ตอนที่แล้ว[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 86 พายุใหญ่ที่ปลายฟ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 88 คนน่าสงสาร

[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 87 ตามล่ามรณะ


ตอนที่ 87 ตามล่ามรณะ

บนถนน

ฉินหยู่ขับรถและถามแมวแก่อย่างอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก “เมื่อคืนนายกับหมาเหล่าเอ้ออยู่ด้วยกันหรือเปล่า?”

“ใช่!” แมวแก่อึ้งไปครู่หนึ่งแล้วตอบ

“ฮึ่ม! ฉันเคยบอกนายไปแล้วใช่ไหมว่า ตอนนี้หมาเหล่าเอ้อรับผิดชอบตลาดยา อย่าชวนให้เขาออกมาสนุกบ่อยเกินไป…”

ฉินหยู่พูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองมาก “เยี่ยม! แล้วทีนี้เป็นไง เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว”

“พี่ชาย ฉันไม่จำเป็นต้องให้เขาออกมา เป็นพี่หลูจากทีมรักษาความปลอดภัยที่อยู่ที่นั่นเมื่อคืนนี้ ฉันโทรไปเพราะฉันอยากแนะนำให้พวกเขารู้จักกัน” แมวแก่อธิบายอย่างตรงไปตรงมา “อีกอย่าง ฉันถามเขาก่อนว่าเขาออกมาได้ไหม เขาบอกว่า...เขาออกมาเพราะเขาเบื่อ”

ฉินหยู่ได้ยินเช่นนั้นแล้วถอนหายใจ “หมาเหล่าเอ้อคนนี้เก่งทุกอย่าง แต่นิสัยรักสนุกของเขาทำให้เสียงาน ให้ตายเถอะ เขายอมเสี่ยงชีวิตเพื่อแค่ให้ได้ดื่มไวน์เท่านั้น เชื่อมันเลยจริงๆ”

……

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

ในบ้านพักของผู้เฒ่าหม่า ฉินหยู่และแมวแก่เดินเข้าไปในบ้าน เห็นหมาเหล่าเอ้อนั่งก้มหน้าอยู่บนโซฟา ไม่พูดอะไรเลย

“พูด พูดมา!” ผู้เฒ่าหม่ายืนเท้าเอวตะโกนด้วยใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ “เราอยู่ในขั้นตอนการขนส่ง และมีบางอย่างเกิดขึ้นกับลุงหลิวจื่อ ทำไมแกไม่ดูแลโกดังให้ดี หา?!”

หมาเหล่าเอ้อลูบหน้าแล้วค่อยๆ เงยหน้าขึ้นตอบ “แมวแก่บอกว่าเขาต้องการแนะนำฉันให้รู้จักกับเส้นสายใหม่ๆ ฉันคิดว่า…”

“พัวะ!”

ผู้เฒ่าหม่าโกรธมากจนตัวสั่น เขาเหวี่ยงมือฟาดลงไปที่ปากหมาเหล่าเอ้ออย่างแรงจนเขาล้มลงนอนด้านข้างบนโซฟา

“แกมีข้ออ้างตลอด” ผู้เฒ่าหม่าจ้องมองและชี้มาที่เขาพร้อมตะโกนด่า “แกมันทำเป็นเล่นตลอดเวลา เล่นในเวลาทำงานเป็นประจำ สิ่งที่ฉันและพี่น้องทั้งตระกูลหวังจากแก ก็แค่ต้องการให้แกหยุดเหลวไหลเสียที”

หมาเหล่าเอ้อสงบลงเป็นเวลานาน แล้วหันหน้าบ้วนเสมหะปนเลือดออกมา และยังคงนิ่งเงียบต่อไป

“เมื่อเจ้าสามติดต่อแก ฉันบอกแกว่าช่วงนี้แกต้องระวัง เพราะฉันรู้จักนิสัยของหยวนหัวดี เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะเข้ามาทำตลาดและให้โอกาสแกกอบโกยไปได้” ผู้เฒ่าหม่าตัวสั่นด้วยความโกรธและยังไม่หายสนิทจากอาการป่วย แต่เขายังคงไม่หยุดด่าว่าหลานชาย “แต่แกคิดว่าแกเก่งกาจเหนือคนอื่น ไม่ว่าตอนไหนก็ตาม แม้ในสถานการณ์ความเป็นความตาย แต่ถ้ามีคนมาชวนแกไปดื่มกินเลี้ยงกันสนุกสนาน แกก็จะไปโดยไม่สนใจอะไรแล้ว แกเพิ่งยี่สิบกว่า แต่ใช้เวลาทั้งหมดทุ่มเทไปกับผู้หญิงและโต๊ะไวน์... หากวันหนึ่งฉันตายกะทันหัน คนอย่างแกจะรับช่วงต่อได้ยังไง? แกจะรับมือกับทุกคนได้ไหม? ไม่ต้องพูดถึงหยวนหัว ฝีมือแกไม่ถึงเสี้ยวหนึ่งของหยวนเค่อเสียด้วยซ้ำ”

หมาเหล่าเอ้อเป็นคนไม่ชอบการเสียหน้า เมื่อโดนลุงดุด่าในเวลานี้ แม้จะไม่กล้าตอบโต้กลับ แต่ความโกรธของเขาก็พลุ่งพล่านขึ้นในอกจนแทบระเบิด เขากำหมัดแน่นและสาปแช่งออกมา “อย่าให้ข้ารู้นะ ว่าใครเป็นคนก่อเรื่อง ข้าจะกระทืบแม่งให้กระดูกมันกลายเป็นผุยผงเลยทีเดียว”

“คุณเห็นมั้ย?” ผู้เฒ่าหม่ายิ่งโกรธมากขึ้นเมื่อได้ยินอย่างนี้ เขาชี้ไปที่หลานชายของเขาพลางหันไปพูดกับลุงหลิวจื่อ “มันยังไม่เข้าใจว่าใครก่อปัญหา มันยังไม่สร่างเมาอีก ในหัวมีแต่เรื่องไวน์กับผู้หญิง...!”

หมาเหล่าเอ้อตกตะลึง

“หากฉันไม่ลงโทษแกให้สำนึก ฉันจะต้องเสียใจกับครอบครัวของเรา ที่จะต้องอยู่ในอุ้งมือแกในวันข้างหน้า”

ผู้เฒ่าหม่าถอดเข็มขัดออก ชี้ไปที่พื้นพร้อมตะโกนสั่ง “คุกเข่าลง!”

“คุณลุง...ลงโทษฉันทีหลังเถอะ? จัดการเรื่องต่างๆ ก่อนดีกว่า…” หมาเหล่าเอ้อขอร้องพลางเหลือบมองที่ฉินหยู่และแมวแก่ ด้วยความขายหน้ามาก

“คุกเข่าลง!!” ผู้เฒ่าหม่าโมโหมาก ไม่สนใจว่าจะเป็นโอกาสอะไรแล้ว

หมาเหล่าเอ้อกำหมัดแน่นและเห็นว่าผู้เฒ่าหม่าโกรธมากจนแทบจะเป็นลม เขาจึงรีบคุกเข่าลงกับพื้นทันที

“พัวะ พัวะ พัวะ...!”

ผู้เฒ่าหม่าเหวี่ยงเข็มขัดฟาดไปที่หัวและลำตัวของหลานชาย แต่หมาเหล่าเอ้อไม่ได้หลบหรือโต้เถียงแม้แต่น้อย

ฉินหยู่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจห้ามเขาทันที “ลุง หยุดเถอะ เรื่องได้เกิดขึ้นแล้ว หยุดเถอะครับ…”

“แกสับสนมากใช่ไหม แกโง่หรือเปล่า? กุญแจโกดังนั้นสำคัญมาก แต่แกดันยัดใส่มือให้คนนอกถือ แกคิดอะไรอยู่!” ผู้เฒ่าหม่าด่าว่าและยังคงเฆี่ยนตีต่อเนื่อง

ใบหน้าของหมาเหล่าเอ้อเต็มไปด้วยเลือดหลังจากถูกทุบตี แต่หลังจากได้ยินคำพูดของลุงของเขา เขาก็ถามทันที “เสี่ยวฉู่…เหรอ…คือมันใช่ไหม?!”

“ลุง ถ้ายังตีฉันต่อไปอีก ฉันจะออกไปจากบ้าน…แล้วเราจะไม่คุยกันอีกแล้ว”

ฉินหยู่เข้ากอดผู้เฒ่าหม่าหยุดมือของลุงไว้พร้อมคำรามเสียงแข็ง “มีเรื่องบางอย่างสำคัญกว่าเกิดขึ้น เราต้องแก้ปัญหาก่อน ปัญหาในบ้านมีประโยชน์อะไรตอนนี้?”

ผู้เฒ่าหม่าอ้าปากค้าง และวางเข็มขัดลง ชี้ไปที่หมาเหล่าเอ้อแล้วตะโกนว่า “แกมันขยะ เจ้าคนไร้ค่า! ไม่ใช่ว่าฉันกลัวหยวนหัว แต่ฉันกลัวว่าเราจะไม่มีผู้สืบทอดตระกูลต่างหาก!”

เมื่อหมาเหล่าเอ้อได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกโกรธจนเส้นเลือดที่คอเขาปูดโปน แต่เขาไม่ได้ตอบโต้อะไรอีก

“ไปคุยกันที่ห้องนั้นกันเถอะ” ฉินหยู่ขยิบตาให้แมวแก่ และพยุงผู้เฒ่าหม่าเข้าไปที่ห้องด้านหลัง

ในห้องนั่งเล่น

ลุงหลิวจื่อเข้ามาช่วยพยุงหมาเหล่าเอ้อ “เอาน่า ยืนขึ้นก่อน”

หมาเหล่าเอ้อหันมาถามด้วยแววตาโกรธแค้น “มันคือเสี่ยวฉู่ใช่ไหม?”

“เอ่อ…”

ลุงหลิวจื่อถอนหายใจ “เขาเป็นคนเดียวที่ถือกุญแจเมื่อวานนี้ นายคิดว่าเขาเป็นใครล่ะ อีกอย่าง วันนี้มีบางอย่างเกิดขึ้นและไม่สามารถติดต่อเขาได้”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หมาเหล่าเอ้อก็ยืนขึ้นและพูดด้วยสีหน้าดุร้าย “เรื่องนี้ฉันต้องรับผิดชอบ ฉันจะไปจัดการให้เรียบร้อย

ถ้าจัดการไม่ได้จริงๆ ฉันจะคุกเข่าลงบนถนนดินด่าง ถ้าคนซื้อยาอยากทุบตีฉันให้ตาย ฉันก็ไม่ตอบโต้เลย”

หลังจากพูดอย่างนั้น หมาเหล่าเอ้อก็ก้าวออกไปแล้ววิ่งออกไปทางประตูหน้า

“กลับมาก่อน!” ลุงหลิวจื่อตะโกนตามหลังเขา

“ฉันจะไปตามหาเสี่ยวฉู่ ไม่ต้องห่วง” หมาเหล่าเอ้อตะโกนขณะที่เขาเดินไปตามทางเดินหน้าบ้าน

……

ในห้องนั่งเล่น

ผู้เฒ่าหม่าตื่นเต้นมากจนนั่งลงแล้วไอไม่หยุด ฉินหยู่เห็นว่าอาการของผู้เฒ่ารุนแรงไปหน่อย เขาจึงนำแก้วน้ำมาวางบนโต๊ะ “ดื่มน้ำก่อนครับ ถ้าเกิดอาการทรุดลง คุณจะโกรธไปก็ไม่มีประโยชน์”

“ไร้ค่า ฉันจะทำให้ของไร้ค่ากลับมาเป็นมีค่าได้ยังไง” ผู้เฒ่าหม่าส่ายหัวและถอนหายใจ “ฉันจะไม่มีหน้าไปพูดอะไรได้ ถ้าปล่อยให้คนเข้ามาแอบสับเปลี่ยนสินค้าในบ้านตนเองได้”

“ลุงตำหนิฉันในเรื่องนี้เถอะ ฉันขอให้เขาไปเมื่อคืนนี้” แมวแก่แสดงความรับผิดชอบอย่างไม่หลบเลี่ยง “และเขาก็ต้องการทำความคุ้นเคยกับทีมรักษาความปลอดภัยด้วย”

“ไร้สาระ!” ตาเฒ่าขี้โมโหดุด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “นายก็ไม่เข้าใจว่าเรื่องไหนสำคัญกว่า แล้วเขาเข้าใจไหม? เด็กคนนี้มันเอาดีไม่ได้ คอยแต่จะเที่ยวเตร่สนองตัณหาตัวเอง…มีชีวิตอยู่ไปวันๆ”

แมวแก่พูดไม่ออก

ฉินหยู่สังเกตเรื่องนี้ของหมาเหล่าเอ้อมาระยะหนึ่งแล้ว ตอนนี้เขาจึงทำได้เพียงเปลี่ยนเรื่องพูด “คุณลุงหม่า เรายังต้องคิดถึงวิธีลดผลกระทบให้เหลือน้อยที่สุด”

ผู้เฒ่าหม่าขมวดคิ้วคิดอยู่นาน ส่ายหัวแล้วถอนหายใจ “ผู้ซื้อมักจะจดจำได้เฉพาะสินค้า ไม่ใช่คนขาย ก่อนหน้านี้ผู้คนยกย่องฉัน เพราะพวกเขาคิดว่ายาที่ฉันให้มีคุณภาพดี และราคาสมเหตุสมผล... พวกเขาคิดว่าฉันเป็นคนดี แต่ตอนนี้ยาได้ฆ่าคนไปแล้ว และมันถูกเอาไปจากมือของเราจริงๆ นายคิดว่าฉันจะอธิบายได้ยังไง? อธิบายยังไงให้คนเชื่อได้? ยิ่งกว่านั้นยาปลอมที่ขายไปได้ มีมากกว่าสามสี่กล่องแน่นอน ถ้าหยวนหัวอยากมายุ่งกับฉัน เขากำลังวิ่งเข้าหาความตายเป็นแน่แท้...ฉันเดาได้เลยว่า ในบรรดายาส่วนใหญ่ที่กรมตำรวจเคลียร์ได้นั้น มันจะต้องถูกสับเปลี่ยนโดยใครบางคน”

“แล้วถ้าเราใช้เงินเพื่อจ้างคนส่งยาบางคนให้มาสารภาพผิดล่ะ?” แมวแก่ถามเบาๆ “แค่บอกว่าพวกเขาแค่สับเปลี่ยนยาเป็นการส่วนตัว เพียงเพื่อให้ได้กำไรเข้ากระเป๋าตัวเองอะไรทำนองนั้น ให้เขารับโทษไป แล้วเราก็ปกป้องเขาจากภายในอีกที ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร”

“ถ้านายเป็นคนซื้อยาแทนล่ะ นายจะเชื่อเรื่องนี้ไหม?” ผู้เฒ่าหม่าถามกลับ “ถึงจะเชื่อ มันก็ยังมียาปลอมอีกจำนวนหนึ่งที่ตำรวจยึดไปได้ นายจะอธิบายยังไง?”

แมวแก่คิดอย่างถ้วนถี่และขมวดคิ้ว “อืม จริง ถ้าเราทำอย่างนั้น เรื่องมันจะยุ่งยากขึ้นเรื่อยๆ”

……

ที่ทางเข้าคลับแกรนด์พาเลซบนถนนถู่จ้า พี่สามยืนอยู่ในตรอก ก้มสูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้วออกคำสั่ง “ตามหาเด็กคนนั้นแล้วเก็บมันซะ”

“หนึ่งพัน” ชายหน้าแดงตอบด้วยเสียงต่ำ

“ฉันจะจ่ายหนึ่งพันห้าสำหรับการจัดการเรื่องนี้ทั้งหมด”

พี่สามหันมองไปรอบๆ อย่างระแวดระวังพลางพูดขึ้น “นำร่างมันกลับมารับเงินที่ฉัน”

“ตกลง” ชายหน้าแดงพยักหน้าแล้วหันหลังจากไป

………………………………………………………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด