ตอนที่แล้ว[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 82 จ้าวแห่งการต่อรอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 84 คลื่นใต้น้ำกำลังมา (อัปเดตเพิ่มเติม 2)

[Rewrite,อ่านฟรี] Special District 9 ตอนที่ 83 รสชาติของชีวิตครอบครัว (อัปเดตเพิ่มเติม 1)


ตอนที่ 83 รสชาติของชีวิตครอบครัว (อัปเดตเพิ่มเติม 1)

“ให้ตายเถอะ เจ้าเด็กนี่มันลายออกซะแล้ว!”

หลังจากที่ฉินหยู่แอบฟังอยู่นอกประตูเป็นเวลานานพร้อมกับนึกสาปแช่งด้วยใบหน้าแดงก่ำ และคิดกับตัวเองว่าถ้าเขาไม่เข้าไปตอนนี้ มีแนวโน้มมากที่ฟันเหยินจะทำเรื่องอุบาทว์ในห้องนี้

“ปัง!”

ฉินหยู่ทุบประตูแล้วตะโกน “เปิดประตู!”

“ใครน่ะ?” ฟันเหยินตะโกนถาม

“นายหูหนวกหรือเปล่า? เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้!” ฉินหยู่ตะโกนด้วยความโกรธ

หลังจากนั้นไม่ถึงนาที ฟันเหยินก็เปิดประตูออกมาด้วยใบหน้าในหัวที่ล้านเลี่ยนแดงก่ำไปด้วยความขายหน้า “เฮ้ พี่ชาย คุณกลับมาแล้วเหรอ?”

“ไปให้พ้น” ฉินหยู่ผลักหัวกลมๆ ของฟันเหยินออกไป ก้าวเข้าไปในห้องและเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ นั่งอยู่บนเตียง มองดูเขาด้วยดวงตากลมโตกะพริบตาปริบๆ

“เซียงเซียง นี่คือพี่ชายของฉัน” ฟันเหยินแนะนำ

เซียงเซียงยืนขึ้น “สวัสดีพี่ชาย”

“เธอมาจากครอบครัวไหน?” ฉินหยู่ถามอย่างอธิบายไม่ถูก

“เธอเป็นลูกสาวจากครอบครัวพี่ฮัว... เราเข้ากันได้ดีมาก” ฟันเหยินรีบอธิบายก่อน

“ฉันเห็นแล้ว ว่าเธอสองคนเข้ากันได้ดีมาก” ฉินหยู่เสียงดังขึ้นอย่างทันควันด้วยสีหน้าแดงก่ำ

“พี่ชาย ฉันจะกลับแล้ว” เซียงเซียงดูเหมือนจะอายุเท่ากับฟันเหยิน เมื่อเธอเห็นว่าฉินหยู่ขี้อายเล็กน้อย เธอก็โฉบออกไปจากห้องแล้ววิ่งแจ้นออกไป

“น้องสาว พรุ่งนี้ฉันจะไปช่วยเธอทำงานนะ” ฟันเหยินยืนอยู่ที่ประตูอย่างกล้าๆ กลัวๆ และทำเสียงฮึ่มฮ่ำในลำคอ

ฉินหยู่เตะเข้าที่เอวของฟันเหยินอย่างแรง และก่นด่าฟันเหยิน “แกมีเวลาว่างมากมายใช่ไหม? ฉันยังไม่มีเมียด้วยซ้ำ แต่แกโชคดีขนาดพาหญิงกลับบ้าน มาอยู่บ้านฉันอย่างมีความสุข แกเลี้ยงตัวรอดได้แล้วเหรอ หา?”

“ฮิฮิ” ฟันเหยินเกาหัวแล้วยิ้ม “ฉันเพิ่งเจอเธอไม่นานนี้เองนะ”

“ยังไม่ทันไรแกก็จะพาครอบครัวมาอยู่เสียแล้วสินะ?”

“...เธอช่วยฉันทำงาน” ฟันเหยินชี้ไปที่บ้านแล้วพูดว่า “ดูสิ บ้านสะอาดแค่ไหน”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นฉินหยู่ก็หันมองไปรอบๆ และเห็นว่าห้องนั้นสะอาดและเป็นระเบียบมากกว่าเมื่อก่อนมาก ตู้และพื้นถูกขัดถูให้เงางาม และแม้แต่เสื้อผ้า ผ้าปูที่นอน และผ้าห่มที่สกปรกของฉินหยู่ก็ถูกเปลี่ยนและซักแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ฟันเหยินยังพบเตียงเดี่ยวจากที่ไหนก็ไม่รู้ เลยเอามาวางไว้ใกล้กับผนังด้านใน

“นี่สาวน้อยนั่นทำเสร็จหมดเลยเหรอ?” ฉินหยู่ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ฉันทำงานที่หนักๆ ส่วนเธอทำงานเล็กๆ และเราทั้งคู่ก็ช่วยกันทำ” หลังจากที่ฟันเหยินค่อยๆ หายดี เขายังคงดูเหมือนเด็กเกเรและเหลือขออยู่ แต่เขาก็ขยันมาก ตราบใดที่ฉินหยู่ไม่อยู่บ้าน เขาก็มักจะทำงานบางอย่างตามความสามารถของเขา เช่น กวาดหิมะออกจากประตู และจัดห้องน้ำภายนอกที่เป็นส่วนหนึ่งของห้องเช่าที่ไม่รวมห้องส้วมในตัว

ฉินหยู่ปิดประตูเบาๆ มองดูฟันเหยินอย่างพูดไม่ออกแล้วถามว่า “นายรู้จักสาวน้อยคนนี้ได้ยังไง?”

“บ้านพี่หลินเป็นบ้านเดียวในอาคารนี้ที่มีห้องน้ำในภายในห้อง อึในห้องน้ำภายนอกของเราแทบจะกระเด็นมาติดก้นฉันแล้ว ฉันเลยล้างห้องน้ำไปตอนที่ไม่มีอะไรทำ แล้วบังเอิญ...เจอน้องสาวคนนี้” ฟันเหยินพูดด้วยรอยยิ้ม “แม่ของเซียงเซียงคือพี่ฮัว เปิด ‘ร้านขายเนื้อ’ และลูกจ้างเป็นป้าๆ หกเจ็ดคน...พวกเขานอนพักผ่อนระหว่างวันด้วย เซียงเซียงก็ทำงานบ้างบางที... เราบังเอิญเจอกันบ่อย จนคุ้นเคยกันแล้วตอนนี้”

“แม้ว่าแกจะคุ้นเคยแล้วก็ตาม แกไม่ควรพาใครเข้ามาในบ้านทันที แต่แกต้องดูเจตนาของพวกเขาด้วย” ฉินหยู่ต่อว่าสั่งสอนด้วยความไม่พอใจ “แล้วทำไมแกถึงมีเสน่ห์มากกว่าแมวแก่วะ”

“ฉันไม่ได้คิดอะไรมากขนาดนั้น... แค่พูดคุยและกัดกัน” ฟันเหยินติดกระดุมที่เป้ากางเกง

“แกเอาแต่บอกว่าแกอยู่แถวบ้านทุกวัน แต่ทำไมแกถึงทำตัวไม่ซื่อแบบนี้ล่ะ?” ฉินหยู่พูดอย่างชอบธรรม “กระต่ายไม่กินหญ้าที่อยู่ขอบรังตัวเองด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงว่าแกอายุยังน้อย แกคิดก่อนทำอะไรหรือเปล่า? เรื่องนี้มันจริงจังมาก นายเกาะฉันไว้แน่นๆ พวกเขาอยู่ใกล้เรามาก ถ้านายจะก่อเรื่องอะไรกับเพื่อนบ้านแถวนี้ ถ้าฉันลงโทษนายอย่าหาว่าไม่เตือน”

“ฉันรู้แล้ว ฉันจะไม่ทำอีก” ฟันเหยินยิ้ม

“มากินข้าวกันเถอะ”

ฉินหยู่นำอาหารเย็นที่เขาเอามาจากที่ทำงานแล้วเอาไปวางที่โต๊ะ ฟันเหยินเริ่มเปิดอาหารใส่ชามให้เรียบร้อย แล้วเทน้ำอุ่นหนึ่งแก้วให้กับฉินหยู่ จากนั้นเขาก็ถือชามข้าวไปนั่งยองๆ บนเก้าอี้โดยขาข้างหนึ่งเหยียบบนขอบหน้าต่าง และเริ่มกินอย่างหิวโหย

“ไปนั่งอะไรตรงนั้น มานั่งกินด้วยกันที่นี่สิ!” ฉินหยู่เรียก

“ไม่เป็นไร ฉันได้อยู่ที่นี่ก็ดีแล้ว” ฟันเหยินส่ายหัวพูดพร้อมกับคราบน้ำมันเต็มปาก

เมื่อเด็กคนนี้ได้รับการช่วยเหลือครั้งแรก เสื้อผ้าของเขาเก่าๆ ผมของเขายาวมาก และดูสกปรก แต่ตอนนี้เขาโกนศีรษะและสวมเสื้อผ้าสะอาดพอดีตัว และผิวของเขาขาวมาก ทำให้เขาดูหล่อมาก ดวงตาของเขาสดใสและเต็มไปด้วยพลัง โดยเฉพาะขนตาที่ยาวและแคบซึ่งเหมือนกับขนตาของหญิงสาว ทำให้เขามีเสน่ห์ที่ไม่อาจอธิบายได้ และเด็กคนนี้ยังคงเติบโตต่อไปได้อีก แม้ว่าเขาจะอายุเพียง 15 ปี แต่เขาสูงประมาณเกือบ 172 เซ็นติเมตรทีเดียว แต่ร่างกายของเขายังไม่แข็งแกร่งเท่าที่ฉินหยู่คิด เขามีโครงร่างที่ใหญ่แต่มีเนื้อบนร่างกายน้อยมาก

ตอนที่ฉินหยู่กำลังกินข้าว เขาจะมองฟันเหยินโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาพบว่า แม้ภายนอกเด็กจะดูก้าวร้าวและมอมแมม แต่จริงๆ แล้วเขาก็ระมัดระวังมากเมื่อใครจะไปมีปฏิสัมพันธ์กับเขา

เช่น เวลาหยิบอาหาร ฟันเหยินไม่เคยแตะตรงกลางจานเลย เขากินแค่ขอบจานหรือกล่องข้าวเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น เขาจะเป็นคนเคี้ยวอาหารเสียงดัง แต่ฉินหยู่ก็รู้สึกได้ชัดเจนว่าฟันเหยินพยายามควบคุมตนเอง เมื่อเขารู้ว่าเขาส่งเสียงดังขณะกิน เขาจะปรับตัวทันที นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมยิบย่อยในการนอน เช่น ทันทีที่ฉินหยู่เข้านอน ฟันเหยินจะปิดไฟทันทีและไม่ส่งเสียงรบกวนอะไรเลย ไม่ว่าเขาจะง่วงหรือไม่ก็ตาม

ยิ่งฟันเหยินประพฤติตัวเช่นนี้ ฉินหยู่ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเท่านั้น นั่นเป็นเพราะมันทำให้เขาเห็นเงาของตัวเองในฟันเหยินอีกครั้ง

เมื่อนึกย้อนกลับไป เมื่อชายชราในพื้นที่โครงการพัฒนาเพิ่งรับอุปการะเขา จิตใจของฉินหยู่และฟันเหยินในปัจจุบัน ท่าทางร่างกาย และพฤติกรรมต่างๆ เกือบจะราวกับว่าพวกเขาถูกหล่อหลอมมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน

แกล้งทำเป็นเข้มแข็งแต่ก็กลัวโดนทอดทิ้งตลอดเวลา ต้องพึ่งพาคนอื่น ระวังตัวแจกระทั่งดูเหมือนว่า แม้จะหายใจเมื่อไร ก็ยังต้องคิดล่วงหน้า...

ฉินหยู่มองดูเขาจากด้านข้างอยู่ครู่หนึ่งเงียบๆ แล้วจู่ๆ ก็ตะโกนเรียกทันที “อย่านั่งกินเหมือนคนโง่อยู่ตรงนั้น มากินบนโต๊ะอาหาร”

ฟันเหยินตกตะลึง

“เราคุยไปกินไปก็ได้ ฮ่าๆ” ฉินหยู่ยิ้ม

“พูดถึงเรื่องอะไรของคุณ?”

“นายยังบริสุทธิ์อยู่เหรอ?” ฉินหยู่มองเขาอย่างขี้เล่นพร้อมถาม

ฟันเหยินสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียง และตอบทันทีด้วยใบหน้าแดงก่ำ “ไม่ใช่เด็ดขาด ฉันทำกับหยิงหยิง*ตั้งแต่เมื่อตอนอายุ 13”

“หา???” ฉินหยู่ตกตะลึง และกวักมือเรียกให้เข้ามาทันที “มานี่ มาคุยรายละเอียดกันหน่อย... นายนี่เป็นเพื่อนร่วมห้องที่มีเรื่องน่าสนใจจริงๆ”

“ฉันไม่ได้กำลังพูดถึงนกอินทรีที่กำลังบินอยู่... ฉันรีบร้อนเลยพูดผิดไปหน่อย…” ฟันเหยินเดินเข้ามาด้วยความลำบากใจ

“ฮ่าฮ่า มาคุยกันเถอะ” ฉินหยู่ใช้ตะเกียบคีบเนื้อสองชิ้นขึ้นมาใส่ชามฟันเหยินพร้อมพูดสั้นๆ ว่า “เราเป็นลูกผู้ชาย ดังนั้นอย่าทำตัวเหมือนผู้หญิงทั้งคำพูดและการกระทำ” ถ้าฉันให้นายอยู่ที่นี่ได้ นายก็ไม่จำเป็นต้องกล้าๆ กลัวๆ อะไรอย่างงั้น”

“ฉันไม่ได้กลัว” ฟันเหยินเถียง “ผู้ยิ่งใหญ่ไม่ก้มหัวให้ใคร”

“หยุดพูดอ้อมค้อมได้แล้ว มาพูดถึงนกอินทรีกันดีกว่า” ฉินหยู่ถามยิ้มๆ ด้วยอาการกลั้นหัวเราะอย่างสุดความสามารถ “แล้วนายไปสวรรค์ได้ยังไง?”

“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ใช่นกอินทรีตัวนั้น...”

……

บนถนนเส้นหนึ่งในย่านที่มืดมิด

หย่งตงนั่งอยู่ในรถ หันไปมองชายหนุ่มคนหนึ่งแล้วพูดว่า “ลองดูว่าเขาไม่อยู่ในโกดังในวันไหนในช่วงนี้ แล้วโทรหาฉัน”

…………………………………………………………….

*หยิง = นกอินทรี

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด