าต้องตีดาบให้ข้าเล่มหนึ่ง...และ...และคุณภาพของมันต้องไม่ด้อยไปกว่าดาบเล่มนี้”

“ได้ข้าจะลองดู แต่เจ้าต้องจ่ายราคาตลาด เออจ่ายล่วงหน้าด้วย...” กายตอบตกลงไปเพราะเห็นแก่ที่มีอาช่วยเขาสองครั้ง

“ตกลง! ถ้างั้นมาทำสัญญากัน” มีอายิ้มออกมาด้วยความดีใจ เธอยืนนิ้วก้อยออกมาทางเขา

“นี่คือ???” กายชี้ไปที่มือของหญิงสาวด้วยความสงสัย

“หือ...เอ้อก็เกี่ยวก้อยสัญญากันไง” มีอาบอก

กายรู้สึกงงเข้าไปใหญ่ ‘เธอเป็นเด็กหรือไง ถ้าฉันจับมือของเธอคงไม่ใช่เป็นการเอาเปรียบหรอกนะ’

ชายหนุ่มค่อย ๆ ยืนมือออกไปช้า ๆ เขามองดูมือที่ขาวราวกับหยวกกล้วยของเธอ ผิวที่เรียบเนียนเหมือนกับใบบัว ถ้าหยดน้ำลงไปมันอาจจะกลิ้งไปมาบนผิวเลยก็ได้ เมื่อกายเงยหน้ามองเธอ มีอาก็ยิ้มออกมา

‘เธอไม่ได้คิดอะไรจริง ๆ ใช่ไหม’ กายคิดในใจ

มีอาเห็นว่ากายนั้นไม่ยอมเกี่ยวก้อยสัญญากับเธอสักทีจึงคว้าจับมือของกายด้วยมืออีกข้าง นิ้วก้อยของมีอาและกายเกี่ยวก้อยกัน

กายรู้สึกใจเต้น แม้จะรู้ว่าเธอจะเป็นเพียง NPC เท่านั้น แต่เขาก็รู้สึกวิว ๆ ในใจแปลก ๆ สัมผัสแรกที่ได้จากนิ้วของมีอาคือเย็นและนุ่ม หลังจากนั้นก็อุ่นและเรียบเนียนจนน่าแปลกใจ ‘ใจเย็นไว้ ฉันจะมาใจเต้นกับ NPC แบบนี้ไม่ได้’

“เรียบร้อยเจ้ารับปากข้าแล้วนะ ดังนั้นอย่าลืมสัญญาของเราด้วย ข้าจะรอ” มีอาชักมือกลับและซ่อนไว้ข้างหลังทันทีในใจคิดว่า ‘ข้าทำอะไรลงไป เดวินเขาคงไม่คิดมากหรอกนะ ไม่สิข้าต่างหาก...’

ทั้งสองคนหยุดอยู่หน้าประตูสถาบันศาสตร์นักรบ ต่างคนต่างนิ่งเงียบทำอะไรกันไม่ถูก

“คือว่าดาบเล่มนี้มีชื่อเรียกไหม” มีอาถามดาบชื่อของดาบในมือของกายเพื่อเปลี่ยนประเด็นทันที

“เออ...มีสิ! มันเรียกว่าเดซี่ เดซี่ที่แปลว่าดอกไม้สีขาว” กายอธิบายให้กับเธอ

“เดซี่ เป็นชื่อที่เหมาะกับดาบมาก ข้าเคยได้ยินว่ามีดอกเดซี่ขึ้นในเทือกเขาก่อกำเนิด ที่นั่นมีอากาศหนาวมาก แต่น่าเสียดายที่มันหายากมากในนครดาราฟ้า”

“เทือกเขาก่อกำเนิดมันคือที่ไหน?” กายถามด้วยความอยากรู้

“มันอยู่ในรอยต่อชายแดนของสามนครคือ นครพยัคฆา นครต้องสาปและนครดาราฟ้าของพวกเรา... ช่างมันเถอะ...ข้ามีธุระต้องทำอย่างนั้นก็ขอตัวก่อน” มีอาเดินเข้าไปในสถาบันศาสตร์นักรบแต่แล้วก็หยุดและหันกลับมาย้ำกับกายอีกครั้งว่า “เจ้าสัญญาแล้ว อย่าลืมดาบของข้าล่ะ ข้าขอก่อนวันสอบสิ้นเดือนนะ”

เธอมองดาบเดซี่ในมือกายก่อนจะละสายตาเดินต่อไปด้วยความอาลัย

กายเดินเข้าไปในสถาบันจากนั้นก็เอาดาบไปเก็บในห้องก่อนที่จะไปกินอาหารเช้าที่ร้านหมูตุ๋นแถว ๆ หน้าสถาบันศาสตร์นักรบเป็นการเลี้ยงฉลอง

“มื้อนี้คงต้องขอบคุณวิลเลียมที่เลี้ยงข้า ชนแก้ว” กายยกแก้วเบียร์ข้าวบาร์เลย์ของตัวเองขึ้นมาทำท่าทางชนแก้ว แม้เขาจะนั่งกินคนเดียวก็ตาม

‘เห้อ...กินคนเดียวมันน่าเบื่อจริง ๆ รู้แบบนี้คงชวนมีอามาด้วย ถ้าฉันทำเงินได้จากแดนสงครามเมื่อไหร่คงต้องซื้อลิ้งค์เกมให้ไทเลอร์มาเล่นด้วยกันแล้ว ถ้าหมอนั้นเจอกับฮาเกนจะเป็นยังไงนะ’ กายคิดในใจขณะที่ยกเบียร์ข้าวบาร์เลย์ขึ้นมาดื่ม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด