ตอนที่แล้วWS บทที่ 136 ค่ำคืนก่อนรุ่งสาง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWS บทที่ 138 งานชุมนุมนักเวทย์

WS บทที่ 137 ขนนกที่มัดรวมกัน


เมอร์ลินตื่นตั้งแต่เช้าตรู่และนั่งทำสมาธิทันที แม้ว่าจะเข้ามาในดินแดนมนต์ดำมาเกือบปีแถมยังได้รับการช่วยจากเดอะเมทริกซ์ เขาก็ขยันเหมือนเดิมดังที่เคยเป็นมา

หลังจากทำกิจวัตรประจำวันเสร็จ เขาก็ตรงไปที่ชั้นบสุดของหอคอย เมื่อไปถึง เขาก็พบว่ามีนักเวทย์ 9คน รออยู่ด้านหน้าห้องของพ่อมดลีโอ

พวกเขาก็เป็นเหมือนเมอร์ลินที่ได้รับกาคัดเลือกจากพ่อมดลีโอให้เข้าร่วมงานชุมนุมนักเวทย์ของดินแดนมนต์ดำ

พวกเขาก็สนใจทำแต่ธุระของตัวเอง บางคนก็ไปทำภารกิจ บางคนก็ทำแต่สมาธิหรือบางคนก็กำลังสร้างคาถาอยู่ ถึงเมอร์ลินจะอยู่ร่วมหอคอยเดียวกับพวกเขามาเกือบปีแต่เขากไม่รู้จักใครสักคน

การมาของเมอร์ลินไม่ได้รับความสนใจมากนัก บางคนยิ้มทักมายเบา ๆ บางคนก็หันไปทางอื่นอย่างไม่ใส่ใจ บางคนก็อยู่เฉย ๆ และเฝ้ารออย่างเงียบ ๆ

ในไม่ช้า พ่อมดลีโอก็ออกมา วันนี้เขาสวมเสื้อคลุมสีขาวขอบทอง หากไม่มองเบ้าตาที่ว่างเปล่าของเขาก็คงคิดว่าเขาดูดีในชุดนี้มาก เขามีรูปร่างสูงโปร่ง สัมผัสได้ถึงพลังอำนาจของเขา

พ่อมดลีโอไม่สนใจความคิดที่มีต่อตัวเขา เขาพูดเบา ๆ ว่า “ในเมื่อทุกคนมากันแล้วก็ไปกันเลย คราวนี้ เมอร์ลินเป็นคนนำพวกเจ้า”

พ่อมดลีโอพูดกับเมอร์ลินด้วยน้ำเสียงที่สงบ แต่ทันทีที่เขาพูดจบ เมอร์ลินก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมองมาที่เขา

เมอร์ลินชำเลืองมองพวกเขาอย่างสงบ เขารู้ดีว่าพ่อมดลีโอต้องการให้ตัวตนและตำแหน่งแก่เขา เมอร์ลินจะเป็นตัวหลักของในงานชุมนุมนักเวทย์ในครั้งนี้ ส่วนอีก 9คนเป็นตัวสำรองที่ใส่มาให้ทีมเต็มเท่านั้น

จากนั้นพ่อมดลีโอกับเมอร์ลินำได้เดินนำออกจากหอคอยพ่อมด

หลังจากเดินทางเพียงไม่ยนาน พวกเขาก็มาถึงจัตุรัสอันกว้างใหญ่ มีแท่งสูงหลายสิบแท่งที่มีอักษรรูนสลักอยู่ ช่างเป็นภาพที่งดงามที่ได้เห็นแท่นสูงกว่าสิบอันได้ตั้งเรียงอย่างเป็นระเบียบ

ในดินแดนมนต์ดำนี้มีขนาดใหญ่มากจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะจัดหาสถานที่สำหรับจัดงานชุมนุมนักเวทย์

มีคนจำนวนมากเคลื่อนไหวไปมาในจัตุรัส ที่ด้านหน้าของจัตุรัสมีเก้าอี้หินหลายแถว สิ่งที่เตรียมไว้สำหรับนักเวทย์ระดับสี่ขึ้นไป

“เมอร์ลินนำพวกเขาไปรอที่นั่นเพื่อจับฉลาก”

พ่อมดลีโอส่งความรับผิดชอบทั้งหมดรวมถึงการดูแลนักเวทย์ทั้งเก้าให้เมอร์ลินทันที เขาไม่คาดคิดว่าตัวเองจะได้รับหน้าที่นี้

เมอร์ลินพยายามจะรั้งพ่อมดลีโอไว้แต่เขาเดินไปไกลแล้ว เมอร์ลินรู้สึกอับจนหนทาง เขาไม่รู้จะทำอะไรต่อดี

“พ่อมดเมอร์ลินงั้นเหรอ...”

ทันใดนั้นแม่มดข้าง ๆ เมอร์ลินได้พูขึ้นมาเบา ๆ เธอเป็นหนึ่งในเก้านักเวทย์ของหอคอยพ่อมดลีโอ เธอมีผมยาวสีน้ำตาลประบ่า เธอสวมกำไลกระดิ่งสีทองเล็ก ๆ บนข้อมืออันบอบบางของเธอ

เธอเห็นว่าตอนนี้เมอร์ลินเป็นผู้รับผิดชอบพวกเขา เธอพูดว่า

“พ่อมดเมอร์ลิน คุณรู้มั้ยว่าพ่อมดลีโอไว้ใจและคาดหวังในตัวคุณมาก อย่างที่คุณรู้ว่าพ่อมดลีโอแทบจะไม่ออกจากห้องของเขาเลย แม้แต่งานชุมนุมนักเวทย์เองเขาก็ไม่อยากจะออกมาเลยแถมยังยัดหน้าที่ให้ลูกกศิษย์ทำแทนอีกแต่งานในครั้งนี้ เขาถึงกับออกมาด้วยตัวเอง พวกเรารู้ตัวว่าพวกเราไม่คู่ควรที่พ่อมดลีโอจะมาทำแบบนี้และพวกเรามาเข้าร่วมงานชุมนุมเป็นพิธีเท่านั้น”

แม่มดที่มีใบหน้าแบบธรรมดา ดวงตาของเธอจ้องมองอย่างใสซื่อ มันก็ทำให้มีเสน่ห์ไปอีกแบบ

เมอร์ลินไม่ได้ตอบรับอะไรเธอ เขายิ้มและถามว่า “คุณชื่ออะไร”

“คุณเรียกฉันว่าเอเลน่าได้”

เมอร์ลินพยักหน้าก่อนจะถามว่า “เอเลน่า คุณพอจะรู้มั้ยว่าในงานชุมนุมครั้งก่อน ๆ มีใครบ้างในหอคอยพ่อมดลีโอที่สามารถเข้าไปในรอบลึก ๆ ได้”

เอเลน่าครุ่นคิดไปพักหนึ่ง ก่อนจะตอบว่า “น่าจะเป็นพ่อมดเซารอน เมื่อ 12ปีก่อน เขาเป็นตัวแทนของหอคอย เขาสามารถเอาชนะได้สามครั้งติดต่อกัน แล้วหลังจากนั้นเขาก็กลายเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งและกลายเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของดินแดนมนต์ดำ”

เมอร์ลินพยักหน้า เขารู้สึกว่าพ่อมดเซารอนมีความโดดเด่นมากและยิ่งเขาสามารถกลายเป็นพ่อมดระดับหนึ่ง มันแสดงให้เห็นว่าเขามีศักยภาพที่แท้จริง

ในดินแดนมนต์ดำมีนักเวทย์ระดับเริ่มใต้นจำนวนมากแต่มีไม่ถึง 30% ที่พวกเขาเหล่านั้นจะสามารถเลื่อนระดับได้เป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งได้

ส่วนพวกนักเวทย์จากหอคอยพ่อมดลีโอมีเพียง 10% เท่านั้นที่จะสามารถประสบความสำเร็จในการเป็นนักเวทย์ระดับซึ่งมันต่ำกว่ามาตรฐานของดินแดนมนต์ดำด้วยซ้ำ

ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกพักใหญ่กว่างานชุมนุมจะเริ่มต้นขึ้น เมอร์ลินนั่งอยู่กับนักเวทย์อีก 9คน แต่พวกเขาเงียบ ๆ และไม่ได้พูดคุยอะไรมากนัก พวกเขาดูไม่เหมือนนักเวทย์คนอื่น ๆ ที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

“ฉันได้มาว่าพ่อมดเซซิล ลูกศิษย์ของพ่อมดดิวอี้ ได้สร้างคาถาธาตุดินระดับหนึ่งสำเร็จด้วย ฉันว่าเขาต้องโดดเด่นในงานชุมนุมครั้งนี้อย่างแน่นอน ไม่แน่นะนักเวทย์ที่ทรงพลังอาจจะถูกใจในตัวเขา”

“การสร้างคาถาระดับหนึ่งได้ภายในหนึ่งปี ถือว่าเป็นอะไรที่สุดยอดมากแต่ถ้าหากจะพูดว่าใครแข็งแกร่งที่สุดในงานชุมนุมครั้งนี้ มันก็น่าจะเป็นพ่อมดโลนต่างหาก”

“คุณกำลังพูดถึงโลนคนนั้นสินะ เขาเหลือเพียงคาถาระดับหนึ่งอีกคาถาเดียว เขาก็จะกลายเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งอย่างเต็มตัวแล้ว เขาทรงพลังจริง ๆ แต่ฉันคิดว่าอาจารย์ของเขาที่เป็นนักเวทย์ระดับหก คงไม่มีทางให้เขาตกไปอยู่ในมือนักเวทย์คนอื่น ๆ หรอก”

นักเวทย์เหล่านี้กำลังพูดคุยกันอย่างออกรสแต่ตัดภาพมาที่นักเวทย์ทั้งเก้า พวกเขานั้นดูหดหู่ไม่พูดไม่พูดจาเลยแม้แต่นิดเดียว

เอเลน่าสังเกตเห็นความสงสัยบนใบหน้าของเมอร์ลิน เธอได้เข้าไปใกล้ ๆ เขาและกระซิบว่า

“พ่อมดเมอร์ลิน บางทีคุณอาจจะยังไม่เข้าใจ พวกเราเป็นลูกศิษย์ของพ่อมดลีโอ ดังนั้นพวกเราจึงต้องทำตัวเงียบ ๆ เข้าไว้”

สีหน้าของเอเลน่าค่อนข้างอึดอัดผิดกับนิสัยของเธอ เมอร์ลินที่ได้ทราบ เขาก็พอจะเข้าใจถึงสถานการณ์ของนักเวทย์ในหอคอยพ่อมดลีโอ พวกเขาต้องต่ำต้อยกว่านักเวทย์คนอื่น    ๆ ในดินแดนมนต์ดำ พวกนักเวทย์จากหอคอยนักเวทย์ระดับสี่ยังมีความมั่นใจกว่าพวกเขาทั้งเก้าอีก

ตัวของพ่อมดลีโอนั้นก็เป็นนักเวทย์ระดับหกอย่างไรก็ตามลูกศิษย์ของเขากลับดูหงอยๆ  แม้แต่ส่งเสียงยังไม่กล้าเลย

มีคำกล่าวที่ว่ากรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในคืนเดียว ดังนั้นสถานการณ์เช่นนี้จึงเกิดขึ้นบ่อยครั้งในอดีต แม้ว่าในหอคอยพ่อมดลีโอจะปรากฏนักเวทย์ที่มีพรสวรรค์มากมายแต่ด้วยอัตราการเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งของหอคอยนี้มันน้อยมาก ด้วยเรื่องนี้จึงทำให้เหล่านักเวทย์ที่ถูกส่งมายังหอคอยพ่อมดลีโอถึงขาดความมั่นใจในตัวเอง

“เอ๊ะ พ่อมดเมอร์ลิน คุณก็เข้าร่วมงานชุมนุมด้วยงั้นเหรอ?”

ทันใดนั้นเอง เมอร์ลินก็ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยจากด้านหลังเขา เมื่อเขาหันกลับไป เขาก็พบกับแม่มดรีลลิสที่เคยทำภารกิจเมืองดอนกลินร่วมกัน

ถัดจากรีลลิสก็คือโฮล์มส์และชายอีกคนหนึ่งเขามีรูปร่างสูง ใหญ่และสวมต่างหูแปลก ๆ ที่รูปร่างคล้ายกับงู

“แม่มดรีลลิส พ่อมดโฮล์มส์” เมอร์ลินขึ้นและทักทายพวกเขา

สีหน้าของพ่อมดโฮล์มส์ดูไม่เย่อหยิ่งแบบเมื่อก่อน เขาดูสุขุมมากขึ้น

“พ่อมดเมอร์ลิน คุณก็มาเข้าร่วมงานชุมนุมด้วยสินะ” โฮล์มเหลือบมองนักเวทย์อีกเก้าคนที่อยู่ด้านหลังของเมอร์ลินและถามอย่างเย็นชา

เมอร์ลินพยักหน้าและกล่าววา “พวกเราคือตัวแทนจากหอคอยพ่อมดลีโอ แล้วพ่อมดเกรเทลล่ะ เขาไม่ได้พาพวกคุณมาที่นี่ด้วยเหรอ?”

โฮล์มส์ส่ายหัวแล้วพูดว่า “อาจารย์เกรเทลมีการทดลองสำคัญที่ต้องทำ ดังนั้นเขาจึงให้พวกเรามากันเอง”

ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยอย่างสบาย ๆ เมอร์ลินสังเกตเห็นสีหน้าแปลก ๆ ของชายแต่งตัวประหลาดข้างๆ โฮล์มส์ เขาจึงถามไปว่า

“แล้วเขาคือ...?” เมอร์ลินสังเกตเห็นสีหน้าที่มองพวกเขาอย่างเหยียด ๆ สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ดังนั้นเขาจึงเปิดปากถามโฮล์มส์

โฮล์มส์ยังไม่ทันจะพูดอะไร ชายร่างสูงได้หัวเราะเยาะเย้ยไปว่า

“ฮึฮึ โฮล์มส์ ฉันไม่คิดว่ามาก่อนเลยว่าคุณจะผูกมิตรกับลูกศิษย์ของพ่อมดลีโอ เจ้านี้ไม่ต่างขนนกที่นำมามัดรวมกันจริง ๆ ดูเหมือนว่ามันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่คุณจะสร้างคาถาระดับหนึ่งไม่สำเร็จแต่เอาเถอะคุณมีเวลาเกือบสามปี รีบ ๆ เข้าล่ะก่อนที่จะถูกขับไล่จากดินแดนมนต์ดำไป ฮ่าฮ่า!”

จากนั้นชายคนนั้นก็หัวเราะเยาะเสียงดังและเดินออกไป

เมอร์ลินมองไปทางชายคนนั้นด้วยสีหน้าที่นิ่งสงบ เขาได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากชายคนนั้น ดูเหมือนว่าพ่อมดโฮล์มส์จะล้มเหลวในการสร้างคาถาระดับหนึ่ง

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ถูกกับโฮล์มส์ เขาจึงใช้โอกาสนี้เยาะเย้ยโฮล์มส์

สีหน้าของโฮล์มส์ได้ค่อยจะสู้ดีนัก เขาได้พูดคุยกับเมอริ์ลนเล็กน้อยและหันหลังเดินจากไป

“ขนนกที่ถูกมัดรวมกันงั้นเหรอ?”

เมอร์ลินเหลือบมองไปทางชายร่างสูงคนนั้นเดินไป เขาได้กวาดตาไปมองรอบ ๆ และรู้สึกว่ามีสายตาแปลก ๆ จ้องมองมาทางพวกเขา แม้แต่นักเวทย์คนอื่น ๆ ก็ดูถูกพวกเขาทันทีที่ได้ยินว่าพวกเขาเป็นลูกศิษย์ของพ่อมดลีโอ แม้แต่โฮล์มส์เอง เขาก็ยังรู้สึกว่าโฮล์มส์ยังดูถูกพวกเขาผ่านน้ำเสียงเช่นกัน

แม้ว่าเมอร์ลินจะไม่สนใจเรื่องนี้แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่พอใจอยู่ดี

แม่มดเอเลน่าดูเหมือนเธอจะชินกับเรื่องนี้แล้ว เธอยักไหล่และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พ่อมดเมอร์ลินคุณไม่ต้องไปสนใจเรื่องพรรค์นั้นหรอก เดี๋ยวคุณก็ชินไปเองแหละ ยังไงก็ตามยังมีนักเวทย์ระดับหนึ่งในหมู่ลูกศิษย์ของลีโอด้วย ถึงแม้จะน้อยแต่ใช่ว่าไม่มี” เอเลน่าพูดปลอบเมอร์ลิน

“เอาล่ะ เราไปจับฉลากกันเถอะ”

เมอร์ลินลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาเห็นพ่อมดชุดเทาอยู่ลานประลองที่ยกขึ้นสูง พวกเขากำลังเรียกผู้เข้าร่วมงานชุมนุมให้มาจับฉลากเพื่อกำหนดคู่ต่อสู้ในรอบแรก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด